ที่โลกเดิมของเขา สมาร์ตโฟนเพิ่งเริ่มเป็นที่นิยมและใช้กันทั่วไปในปี 2010 ถึง 2011 ท่ามกลางความนิยมนี้ เกมมือถือดังๆ อย่างพวกเกมการ์ดเริ่มผุดขึ้นมาในปี 2012
แต่ในโลกนี้มีสมาร์ตโฟนใช้กันตั้งแต่ปี 2008 และมีเกมการ์ดออกมาแล้ว
ปัจจุบัน ในปี 2009 นี้ เกมการ์ดเป็นอะไรที่ดาษดื่น
ตอนออกมาช่วงแรกๆ เกมการ์ดถือเป็นสิ่งใหม่และเป็นที่นิยมไปช่วงหนึ่ง
แต่พอมีเกมเลียนแบบปล่อยออกมาเยอะขึ้น เหล่าเกมเมอร์ก็เริ่มเบื่อ และการหาเงินง่ายๆ จากการทำเกมคล้ายๆ กันออกมาขายก็หายไป
ในโลกนี้ ต้นแบบของเกมการ์ดทั้งหลายคือเกมที่ชื่อว่า สามก๊กสุดคิวต์ เกมนี้เป็นที่นิยมเพราะมีงานภาพเป็นตัวการ์ตูนน่ารักๆ มีรูปแบบการเล่นแบบเกมการ์ดดั้งเดิม และอีกหลายๆ อย่าง
ปี 2008 แฟรนไชส์สามก๊กยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ชาวเกมเมอร์เลยให้ความสนใจ
พอมีเทรนด์สมาร์ตโฟนเข้ามา ตัวเกมก็ได้สร้างปาฏิหาริย์ ทำกำไรให้ทีมผู้พัฒนาได้เป็นกอบเป็นกำจนพวกคู่แข่งอิจฉาตาร้อนกันไปหมด
ในโลกนี้ เครื่องมือพัฒนาเกมพัฒนาไปไกลมาก พวกผู้พัฒนาอินดี้สามารถกระโดดเข้ามาเล่นในตลาดนี้ได้อย่างง่ายดายทำให้มีเกมเลียนแบบผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ส่งผลให้กระแสเกมการ์ดที่น่าจะไปต่อได้สักสามถึงห้าปีลดเหลือแค่ปีเดียว
ตอนนี้ชาวเกมเมอร์มองว่าเกมการ์ดนั้นเป็นอะไรที่ซ้ำซากจำเจ
ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เผยเชียนต้องการ!
นอกจากนั้นแล้ว เขายังสังเกตเห็นข้อแตกต่างขนาดใหญ่ระหว่างเกมสามก๊กสุดคิวต์กับเกมการ์ดอื่นๆ ในโลกเดิมของเขา
เรื่องเพดานค่าใช้จ่ายนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ตัวเกมกำหนดราคาตายตัวไว้ที่ห้าหยวน ส่วนพวกของในเกมอื่นๆ สามารถซื้อได้ในราคาเป็นมิตร ระบบชนิดที่ต้องเติมเงินสองพันหยวนเพื่อให้ได้การ์ดหายากนั้นไม่มีอยู่ในโลกนี้
การเติมเงินซื้อของในเกมเสียเต็มที่อยู่ที่ประมาณหนึ่งพันหยวน นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรให้ซื้อแล้ว
ถึงกระนั้น เกมสามก๊กสุดคิวต์ก็ยังโดนเหล่าเกมเมอร์วิจารณ์ว่าเป็นเกมขูดรีด
นั่นก็เพราะสิ่งต่างๆ ในโลกนี้แตกต่างจากโลกเดิมของเผยเชียน
การละเมิดลิขสิทธิ์ไม่เป็นที่แพร่หลายในโลกนี้เพราะมีกฎหมายคุ้มครองอย่างดี เหล่าผู้พัฒนาเกมรายย่อยจึงใช้ชีวิตได้ค่อนข้างราบรื่น
ทำให้การซื้อเกมครั้งเดียวและการเติมเงินเป็นรูปแบบการทำกำไรหลักที่เกมเมอร์รู้จักและคุ้นชิน
ในส่วนของเกมสามก๊กสุดคิวต์ จะเห็นได้ชัดเจนว่าทีมผู้พัฒนาไม่กล้าขูดรีดมากเกินไป จึงตั้งราคาขายที่ห้าหยวนและเพิ่มของในเกมให้ซื้อเล็กๆ น้อยๆ
ถึงกระนั้นก็ยังโดนถล่มเละ
หลังจากศึกษาตลาดเสร็จ เผยเชียนก็เริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรให้เกมออกมาห่วยดี
วิธีที่ง่ายที่สุดคือปล่อยเกมออกไปแข่งกับตลาด!
ถ้าในตลาดมีเกมที่ประสบความสำเร็จมากๆ และเป็นต้นตำรับของเกมหมวดนี้แล้ว สิ่งที่เผยเชียนต้องทำก็แค่ปล่อยเกมเหมือนๆ กันออกไป รับรองเลยว่าต้องฉิบหายแน่!
ในเมื่อเกมการ์ดอยู่ในช่วงขาลง ก็ต้องสร้างเกมการ์ดนั่นละ!
สามก๊กสุดคิ้วต์ดังมากใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะสร้างเกมด้วยธีมสามก๊กเหมือนกัน!
รูปแบบการเล่นก็เอาเหมือนๆ กัน เอาเงินก้อนหลักหมื่นไปโยนซื้อเทมเพลตสำหรับสร้างเกมการ์ดน่าจะเข้าท่า
แน่นอนว่าเรื่องงานภาพจะลอกมาโง่ๆ เลยไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะโดนเรื่องลิขสิทธิ์เอา
เผยเชียนไม่ได้คิดจะลอกเลียนเรื่องงานภาพอยู่แล้ว เพราะเขาตั้งใจจะเอาเงินไปถล่มกับทรัพยากรงานภาพ ไม่อย่างนั้นกับแค่ซื้อตัวเทมเพลตอย่างเดียวจะผลาญเงินให้หมดสามแสนได้อย่างไร
จุดสำคัญอีกจุดคือเพดานค่าใช้จ่าย
เกมสามก๊กสุดคิวต์นั้นมีการควบคุมเรื่องเพดานค่าใช้จ่าย ส่วนเกมของเผยเชียนนั้น ตั้งเพดานไว้สูงๆ ขูดรีดจนเกมเมอร์ต้องร่ำไห้ไปเลยดีไหม
ไม่! ไม่ได้!
เผยเชียนไม่ได้คิดแบบนั้น
เขารู้จักชาวเกมเมอร์ดี พวกนั้นมันเป็นนักเลงคีย์บอร์ด
ชาวเกมเมอร์อาจจะออกมาด่ากันยกใหญ่ว่าเกมหน้าเลือดอย่างนั้นอย่างนี้และขู่จะเลิกเล่น
แต่พอปล่อยไอเทมราคาแพงหูฉี่ออกมา ถึงจะบ่นกันแต่พวกวาฬ[1]ก็ซื้ออยู่ดี
ถ้าเผยเชียนตั้งเพดานค่าใช้จ่ายไว้สูงมากๆ สักประมาณหลายหมื่นหยวนแล้วดันไปเจอพวกวาฬเข้าจะทำอย่างไร
กำลังซื้อของวาฬแค่ตัวเดียวก็เท่ากับกับเกมเมอร์ธรรมดาหลายพันคนแล้ว ถ้าเกมได้กำไรจากวาฬแค่ไม่กี่ตัวขึ้นมา เขาจะไม่กระอักเลือดตายเลยหรือ
ดังนั้น เขาต้องคิดมุมกลับปรับมุมมอง!
จะกันไม่ให้พวกวาฬมาทุ่มเงินได้ ก็ต้องตั้งเพดานค่าใช้จ่ายไว้ต่ำๆ!
เผยเชียนครุ่นคิดเรื่องนี้ ถ้าเพดานค่าใช้จ่ายของเกมสามก๊กสุดคิวต์อยู่ที่ประมาณพันหยวน เขาก็ต้องลดลงมาจากนั้นเป็นสัก…ห้าร้อยหยวน!
ไม่เอา สักร้อยหยวน!
ไม่ ยังไม่พอ สามสิบหยวนพอ!
เขาตั้งใจจะไม่ให้พวกวาฬมีที่ให้เสียเงิน!
แต่แน่นอนว่าถ้าเป็นเกมการ์ด ก็ต้องมีการ์ดธรรมดากับการ์ดหายาก
วิธีที่ใช้กันคือต้องจ่ายเงินเพื่อปลดการ์ดหายาก จะได้สร้างรายได้ให้บริษัทได้
เผยเชียนไม่ใช้วิธีนี้เพราะเขาอยากให้เกมขาดทุน ไม่ใช่ได้กำไร!
ของที่แพงที่สุดในเกมเอาเป็นบัตรสมาชิกถาวรราคาสามสิบหยวน! คนที่ซื้อจะได้สิทธิ์สุ่มการ์ดเพิ่มรายวัน
นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีที่ให้เสียเงินอีก!
พวกแกอยากเสียเงินให้บริษัทเถิงต๋าหรือ ฝันไปเถอะ!
สำหรับสายฟรี ต่อให้ไม่ซื้อบัตรสามสิบหยวนก็ได้สิทธิ์สุ่มการ์ดเหมือนกัน แค่จำนวนครั้งน้อยกว่า
พอเป็นแบบนี้ พวกเกมเมอร์ก็จะไม่มีแรงจูงใจให้เสียเงิน!
ส่วนราคาเกม จริงๆ เผยเชียนอยากตั้งเป็นเกมฟรี แต่พอคิดไปคิดมาก็เปลี่ยนใจ
สมัยนี้มีเกมมือถือเล่นฟรีไม่ค่อยเยอะ ส่วนใหญ่จะราคาหนึ่งหยวน
ถ้าปล่อยเป็นเกมฟรีอาจจะไปดึงดูดใจให้คนเข้าแห่มาเล่นได้
ดังขึ้นมาอีกจะทำอย่างไร
ดังนั้น เผยเชียนจึงเลือกสวนเทรนด์และตั้งราคาไว้ที่สิบหยวน!
แพงกว่าสามก๊กสุดคิวต์อีก!
เนื่องจากเป็นราคาที่สูง สิบหยวนนี้จะช่วยกันพวกอยากเข้ามาเล่นไปได้ถึง 90%
ลองคิดดูสิ เกมมือถือที่สร้างจากเทมเพลต ไม่ได้เพิ่มอะไรใหม่ๆ ราคาแพงกว่าเกมที่ฮิตที่สุดตั้งห้าหยวน ใครมันจะโง่มาซื้อ
แต่จะตั้งราคาให้สูงเกินไปก็ไม่ได้
แค่สิบหยวนน่าจะพอที่จะกันไม่ให้คนมาซื้อได้ ถ้าตั้งให้สูงกว่านี้อาจทำเงินได้ต่อให้มีจำนวนผู้เล่นไม่มาก
ยิ่งได้ก็เท่ากับยิ่งเสีย ปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้!
เผยเชียนวางเป้าหมายได้เรียบร้อย
อย่างแรกเลย เกมนี้จะต้องมีระบบพื้นฐานที่สุด
ระบบที่เกมการ์ดอื่นๆ ไม่มีหรือ อย่าฝันว่าจะเจอในเกมนี้!
ระบบที่เกมการ์ดอื่นๆ มี เกมนี้ก็ไม่มีเหมือนกัน!
สรุปก็คือ ระบบการเล่นจะเหมือนเกมที่มีอยู่ในตลาดไปเสียทุกอย่าง แถมยังไม่มีอะไรใหม่เหมือนกัน!
นอกจากนั้น เกมนี้ยังเป็นเกมที่ปล่อยมาสู้กับเกมสามก๊กสุดคิวต์!
ทั้งสองเกมใช้ธีมสามก๊กเหมือนกัน
เป็นเกมมือถือเหมือนกัน
ของพวกเขาเป็นของแท้ ของเผยเชียนเป็นของเลียนแบบ
ไม่มีทางที่คนจะเลือกเล่นเกมนี้แทนเกมสามก๊กสุดคิวต์!
สุดท้ายแล้ว เกมนี้ก็เป็นเกมที่มีแผนทำกำไรที่โง่เง่าสิ้นดี
เริ่มจากตั้งราคาสิบหยวนเพื่อกีดกันผู้เล่นทั่วไป
แล้วก็มีเพดานค่าใช้จ่ายอยู่ที่สามสิบหยวน กันไม่ให้พวกวาฬมาถล่มเงินได้!
“ฉันนี่มันอัจฉริยะขั้นเทพจริงๆ!”
“นี่มันเป็นแผนสุดยอดเยี่ยมกระเทียมดอง!”
เผยเชียนประทับใจในตัวเอง ออกแบบมาโง่ๆ แบบนี้จะไปทำเงินได้อย่างไร
ไม่มีทาง! ไม่มีทางทำเงินได้แน่!
……………………………..
[1] คำที่เหล่าเกมเมอร์ใช้เรียกคนที่ทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อซื้อไอเทมในเกม