ตอนที่ 15 คำถามปราบเซียน

ลืมรักเลือนใจ

จะว่าไป บุคลิกที่สองของเธอเกี่ยวข้องอะไรกับเผยอวี้เฉิง 

 

 

คงไม่ใช่ว่าทำอะไรแปลกๆ อย่างอื่นอีกตอนที่ไม่รู้ตัวหรอกนะ? 

 

 

ความรู้สึกที่ไม่เข้าใจอะไรเลยแบบนี้น่าเศร้ามากจริงๆ สามารถเหยียบระเบิดตกหลุมได้ตลอดเวลา 

 

 

ตอนนี้หลินเยียนไม่กล้าแม้แต่จะปริปากพูด 

 

 

ขณะนี้เอง เสียงเคาะประตู ‘ก๊อกๆๆ’ พลันดังขึ้น 

 

 

เผยอวี้เฉิง “เข้ามา” 

 

 

หลินเยียนรีบฉวยโอกาสกระโดดห่างออกไป จากนั้นจึงมองไปทางประตูที่มีเสียงฝีเท้าดังแว่วเข้ามาตามสัญชาตญาณ วินาทีต่อมา ก็เป็นต้องอึ้งค้างอยู่กับที่… 

 

 

เผยหนานซวี่!!! 

 

 

ราชาภาพยนตร์เผยหนานซวี่! 

 

 

ไอดอลของเธอ! เทพบุตร! 

 

 

“พี่…” เผยหนานซวี่พลางผลักประตูเข้ามา พลางขานเรียกเผยอวี้เฉิง 

 

 

ในตอนนี้เผยหนานซวี่สวมชุดลำลองอยู่บ้านสบายๆ และผ่อนคลาย บนใบหน้าอันหล่อเหลามีรอยยิ้มอ่อนโยน เขาเหมือนเปล่งประกายไปทั้งตัว! 

 

 

หลินเยียนรู้สึกเพียงว่าตอนนี้แสงสว่างจากทั้งโลกได้มารวมกันที่ตัวผู้ชายคนนี้ 

 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเผยหนานซวี่ใส่ชุดลำลองอยู่บ้าน และเป็นครั้งแรกที่เห็นเผยหนานซวี่ดูเป็นกันเองขนาดนี้ 

 

 

ถ้าเป็นปกติแม้ว่าเผยหนานซวี่จะดูอ่อนโยนและเป็นกันเองกับโลกภายนอกมาโดยตลอด แต่หลินเยียนกลับสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ความอ่อนโยนแบบนั้นแฝงความห่างเหินและสูงเกินเอื้อม 

 

 

สำหรับแฟนคลับอย่างพวกเขาแล้ว มักจะถูกยกย่องให้อยู่บนแท่นบูชาเสมอมา 

 

 

แต่เมื่อครู่นี้ ชั่วขณะที่เผยหนานซวี่ผลักประตูเข้ามา เธอราวกับเห็นเทพบุตรที่เดินลงจากแท่นบูชาสู่โลกมนุษย์ 

 

 

“คุณหลิน” เผยหนานซวี่เหมือนจะเห็นเธอแล้ว จึงพยักหน้าให้เธอเบาๆ เป็นการทักทาย 

 

 

แต่แล้ว… 

 

 

ชั่ววินาทีที่เผยหนานซวี่ผละสายตาออกจากเผยอวี้เฉิง ความเป็นกันเองนัยน์ตาเขาพลันเปลี่ยนเป็นความสุภาพและห่างเหินที่เธอคุ้นเคยดี 

 

 

ทว่าเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้หลินเยียนตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว 

 

 

เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้คุยกับเผยหนานซวี่ใกล้ขนาดนี้ ครั้งก่อนก็ช่างเถอะ เพราะเธอจำอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ 

 

 

หลินเยียนอึ้งไปนาน ในที่สุดก็พูดติดอ่างว่า “สวัสดี…คุณ…ราชาภาพยนตร์!” 

 

 

พูดจบสายตาที่ยังคงจ้องเผยหนานซวี่อย่างควบคุมไม่อยู่ 

 

 

ความรู้สึกที่แฟนคลับตัวน้อยๆ ได้เจอไอดอลที่ได้แต่หวัง แต่ไม่สามารถได้ใกล้ชิดได้แบบนั้น มันยากจะควบคุมจริงๆ … 

 

 

ทว่า… 

 

 

ไม่นานหลินเยียนก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนัก 

 

 

นัยน์ตาที่อยู่ภายใต้เลน์แว่นของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอ สาดฉายประกายอันเย็นเยียบ งอนิ้วอันเรียวยาวเล็กน้อย เคาะบนพนักโซฟาเบาๆ “หล่อมั้ย?” 

 

 

คำพูดสั้นๆ ที่ดูเหมือนไม่ใส่ใจนี้ ทำให้หลินเยียนรู้สึกเย็นวาบจากกระดูกสันหลังขึ้นไปจนถึงกลางกะโหลกศีรษะ “…” 

 

 

บอกว่าหล่อ? 

 

 

บุคลิกที่สองของเธอเพิ่งค้างคืนกับเขา ตอนนี้กลับหันไปชมว่าผู้ชายอีกคนหล่อ แบบนี้ก็เป็นการสวมเขาให้เผยอวี้เฉิงต่อหน้าเขาไม่ใช่เหรอ? 

 

 

หรือบอกว่าไม่หล่อ? 

 

 

จะบอกว่าเทพบุตรไม่หล่อได้อย่างไร? 

 

 

นี่เป็นคำถามปราบเซียนอย่างไม่ต้องสงสัย…