เธอไม่ได้เป็นคนทำแท้ๆ แต่กลับไม่สามารถเถียงอะไรได้เลย
หลินเยียนพูดไม่ออก อึดอัดแทบตาย คนทั้งคนราวกับดอกเห็ดที่ถูกพายุโหมกระหน่ำ
เผยอวี้เฉิงมองท่าทางของหญิงสาวที่มีคำพูดในใจเป็นร้อยพัน แต่กลับพูดอะไรไม่ออก พลันรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก “หาข้ออ้างที่สมเหตุสมผลกว่าได้หรือยัง?”
หลินเยียนเม้มริมฝีปากอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ
เรื่องไร้สาระแบบนี้ ยังให้ไปเอาเหตุผลมาจากไหนได้? แม้แต่บทละครยังไม่กล้าแต่งแบบนี้เลย!
นอกจากเป็นคนสองบุคลิก เธอก็คิดเหตุผลอื่นไม่ออกแล้วจริงๆ
หลินเยียนทำท่าเหมือนนั่งรอความตาย พลันพึมพำอย่างจำนน “ไม่…ไม่มีแล้ว…”
เคราะห์กรรมที่ฟ้าประทานนี้ เธอหนีไม่พ้นแน่…
เผยอวี้เฉิงบีบก้นบุหรี่ในมือ “เข้ามา”
หลินเยียนได้ยินเช่นนี้พลันเงยหน้าขึ้น เบิกตาโพลงพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยความระแวง
เห็นหญิงสาวนิ่ง นัยน์ตาของเผยอวี้เฉิงพลันเย็นเยียบขึ้นมาเล็กน้อย ค่อยๆ เผยแรงกดดัน
หลินเยียนรู้สึกถึงความเย็นวาบที่แผ่กระจายออกจากสันหลัง กลืนน้ำลายที ก่อนจะขยับเข้าไปหาเผยอวี้เฉิงช้าๆ อย่างจำนน
ยืดยาดอยู่นาน ในที่สุดก็เดินไปถึงตำแหน่งที่ห่างจากเผยอวี้เฉิงเพียงสามก้าว
ชายหนุ่มราวกับจะเกี่ยงว่าเธอชักช้า จึงยื่นแขนยาวออกไป เพียงพริบตา เธอก็ถูกวางลงบนตักของชายหนุ่มแล้ว
กลิ่นบุหรี่จางๆ อันแฝงความเย็นเยียบพลันโอบล้อมเธอเอาไว้
หลินเยียนแทบไม่กล้าหายใจ เหลือเพียงสองตาที่จ้องชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างหวาดกลัว
ตอนนี้ท่าทางที่ดูลนลานและหวาดกลัวของหญิงสาว ดูทั้งว่าง่ายและน่าสงสาร ราวกับกระต่ายที่หลงเข้ามาในถ้ำหมาป่าอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
ในระยะประชิดสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ในสถานการณ์ที่สภาพจิตใจและร่างกายของเธอย่ำแย่มาก แต่ผิวก็ยังดีจนเหลือเชื่อ เนียนละเอียดจนแทบมองไม่เห็นรูขุมขน
อาจจะเพราะผิวเนียนละเอียดเกินไป บนแก้มข้างที่เธอตบตัวเองไปเมื่อครู่นี้แดงเป่งขึ้นมาแล้ว
เผยอวี้เฉิงยื่นนิ้วมืออันเรียวยาวออกไป สัมผัสบนบริเวณแก้มที่แดงเป่งของหญิงสาวเบาๆ ที
หลินเยียนเจ็บจนหดคอตามสัญชาตญาณ
เผยอวี้เฉิงยื่นมือผ่านหลินเยียนไป เปิดลิ้นชักที่อยู่ด้านหลังเธอ แล้วหยิบบางอย่างออกมา
การกระทำนี้เหมือนโอบกอดเธอไว้ในอ้อมอกอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
หลินเยียนกลั้นหายใจตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่กล้าขยับ
คิดว่ายังสามารถต่อต้านด้วยการตีเขาได้เหรอ? คนทำผิดคือเธอนะ!
ในขณะที่หลินเยียนรู้สึกว่าเผยอวี้เฉิงไม่ได้จะคว้าไม้มาฟาดเธอ…
นิ้วมือของชายหนุ่มมาพร้อมกับสัมผัสเย็นๆ ถูบนแก้มที่แดงเป่งของเธอเบาๆ …
ตรงบริเวณที่เจ็บแปลบบนใบหน้าของเธอพลันรู้สึกเย็นขึ้นมา สบายอย่างมากและเหมือนจะได้กลิ่นหอมของยา
หลินเยียนแปลกใจ
เผยอวี้เฉิงกำลัง…ทายาให้เธองั้นเหรอ?
ในขณะที่กำลังคิดเช่นนี้ ชายหนุ่มก็ทายาให้เธอเสร็จแล้ว
หลังจากนั้น แขนของเผยอวี้เฉิงก็วางขนาบข้างตัวเธอลวกๆ จ้องเธอด้วยสายตาอันเย็นชาและลึกซึ้ง พลันพูดอย่างไม่ใส่ใจ “คุณหลินโปรดดูแลร่างกายของตัวเองให้ดี ผมไม่อยากเห็นคุณบาดเจ็บอีก”
ไม่คิดว่าเผยอวี้เฉิงจำเป็นห่วงตน หลินเยียนพลันกะพริบตาอย่างตะลึง ก่อนจะพยักหน้าตามสัญชาตญาณ “อ่อ…”
เผยอวี้เฉิงวางยาครีมไว้ข้างๆ แล้วพูดลวกๆ “เพราะอย่างไรฉันก็มีสิทธิ์ในการใช้ร่างกายของเธอ”
หลินเยียน “…”
ที่บอกว่าเขาเองก็มีสิทธิ์ในการใช้ร่างกายของเธอหมายความว่าอย่างไร???
คงไม่ได้หมายความอย่างที่เธอคิดนะ!