บทที่ 4
‘บัดซบ ฉันเพิ่งจะซักชุดนี้ไปเมื่อวานเอง เธอจะบอกว่ามันสกปรกได้ยังไง?’ แดร์ริลคิดในใจ แต่ในขณะที่เขากำลังเอ่ยความคิดเห็นอะไรออกไป เขากลับถูกลากออกไปโดย อเล็กซ์ อาร์มสตรอง
ทั้งคู่เคยเป็นเพื่อนสนิทกันสมัยมัธยมปลาย พวกเขาเคยต่อยตีด้วยกันและแม้กระทั่งโดดเรียนด้วยกันอีกด้วย อเล็กซ์อาจเป็นเพียงคนเดียวในคืนนี้ที่ไม่แสดงท่าทางรังเกียจแดร์ริล
หลังจากลากแดร์ริลไปที่มุมห้อง อเล็กซ์ส่ายหัวไปมาแล้วกล่าวว่า “พวกฉันจะบอกนายให้ ผู้หญิงแบบจีเซลล์ไม่ใช่คนประเภทที่เราจะไปยุ่งได้หรอกนะ นายหาเรื่องโดนเยาะเย้ยรึไงถึงไปนั่งข้างๆเธอ?”
แดร์ริลไม่ได้กล่าวอะไร เขาทำเพียงแค่แค่นเสียงหัวเราะ พวกเขาดื่มและกินตลอดทั้งคืน แล้วราตรีก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
จีเซลล์มึนนิดหน่อย และเมื่อรวมกับที่ถูกกลุ่มคนกดดัน เธอจึงหยิบไมโครโฟนขึ้นมาแล้วร้องเพลงพร้อมกับโยกตัวไปมาอย่างนุ่มนวล รูปร่างหน้าตาของเธอช่างเร้าอารมณ์และยั่วยวน ผู้ชายรอบๆถึงกับอึ้งกันหมด จีเซลล์ช่างเป็นหญิงสาวที่งดงามจริงๆ!
และในคืนนั้นเองที่พวกเขาตัดสินใจกันว่าจะนัดพบปะกันอีกวัน ครูประจำชั้นนั้นติดธุระกะทันหัน เธอไม่สามารถมาที่งานได้จนกระทั่งจบงาน ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงตกลงกันว่าจะรวมตัวกันอีกครั้งในวันจันทร์หน้า
เมื่อพวกเขากำลังจะกลับ เหล่าชายหนุ่มทั้งหลายพลันแย่งชิงกันเสนอตัวไปส่งจีเซลล์ ทว่า เมื่อพวกเขาไปถึงทางเข้า เธอก็ขึ้นรถ Porsche ของเธอแล้วขับออกไป ทิ้งให้เหล่าชายฉกรรจ์นิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้น
“ช่างเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ” อเล็กซ์พึมพำอยู่ข้างๆ “แดร์ริล ไม่แปลกเลยที่นายอยากนั่งข้างๆเธอ ฉันจะไม่ลังเลเลยถ้าชีวิตต้องสั้นลงสักสิบปีเพื่อแลกกับการได้อยู่กับเธอแค่หนึ่งคืน”
แดร์ริลหัวเราะเสียงเย็นเฉียบ ‘จีเซลล์ตั้งใจจะไปที่บริษัทแพลทินัมเพื่อเซ็นสัญญาในวันพรุ่งนี้สินะ? เยี่ยมยอด’ แดร์ริลคิด เขาเองก็ต้องไปที่นั่นเพื่อรับตำแหน่งประธานบริษัทเช่นกัน ความคิดของเขาถูกขัดจังหวะจากเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น
กลุ่มคนรอบๆถึงกับหัวเราะกับเสียงริงโทนของเขา นี่มันยุคไหนแล้ว ทำไมยังมีคนใช้โทรศัพท์โนเกียเก่าๆอยู่อีก?
แดร์ริลรีบรับโทรศัพท์ทันทีที่เห็นเบอร์ที่ปรากฏบนหน้าจอ ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร เสียงของแม่ยายของเขา ซาแมนธา ก็ดังขึ้นที่ปลายสาย “แดร์ริล แกรู้ใช่ไหมว่าคืนนี้เรามีงานรวมญาติ? นี่แกจะให้ทั้งครอบครัวต้องรอแกหรือไง? ย้ายก้นกลับมาที่นี่เดี๋ยวนี้”
แดร์ริลคร่ำครวญ เขาลืมเรื่องงานรวมญาติไปเสียสนิทเลย!
เขารีบขึ้นสกู๊ตเตอร์ต่อหน้าเพื่อนร่วมห้องของเขาแล้วพุ่งออกไป แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างออกไปแล้วก็ตาม แต่เขายังคงได้ยินเสียงเพื่อนร่วมห้องหญิงกำลังหัวเราะเขาอยู่
รถ Land Rover จอดอยู่ที่หน้าประตูของศูนย์ประชาคมระดับ ไฮ-เอนด์ ของเมืองเป่ยไห่ หญิงสาวผู้งดงามกำลังยืนอยู่ที่หน้ารถ มองโทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิด
“ผมกลับมาแล้ว” แดร์ริลกล่าวและหอบหายใจ เขาจอดสกู๊ตเตอร์แล้ววิ่งมาหาลิลี่ เขาเห็นเธอกำลังสวม คำสรรเสริญจากคริสตัล อยู่บนเท้าที่สวยงามของเธอ ดูเหมือนเธอจะชอบของขวัญน่าดู ถึงได้ใส่มันเร็วขนาดนี้
ยังไงก็ตาม ลิลี่กลับมองแดร์ริลด้วยสายตาเย็นชา “ฉันขอเตือนนายไว้ก่อน วันนี้คือเป็นวันรวมญาติของตระกูลลินดัน นายควรหุบปากไว้ ไม่ต้องพูดอะไร และอย่าทำให้ฉันขายหน้า”
“โอ้” แดร์ริลรับคำ
แดร์ริลเดินขึ้นรถไปแล้วเขาก็ได้ยินคำบ่นต่อมาทันที
“แดร์ริล นี่แกไม่มีสูทใส่หรือไง? แกรู้ไหมว่าชุดขอทานของแกมันน่าอายขนาดไหน?” ซาแมนธากล่าวเย็นชา
ซาแมนธาสวมเดรสสั้นที่ขับเน้นความงดงามของเธอ กลิ่นอายของผู้ใหญ่ผสมเข้ากับความยั่วยวนอย่างลงตัว ใครๆก็ต้องจ้องมองความสวยสง่าของเธอแน่นอน
แดร์ริลยักไหล่โดยไม่ได้พูดอะไร
ความโกรธของซาแมนธาปะทุขึ้นทันทีเมื่อเห็นท่าทีไม่แยแสของแดร์ริล “นี่แกโง่หรือหูหนวกกันแน่? ดูความไร้ค่าของแกสิ การปล่อยให้แกแต่งงานกับลูกสาวฉันคงเป็นเรื่องอัปยศต่อครอบครัวเราไปอีกแปดชั่วโคตร”
“แม่ อย่าโมโหสิ” ลิลี่กล่าวอย่างนุ่มนวลขณะที่กำลังขับรถไปด้วย
“จะให้แม่ไม่โมโหได้ยังไง?!” ซาแมนธากล่าวพร้อมชี้ไปที่แดร์ริล “ฉันขอสั่งแก หลังจากจบงานรวมญาติคืนนี้ไป ให้ไปที่สำนักงานทะเบียนแล้วเซ็นใบหย่าให้เร็วที่สุด อย่ามาเพ่นพ่านในบ้านฉัน แกเข้าใจที่ฉันพูดไหม?”
แดร์ริลนั่งนิ่ง พูดไม่ออก
ในตอนนั้นเอง ภาพของรถยนต์นับร้อยคันก็ปรากฏตรงหน้าพวกเขา พวกมันจอดอยู่ที่ด้านนอกของคฤหาสน์ของตระกูลลินดัน และแน่นอน พวกมันทั้งหมดล้วนเป็นรถหรูราคาแพงทั้งสิ้น
เมื่อลิลี่และครอบครัวมาถึง ห้องโถงก็คราคร่ำไปด้วยผู้คนแล้ว มีหลายคนที่เขามาทักทายลิลี่เมื่อเธอมาถึง
ในวาระโอกาสเช่นนี้ แดร์ริลกลับถูกทำเหมือนเป็นอากาศธาตุ ไม่มีใครสนใจจะยอมรับเขา แต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาแค่มาร่วมงานนี้เล่นๆเท่านั้น เมื่ออาหารถูกนำมาจัดวาง เขาก็พร้อมที่จะตักอาหารไปให้ได้มากที่สุด
ยังไงก็ตาม บางคนก็ชอบที่จะหาเรื่องใส่ตัวแม้ว่าจะไม่มีเหตุใดๆ เช่นคนอย่าง วิลเลียม ลินดัน เขามักจะปรากฏตัวขึ้นเพื่อหาเรื่องแดร์ริลเสมอ ทุกๆครั้งที่พวกเขาพบกัน ชายคนนี้มักจะโยนคำดูดูหมิ่นสักคำสองคำใส่แดร์ริลเสมอ
“ยู้ฮู นายใช่ลูกเขยที่น่าเอ็นดูของตระกูลลินดันของเรารึเปล่า แดร์ริลน่ะ?” เสียงของวิลเลียมลอยมาตั้งแต่ไกล เขาพูดออกมาเสียงดังอย่างตั้งใจ “แดร์ริล ฉันว่าฉันเคยเห็นเสื้อผ้าแบบที่นายใส่ในถังขยะของพวกขอทาน ราคามันเท่าไหร่นะ ชุดละสิบดอลรึเปล่า?”
คำพูดของวิลเลียมทำให้แดร์ริลกลายเป็นจุดสนใจของทั้งงาน พวกเขาจดจ้องไปที่ชายหนุ่มเหมือนกับเขาเป็นลิงกัง
“ระวังคำพูดหน่อย มันราคา 19 ดอลต่างหาก” แดร์ริลพึมพำ
ฝูงชนพลันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น หญิงสาวบางคนที่พยายามจะสงวนท่าทีพยายามอย่างมากในการห้ามไม่ให้ตัวพวกหล่อนเองหลุดหัวเราะออกมา
“หุบปากไปซะ” ลิลี่กัดปากพูด เธอรู้สึกว่าความภาคภูมิใจของเธอถูกทำลายอีกครั้งเพราะแดร์ริล ถ้ามันไม่ใช่เพราะกฏของตระกูลที่ว่า สมาชิกตระกูลทุกคนต้องเข้าร่วมงานรวมญาติล่ะก็ เธอจะไม่มีทางอนุญาตให้เขามาที่งานได้เด็ดขาด!
“โอ้ ลิลี่ ไม่ใช่ว่าฉันดูถูกครอบครัวของเธอหรอกนะ ฉันไม่สนใจด้วยเสื้อว่าสามีของเธอจะสวมชุดราคาแค่ 19 ดอลลาร์ เพราะชุดที่เธอใส่น่ะ ยังไงก็คงไม่มีทางมีราคามากกว่า 1,800 ใช่ไหม?” วิลเลียมหัวเราะ “เธอไม่อายเหรอที่ใส่เดรสถูกๆแบบนั้น? เธอเห็นสูทที่ฉันใส่นี่ไหม? นี่คือสูทที่ตัดเย็บโดย เออร์เมเนกิลโด เซกนา รู้ไหมว่ามันราคาเท่าไหร่?”
วิลเลียมยกนิ้วขึ้นมาและชูมันไปทางแดร์ริลกับลิลี่ “700,000”
“ว้าว!”
คำกล่าวของวิลเลียมกระตุ้นสายตาชื่นชมของกลุ่มคนรอบๆได้เป็นอย่างดี สตรีทั้งหลายมองเขาด้วยสายตาตกตะลึง และสายตาของเหล่าบุรุษก็เต็มไปด้วยความอิจฉาด้วยเช่นกัน
ลิลี่กัดริมฝีปากของเธอแน่น มันถูกแล้วที่เขาพูดแบบนั้น เดรสของเธอมีราคาเพียง 1,200ดอลลาร์ เธอไม่แม้แต่จะกล้าฝันว่าจะได้ครอบครองชุดที่มีราคามากถึง 700,000
ลิลี่รู้สึกเหมือนถูกคนทั้งงานหัวเราะใส่เธอราวกับเป็นตัวตลก ใบหน้าสวยของเธอมีร่องรอยของความอับอาย
แต่ทันใดนั้น แดร์ริลก็เดินเข้าไปหาวิลเลียมและจับไปที่สูทของเขาเบาๆ
“นี่แกบ้าไปแล้วรึไง?!” วิลเลียมอุทานออกมาด้วยความโกรธ “แกไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องสูทของฉัน!”
*************************************
แดร์ริลแสยะยิ้มและกล่าว “ฉันว่าสูทที่นายใส่อยู่ไม่เหมาะสมกับงานนี้นะ สูทแบบนี้ถูกออกแบบโดยนักออกแบบแฟชั่นชื่อดังชาวอิตาลีที่ชื่อ ฟรานเชสโก้ มาร์ติน และมันถูกผลิตออกมาแค่ตัวเดียว และมันก็ถูกเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์แฟชันของอิตาลี ด้วยเหตุนี้ ชุดที่นายใส่จึงเป็นของปลอม และไม่ใช่แค่นั้น มันยังเป็นของที่ทําเลียนแบบได้หยาบมาก ตรงกระเป๋าข้างขวามีด้ายที่ยังไม่ได้ถูกตัดออกอยู่ด้วย นายควรจะดึงด้ายนั้นออกซะตอนนี้นะ ถ้าฉันคํานวนไม่ผิดสูทนี้มีราคาแค่ 200 ดอลเท่านั้น ขนาดเดรสราคา 1,200 ดอลลาร์ของภรรยาฉันยังมีคุณภาพสูงกว่าสูทของนายเลย” “อีกอย่างนึง สูทชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพ่อของเขา เปทราคผู้ซึ่งตกอยู่ในความเศร้าหลังจากต้องล้มละลาย เขารู้สึกว่าโลกใบนี้มันบิดเบี้ยว ดังนั้นลวดลายของสูทตัวนี้จึงค่อนข้างหยาบ เพื่อสื่อถึงความเป็นจริงที่บิดเบี้ยวในมุมมองของเขา” ชายหนุ่มกล่าวต่อ “แปลว่าที่นายใส่สูทตัวนี้มาในงาน เพราะนายกําลังหวังให้ตระกูลลินดันล่มจมด้วยงั้นเหรอ?!” แดร์ริลกล่าวด้วยรอยยิ้ม เสียงของเขาไม่ได้ดังเลย แต่มันกลับกังวาลไปทั่วทั้งห้องโถง! เงียบสนิท! เงียบโดยสิ้นเชิง! ฝูงชนทั้งหมดตกตะลึงกับคําพูดของเขา พวกเขาแทบไม่อยากเชื่อว่าคําพูดพวกนี้จะมาจากปากของแดร์ริล! “โอ้ใช่ มีอีกอย่างที่ฉันลืมบอก ถึงภรรยาของฉันจะไม่เรื่องมากเรื่องชุด แต่มาตรฐานเรืองรองเท้าของเธอน่ะ สูงมาก” เขากล่าวออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคํา “ส้นสูงที่เธอสวมอยู่คือ คําสรรเสริญจากคริสตัล ถ้ามีใครไม่รู้จักมัน พวกคุณสามารถหาข้อมูลของมันได้ทางออนไลน์” “ว้าว!” “คําสรรเสริญจากคริสตัล? นี่สิของจริง! ช่างงดงามอะไรอย่างนี้…” ฝูงชนพลันพูดคุยกันด้วยความตื่นตะลึง! เหล่าสตรีในงานนี้ล้วนมีรสนิยมสูง ทําไมพวกหล่อนจะไม่เคยได้ยินเรื่องคําสรรเสริญจากคริสตัลกัน? มองเพียงปราดเดียวพวกเธอก็มั่นใจได้แล้วว่าส้นสูงที่ลิลี่สวมอยู่นั้นเป็นของจริง! คําสรรเสริญจากคริสตัลนั้นมีราคาถึง 30 ล้าน! ลองถามสิว่ามีผู้หญิงคนไหนไม่ชอบมันบ้าง?เลิลีพลันตกเป็นจุดสนใจทันที และเธอก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยคําสรรเสริญและชื่นชม ลิลีทําอะไรไม่ได้นอกจากมองไปที่แคร์ริล เวลาผ่านมาสามปีของชีวิตแต่งงาน นี้เป็นครั้งแรกที่เธอเริ่มรู้สึกว่าคนไร้ประโยชน์คนนี้เป็นลูกผู้ชายจริงๆบ้าง แต่ แคร์ริลรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง? ชื่อของดีไซเนอร์ชาวอิตาลี และแรงบันดาลใจ แน่นอนว่าต้องมีแค่เพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องเหล่านี้? หลังจากใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ลิลีคาดเดาว่าแคร์ริลน่าจะแอบไปรู้เรื่องนี้จากในอินเทอร์เน็ตมาก่อน! “แกอย่ามาพูดอะไร้สาระ!” วิลเลียมกล่าว เขาชี้ไปที่แคร์ริลอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยความอับอาย “เพียะ!” จู่ฝามือของซาแมนธาก็ฟาดเข้าที่ใบหน้าของแดร์ริล! มันเป็นการตบหน้าที่รุนแรงและกะทันหัน คนทั้งห้องโถงยืนนึ่งด้วยความตื่นตะลึง “แดร์ริล แกพล่ามอะไรของแก? ขอโทษวิลเลียมเดียวนี้!” ซาแมนธาออกคําสั่งอย่างเย็นชา