นัยน์ตาคู่คมกริบของฮูหยินใหญ่เต็มไปด้วยความสงสัย แววตาเมื่อครู่นี้ของกู้ชูหน่วนไม่ได้หวาดกลัวดังที่เคยเป็น แต่กลับแฝงไปด้วยความเย็นชาและหยิ่งผยอง หรือนางดูผิดไปอย่างนั้นหรือ?

เสนาบดีกู้กล่าวอย่างหงุดหงิด “เอาหล่ะ เรื่องนี้ก็ให้มันจบลงตรงนี้ เรื่องของหลานเอ่อร์ห้ามใครเปิดเผย มิเช่นนั้นก็ดูว่าข้าจะสั่งสอนนางเยี่ยงไร”

“เจ้าค่ะ” ซานอี๋เหนียงและคนอื่นๆกล่าวขึ้น

เสนาบดีกู้โมโหชี้ด่ากู้ชูหลาน “ช่วงนี้เจ้าก็เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ห้ามออกไปไหนทั้งนั้น”

“เจ้าค่ะ”

กู้ชูหลานไม่พอใจจริงๆ

ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของนางมลายหายไป แล้วยังถูกตำหนิอย่างโกรธเคืองด้วย แต่คนกระทำผิดยังอยู่อย่างอิสระนอกกฎ นางจะสบายใจอยู่ได้เช่นไร

“ยังมีอีก ให้มันซื่อสัตย์กับข้าหน่อย หากให้ข้ารู้ว่าเรื่องของหลานเอ่อร์เกี่ยวข้องกับเจ้าแล้วหล่ะก็ จะไม่ละเว้นเจ้าแน่”

กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ

ใครละเว้นใครยังไม่รู้เลย

……

การเผชิญหน้าจากกันได้ไม่ดีนัก

กู้ชูหน่วนไม่ได้เห็นคนในจวนเสนาบดีอยู่ในสายตาเลย

ชิวเอ๋อร์ตามนางกลับเข้าไปในเรือนก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“คุณหนู ข้าน้อยคิดว่าคุณหนูกลับมาคราวนี้ดูเหมือนว่ามีบางอย่างไม่เหมือนเดิม”

“อืม……เนื้อเพิ่มขึ้นชิ้นหนึ่งหรือมีเนื้อหายไปชิ้นหนึ่งหล่ะ”

ชิวเอ๋อร์โน้มตัวเข้าใกล้นางมองขึ้นๆลงๆ “ข้าน้อยก็บอกไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่าคุณหนู…..บ้าบิ่นไปเจ้าค่ะ”

“แค่นี้ก็บ้าบิ่นแล้วเหรอ?”

“แน่นอน แต่ก่อนคุณหนูเห็นคุณหนูห้าและอู่อี๋เหนียงก็ผวาจนไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น แต่ตอนนี้คุณหนูกล้าทำให้พวกนางไม่พอใจ”

กู้ชูหน่วนกลอกตา

นางเดินไปนั่งที่หน้ากระจกแล้วตรวจดูตุ่มหนองบนใบหน้า

ออกคำสั่งกับชิวเอ๋อร์ว่า: “ไป เอาเงินของข้าออกมาให้หมด”

“คุณหนู พวกเรามีเงินที่ไหนกัน ปิ่นปักผมบนหัวของท่านก็ซื้อมาด้วยเงินเดือนของข้าน้อยเอง!”

กู้ชูหน่วนตะลึง “ข้าไม่ใช่คุณหนูจากภรรยาเอกหรอกเหรอ? เจ้าคงไม่ได้บอกข้าหรอกนะว่า ข้าไม่มีเงินแม้แต่สักอีแปะเดียว”

“ฮูหยินใหญ่ไม่ได้แจกเงินสักอีแปะให้เรามาหลายปีแล้ว พวกเราก็เลยไม่มีเงินแม้แต่อีแปะเดียว”

คุณหนูสามภรรยาเอกอะไรกัน ความเป็นอยู่ช่างน่าอดสูเกินไปหล่ะมั้ง

ชิวเอ๋อร์ล้วงเงินหนึ่งร้อยอีแปะออกจากตัวส่งให้กับกู้ชูหน่วนและปลอบโยนว่า “คุณหนู ข้าน้อยยังพอมีเงินอยู่บ้างสัญญาว่าจะให้คุณหนูหมด รอสิ้นเดือนข้าน้อยได้เงินเดือนก็จะนำมาให้คุณหนูทั้งหมดอีก”

กู้ชูหน่วนมองดูรอยยิ้มอันหมดจดสดใสของนางก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นในใจอย่างอธิบายไม่ได้

เจ้าของเดิมมีชีวิตอยู่อย่างสับสนยุ่งเหยิง แต่ข้างกายนางกลับมีสาวใช้ที่ซื่อสัตย์อย่างชิวเอ๋อร์อยู่ไม่รู้จะบอกว่านางโชคดีหรือโชคร้ายดีนะ

“ต่อไปที่ใดที่ไม่มีผู้คน เจ้าก็ไม่ต้องเรียกตัวเองว่าสาวใช้อีก”

ชิวเอ๋อร์ส่ายศีรษะอย่างเขินอาย “คุณหนูเคยบอกข้าหลายครั้งแล้ว ข้าน้อยลืมตลอดเลย ต่อไปข้าน้อยจะจำไว้ คุณหนู คุณหนูยังขาดเงินอีกเท่าไหร่ ข้าจะไปยืมจากคนอื่น”

“ไม่ต้อง เจ้าเก็บไว้เถอะ”

ตามความทรงจำในสมองของนาง ในแคว้นนี้มีคนที่รู้จักวิชาการแพทย์น้อยนัก ยารักษาก็มีราคาแพงเกินจริง แม้แต่ยาห้ามเลือดทั่วๆไปก็เป็นเงินหลายตำลึง หนึ่งร้อยอีแปะนี้ไม่เพียงพอแม้แต่จะอุดขี้ฟัน ยังจะพอให้นางซื้อยารักษาใบหน้าได้เช่นไร?

ดูเหมือนว่านางจะต้องหาเงินมาจากที่อื่น

“คุณหนู ข้าจะไปต้มน้ำร้อนให้ท่าน”

ชิวเอ๋อร์ยิ้มแล้วหิ้วกาต้มน้ำออกไป ไม่นานก็กลับมาอย่างรีบร้อนและกล่าวด้วยความดีใจว่า “คุณหนู ข้าได้ยินพี่ชุนเฉ่าที่อยู่ในครัวบอกว่าเจ๋ออ๋องมา”

เจ๋ออ๋อง?

กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว

นั่นเป็น “สวามี” ในอนาคตของนางไม่ใช่หรือ?

ชิวเอ๋อร์สุขใจท่วมใบหน้าค้นเสื้อผ้าในตู้ “คุณหนู ท่านว่าใส่เสื้อตัวไหนดีหล่ะ? ตัวนี้ดีไหมเจ้าคะ? ออ ไม่ได้ เรียบเกินไป หรือไม่ก็ตัวนี้ ตัวนี้สีสันสดกว่า”

ชิวเอ๋อร์ค้นไปค้นมาก็รู้สึกไม่สบายใจ

ที่จริงตัวไหนก็เหมือนกันท้้งนั้น

คุณหนูของนางถึงแม้จะเป็นคุณหนูของภรรยาเอก อย่าว่าแต่จะเอ่ยถึงคุณหนูของอนุเลย แม้แต่เสื้อผ้าของสาวใช้ในบ้านยังมีมากกว่าเสื้อผ้าของนางซะอีก

“ตัวนี้แหละ” กู้ชูหน่วนเดินตามเข้ามา

ปลายนิ้วเรียวยาวนั้นเลือกอย่างตามใจก็เลยเลือกตัวเข้มๆที่มีสีสันลวดลายจากด้านล่างของตู้

“คุณหนู ท่านเลือกผิดหรือเปล่า? นี่คือชุดเล่นงิ้ว” ชิวเอ๋อร์ผวาตกใจขึ้นมา แทบไม่อยากเชื่อสายตาของตนเอง

กู้ชูหน่วนไล่นางออกไป

เมื่อกู้ชูหน่วนเปิดประตูอีกครั้ง นางก็พร้อมที่จะไปตาย

แม้ว่าคุณหนูของตระกูลนางออกจะน่าเกลียดสักหน่อย แต่กลับมีรูปร่างท่าทางอันงามสง่า

ตอนนี้ใส่ชุดเล่นงิ้วนี้แล้ว ไม่เพียงแต่มองรูปร่างไม่ออกเท่านั้น ทั้งยังดูตัวใหญ่มากเกินจริง

บวกกับดอกไม้สีแดงขนาดใหญ่ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า ห้าดอกบนหัวของนาง……

ชิวเอ๋อร์ตกใจจนล้มลงและกำลังจะร้องไห้ออกมาตรงนั้น “คุณหนู หยุดสร้างปัญหาได้ไหม? นั่นคือเจ๋ออ๋องนะเจ้าคะ! เป็นสวามีในอนาคตของท่าน!”

“ก็เป็นสวามีในอนาคตของข้าหน่ะสิ ข้าถึงต้องแต่งตัวให้สวย!”

กู้ชูหน่วนกระพริบตาอย่างเจ้าเล่ห์โดยไม่สนใจต่อการห้ามปรามของชิวเอ๋อร์

นางหันวกตามทางเดินสองสามทางแล้วมาถึงที่สวนจวนเสนา

น้องห้าและน้องเจ็ดของเจ้าของเดิม พร้อมทั้งชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังดื่มชาอยู่กับเจ๋ออ๋องในศาลาพักผ่อน

เนื่องจากหันหลังอยู่ กู้ชูหน่วนเลยไม่รู้ว่าเจ๋ออ๋องมีหน้าตาเช่นไร

แต่เมื่อดูจากด้านหลัง เขาสวมชุดแพรอันเลิศหรู ลักษณะท่าทางดีกว่าผู้อื่น คาดว่าหน้าตาน่าจะไม่เลวร้ายนัก

“ทุกครั้งที่เจ๋ออ๋องเสด็จมา คุณหนูห้าและคุณหนูเจ็ดก็มักจะตามติดท่านแจ! คุณหนู เดี๋ยวคุณหนูจะต้องเอาใจท่านเจ๋ออ๋องให้ดี! อย่าปล่อยให้พวกนางเอาแย่งท่านเจ๋ออ๋องไปได้!” ชิวเอ๋อร์พึมพำอยู่ข้างๆ

กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ แต่ไม่ได้ถือเอามาใส่ใจ

ในโลกนี้มีแต่คนอื่นเท่านั้นที่ต้องเอาใจนาง ไหนเลยจะถึงเวลาที่นางต้องเอาใจผู้อื่น ? !

“ท่านเจ๋ออ๋อง ท่านคิดถึงข้าใช่ไหมถึงได้มาหาข้าถึงที่จวนเสนา” กู้ชูหน่วนตะโกนด้วยเสียงดัด

นางยกชุดเล่นงิ้วตัวใหญ่ขึ้นแล้วเดินตรงดิ่งเข้าไปหาเจ๋ออ๋อง……