ตอนที่ 9 ริบสมบัติขับออกตระกูล

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

หม่าเสินรู้เลขประจำตัวพนักงานของเย่เฉินแล้ว เขาแค่ต้องกรอกเลขที่ว่าลงในระบบหลังบ้านก็จะเห็นคำสั่งซื้อทั้งหมดของอีกฝ่าย

เมื่อดูเสร็จแล้วหม่าเสินก็พยักหน้า “คุณชายฟางพูดถูก เมื่อวานเขาโดนประเมินหนึ่งดาวจริงๆ! เหตุผลก็คือไร้มารยาท โยนอาหารลงบนพื้น เหมือนกับที่คุณชายฟางพูดไม่มีผิด! ”

และในตอนนี้เองทุกคนก็เริ่มโอนเอียงเชื่อหวังเจียเหยาและหม่าเสิน

เย่เฉินมองหวังเจียเหยา “ทำไมผมต้องโยนอาหารลงพื้น คุณจะไม่ช่วยผมอธิบายหน่อยเหรอ?”

หวังเจียเหยากอดอก ร่างกายจึงดูมีส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างเห็นได้ชัดแต่เจ้าตัวกลับมีท่าทีใสซื่อ “นายไม่ตั้งใจทำงานเอง! แถมยังไม่รู้จักอดทนด้วย!”

“ฮ่าๆ ไม่ตั้งใจทำงาน ไม่รู้จักอดทนงั้นเหรอ!”

เย่เฉินอยากจะปรบมือชื่นชมหวังเจียเหยาทำไมถึงมีหน้าพูดจาแบบนี้ออกมาได้!

สามีพบภรรยาตนเองเปิดห้องในโรงแรมกับชายอื่นแล้วทำของหลุดมือ คิดไม่ถึงว่าจะกลับกลายเป็นว่าไม่มีความอดทนไปได้!

หรือว่าเขาควรทำเป็นมองไม่เห็นแล้วส่งอาหารให้ชายชู้จากนั้นให้เขาคุกเข่าขอประเมินห้าดาวหรือไง!!

“ไอ้หนู นายทำไม่ถูกทำงานผิดพลาดเองแล้วเข้าใจคุณชายฟางและคุณหนูหวังผิดไป”

“ไม่มีหลักฐานก็หุบปากไป!”

“อย่าว่าแต่เขาไม่ได้นอกใจเลย ต่อให้โดนนอกใจเขยที่แต่งเข้าอย่างนายก็ไม่มีสิทธิ์โวยวาย!”

“…”

ฝั่งหนึ่งเป็นทายาทผู้ร่ำรวยและมีชื่อเสียงของอวิ๋นโจว อีกฝั่งเป็นเขยแต่งเข้าที่ถูกคนดูหมิ่น

ตอนนี้ไม่มีใครช่วยพูดแทนเย่เฉินมิหนำซ้ำทุกคนกลับเลือกเข้าข้างหวังเจียเหยา

“ฮ่าๆ เป็นโลกที่ใครมีเงินคนนั้นเป็นฝ่ายถูกจริงๆ ด้วย”

เย่เฉินไม่อยากจะอธิบายอะไรเพราะพูดไปก็ไร้ประโยชน์ เขามองคุณนายหวังแทน

“พวกคุณบอกว่าผมแอบมีชู้ พวกคุณมีหลักฐานไหม?”

คุณนายหวังมองหวังเจียเหยา ผู้เป็นหลานสาวส่ายหน้า

คุณนายหวังกล่าวว่า “ในเมื่อพวกหลานไม่มีหลักฐานก็ปล่อยเรื่องนี้ให้จบไปแล้วกัน แต่เรื่องที่แกซ้อมหลานชายฉัน เรื่องนี้จะปล่อยให้จบลงแบบนี้ไม่ได้!”

เย่เฉินปรายตามองหวังซ่าวเจี๋ยแล้วกล่าว “เขาใช้มีดฟันผมที่ประตูหน้าหมู่บ้านลวี่หยวน ที่นั่นมีกล้องวงจรปิด ยามที่นั่นก็เป็นพยานได้ว่าผมแค่ป้องกันตัวเท่านั้น ถ้าหากพวกคุณต้องการจะสืบเรื่องนี้ล่ะก็ อย่างนั้นพวกเราก็แจ้งความกัน หากว่าผมโดนควบคุมตัวล่ะก็ผมรับรองว่าเขาเองก็ไม่มีทางรอดตัวได้แน่!”

พวกคุณนายหวังและหวังจื้อเฉียงต่างก็ลนลาน

พวกเขาเข้าใจกฎหมายกันทุกคน คนหนึ่งใช้หมัดป้องกันตัวเองแต่อีกคนใช้อาวุธทำร้ายร่างกาย โทษของหวังซ่าวเจี๋ยหนักกว่าอย่างเห็นได้ชัด

คุณนายหวังชี้เย่เฉินพลางกล่าว

“ดีนี่ เกาะบ้านเรามาสามปี ตอนนี้ปีกกล้าขาแข็งแล้วซ้อมหลานฉันเสร็จยังคิดจะเล่นงานฉันด้วยล่ะสิ!”

เย่เฉินเอ่ยด้วยความเคารพ “คุณย่า…อ่อ คุณนายหวัง ตลอดสามปีที่ผ่านมาผมเคารพนับถือท่านและปฏิบัติต่อท่านด้วยความจริงใจมาตลอด ผมขอรับรองเลยว่า ต่อไปขอแค่หวังซ่าวเจี๋ยไม่หาเรื่องผมก่อน ผมก็จะไม่สร้างความลำบากให้เขา แต่ผมมีแค่เงื่อนไขเพียงข้อเดียวหวังว่าท่านจะยอมให้ผมกับหวังเจียเหยาหย่ากัน!”

พูดเรื่องปรนนิบัติดูแลคุณนายหวังแล้ว ตลอดสามปีมานี้เขาทำได้ดีกว่าทั้งชีวิตของหวังซ่าวเจี๋ยเสียอีก

แต่ไม่ว่ายังไงเย่เฉินก็เป็นแค่หลานเขยที่แต่งเข้าเท่านั้น ไม่ว่าจะทุ่มเทมากมายเท่าไหร่ ในใจคุณนายหวังนั้นเขาก็ไม่อาจเทียบกับหวังซ่าวเจี๋ยได้

คุณนายหวังมองทุกคนแล้วกล่าว

“ทุกท่านทุกคนต่างก็รู้ เมื่อสามปีก่อนตระกูลหวังของเรามีเขยที่แต่งเข้ามา การหมั้นหมายครั้งนี้เป็นความต้องการของสามีผู้ล่วงลับของฉัน ทุกท่านที่นั่งอยู่ ณ ที่นี้มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่เป็นคู่ค้าและเพื่อนที่คบหากันมายาวนานของเขา! สามปีมานี้ ถึงหวังเจียเหยาจะไม่มีความสุขแต่เพื่อทำตามคำสั่งเสียของสามีผู้จากไป พ่อแม่ของหวังเจียเหยาได้พูดเรื่องหย่ามาหลายครั้งแต่ฉันก็ปฏิเสธตลอด!

หลานสาวของฉันหวังเจียเหยาได้รับความรักจากทุกคนมีฉายาว่าเป็นสาวงามลำดับหนึ่งของอวิ๋นโจว พวกเขาสองคน ใครไม่คู่ควรกับใครฉันคงไม่ต้องพูดให้มากความ วันนี้เย่เฉินซ้อมหลานชายฉันแถมยังใส่ความหลานสาวและคนตระกูลฟาง ฉันจึงตัดสินใจที่จะขัดคำสั่งเสียของสามี!

ฉันขอประกาศ เย่เฉินไม่ใช่เขยของตระกูลหวังอีกต่อไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเขาถูกขับออกจากตระกูลหวังแล้ว!”

คำพูดของคุณนายหวังทรงพลังและดูมีอำนาจอย่างยิ่ง

เมื่อได้ยินคำพูดของคุณนายหวัง ทุกคนก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมา

“ขอแสดงความยินดีกับคุณนายหวัง ขอแสดงความยินดีกับเจียเหยา!”

“ดีใจด้วยๆ ที่สลัดขยะพ้น ในที่สุดเจียเหยาก็จะได้แต่งกับคนที่คู่ควรแล้ว!”

ซูหลานเองก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาด้วยความดีใจและชนแก้วกับแขกคนอื่นๆ แทบไม่อาจควบคุมความดีใจบนใบหน้าได้

“ขอบคุณทุกท่านด้วยและต้องรบกวนทุกท่านปล่อยข่าวเรื่องนี้ออกไป สามปีมานี้เจียเหยาและเย่เฉินแยกห้องกันนอน เขาไม่เคยได้แตะแม้กระทั่งมือของลูกสาวฉัน ตอนนี้เจียเหยายังบริสุทธิ์อยู่!”

พอได้ยินคำพูดของซูหลาน ชายโสดในงานต่างก็เริ่มอยู่ไม่เป็นสุขมองหวังเจียเหยาด้วยแววตาหื่นกระหาย

แต่หวังเจียเหยากลับกล่าวโทษซูหลานด้วยน้ำเสียงอ้อนหวาน

“คุณแม่คะ แม่พูดเรื่องนี้ต่อหน้าคนเยอะแยะทำไม หนูอายนะคะ”

พอได้ยินคำพูดหวังเจียเหยา บรรดาแขกเหรื่อก็ดีใจอย่างยิ่ง

ในที่สุดตระกูลหวังก็ยอมให้หวังเจียเหยาหย่ากับเย่เฉิน แต่ภาพที่คนตระกูลหวังกำลังเลี้ยงฉลองอยู่นั้นทำให้เย่เฉินขมขื่นใจอย่างที่สุด

“สลัดผมทิ้งได้ พวกคุณก็ดีใจขนาดนี้เลยเหรอ? เจียเหยา ถ้าคุณรู้ตัวตนที่แท้จริงของผมไม่รู้ว่าคุณจะยังยิ้มออกอยู่ไหม!”