บทที่ 14: นี่คือบทโหมโรงของงานแต่งงานงั้นเหรอ? (ไม่ใช่)

ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END

บทที่ 14: นี่คือบทโหมโรงของงานแต่งงานงั้นเหรอ? (ไม่ใช่)

อะไรคือกุญแจสำคัญในการเอาชนะใจผู้หญิง?

นี่เป็นคำถามที่สร้างความสับสนให้กับมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วน นับตั้งแต่อดีตกาลของมนุษยชาติ ราวกับว่ามันเป็นคำถามเชิงปรัชญาที่ทุกคนต่างก็มีคำตอบไม่ซ้ำกัน

ผู้หญิงบางคนก็หลงระเริงไปกับความงาม แสวงหาคู่ครองที่มีหน้าตาน่าดึงดูดเพื่อใช้ชีวิตร่วมกัน

ผู้หญิงบางคนก็ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรม เรียกร้องหาอีกฝั่งที่เป็นคนโรแมนติกและมีพรสวรรค์

อย่างไรก็ตามสำหรับเด็กที่ยังอยู่ในวัยเรียนอย่างพวกเขา สิ่งสำคัญมีเพียงผลการเรียน พวกเขาจึงมักจะสนใจเพื่อนในรุ่นราวคราวเดียวกันที่ฉลาดกว่า

อลิเซียเป็นเด็กที่โตเร็วเกินวัยเนื่องจากประสบการณ์ในอดีตของเธอ ประสบการณ์เหล่านั้นส่งผลให้เด็กสาวมีมุมมองอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเกี่ยวกับโลกใบนี้ แม้มุมมองที่ว่าจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายซะทีเดียว แต่มันก็ส่งผลให้เธอไม่สามารถเข้ากับผู้คนรอบข้างได้จนกลายเป็นความห่างเหิน

แม้แต่โรเอลที่สามารถเปิดใจอลิเซียได้สำเร็จก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงนิสัยรักสันโดษของเธอได้

เหตุผลที่อลิเซียตั้งใจร่ำเรียนศึกษานั้นก็เพื่อที่เธอจะได้รับการยอมรับจากทุก ๆ คน โดยเฉพาะในตอนนี้ เด็กสาวนั้นต้องการการยอมรับจากคนคนหนึ่งมากกว่าคนอื่น ๆ ในโลกเป็นพิเศษ

นั่นก็คือ โรเอล

บนโต๊ะเรียน อลิเซียเฝ้าดูการคำนวณโจทย์การบ้านของโรเอล ด้วยดวงตาที่ฉายแววชื่นชมเปล่งประกายออกมา

เด็กสาวไม่แปลกใจเลยที่โรเอลสามารถแก้โจทย์ปัญหาที่เธอมีปัญหาได้อย่างง่ายดาย อลิเซียนั้นคิดอยู่แล้วว่าพี่ใหญ่ที่เธอเคารพจะต้องนำหน้าเธอในด้านการศึกษา

อย่างไรก็ตามสิ่งที่โรเอลลงมือทำต่อไปยิ่งทำให้เด็กสาวรู้ว่าช่องว่างระหว่างพวกเขานั้นห่างกันมากแค่ไหน

โรเอลไม่เพียงแต่อธิบายวิธีการแก้โจทย์ปัญหาให้เธอฟังอย่างรวบรัด แต่เขายังตรวจการบ้านส่วนที่เหลือของอลิเซียให้อีกด้วยว่ามีจุดผิดพลาดอะไรรึเปล่า โดยการคำนวณแก้ปัญหาโจทย์ในแต่ล่ะข้อให้เธอดูทั้งหมด

“พี่ใหญ่โรเอลคิดเลขเร็วขนาดนี้ได้ยังไงกันคะ?”

อลิเซียถามด้วยความตกตะลึงและแปลกใจ

นั่นก็เพราะโรเอลสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้ในเวลาเพียงสิบนาที ขณะที่เธอต้องใช้เวลามากถึงครึ่งชั่วโมงโดยที่ยังทำโจทย์ไม่ครบทั้งหมด

เมื่อได้ยินคำถามของอลิเซีย โรเอลก็วางปากกาลงก่อนจะจ้องมองโจทย์คำถามตรงหน้าเขาด้วยสีหน้าหม่นหมอง

“เกี่ยวกับเรื่องนี้…” เขาแสร้งทำหน้าเหมือนครุ่นคิด

ไม่ว่าใครก็ทำโจทย์พวกนี้ได้เร็วเหมือนเขาทั้งนั้นแหละ ถ้าสามารถท่องสูตรคูณได้ …

โรเอลหัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง

“ฉันมีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ น่ะ ไว้ฉันจะสอนให้เธอทีหลังนะ” เขาพูดพร้อมกับโยกหัวน้อย ๆ ของอลิเซียอย่างเอ็นดู

“ค่ะพี่ใหญ่!” เด็กสาวยิ้มกว้าง ตอนนี้ใบหน้าน้อย ๆ แดงเป็นตำลึงสุกเลยทีเดียว

เมื่อได้เห็นรอยยิ้มอันแสนหวานของอลิเซียและแต้มความสนใจที่หลั่งไหลเข้ามามากมาย โรเอลก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มให้กับตัวเองเช่นกัน เขาหันกลับไปมองแอนนาที่มือไม้อ่อนปวกเปียกด้วยรอยยิ้มสุภาพบนริมฝีปากของเขา

ดูเหมือนว่าเราจะรักษาศักดิ์ศรีของตัวเองไว้ได้แล้วสินะ!

—————————————–

เช้าวันรุ่งขึ้นโรเอลตื่นแต่เช้ามารับประทานอาหารร่วมกับอลิเซีย ทว่าวันนี้ทั้งสองไม่ได้ปฏิบัติตามกิจวัตรประจำวันที่เกาะติดกันและกันของพวกเขา พวกเขาเพียงแค่ทานอาหารให้เสร็จอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับไปยังห้องของตัวเอง เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม

นั่นก็เพราะในวันนี้แขกกิตติมศักดิ์จะมาเยี่ยมคฤหสาน์ตระกูลแอสคาร์ด

เหล่าคนรับใช้เองก็เช่นกัน พวกเขาไม่ได้แค่รับทราบข้อความจาก มาร์ควิสคาร์เตอร์แล้วอยู่เฉย ๆ พวกเขาต่างทำงานตลอดทั้งคืนเพื่อให้แน่ใจว่าคฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ดจะพร้อมต้อนรับแขกของพวกเขา

การเตรียมการของเหล่าคนรับใช้นั้นดีมากเสียจนโรเอลเกือบจะคิดว่าตัวเองถูกลักพาตัวไปที่อื่นเมื่อเขาเดินออกมาจากห้องนอน

นอกจากนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เหล่าคนรับใช้ยังได้เปลี่ยนพรมที่พื้น ติดภาพวาดตกแต่ง และนำของเก่าแก่มีมูลค่าต่าง ๆ ที่เก็บไว้ในห้องเก็บของออกมาจัดแสดงในห้องศึกษาตามทางเดิน และสถานที่ที่โดดเด่นอื่น ๆ

ราวกับว่าพวกเขากำลังเตรียมตัวสำหรับเทศกาลคริสต์มาส

นอกจากนี้บุคคลสำคัญอย่างโรเอลและอลิเซียเองก็ไม่ได้แต่งตัวในชุดสบาย ๆ แบบที่พวกเขาสวมตามปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรเอลที่เป็นลูกชายคนเดียวและผู้สืบทอดของตระกูลแอสคาร์ด เขาต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษ

“นายน้อย ได้โปรดอย่าเพิ่งขยับตัวนะคะ”

ในห้องของโรเอล แอนนากำลังนั่งยอง ๆ ต่อหน้าเด็กชายเพื่อแต่งหน้าให้กับเขา เพื่อความประทับใจแรกในการปรากฏตัวของโรเอล เขาจะต้องแต่งหน้าเพื่อขับเน้นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเล็กน้อย แม้ว่ามันจะไม่ใช่อุปกรณ์แต่งหน้าแบบเดียวกับที่เขาเคยเห็นในชาติก่อนก็ตาม

“เอาล่ะนายน้อย ได้โปรดหลับตาด้วยค่ะ” แอนนาค่อย ๆ ลงใบมีดจัดการกับเส้นขนคิ้วของเขาด้วยความเบามือ

หลังจากจัดการความเรียบร้อยกับคิ้วของโรเอล แอนนาก็หยิบแปรงขนาดเล็กขึ้นมาตบเบา ๆ ลงในขวดหยกที่เต็มไปด้วยของเหลวใส ก่อนที่จะทาลงบนใบหน้าของโรเอลอย่างระมัดระวัง ทำให้รู้สึกเย็นสดชื่นบนผิวของเขา

เมื่อโรเอลลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น มันราวกับว่าเขากำลังมองตัวเองผ่านฟิลเตอร์อันสวยงามของกล้องถ่ายรูป

โอ้พระเจ้า เราดูดีขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!

เด็กชายแตะสันกรามตนเองเบา ๆ ขณะมองดูหนุ่มน้อยหล่อเหลาในกระจก เขาจ้องมองไปยังขวดหยกที่บรรจุของเหลวใสที่เรียกกันว่า ‘หยาดน้ำค้างปีศาจ’

ลือกันว่าส่วนผสมหลักของ หยาดน้ำค้างปีศาจ คือยางที่รวบรวมมาจากปีศาจต้นไม้ในป่าแห่งการสาบสูญ มันเป็นผลิตภัณฑ์พิเศษที่ขายโดยสมาคมพ่อค้าโซโรฟยา ทันทีที่พวกมันปรากฏในตลาดมันก็กลายเป็นผลิตภัณฑ์อันหรูหราเป็นพิเศษ ที่สตรีชั้นสูงจำนวนนับไม่ถ้วนดิ้นรนกันเพื่อที่จะได้มันมาครอบครอง

เพียงหยดเดียวก็สามารถทำให้ผิวไร้ซึ่งรอยตำหนิได้ และหากใช้ 5 หยดก็จะสามารถปรับโฉมหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผลของมันน่าทึ่งพอ ๆ กับการทำศัลยกรรมเลยทีเดียว!

อย่างไรก็ตามมันมีผลเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น นอกจากนี้มันยังใช้ไม่ได้ผลกับจอมเวทที่มีพลังเวทสูงเช่น มาร์ควิสคาร์เตอร์ เนื่องจากพวกเขาสามารถมองผ่านการแปลงโฉมระดับต่ำเช่นนี้ได้อย่างง่ายดาย

ยิ่งไปกว่านั้น หยาดน้ำค้างปีศาจ เองก็ไม่ได้ดีไปเสียทั้งหมด ผลิตภัณฑ์ที่ผสมพลังเวททั้งหมดบนโลกนี้ล้วนมีผลข้างเคียงบางอย่าง หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมพลังเวทบ่อยเกินไปก็อาจทำให้เกิด ‘ผลเสน่ห์’ บนใบหน้าของคน ๆ นั้นได้

เคยมีเหตุการณ์หนึ่งในอดีตที่พบว่าหญิงสาวผู้สูงศักดิ์เคยถูกโจมตีโดยผู้ที่คลั่งไคล้ในตัวเธอ จากผลของหยาดน้ำค้างปีศาจ

แม้จะมีข้อเสีย แต่ผลิตภัณฑ์นี้ก็ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่สตรีชนชั้นสูง หยาดน้ำค้างปีศาจเพียงขวดเล็ก ๆ ก็มีราคาหลายสิบเหรียญทอง

ขณะที่โรเอลกำลังชื่นชมหน้าตาอันหล่อเหลาของเขาในกระจก จู่ ๆ เด็กชายก็นึกอะไรบางอย่างได้ เขาจึงหันกลับมาถามแอนนา

“มีหยาดน้ำค้างปีศาจเพียงพอสำหรับอลิเซียด้วยรึเปล่า?”

“โปรดวางใจเถอะค่ะ นายน้อย เราได้เตรียมบางส่วนไว้ให้นายหญิงอลิเซียด้วยเช่นกันค่ะ” แอนนาบอกกับเขาเพื่อให้คลายกังวล เพราะเธอจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว

“ดีมาก”

โรเอลพยักหน้าอย่างใจเย็น ก่อนจะแปลกใจที่จู่ ๆ เขาก็ได้รับแต้มความสนใจโดยไม่คาดคิดมาจากแอนนา

แปลกจริง ทำไมแอนนาถึงให้แต้มความสนใจกับเรา? เรายังไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ ๆ …เดี๋ยวก่อนนะเข้าใจแล้ว แบบนี้นี่เอง!

โรเอลฟาดหมัดของเขาลงกับฝ่ามือ ด้วยความเข้าใจ

ต้องเป็นเพราะว่าเราหน้าตาดีมากแน่ ๆ! อ๊ะ เรานี่ช่างเป็นคนบาปอะไรอย่างนี้!

เด็กน้อยถอนหายใจพลางตำหนิรูปลักษณ์อันหล่อเหลาของตนเอง

ทว่าความคิดของแอนนานั้นต่างจากที่โรเอลกำลังคิดโดยสิ้นเชิง

นายน้อยให้ความสำคัญกับนายหญิงอลิเซียมากจริง ๆ ด้วย ทั้งที่เขาอายุยังน้อยแท้ ๆ แต่เขาก็ใส่ใจเธอมากเป็นพิเศษเลย!

การพูดถึงอลิเซียโดยกะทันหันของโรเอล ทำให้เกิดแต้มความสนใจมากมายพวยพุ่งมาจากแอนนา ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจของโรเอลเป็นอย่างมาก เนื่องจากความเข้าใจผิดของเขาเอง

ครึ่งนาทีต่อมาในที่สุดโรเอลก็ละสายตาจากกระจกแล้วเดินออกจากห้องไปในชุดสูทพอดีตัว ในขณะที่เด็กชายกำลังเดินลงทางไปด้านซ้ายของบันไดกลางมุ่งหน้าไปยังห้องรับรอง เขาก็สังเกตเห็นร่างของเด็กสาวผมสีเงินเดินตรงมาหาเขาจากทางด้านขวาของบันไดกลาง

อลิเซียสวมชุดออกงานสีขาวหลวมทั้งด้านบนและด้านล่างโดยรัดรอบเอวเพรียวบางของเธอเอาไว้แน่น ผมสีเงินของเธอจัดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เหลือเพียงไม่กี่เส้นที่ห้อยออกมาข้าง ๆ ใบหน้าของเธอ ผลจากการใช้หยาดน้ำค้างปีศาจ ได้มอบสัมผัสแห่งความเย้ายวนใจให้กับใบหนัาอันละเอียดอ่อนของเด็กสาวทำให้ร่างของเธอดูน่าหลงใหลราวกับเดินออกมาจากภาพวาด

แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ดวงตาสีแดงเข้มคู่นั้นของอลิเซียได้เติมเต็มส่วนสุดท้ายที่ขาดหายไปของเด็กสาว ความแตกต่างอันโดดเด่นของดวงตา ผิวสีขาว ชุดสีขาวและผมสีเงินของอลิเซีย ชวนให้นึกถึงเปลวไฟอันสง่างามที่ลุกโชนท่ามกลางภูเขาหิมะ การที่องค์ประกอบเหล่านี้ถูกประสานเข้าด้วยกัน ทำให้มันกลายเป็นเรื่องยากที่หัวใจของใครคนหนึ่งจะสงบลงได้เมื่อต้องมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ

ทันทีที่ได้เห็นอลิเซีย ฝีเท้าโรเอลก็หยุดลง เขาตกอยู่ในภวังค์ จนเหล่าคนรับใช้ที่อยู่รอบตัวเขาอดไม่ได้ที่จะสนทนากันอย่างตื่นเต้น ทำให้ห้องนั่งเล่นเงียบสงบมีชีวิตชีวาขึ้นมา

ช่างสวยงามเหลือเกิน! ใครมันจะต้านทานสิ่งนี้ได้กัน?

โรเอลสะบัดตัวเองออกจากความตกตะลึง แล้วจึงรีบแตะไปที่รูจมูก เพื่อตรวจดูว่าเขามีเลือดกำเดาไหลหรือไม่ เมื่อยืนยันได้แล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร เด็กชายก็รีบหลีกเลี่ยงการจ้องมองไปทางอลิเซียแล้วเดินลงบันไดไป

โอ้ แบบนี้เราได้ตายเพราะความน่ารักของเธอจริง ๆ แน่ ความสวยงามของอลิเซียช่างแข็งแกร่งเกินไปแล้ว !

ความคิดของโรเอลพลุ่งพล่านไม่หยุด เขาได้รับผลกระทบจากความสวยงามของอลิเซียมากเกินไปจนไม่ทันสังเกตปฏิกิริยาตอบกลับของเด็กสาว

ทันทีที่อลิเซียได้เห็นโรเอลผู้แต่งองค์ทรงเครื่องเรียบร้อยแล้ว ร่างของเธอก็แข็งทื่อไปเช่นกัน ดวงตาสีแดงเข้มของเด็กสาวค่อย ๆ เบิกกว้างขึ้น สีแดงระเรื่อปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วบนใบหน้าของเธอ หัวใจของอลิเซียเต้นรัวมากเสียจนแทบจะทะลุออกจากหน้าอกของเธอ

พี่ใหญ่โรเอลหล่อจังเลย…

เมื่อตระหนักได้ว่าลมหายใจของเธอเริ่มปั่นป่วน อลิเซียจึงหลุบสายตาของเธอลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน เด็กสาวรู้สึกราวกับว่าโรเอลถูกปกคลุมไปด้วยแสงออร่าของธรรมชาติ จนเธอไม่สามารถทนมองได้ด้วยตาเปล่า เด็กสาวก้มศีรษะลงพลางจับด้านข้างของชุดอย่างประหม่า

“อย่าเพิ่งยอมแพ้นะคะ นายหญิง!”

เหล่าสาวใช้ที่อยู่ข้างหลังอลิเซียต่างส่งเสียงกระซิบสนับสนุน ดึงเธอให้หายจากอาการตกตะลึง เด็กสาวรีบเดินลงบันไดไปที่ด้านข้างของโรเอลก่อนจะเงยหน้าขึ้นอย่างเขินอาย เมื่อพบว่าตัวเองได้สบเข้ากับดวงตาของโรเอล

ช่วงเวลาแห่งความเงียบงันระหว่างทั้งสองเกิดขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะหลบสายตาพร้อมกันอย่างรวดเร็ว

“ท… ท่านพี่ วันนี้ท่านพี่โรเอลดูมีชีวิตชีวาดีนะคะ!”

“อืม เธอเองก็เหมือนกันอลิเซีย เธอดู … สวย”

เด็กตัวน้อยทั้งสองกล่าวชื่นชมกันและกันอย่างขวยเขิน พวกเขาเคียงข้างกันด้วยใบหน้าอันแดงระเรื่อ ทั้งคู่รู้สึกเขินอายอย่างอธิบายไม่ถูกกับสถานการณ์ในตอนนี้ ขณะเดียวกันเหล่าคนรับใช้ที่ตามมาข้างหลังก็พากันทอดสายตาไปที่ฉากอันหาดูได้ยากนี้

น่ารักจริง ๆ ! ไม่เสียดายแล้วหากจะต้องตายลงตรงนี้! เมื่อไหร่นายน้อยจะแต่งงานกับนายหญิงกันนะ?

“แอนนาเก็บอาการ สำรวมหน่อย แอนนา สำรวมหน่อย!”

เหล่าคนรับใช้ที่อยู่ใกล้ ๆ รีบดึงแอนนา เพื่อเตือนให้เธอควบคุมรอยยิ้มแปลกประหลาดบนใบหน้าของเธอ ท่ามกลางบรรยากาศสีชมพูอ่อน ๆ ของความโรแมนติกที่กำลังผลิบาน ทันใดนั้นประตูของคฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ดก็ได้เปิดออก