หม่าหยางเก็บข้าวของและมุ่งหน้าไปร้านหนังสือใกล้ๆ เพื่อหาหนังสือเกี่ยวกับการออกแบบเกม

เผยเชียนไม่รู้ว่าหม่าหยางจะหาซื้อได้หรือเปล่า แต่ดูจากจำนวนร้านหนังสือที่มีอยู่ อีกฝ่ายก็น่าจะได้หนังสือกลับมาบ้าง

จริงๆ แล้ว ตอนนี้มีแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อของออนไลน์เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งรวมถึงเว็บไซต์ที่ขายหนังสือโดยเฉพาะด้วย

แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นเคยกับแพลตฟอร์มพวกนี้เท่าไหร่ เอาเข้าจริงนักศึกษาที่ล้าสมัยบางคนยังไม่สมัครบัญชีธนาคารออนไลน์ด้วยซ้ำ

หม่าหยางจัดอยู่ในกลุ่มพวกล้าสมัย ตัวเลือกแรกในการซื้อหนังสือคือไปที่ร้านหนังสือ เปิดอ่านบางช่วงดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจซื้อ

แน่นอนว่าอะไรแบบนี้จะเปลี่ยนไปจากการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

เผยเชียนกลับไปที่เตียงและเปิดโน้ตบุ๊ก นั่งคิดว่าจะทำอะไรต่อไปดี

เที่ยงวัน หม่าหยางก็กลับมา

เขาขนหนังสือกลับมาประมาณแปดเล่ม มีเล่มหนึ่งหนาใกล้ๆ สองนิ้วมือ หนังสือยาวประมาณยี่สิบเซนติเมตรนั้นชื่อว่า ภาพรวมการเขียนโปรแกรมขั้นสูง

นอกจากนั้นก็ยังมี คู่มือเอาตัวรอดในการเขียนโค้ด รวมเรื่องการจัดการโปรแกรม คู่มือการเขียนโค้ดฉบับสมบูรณ์ และคู่มือรักษาอาการปวดคอ

หม่าหยางรู้สึกว่าที่ซื้อมามีแต่เล่มดีๆ

เผยเชียนเปิดดูหนังสือที่หม่าหยางซื้อมา ตาจดจ้องอยู่กับคู่มือรักษาอาการปวดคอ

เจ้านี่เตรียมการพร้อมเสร็จสรรพ!

คิดไปถึงขั้นว่าอาจจะทำงานหนักจนปวดคอ!

แต่ปัญหาหลักที่พวกโปรแกรมเมอร์พบไม่ใช่อาการปวดคอ แต่เป็นเพราะตายเพราะทำงานหนักต่างหาก!

อีกอย่าง มันก็ไม่ใช่ว่าแกจะเป็นโปรแกรมเมอร์สักหน่อย!

ก่อนหน้านี้ เมื่อได้เห็นหม่าหยางกระตือรือร้นกับงานนี้มาก เผยเชียนก็นึกสงสัยว่าตัวเองเลือกคนมาทำงานผิดหรือเปล่า

แต่พอได้เห็นหนังสือที่หม่าหยางซื้อมา เขาก็มั่นใจ

ว่าหม่าหยางคือคนที่เหมาะที่สุดแน่นอน!

ดูจากความพยายามดั้นด้นไปตามร้านหนังสือ แต่ดันได้หนังสือแบบนี้กลับมา

จะบอกว่าหนังสือที่ซื้อมาไม่มีประโยชน์เลยก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะยังมีความเกี่ยวข้องอยู่บ้าง

แต่จะบอกว่ามีประโยชน์ก็ไม่ได้เพราะ…มันไม่มี!

ถือเป็นการลงทุนไปโดยเปล่าประโยชน์ที่พบเห็นได้บ่อยๆ!

เผยเชียนตบบ่าหม่าหยาง “หม่าหยาง ที่เราทำอยู่คือออกแบบเกม ไม่ใช่เขียนโปรแกรม”

“อีกอย่างนายรู้รึเปล่าว่าเกมสมัยนี้เขาใช้เครื่องมือพัฒนาเกมสร้างเอา”

“แถมเทคโนโลยีก็พัฒนาเร็วมาก พวกวิธีการในหนังสือพวกนี้ตกยุคไปหมดแล้ว เอามาใช้ไม่ได้หรอก”

หม่าหยางหน้าซีด “มิน่าล่ะเขาถึงเอามาลดราคา! เพราะขายไม่ออกนี่เอง!”

“ผมไปเดินวนหาทั่วร้านตั้งนาน แต่หาหนังสือเกี่ยวกับการออกแบบเกมไม่เจอเลย ที่เจอก็มีแค่พวกนี้แหละ เห็นลดราคาเลยจัดมาหลายเล่ม”

“ทำไงดี เอาไปคืนก็ไม่ได้ด้วยเพราะเป็นหนังสือลดราคา!”

หม่าหยางลนลาน

แต่เผยเชียนกลับยิ้มให้ด้วยความโล่งใจ “ไม่เป็นไร ฉันเห็นความตั้งใจของนาย ถ้าซื้อมาแล้วกลัวเสียเงินฟรีก็เปิดอ่านสักหน่อยก็ได้ อย่างน้อยก็น่าจะพอมีประโยชน์บ้างแหละ”

หม่าหยางสบายใจขึ้นเมื่อได้ยินแบบนั้น “พี่อยากอ่านด้วยมั้ย เดี๋ยวเราผลัดกันอ่านก็ได้”

เผยเชียนหน้าเครียดขึ้นมา รีบบอกปัดทันที “ไม่ๆ ไม่เป็นไร!”

ใครจะไปอยากอ่านหนังสือพวกนี้กัน ใช้หนุนเป็นหมอนยังไม่ได้เลยเพราะแข็งเกินไป!

หม่าหยางนอนบนเตียง เปิดหนังสือเล่มหนาสุดอ่าน ซึ่งก็คือ ภาพรวมการเขียนโปรแกรมขั้นสูง

ผ่านไปห้านาที เสียงกรนก็ดังลั่นมาจากเตียงหม่าหยาง

เผยเชียนแสนสุขใจ

ใช่ ไว้ใจได้จริงๆ ด้วย!

ทัศนคติ เอาไปร้อยเต็ม!

ทักษะทำงานจริง เอาไปศูนย์คะแนน!

นี่คือนักออกแบบเกมที่เขาบากบั่นหามา

เสียดายที่เผยเชียนรู้จักแค่หม่าหยางคนเดียวที่มีความสามารถแบบนี้

ถ้ามีคนแบบหม่าหยางเพิ่มอีกสักหน่อย เผยเชียนคงจะเสียเงินสามแสนหยวนไปอย่างง่ายดายสบายใจ!

เผยเชียนเปิดเครื่องมือพัฒนาเกมของ ESRO เริ่มต้นพัฒนาโปรเจกต์ต่อไป ไม่สนใจยอดดาวน์โหลดของเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายที่เพิ่มขึ้นมาอีกหลายพัน

พวกเกมอินดี้มักจะฮิตมีกระแสเดี๋ยวเดียวแล้วก็หายไป

อีกทั้งเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายยังไม่มีการพัฒนาใดๆ ไม่น่าจะเล่นได้นาน

ในชาติก่อน เผยเชียนเคยเจอตัวอย่างคล้ายๆ กันนี้ที่ทั้งคุณภาพแย่ ออกแบบมาลวกๆ น่าเบื่อ มีการเล่นแค่รูปแบบเดียว แต่ก็ดังขึ้นมาด้วยเหตุผลบางประการ

แต่นั่นก็เป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยาก จากหลายร้อยเกม มีแค่ไม่กี่เกมที่เป็นแบบนั้น

เผยเชียนเองก็ไม่คิดไม่ฝันว่าตนจะพบเจออะไรแบบนี้!

พอผ่านไปสักระยะ เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายก็จะเริ่มหมดกระแส ยอดดาวน์โหลดและรายได้ก็ลดลงไปตามปกติ

แต่กระแสจะหายไปไหมไม่ใช่เรื่องสำคัญ ความจริงที่เกมนี้สามารถหาเงินได้ขนาดนี้ก็ทำให้เผยเชียนทุกข์ระทมมากพอแล้ว

หลังจากคิดถึงความขมขื่นในอดีต เผยเชียนก็ตัดสินใจเปลี่ยนวิธีคิด

รอบนี้ไม่ทำเกมอินดี้แล้ว! ต้องเปลี่ยน!

ตอนนี้เหล่าเกมเมอร์พอเห็นบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีก็จะคิดถึงเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย

เผยเชียนมีอยู่สองตัวเลือกที่ต้องตัดสินใจหนัก

ถ้าสร้างเกมกากๆ ขึ้นมาอีกเกมก็อาจจะฮิตเหมือนเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายก็ได้ ถึงจะไม่ฮิตเท่า แค่ทำกำไรได้เล็กน้อยเผยเชียนก็ปวดใจอยู่ดี

หรือจะสร้างเกมอินดี้ที่ได้มาตรฐานออกมาดี…แต่พวกเกมเมอร์อาจคิดว่าคุณภาพใช้ได้แล้วซื้อไปเล่นก็ได้

ถ้าเป็นแบบนั้นก็แย่แน่!

อีกอย่าง ให้ใช้สามแสนหยวนสร้างเกมอินดี้คงต้องลงแรงสักหน่อย

ต้องซื้อเทมเพลตกับงานภาพแพงขนาดไหนถึงจะใช้เงินสามแสนหยวนหมด

ถ้าซื้อของแพงๆ แบบนั้นมาอาจทำให้เกมดูดี ดึงดูดเกมเมอร์ให้แห่มาเล่น ทำกำไรบานอีกรอบ!

ดังนั้นหลังจากคิดหนักอยู่สักพัก เผยเชียนก็ตัดสินใจเลิกสนพวกเกมเมอร์ที่ชอบเล่นเกมอินดี้เป็นชีวิตจิตใจและเปลี่ยนแนวเกม

เงินสามแสนนั้นไม่พอสร้างเกมใหญ่ๆ

ถึงเผยเชียนจะวางเป้าหมายไว้ว่าต้องเสียเงิน เขาก็ต้องผลิตตัวเกมออกมาให้ได้มาตรฐานอยู่ดี

ถ้าเกมไม่ผ่านการประเมิน จะกลายเป็นว่าเขาเสียเงินสามแสนไปเปล่าๆ ไม่ได้ตัวสินค้าขึ้นมา ระบบจะประเมินว่าเขาทำผิดกฎได้

ดังนั้นถ้าต้องใช้เงิน ก็ต้องสร้างเกมขึ้นมาให้ได้

เผยเชียนเลื่อนดูแพลตฟอร์มเกมก่อนจะวางเป้าหมายใหม่

เกมมือถือ!

จริงๆ ก็ไม่ค่อยมีทางเลือกอื่นแล้ว เหตุผลข้อแรกคือไม่มีเงินพอสร้างเกมฟอร์มใหญ่ ข้อสองคือในระยะสั้นๆ สร้างเกมอินดี้ขึ้นมาไม่ใช่เรื่องเหมาะ

เกมมือถือกับเกมอินดี้นั้นเจาะผู้เล่นคนละกลุ่ม

พวกคนเล่นเกมอินดี้อาจมาลองเล่นดูเพราะเห็นว่าเป็นเกมใหม่ของบริษัทเถิงต๋า แต่พวกคนเล่นเกมมือถือไม่มีทางทำแบบนั้น

ขอแค่ทำเกมมือถือให้ห่วยแตกมากพอ เผยเชียนก็มั่นใจว่าจะไม่มีใครมาสนใจเล่น!

หลังจากกำหนดทิศทางได้แล้ว ก็ถึงเวลาศึกษาเกมในตลาด

เผยเชียนเข้าแพลตฟอร์มเกมทางการไปดูพวกเกมมือถือดังๆ ถึงกับลองโหลดพวกเกมที่ฮิตที่สุดมาเล่นดูเอง

ถึงจะสังเกตเห็นจุดนี้มาก่อนแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าเกมมือถือในจักรวาลคู่ขนานนี้จะพัฒนาไปไกลกว่าโลกเดิมของเขามาก

……………………