บทที่ 6

แดร์ริลมองที่เพิร์ล ถ้าเขาเดาไม่ผิด เธอน่าจะเป็นเลขาที่ลุงของเขาพูดถึง
“ขออภัยค่ะท่านประธาน ดิฉันไม่ได้ตั้งใจจะมาสายนะคะ เพราะว่ารถติดก็เลย…” เพิร์ลอธิบายเสียงอ่อย เธอกลัวที่จะมองตาของแดร์ริล และก้มหัวอยู่แบบนั้น
“เพิร์ล เธอพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่!” เพเนโลพีเดินมาข้างหน้า รูปร่างสวยงามของเธอถูกแต่งแต้มด้วยความโมโหเล็กน้อย “นี่คือพนักงานรักษาความปลอดภัยคนใหม่ต่างหาก ทำไมเธอถึงบอกว่าเขาเป็นประธานไปได้?”
“พนักงานรักษาความปลอดภัย?” เพิร์ลค้นภายในกระเป๋าถือของเธอก่อนจะนำรูปภาพออกมา เธอเทียบหน้าของแดร์ริลกับคนในรูป ก่อนจะรีบตอบเพเนโลพีอย่างรวดเร็ว “คุณพีช นี่ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดแน่นอน เขาคือประธานบริษัทคนใหม่ของเรา ท่านดาร์บี้”
“อะไรนะ!?” ฝูงชนรอบ ๆ ยืนตะลึงอยู่ตรงนั้นพร้อมกับอ้าปากค้าง และจ้องไปที่แดร์ริลด้วยความไม่เชื่อ
“เอ่อ คุณคะ คุณ… คุณกำลังเข้าใจผิดอยู่รึเปล่า?” จีเซลล์กัดริมฝีปากแน่นและมองไปที่เพิร์ล “หมอนี่คือแดร์ริล เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของฉันสมัยมัธยมปลาย ดูความงุ่มง่ามของเขาสิ เขาจะเป็นประธานไปได้ยังไง?”
นี่มันเป็นไปได้ยังไง! ประธานบริษัทที่ไหนจะใส่ชุดเหมือนขอทานและขี่สกู๊ตเตอร์กัน? มากไปกว่านั้น เมื่องานเลี้ยงรุ่นที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน ไม่มีสักคนเลยที่จะสนใจแดร์ริล!
“เข้าใจผิด?” เพิร์ลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและยื่นให้จีเซลล์ดู “ดูดี ๆ สิคะ หัวหน้าตระกูลดาร์บี้ได้บอกดิฉันเป็นการส่วนตัวว่าชื่อของประธานคนใหม่คือ ดาร์ริล ดาร์บี้! และนี่ก็คือรูปของของท่านประธานที่อยู่ในบันทึกการสนทนา เชิญดูได้ตามสบาย!”
วาบ!
หัวของจีเซลล์พลันขาวโพลนในพริบตา! เธอรู้สึกได้ว่าแข้งขาของเธอเริ่มยืนไม่อยู่ เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองตาแดร์ริลด้วยซ้ำ
ในขณะเดียวกัน เพเนโลพีก็กัดริมฝีปากแน่นเช่นกัน ในฐานะของรองผู้จัดการบริษัทแพลทินัม เธอมีตำแหน่งสูงกว่าพนักงานทั่วไปหลาย ๆ คน ยังไงก็ตาม บริษัทแพลตินั่มยังไงเป็นของตระกูลดาร์บี้ เธอแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอเพิ่งข่มขู่จะไล่ประธานออก…
“ท่านแดร์ริล…” ใบหน้าของเพเนโลพีซีดลง เธอเดินไปหาเขาแล้วกระซิบด้วยน้ำเสียงอ่อน ๆ
“ผมไม่คิดว่าคุณใช้คำได้เหมาะสมเท่าไหร่นะ” แดร์ริลแค่นเสียง “จีเซลล์เป็นเพื่อนร่วมห้องของผม และคุณเป็นน้าของเธอ ผมคิดว่ามันไม่เหมาะเท่าไหร่ที่คุณจะเรียกผมว่าท่าน”
“ท่านแดร์ริล ฉันผิดไปแล้ว…ฉันผิดไปแล้วจริง ๆ ฉันรู้ว่าฉันทำสิ่งที่ไม่ถูก…. “ เพเนโลพีกล่าวเสียงอ่อยด้วยศรีษะที่ก้มลง
แดร์ริลโบกมือขัดจังหวะคำพูดของเธอ เขาหันหลังกลับไปมองทางหัวหน้าพนักงานรปภ.ในจังหวะนั้นเอง หัวหน้าพนักงานรปภ.พูดอะไรไม่ออก ร่างของเขาถอยหลังเซไป จวนเจียนจะล้มลงกับพื้นเต็มที
“นายถูกไล่ออก” แดร์ริลเพียงกล่าวกับเขาแค่นั้น ก่อนจะเดินเข้าตึกไป
กลุ่มคนเดินทั้งหลายเดินตามแดร์ริลไปด้วยความอาจหาญ หลังจากอภิปรายกันในหมู่พนักงานแล้วที่หน้าตึกชั้นแรก จีเซลล์กับเพเนโลพีเองก็ไปตามคำเรียกร้องเช่นกัน แต่ด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัว แม้ว่ามันจะเป็นการยากที่จะเดินด้วยส้นสูง แต่พวกเธอก็พยายามก้าวให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะตามแดร์ริลไปให้ทัน
ต้องยอมรับ บริษัทแพลทินัมนั้นใหญ่โตโอ่อ่าเป็นอย่างมาก การตกแต่งภายในอาคารถูกออกแบบมาให้ได้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในวัง ข่าวเกี่ยวกับประธานคนใหม่กระจายไปทั่วทั้งบริษัทแล้ว นั่นทำให้พนักงานทั้งหลายตามรายทางพลันก้มหัวทำความเคารพแด์ริล
ออฟฟิศของประธานอยู่ที่ชั้น 11 แดร์ริลนั่งลงที่เก้าอี้ของเขาเมื่อเข้ามาถึงห้องทำงาน
‘หรูจังแฮะ’ แดร์ริลคิดชื่นชมในใจ ตั้งแต่ที่เขาถูกไล่ออกจากตระกูลมาเป็นเวลาสามปี เขาก็ไม่เคยมีโอกาสได้เยี่ยมเยือนที่ ๆ หรูหราเช่นนี้อีกเลย
“ท่านประธาน…”
จีเซลล์กับเพเนโลพีเดินตามแดร์ริลเข้ามาในออฟฟิศและยืนนิ่งด้วยความเชื่อฟังอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของเขา
ด้วยความสัตย์จริง ถึงแม้ว่าเพเนโลพีจะเป็นน้าสาวของจีเซลล์ ดูเหมือนเธอจะใช้เวลามากทีเดียวในการดูแลรูปลักษณ์ผิวพรรณ ทั้งคู่ดูเหมือนพี่น้องเมื่อยืนข้างกันมากกว่าด้วยซ้ำ
“ท่านแดร์ริล… ฉันต้องขออภัยจากใจจริงด้วยค่ะ…” เพเนโลพีกัดริมฝีปาก เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อ “ท่านแดร์ริล จีเซลล์ยังสามารถเซ็นสัญญากับบริษัทเราได้ไหมคะ? ตราบใดที่ท่านยินยอมให้เธอทำสัญญา ฉันจะทำตามทุกอย่างที่ท่านขอ”
“ทุกอย่างที่ผมขอ?” แดร์ริลหัวเราะออกมาเสียงดัง แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบอะไรไป เพิร์ลก็เคาะประตูและเดินเข้ามา
“ท่านดาร์บี้ วิลเลียมแห่งตระกูลลินดันค่ะ เขามาเพื่อเจรจาธุรกิจ”
วิลเลียม ลินดัน? แค่การเอ่ยปากถึงชื่อเขาก็ทำให้เลือดของเขาเดือดพล่านแล้ว
แดร์ริลแค่นเสียง “บอกเขาว่า ไสหัวไปซะ”
“รับทราบค่ะท่าน”
***
ณ คฤหาสน์ตระกูลลินดัน คุณย่าลินดันเรียกประชุมเป็นการด่วน สมาชิกตระกูลนับร้อยถูกเรียกมาที่นี่ทั้งสิ้น
“คุณย่า พวกบริษัทแพลทินัมนั่นมันโอหังมากครับ!” วิลเลียมกำลังโกรธมากจนใบหน้าเขาเป็นสีแดงสด “ผมไปที่นั่นเพื่อจะเจรจาธุรกิจ แต่พวกมันกลับบอกให้ผมไสหัวไป ไสหัวไป! นี่มันชัดเจนแล้ว บริษัทแพลทินัมพวกนั้นมันดูถูกพวกเราลินดัน”
เหล่าลินดันแต่ละคนต่างส่ายหัวไปมา มันไม่มีอะไรที่พวกเขาจะทำได้ บริษัทแพลทินัมมีอำนาจมากพอที่จะโอหังแบบนั้น พวกเขาโกรธ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน
“พอที” คุณย่าลินดันกล่าวพร้อมโบกมือ “ฉันได้ยินมาว่าประธานคนใหม่ของบริษัทแพลทินัมนั้นมีอายุเพียง 20 นิด ๆ เท่านั้น เขายังหนุ่มและมีความสามารถ นั่นทำให้เขามีสิทธิ์ที่จะยะโสแม้ว่ามันจะเป็นทัศนคติที่แย่ก็ตาม พวกเราลินดันก็ยังจำเป็นต้องหาทางเจรจากับพวกเขาอยู่ดี ใครในพวกเธออยากจะไปอีก?”

อะไรนะ?!
พวกเขาทั้งหลายต่างมองหน้ากันเองด้วยความตกตะลึง ลินดันยังจำเป็นจะต้องคุยเจรจาเรื่องหุ้นส่วน? บริษัทแพลทินัมเพิ่งจะบอกให้วิลเลียมไสหัวไปอยู่เลย แต่พวกเขายังต้องหาคนไปเรียกร้องขอความร่วมมืออีกเหรอ? ใครจะไปอยากทำ!?
คุณย่าลินดันถอนหายใจออกมายาวเหยียด เธอรู้ดีว่าคงไม่มีใครไร้ยางอายพอที่จะไปหาพวกเขาอีกรอบ ยังไงก็ตาม ถ้าหากพวกเขาสามารถจัดตั้งหุ้นส่วนทางธุรกิจกับบริษัทแพลทินัมได้ล่ะก็ ผลประโยชน์ที่ตระกูลลินดันจะได้รับกลับมาจะมีมหาศาล! พวกเขายอมแพ้ไม่ได้!
วิลเลียมกำหมัดแน่น แต่จู่ ๆ เขาก็แสยะยิ้มออกมา เขาลุกยืนขึ้นแล้วกล่าว “คุณย่า ทำไมไม่ให้ลิลี่ลองดูล่ะครับ?”
“วิลเลียม นาย!” ลิลี่กัดริมฝีปากของเธอแน่น เธอรู้ดีว่าคนแบบวิลเลียมคือพวกที่ชอบสร้างปัญหา แต่เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะเป็นคนชั่วร้ายขนาดนี้
“มีปัญหาอะไรเล่า?” วิลเลียมถาม “เธอเป็นสมาชิกของตระกูลลินดัน และบริษัทที่เธอรับผิดชอบก็กำลังขาดเงินอยู่ตั้งห้าล้านดอลลาร์นี่ใช่ไหม? เราจะมองข้ามเรื่องที่ว่าบริษัทกำลังแย่ด้วยเช่นกัน ขนาดนี้แล้วเธอยังไม่อยากพยายามที่จะช่วยตระกูลของเธออีกเหรอ?”
สิ้นคำพูดของเขา วิลเลียมก็เดินไปหาคุณย่าลินดัน “คุณย่า ผมขอเสนอให้ลิลี่เป็นผู้เจรจาเรื่องหุ้นส่วนครับ!”
คุณย่าลินดันพยักหน้าของเธอ วิลเลียมเป็นคนโปรดของเธอในตระกูลนี้ เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เธอจึงมองไปที่ลิลี่ “หนูน้อยลิลี่ ปัญหานี้อยู่ในมือของเธอแล้ว จงไปที่บริษัทแพลทินัมวันพรุ่งนี้และเจรจาหุ้นส่วนทางธุรกิจกับพวกเขา”
“คุณย่าคะ หนู…”
ลิลี่อยากที่จะพูด แต่คุณย่าลินดันทำเพียงโบกมือ “พอแล้ว เราจะเลิกประชุมตอนนี้”
*************************************
หลังจากจบประโยคของคุณย่าลิ้นดัน คนนับร้อยก็ออกไปที่ละคน พวกเขาทุกคนล้วนยื่นที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนที่ถูกเลือก เมื่อกลับถึงบ้าน ลิลีรู้สึกไม่สบายนัก นี้เป็นงานที่เป็นไปไม่ได้ เธอจะเจรจาเรื่องหุ้นส่วนได้ยังไงในวันพรุ่งนี้? ลิลีรู้สึกยเอามากๆ เธอแค่ไม่อยากจะคิดถึงปัญหานี้อีก เธอโทรหาเพื่อนรักของเธอ เจดและเฟบ เมื่อเพื่อนสนิทของลิลีทั้งสองมาถึง แน่นอนอยู่แล้ว อารมณ์ของเธอกลับมาดีทันที “ลิลี่ เจ้าเศษขยะนั้นไปไหน?” เจดถามในขณะที่นั่งอยู่บนโซฟาและกําลังจิบไวน์อย่างนุ่มนวล ลิลีรู้ว่าเจดหมายถึงใครและหัวเราะออกมา “เขาออกจากบ้านหลังจากทําอาหารเช้า ตอนนี้ยังไม่กลับเลย” “ลิลี เธออดทนเก่งนะเนีย” เจดวางแก้วไวน์ลง “แม้ว่าฉันจะประมาณความห่วยของเขาไม่ได้ แต่บริษัทของเธอกําลังขาดทุน ถ้าเธอมีสามีที่ดีล่ะก็ ต่อให้เขาหาเงินห้าล้านมาไม่ได้ อย่างน้อยเขาก็ควรหามาได้สักสองถึงสามล้านดอลลาร์ แต่ในขณะเดียวกัน แม้แต่เงิน 30,000 ดอลลาร์ แคร์ริลยังหามาไม่ได้เลย” ในขณะที่เจดกําลังพูดเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น แดร์ริลเดินเข้ามาพร้อมถือถุงสีดํามาด้วย ทั้งเนื้อตัวเขาปกคลุมไปด้วยดินและสิ่งสกปรก ให้ตายสิ ฝนมันเริ่มตกตอนที่เขากําลังกลับมาจากบริษัท สกู๊ตเตอร์ของเขาก็พังไปตั้งแต่ช่วงเช้า ตอนที่เขาถูกชนเข้าโดยจีเซลล์
เขาเลยต้องเดินตากฝนกลับมา “ไงล่ะ พูดถึงผี ผีก็มา” เจดกล่าวในขณะที่เธอเหลือบมองแคร์ริล แคร์ริลไม่เสียเวลาสนใจเธอด้วยซ้ํา ตรงกันข้าม เขาวางถุงสีดําลงบนโซฟา “แคร์ริล นี่แกยังกล้สเสนอหน้าเข้ามาในบ้านอีกงันเหรอ?” ซาแมนธากล่าวในขณะที่เธอออกมาจากห้องนอน สีหน้าโมโห ถ้ามันไม่ใช่เพราะปัญหาระหว่างแดร์ริลกับวิลเลียม ทําไมวิลเลียมต้องเสนอให้ลิลีเป็นคนไปเจรจาทําสัญญาหุ้นส่วนด้วย? ซาแมนธาจ้องมองแคร์ริล “แกเริ่มทําตัวไม่เหมาะสมขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากปัญหาของแกกับวิลเลียมเมื่อวานที่งานรวมญาติ แกยังกล้าโผล่หน้ามาที่นี่อีก? แกรู้ไหมว่ารอยเท้าจากรองเท้าแกมันเลอะเต็มไปทั้งทั้งบ้าน? อีกอย่างหนึ่ง ถุงอัปลักษณ์นั้นของแกมันสกปรกมาก แต่แกกลับวางมันลงบนโซฟา นี่แกยังอยากอยู่ที่นี้รึเปล่า? ฉันจะยินดีมากถ้าแกอยากจะออกไป!” แดร์ริลสูดหายใจลึก ก็จริงอยู่ที่เขาเป็นคนทําบ้านเลอะเทอะ แต่ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนที่ทําหน้าที่ทําความสะอาดบ้านเหรอ ตลอดสามปีที่ผ่านมาน่ะ? แดร์ริลไม่โกรธ ถ้าเขาจะสนใจคําพูดของซาแมนธาล่ะก็ เขาคงคลังไปก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว แดร์ริลยังคงมีท่าทีคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงและเดินเข้าหาลิลี แล้วกล่าวกับเธอด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า “ที่รัก บริษัทของคุณกําลังต้องการเงินห้าล้านดอลลาร์อย่างมากใช่ไหม? ผมเอามาให้คุณ..” “โว้ว” เจดผู้ซึ่งกําลังนั่งอยู่ข้าง ๆ หัวเราะออกมา ขัดจังหวะแดร์ริลที่กําลังพูด และมองหน้าเขา “หมอนีหน้าด้านจนกู่ไม่กลับจริง ๆ ช่างเรื่องที่นายเป็นพวกไร้ค่าไป นายก็ยังไปซ้ําเติมปัญหาของคนอื่นอีก ลิลี่ต้องการเงินห้าล้าน ซึ่งเป็นจํานวนที่เศษขยะไร้ค่าแบบนายไม่มีวันหาได้ แต่นายก็ยังพูดมันขึ้นมาอีก”