ตอนที่ 131 ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ไร้ความสามารถ ไม่มีความรับผิดชอบ

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

เซี่ยจิงจิงลนลานอย่างถึงที่สุด 

 

 

เธอถลันไปข้างหน้าอวี๋เยว่หาน อธิบายอย่างสุดชีวิต “คุณชายหาน ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ ตอนนั้นอยู่ๆ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ลุกขึ้นมา โน๊ตบุ๊คก็ตกลงไปพอดี ฉันก็เลยคิดว่าเธอชนมันตก” 

 

 

เซี่ยจิงจิงเห็นอวี๋เยว่หานหน้าบึ้ง จึงไม่ได้พูดต่อ แต่รีบมองไปทางเหวินหย่าไต้ 

 

 

“ผู้จัดการเหวิน พี่เป็นผู้จัดการของแผนกประชาสัมพันธ์ พี่รู้พฤติกรรมของฉันดีที่สุด ฉันให้ความสำคัญกับโครงการของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้ามาก” 

 

 

“…” มีแสงฉายชัดอยู่ในดวงตาของเหวินหย่าไต้ 

 

 

เดิมทีเธอคิดว่าจะอาศัยเรื่องราวในครั้งนี้ ทำให้อวี๋เยว่หานห้ามเหนียนเสี่ยวมู่เข้ามาที่บริษัทอีก แต่ใครจะรู้ว่าจนสุดท้ายแล้ว เรื่องราวจะกลับตาลปัตรจนกลายเป็นอย่างนี้ไปได้ 

 

 

เธอไม่ใส่ใจเซี่ยจิงจิงแค่คนเดียวหรอก 

 

 

แต่คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเธอสร้างเรื่อง เธอก็ต้องรับผิดชอบ 

 

 

จะให้เซี่ยจิงจิงยอมรับว่าจงใจใส่ร้ายทำลายชื่อเสียงไม่ได้เด็ดขาด 

 

 

“คุณชายหาน ถึงเซี่ยจิงจิงจะมีความผิด แต่เธอก็ไม่ได้ตั้งใจ โน๊ตบุ๊คเสียหายถือเป็นเรื่องด่วนที่สุด เธออาจจะเข้าใจเหนียนเสี่ยวมู่ผิดเพราะเหตุนี้ ตอนนี้เคลียร์ความเข้าใจผิดกันแล้ว ฉันให้เธอขอโทษเหนียนเสี่ยวมู่เป็นยังไงคะ”  

 

 

เหวินหย่าไต้มองเซี่ยจิงจิง ขยิบตาให้เธอครั้งหนึ่ง 

 

 

เมื่อเห็นดังนั้น เซี่ยจิงจิงก็ฝืนความรู้สึก โค้งตัวให้เหนียนเสี่ยวมู่ “ขอโทษค่ะ” 

 

 

“…” เหนียนเสี่ยวมู่กัดริมฝีปาก ไม่ได้พูดอะไร 

 

 

กล้องวงจรปิดไม่ได้ถ่ายข้างหน้า คนอื่นจึงเชื่อว่าเซี่ยจิงจิงไม่ได้ตั้งใจ แต่ตอนนั้นเธอแน่ใจมาก 

 

 

ตอนเซี่ยจิงจิงยื่นมือมาดันโน๊ตบุ๊ค ในสายตาเปล่งประกายความชั่วร้ายออกมาด้วย 

 

 

สายตาแบบนั้น เป็นความตั้งใจอย่างแน่นอน… 

 

 

แต่เซี่ยจิงจิงกล่าวขอโทษเธอต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ เหวินหย่าไต้ก็กำลังขอความเห็นใจจากเธอด้วย ถ้าเธอยังปฏิเสธอย่างเด็ดขาด คนอื่นก็จะคิดว่าเธอไม่รู้จักดีชั่วเสียเปล่าๆ 

 

 

“พักงานไปสำนึกผิด” 

 

 

ตอนที่เหนียนเสี่ยวมู่กำลังคิดว่าทำได้แค่ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป เสียงเยียบเย็นก็ค่อยๆ ดังขึ้นที่ข้างหู 

 

 

เธอตัวแข็งทื่อ เงยหน้ามองอวี๋เยว่หานทันควัน 

 

 

ราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง 

 

 

อวี๋เยว่หานไม่ได้มองมาที่เธอ แต่จ้องเซี่ยจิงจิงอย่างเยือกเย็น ครั้นพูดจบก็ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ เตรียมจะออกไป 

 

 

“คุณชายหาน จิงจิงไม่ได้เพิ่งมาอยู่ที่แผนกประชาสัมพันธ์วันหรือสองวัน เธอมีผลงานดีมากเสมอ แค่อุบัติเหตุครั้งเดียว ให้เธอไปพักงานสำนึกผิดมันหนักเกินไปเหรอคะ”  

 

 

ทีแรกเธออยากพูดว่า ถ้าไม่มีหลักฐานแบบนี้ ชดเชยด้วยคำว่าขอโทษก็มากเกินไปแล้ว 

 

 

แต่คิดไม่ถึงว่า อวี๋เยว่หานจะออกปากให้เซี่ยจิงจิงไปพักงานสำนึกผิด 

 

 

เพียงเพราะเหนียนเสี่ยวมู่… 

 

 

เธอทนมองเขาแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ได้เพราะผู้หญิงคนเดียวหรอกนะ 

 

 

“หนักเกินไปงั้นเหรอ” อวี๋เยว่หานหยุดฝีเท้า แล้วหมุนตัวมาพร้อมสายตาเยียบเย็น 

 

 

“เป็นซูเปอร์ไวเซอร์ของแผนกประชาสัมพันธ์ แต่ไม่ได้ทำสำเนาประกาศสำคัญไว้ตั้งแต่ทีแรก ถือว่าปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง” 

 

 

“ประกาศที่ไม่ได้ทำสำเนาไว้ กลับไม่เก็บรักษาให้ดี เกิดอุบัติเหตุขึ้นก็คิดวิธีกู้คืนสถานการณ์ไม่ได้ ถือว่าไร้ความสามารถ” 

 

 

“งานเกิดปัญหา แต่ไม่ยอมพิจารณาตัวเองตั้งแต่ทีแรก แต่ผลักความรับผิดชอบให้คนอื่น ถือว่าไม่มีความรับผิดชอบ” 

 

 

ดวงตาเย็นชาของอวี๋เยว่หานกวาดมองทุกคน สุดท้ายถึงจ้องมองใบหน้าของเหวินหย่าไต้ 

 

 

“แผนกประชาสัมพันธ์มีซูเปอร์ไวเซอร์แบบนี้ ผมเป็นห่วงว่าโครงการร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าจะเกิดปัญหาอีกหรือเปล่า”  

 

 

“…” เหวินหย่าไต้หน้าซีดเผือดทันใด 

 

 

คำพูดนี้หมายความว่าแม้แต่เธอก็ถูกสงสัยไปด้วย 

 

 

อย่างไรเสียเธอก็ดันให้เซี่ยจิงจิงได้ตำแหน่งซูเปอร์ไวเซอร์นี้ 

 

 

เหวินหย่าไต้สูดลมหายใจเข้าลึก พยายามสงบสติอารมณ์ไว้