ตอนที่ 129 ตัวซวยกลายเป็นผู้ช่วยชีวิต

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

เหวินหย่าไต้หาชุดทำงานให้เธอชุดหนึ่งเป็นการชั่วคราว แม้กระทั่งรวบผมหางม้าให้เธอจนดูเรียบร้อย ดูแล้วสง่างาม

 

 

ใบหน้าเล็กจ้อยเผยสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยตอนที่เพิ่งเข้าไปในห้องรับรองแขก แต่ไม่นานก็เข้าที่เข้าทาง

 

 

ร่างผอมเพรียวยืนอยู่ข้างหน้าโปรเจคเตอร์ อธิบายจุดเด่นของแผนการดำเนินงานทั้งหมดอย่างสุขุมไม่เร่งร้อน

 

 

ปกติดวงตาเป็นประกายคู่นั้นโค้งเล็กน้อยเหมือนจิ้งจอกน้อยจอมเจ้าเล่ห์ แต่เวลานั้นรอบตัวเธอปรากฏออร่ามหาศาล กลับทำให้สายตาของเธอดูมีพลัง

 

 

สายตาของความมั่นอกมั่นใจ…

 

 

อวี๋เยว่หานนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ มองออร่าที่ส่งออกมาจากตัวของเหนียนเสี่ยวมู่โดยมีหน้าจอกั้นเอาไว้ ดวงตามีเล่ห์เหลี่ยมหดตัวเล็กน้อย มีความรู้สึกสับสนพาดผ่านนัยน์ตาไป

 

 

นิ้วเรียวยาวเห็นกระดูกชัดเจนเคาะบนผิวโต๊ะเบาๆ กำลังจมอยู่ในความคิด

 

 

ไม่นานการประชุมก็จบลง

 

 

เหวินหย่าไต้พาเหนียนเสี่ยวมู่ส่งให้คนของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าด้วยตัวเอง แล้วจึงกลับที่แผนกประชาสัมพันธ์อีกครั้ง

 

 

ทุกคนในแผนกประชาสัมพันธ์รวมตัวอยู่ด้วยความ ต่างก็กำลังยื่นคอรอคอย

 

 

เมื่อเห็นเธอปรากฏตัว พวกเขาก็ล้อมเข้ามาทันที “ผู้จัดการเหวิน สถานการณ์เป็นยังไงบ้างคะ ประธานเฉินพอใจแผนงานที่พวกเราเสนอไหม”

 

 

เซี่ยจิงจิงก็อยู่ในบรรดาคนเหล่านั้น จิตใจกระวนกระวายไม่แพ้กัน

 

 

เธอยืนยันหนักแน่นว่าเหนียนเสี่ยวมู่ไม่รู้เรื่องงานประชาสัมพันธ์ ถึงได้ใช้แผนการนี้ บอกว่าประกาศดำเนินงานมีปัญหา เหนียนเสี่ยวมู่แก้ไขไม่ได้ด้วยซ้ำไป

 

 

เธอต้องการให้ทุกคนรู้สึกว่าเหนียนเสี่ยวมู่เป็นตัวซวย ให้ทุกคนเกลียดเธอ

 

 

แต่เธอคาดไม่ถึงว่าเหนียนเสี่ยวมู่จะเขียนประกาศฉบับหนึ่งออกมาได้ต่อหน้าทุกคนในแผนกประชาสัมพันธ์…

 

 

ถ้าประกาศดำเนินงานฉบับนี้ทำให้ประธานเฉินพอใจจริงๆ อย่างนั้นทุกอย่างที่เธอทำในวันนี้ก็ไม่เพียงหักหน้าเหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้ หนำซ้ำเป็นการกรุยทางให้อีกฝ่าย

 

 

นอกจากทุกคนจะไม่คิดว่าเธอเป็นตัวซวย แต่จำคิดว่าเธอเป็นผู้ช่วยชีวิตของแผนกประชาสัมพันธ์เสียมากกว่า

 

 

พอคิดถึงตรงนี้ เธอจะใจเย็นลงได้อย่างไร

 

 

เมื่อเงยหน้าเห็นสีหน้าลำบากใจของเหวินหย่าไต้ เธอก็มีความหวังขึ้นมาบ้าง

 

 

หรือว่ารายงานของเหนียนเสี่ยวมู่จะผิดพลาด ทำให้ประธานเฉินไม่พอใจมาก

 

 

คงไม่ได้ต่อว่าเหนียนเสี่ยวมู่อย่างสาดเสียเทเสียหรอกใช่ไหม

 

 

เซี่ยจิงจิงคิดในใจ เธอรู้สึกร้อนรนอย่างมาก จึงเบียดมาอยู่ข้างหน้าสุด แล้วยื่นมือไปคว้ามือของเหวินหย่าไต้เอาไว้

 

 

“ผู้จัดการ ตกลงเป็นยังไงกันแน่ พี่พูดมาตามตรง ไม่ต้องไว้หน้าใครทั้งนั้น”

 

 

“…” เหวินหย่าไต้ได้ยินเซี่ยจิงจิงพูดอย่างนั้น สีหน้ายิ่งดูลำบากใจเข้าไปใหญ่

 

 

เธอดันมือของเซี่ยจิงจิงออก แล้วเดินไปตรงหน้าอวี๋เยว่หาน

 

 

“ประธานเฉินพอใจกับประกาศดำเนินงานของพวกเรามาก เพิ่งจะยืนยันให้ดำเนินการตามแผนการนี้”

 

 

หลังจากได้ยินดังนั้น เสียงโห่ร้องดีใจก็ดังขึ้นในแผนกประชาสัมพันธ์ทันที

 

 

มีเพียงเซี่ยจิงจิงที่ยืนตะลึงงันอยู่ที่เดิม เหม่อลอยอยู่เนิ่นนาน

 

 

เธอได้ยินเพื่อนร่วมงานรอบข้างกำลังหัวเราะร่วน เธอก็อยากหัวเราะบ้าง แต่รอยยิ้มกลับน่าเกลียดกว่าร้องไห้เสียอีก…

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ยืนอยู่ตรงประตู กำลังยิ้มกริ่มคำนวณถึงโบนัสสามเดือน

 

 

เมื่อเงยหน้าขึ้น เธอเหลือบมองเซี่ยจิงจิง ถึงได้นึกออกว่าเธอเรื่องสำคัญมากไปเรื่องหนึ่ง

 

 

เธอหรี่ตาเดินไปข้างๆ อวี๋เยว่หาน “ฉันไม่ได้ทำโน๊ตบุ๊คพัง”

 

 

ในแผนกประชาสัมพันธ์เสียงดังมาก

 

 

ทุกคนกำลังดีใจ กลายๆ คนไม่ได้สนใจว่าเธอกำลังพูดอะไร

 

 

เธอพูดไปรอบหนึ่งแล้ว แต่เห็นอวี๋เยว่หานไม่ตอบโต้ เธอจึงคิดว่าเขาไม่ได้ยิน และเพิ่มเสียงพูดซ้ำอีกรอบหนึ่ง

 

 

“เซี่ยจิงจิงดันโน๊ตบุ๊คตกลงไปจากโต๊ะต่อหน้าฉัน”

 

 

หลังจากเธอพูดจบ แผนกประชาสัมพันธ์ที่กำลังคึกคักก็เงียบลงทันใด

 

 

สายตาของทุกคนจ้องมองมาที่เธออย่างพร้อมเพรียง