บทที่ 16 เส้นแห่งชีวิตและความตาย

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เฉินปิ่งเซิงเห็นความเป็นความตายมาจนชินตา แต่เพราะเหตุนี้เขาจึงได้หวงแหนชีวิต

ไม่ว่าจะเป็นใคร เขาก็ไม่คิดปล่อยให้จากไปง่ายๆ

บางครั้งเขาก็รู้สึกว่า ชีวิตเหมือนกับไหลอยู่ในฝ่ามือของตน ในจังหวะที่ชีวิตราบรื่นคุณจะไม่รู้สึกว่าชีวิตมีค่า แต่ในตอนที่มันไหลไปกับสายลม หลุดไหลไปจากปลายนิ้วของคุณ จู่ๆ คุณจะพบว่าคุณคว้าชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว!

การให้ความเคารพกับทุกชีวิตก็คือคุณสมบัติแรกของผู้เป็นหมอ!

[ติ๊ง! กระตุ้นภารกิจเร่งด่วน ช่วยชีวิตผู้ป่วยคนนี้ให้สำเร็จ

รางวัลเมื่อภารกิจสำเร็จ:

  1. ยาบำรุงพลัง +1

  2. ประสบการณ์ +100 แต้ม

  3. เงิน +1000 หยวน]

กระตุ้นภารกิจใหม่ได้ แต่เฉินชางไม่มีเวลาดู!

ไม่ว่าจะเป็นภารกิจอะไร อย่างไรเขาก็ต้องช่วยคนคนนี้ นี่คือหน้าที่ของหมอ

“เอพิเนฟริน[1]หนึ่งมิลลิลิตร!”

เฉินชางเตรียมไว้นานแล้ว

ตั้งแต่วันแรกที่ทั้งสองเข้ามายังโรงพยาบาลก็ฝึกฝนร่วมกันเงียบๆ

“กระตุ้นหัวใจต่อไป!”

“กระตุ้นด้วยไฟฟ้า กระตุ้นต่อไป เพิ่มกระแสไฟ!”

เฉินชางทำต่อไป แต่น่าเสียดาย…

ผู้ป่วยยังคงไม่มีปฏิกิริยา การกระตุ้นหัวใจยังคงดำเนินต่อไป

เฉินปิ่งเซิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “อะมิโอดาโรน[2]”

เฉินชางพยักหน้า ฉีดอะมิโอดาโรนเข้าไป!

ภาวะหัวใจหดตัวไม่สัมพันธ์กันยังคงไม่หาย นี่เป็นทางเลือกหลังจากที่ทำทุกวิถีทางแล้ว

“ฉีดเสร็จแล้ว!”

เฉินปิ่งเซิงกล่าวต่อไป “กระตุ้นหัวใจต่อ!”

ในรถเต็มไปด้วยบรรยากาศของการเร่งช่วยชีวิต ทำให้รู้สึกลมหายใจติดขัด

เวลาเป็นช่องโหว่ของชีวิตจริงๆ

ใครก็ไม่รู้ว่ามันจะไหลหลุดไปจากมือเมื่อใด

ในดวงตาของชายสวมชุดลายพรางเต็มไปด้วยความหวัง จับจ้องไปยังจอมอนิเตอร์โดยไม่ขยับเขยื้อน เขาไม่รู้ว่าอะไรคือการยื้อชีวิต แต่เขารู้จักเส้นชีพจรที่วิ่งขึ้นลงบนจอมอนิเตอร์ หากหัวใจหยุดเต้น เส้นนั้นจะกลายเป็นเส้นเรียบ ชีวิตก็จะ…หายไป

เหงื่อที่เกิดจากความเครียดเปียกไปทั้งเสื้อผ้า มือทั้งสองกำชายเสื้อแน่น ดูเหมือนจะเป็นการอ้อนวอนต่อสวรรค์ครั้งสุดท้าย เขาคิดว่าเมื่อเทียบกับการทำงานที่หนักที่สุด ตอนนี้ยังให้ความรู้สึกเหนื่อยล้าและเครียดมากกว่าเสียอีก

เส้นขีดบนจอมอนิเตอร์ยังเต้นไม่เป็นระเบียบ กลายเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของเขา

เขาไม่กล้าพูดอะไร กลัวว่าจะเป็นการรบกวนการช่วยชีวิตของหมอ

เขาไม่กล้าขยับ กลัวว่าความผิดพลาดของตนจะทำให้เพื่อนเก่าไม่ได้ลืมตาขึ้นมาอีก

ตอนนี้ ชีวิตอ่อนแอหาใดเปรียบจริงๆ

นี่เป็นเกมที่ต้องแข่งกับเทพแห่งความตาย!

ส่วนชายวัยรุ่น ไหนเลยจะเคยเห็นภาพแบบนี้

บางทีเขาอาจตกใจจนกลัวไปแล้ว มือทั้งสองถึงกับสั่นเล็กน้อย ในดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความไม่สบายใจ ทั้งยังคละเคล้าไปด้วยคำอ้อนวอน เขาอ้อนวอนขอให้พี่ชายคนนี้มีชีวิตอยู่ต่อไป อ้อนวอนขอให้การช่วยชีวิตของหมอไม่มีความผิดพลาด อ้อนวอนให้เทพแห่งความตายเมตตาต่อชายคนนี้

ความผิดพลาดบางอย่างก็ทำให้คนอื่นต้องแบกรับแทนคุณ

ส่วนคนบางคน กำลังก้าวไปข้างหน้า

ทันใดนั้น จู่ๆ ชายสวมชุดลายพรางก็สั่นไปทั้งตัว

เนื่องจากเขาเห็นว่าบนจอมอนิเตอร์ปรากฏเส้นขีดราบเรียบ

เขาทนไม่ไหว น้ำตาไหลออกมา

“หมอ ไม่มีแล้ว! หัวใจไม่เต้นแล้ว เขาตายแล้วเหรอ? ช่วยเขาด้วย! ลูกเขาเพิ่งจะหกขวบ!”

ชายสวมชุดลายพรางคุกเข่าลง ชายวัยรุ่นก็ตกใจจนมึงงง คุกเข่าลงกับพื้นเช่นกัน

ชายฉกรรจ์ทั้งสอง ในชีวิตปกติก็เป็นชายฉกรรจ์กระดูกเหล็กเลือดร้อน แต่ตอนนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการพรากจากของชีวิตเพื่อนพ้อง ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปไร้ค่า

เฉินปิ่งเซิงชะงักไปครู่หนึ่ง “อิพิเนฟรินสามมิลลิกรัม เร็วเข้า!”

เฉินชางพยักหน้า ไม่ได้ทำอะไรเกินความจำเป็น!

ฉีดเข้าไป!

กระตุ้นหัวใจต่อ

เฉินปิ่งเซิงหันกลับมา “อีกนานแค่ไหนจะถึงโรงพยาบาล?”

คนขับรถแซ่หยางกล่าวตอบ “หนึ่งนาที สิบห้าวินาที!”

ไม่เลว ในฐานะที่เป็นคนขับรถของสายด่วน 120

การนับเวลาของเขาแม่นยำที่สุด

นี่คือช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย

เป็นการเดินทางพร้อมกับเทพแห่งความตาย!

บางทีอาจเป็นเพราะอิพิเนฟรินสามมิลลิกรัมมีประโยชน์ หรือบางทีอาจเป็นเพราะการปั๊มหัวใจของเฉินชางไม่เคยหยุด

หัวใจของชายคนนั้นเต้นขึ้นอีกครั้ง

แต่ชีวิตยังไม่มั่นคง

ความดันเลือดต่ำมาก!

ปั๊มหัวใจต่อไป!

ปั๊มหัวใจติดต่อกันมาสิบกว่านาที เฉินชางรู้สึกว่าแขนของตนแทบจะไม่ใช่ของตนอีกต่อไป การแสดงผลของจอมอนิเตอร์ทำให้เขาหยุดไม่ได้ หรือบางทีอาจไม่กล้าหยุด

มีแล้ว!

มีอัตราการเต้นของหัวใจแล้ว!

ทุกคนมองไปยังจอด้วยความเคร่งเครียด รถแล่นเข้าสู่ประตูแผนกฉุกเฉิน

ฉินเยว่ที่รออยู่ด้านนอกรีบวิ่งมาเปิดประตู ขั้นตอนนี้ทุกคนคุ้นเคยจนคุ้นเคยไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว

เข็นเตียงลงจากรถ มีถังออกซิเจนวางอยู่ด้านข้าง

แขนของเฉินชางล้าจนยกไม่ขึ้น ประคองเตียงลงจากรถอย่างระมัดระวัง

ฉินเยว่เฉินชางแล้วรีบเอ่ยปาก “คุณไปพักผ่อนเถอะ”

เฉินชางส่ายหน้า “การปั๊มหัวใจจะหยุดไม่ได้”

ฉินเยว่ดึงเฉินชางออกด้วยความแน่วแน่ “ฉันทำเอง!”

หลังจากพูดจบ ฉินเยว่ก็ขึ้นไปบนเตียงเข็นโดยไม่รักษาภาพลักษณ์แม้แต่น้อย โชคดีที่เธอผอม ขาทั้งสองแนบอยู่ข้างเตียง เริ่มปั๊มหัวใจลงไปในลักษณะนี้

ตอนนี้เธอไม่ใช่หญิงสาวน่ารัก แต่เป็นนักสู้คนหนึ่ง!

เป็นนักสู้ในชุดขาวที่รับรู้ถึงความสำคัญของภารกิจ!

แต่ไหนแต่ไรหมอก็ไม่ใช่เทพเซียนแต่เป็นนักสู้ สิ่งที่ปกป้องก็คือร่างกายของผู้ป่วย ต่อต้านความเจ็บปวดจากความเจ็บป่วย

การช่วยชีวิตเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกำลังยื้อยุดกับเทพแห่งความตาย

บางทีการปั๊มหัวใจมาตลอดทางอาจได้ผล อัตราการเต้นของหัวใจค่อยๆ ฟื้นตัว

แต่ว่า…

การถูกไฟช็อตเช่นนี้ไม่ได้รักษาง่ายขนาดนั้น

เฉินปิ่งเซิงตรวจอาการผู้ป่วย พูดกับอู๋เผิงหมออายุรกรรมที่มาช่วยแผนกฉุกเฉิน “ถูกไฟช็อต ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจเต้นไม่สัมพันธ์กัน คาดว่ากระแสไฟฟ้าไม่แรง อาจเป็นไฟที่ชาวบ้านใช้กันทั่วไปจึงไม่ได้เกิดปัญหาอะไรเป็นพิเศษ แต่ตลอดทางมีอาการหัวใจกระตุกหลายสิบครั้งกำเริบในเวลาสั้นๆ ผมให้อิพิเนฟรินไปทั้งหมดสี่มิลลิกรัมและอะมิโอดาโรนอีก…”

ในขณะที่พูด เฉินปิ่งเซิงก็จับมือทั้งสองของผู้ป่วยขึ้นมา พบรอยไหม้สีเหลืองปรากฏชัดเจน ยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้น

อู๋เผิงเป็นหมอจากแผนกอายุรกรรมโดยเฉพาะ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ชีพ

เขามองไปยังเฉินปิ่งเซิง “ลำบากคุณแล้ว คุณไปพักผ่อนเถอะ ที่เหลือมอบให้ผม”

แต่เฉินชางกลับตามอู๋เผิงไป เขาหวังว่าจะช่วยชีวิตผู้ป่วยได้!

นี่คือความดื้อรั้นที่มีต่อโชคชะตา

ตอนนี้แม้ชีพจรของผู้ป่วยจะยังมีปัญหาอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยก็ไม่เกิดอาการหัวใจกระตุกแล้ว อู๋เผิงรีบพูดขึ้น “ตอนนี้ต้องรีบตรวจสอบเอนไซม์การทำงานของหัวใจ อาการปัสสาวะเป็นเลือด ระดับไมโอโกลบิน[3] และไซโมกราฟฟี[4]!”

“โทรหาห้องปฏิบัติการ ต้องการผลลัพธ์เร็วที่สุด!”

“โทรหาห้องอัลตร้าซาวด์ มาทำอัลตร้าซาวด์ว่าหัวใจทำงานเป็นยังไงบ้าง!”

อู๋เผิงจัดการอย่างเคร่งเครียด ตอนนี้ฉินเยว่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยเหงื่อเต็มใบหน้า

ไม่ว่าจะพูดอย่างไร สถานการณ์ของผู้ป่วยก็นับว่ามั่นคงบ้างแล้ว

[ติ๊ง! ภารกิจสำเร็จ ช่วยชีวิตสำเร็จผู้ป่วยได้ พ้นจากอันตรายชั่วคราว ได้รับรางวัล

  1. ยาเพิ่มกำลัง +1

  2. ประสบการณ์ +100 แต้ม

3.เงิน +100 หยวน]

…………………..