บทที่ 117 ยกเลิกสัญญาแต่งงาน
หลังวางสาย เยี่ยหวั่นหวันกดเข้าไปดูกระทู้นั้น เหมือนอย่างที่เธอเดาไว้เลย ซ่งจื่อหังขี่ม้าขาวออกมาช่วยนางเอกด้วยตัวเอง
เฉินเมิ่งฉีได้รับการช่วยชีวิตแล้ว แต่เจียงเยียนหรานกลับกลายเป็นที่หัวเราะเยาะของทุกคน ตอนนี้ทั้งโรงเรียนรู้แล้วว่าเธอจีบผู้ชายไม่ติด แล้วยังลงมือกับเพื่อนรักเพราะหึงด้วย…
หึๆ เพื่อคนที่ตัวเองชอบ ช่างกล้าพูดจริงๆ แม้แต่สัญญาแต่งงานของสองตระกูลยังกล้าผลักไส
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างรวดเร็ว
“มาแล้ว!” เยี่ยหวั่นหวันลุกขึ้น เดินไปเปิดประตู
“เยี่ย…” หลังเห็นหน้าคนที่เปิดประตูให้อย่างชัดเจนแล้ว เจียงเยียนหรานเงียบลงทันที
“เข้ามาเถอะ!”
ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของฝั่งตรงข้าม สีหน้าเจียงเยียนหรานเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ “เธอ… เธอ… เธอคือเยี่ยหวั่นหวัน?”
เธอจำได้ว่าเยี่ยหวั่นหวันอยู่คนเดียว ห้องนี้นอกจากเธอแล้ว ไม่มีคนอื่นอีก
แต่… แต่ผู้หญิงตรงหน้าที่สวยกว่าเฉิงเสวี่ยดาวโรงเรียนคนนี้จะเป็นยัยอัปลักษณ์เยี่ยหวั่นหวันได้ยังไง?
ว่ากันว่าเยี่ยหวั่นหวันก่อนหน้านี้ไม่ได้แต่งหน้าทั้งอ้วนทั้งน่าเกลียด ต่อมาผอมลงมาหน่อย เหลือแค่หน้าตาอัปลักษณ์
ทุกคนรวมทั้งเธอ ต่างคิดว่าเยี่ยหวั่นหวันแต่งหน้าหนาขนาดนี้เพราะน้อยใจต้องการปกปิดโฉมหน้าที่อัปลักษณ์ หรือว่าประชดตัวเอง
ชิงเหอเป็นโรงเรียนสำหรับชนชั้นสูงที่ดีที่สุดในปักกิ่ง มีรูปแบบการเรียนที่เข้มงวด แต่สิ่งแวดล้อมของโรงเรียนถือว่าปล่อยเป็นอิสระ ถือเอาต่างประเทศเป็นแบบอย่างส่งเสริมความหลากหลายของแต่ละคน ไม่มีข้อจำกัดเรื่องชุดนักเรียนและการแต่งหน้า แต่ทุกคนต่างพยายามสุดความสามารถที่จะแสดงออกถึงภูมิหลังของครอบครัวตัวเอง คนที่ปกปิดตัวเองอย่างเยี่ยหวั่นหวันก็มีเพียงเธอคนเดียว
เยี่ยหวั่นหวันเดินนำเจียงเยียนหรานเข้ามา รินน้ำให้เธอ “นั่งตามสบาย”
ยังไงก็เป็นพวกเดียวกันแล้ว แล้วเจียงเยียนหรานก็เป็นผู้หญิง เธอไม่มีแรงจะไปแต่งหน้าตอนกลางคืนอีกครั้งแล้ว
“เธอคือเยี่ยหวั่นหวันจริงหรือ?” เจียงเยียนหรานรู้สึกเหมือนตัวเองฝันไป
“ต้องการให้ฉันพิสูจน์ตัวตนด้วยการกลับไปเป็นแบบเดิมไหม?” เยี่ยหวั่นหวันหยิบวิกผมสีเขียวขึ้นมา
“ไม่… ไม่ต้องหรอก…” เจียงเยียนหรานรีบโบกมือ “แต่ว่า… ทำไมเวลาปกติเธอถึงต้องทำให้ตัวเองเป็นแบบนั้นด้วย?”
เยี่ยหวั่นหวันเลิกคิ้ว “เวลาปกติฉันทำไม? ไม่สวยหรือ?”
สำหรับความสวยของเยี่ยหวั่นหวัน เจียงเยียนหรานไม่มีอะไรจะพูด
คิดจะแต่งตัวยังไง ก็เป็นเรื่องของเยี่ยหวั่นหวัน เจียงเยียนหรานแค่ตกใจที่ใบหน้าเดิมของเยี่ยหวั่นหวันนั้นสวยขนาดนี้ แต่ก็ไม่มีสิทธิ์พูดอะไรมาก เธออดไม่ไหวหลังมองเยี่ยหวั่นหวันอยู่หลายที ก็พูดเข้าเรื่อง “เธอมีวิธีจริงหรือ?”
เยี่ยหวั่นหวันพยักหน้า และไม่อ้อมค้อม พูดเข้าเรื่องเลย “ถ้าเธอเชื่อฉัน แบบนั้นแล้ว ตอนนี้ก้าวแรกที่เธอต้องทำก็คือ ให้พ่อแม่เธอยกเลิกสัญญาแต่งงานกับตระกูลซ่ง!”
อีกทั้ง จำเป็นต้องรวดเร็วด้วย!
เธอจำได้ว่าในชาติที่แล้วช่วงเวลานี้ตระกูลเจียงแทบจะล้วงไส้ล้วงพุงของตัวเองมาสนับสนุนตระกูลซ่งอย่างเต็มที่ ตระกูลซ่งได้โครงการใหญ่จากรัฐบาลสำเร็จ ทำให้พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่นานจากบริษัทเล็กๆ ก็พุ่งขึ้นมาจนก้าวทันตระกูลเจียง ภายหลังบริษัทของตระกูลซ่งก็ไล่ตามตระกูลเจียงขึ้นมาทุกปี…..
เจียงเยียนหรานได้ยินก็หน้าซีดทันที “อะไรนะ? ยกเลิกสัญญาแต่งงาน…”
เยี่ยหวั่นหวันเลิกคิ้ว “อย่าบอกฉันนะ ว่าจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่ตัดใจ ยังอยากแต่งงานกับเขาอยู่?”
“เป็นไปได้ยังไง! ตอนนี้ฉันคิดแต่จะทำให้เขาเสียใจ!” สีหน้าเจียงเยียนหรานดูสับสน “แต่ว่า เยี่ยหวั่นหวัน เรื่องมันไม่ได้ง่ายแบบที่เธอคิด บริษัทพวกเราสองตระกูลทำธุรกิจไปมาและมีหลายเรื่องที่ตกลงกัน ถ้าอยู่ๆ ฉันไปบอกพ่อแม่ว่าจะยกเลิกสัญญาแต่งงาน ผลที่ตามมาต้องใหญ่หลวงแน่นอน! เรื่องนี้จำเป็นต้องวางแผนระยะยาว…”
…………………………………………….
บทที่ 118 รีบจัดการเรื่องวุ่นวายเร็วๆ
เยี่ยหวั่นหวันอมยิ้ม แล้วพูด “วางแผนระยะยาว? ช่วงนี้ฉันได้ยินข่าว ได้ยินว่าตระกูลซ่งกำลังแย่งโครงการใหญ่จากรัฐบาลอยู่ ครอบครัวเธออัดฉีดไปตั้งหนึ่งพันล้านเลยนี่ ในช่วงเวลาสั้นๆ ลงทุนเงินเยอะขนาดนี้ เกรงว่าจะมีความเสี่ยงเรื่องการหมุนเงินไม่คล่องตัว เอาเงินที่ใช้หมุนเวียนในบริษัทออกมาหมดเลยใช่ไหม?
พ่อแม่เธอช่วยตระกูลซ่งขนาดนี้ ก็หวังเพื่อที่จะให้ในอนาคตเธอมีชีวิตที่ดี ตอนนี้เธอเห็นธาตุแท้ของผู้ชายคนนั้นแล้ว ยังไม่รีบจัดการเรื่องวุ่นวายเร็วๆ อีก หรือว่ายังจะให้เขากอบโกยผลประโยชน์ไปหมด จากนั้นค่อยเอาเลือดเนื้อที่สูบไปจากตัวเธอเอาไปเลี้ยงเฉินเมิ่งฉี?”
ชาติที่แล้ว ผู้ชายคนที่อยู่เบื้องหลังของเฉินเมิ่งฉี ซ่งจื่อหังอาศัยความช่วยเหลือจากพ่อตาแม่ยายมาพัฒนาให้บริษัทแข็งแกร่งใหญ่โต แต่ลับหลังแอบเอาเงินลงทุนก้อนใหญ่ไปปูทางให้เฉินเมิ่งฉี แล้วยังใช้ชื่อสวยๆ ว่าลงทุนในธุรกิจบันเทิง
ครั้งนี้ถ้ารอให้ตระกูลซ่งได้รับโปรเจคใหญ่ที่สำคัญนี้แล้วค่อยยกเลิกสัญญาแต่งงาน เกรงว่าจะสายไปแล้ว!
เจียงเยียนหรานได้ยินก็กัดริมฝีปากอย่างแรง ไม่ลังเลอีกต่อไป “ฉัน… ฉันจะโทรหาพ่อแม่ฉันเดี๋ยวนี้เลย… … เพียงแต่พ่อแม่ฉันชอบซ่งจื่อหังมาก เรื่องยกเลิกงานแต่งเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถึงแม้ฉันพูดไปแล้ว พวกเขาจะมองว่าพวกเราเป็นเด็กทะเลาะกัน ไม่ถือเป็นเรื่องจริง อีกทั้งตอนนี้ทั้งสองตระกูลก็ยังมีความร่วมมือที่ใหญ่ระดับนี้อยู่อีก…”
เยี่ยหวั่นหวันยื่นมือออกไป “เอามือถือมาให้ฉัน สายนี้ ฉันช่วยเธอโทรเอง!”
เยี่ยหวั่นหวันย้อนกลับไปคิดถึงชาติที่แล้วที่ตัวเองเห็นข่าวในทีวี หลังเจียงเยียนหรานฆ่าตัวตาย สามีภรรยาตระกูลเจียงร้องไห้จนเป็นลมอยู่ที่งานศพ ไม่นานคุณแม่เจียงก็ตรอมใจจนเสียชีวิต เห็นพ่อแม่เข้มงวดกับเจียงเยียนหรานลูกสาวคนเดียวคนนี้ แล้วก็รักมากด้วย
ถึงแม้จะลำบากหน่อย แต่เธอคิดว่าสุดท้ายแล้วสองสามีภรรยาจะยังคงอยู่ข้างลูกสาวแน่นอน
“เธอช่วยฉันโทร?” เจียงเยียนหรานมองอีกฝ่ายด้วยความลังเล
อันที่จริงจนถึงตอนนี้ เธอยังรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนป่วยหนักที่หาหมอไปทั่ว ไม่ได้เชื่อเยี่ยหวั่นหวันทั้งหมด แต่เวลานี้มองดูสายตาของหญิงสาว เธอกลับรู้สึกอยากจะเชื่อเธอโดยไม่รู้ตัว
สุดท้าย เจียงเยียนหรานก็เห็นด้วย
เยี่ยหวั่นหวันใช้มือถือเจียงเยียนหรานโทรเข้าเบอร์แม่ของเจียงเยียนหราน
“ฮัลโหล เยียนหรานหรือลูก! ทำไมโทรหาแม่ดึกขนาดนี้? เงินไม่พอใช่หรือ?”
ได้ยินเสียงแม่ในสาย ทันใดนั้นเจียงเยียนหรานก็รู้สึกเศร้าเสียใจขึ้นมา
ทันใดนั้นก็มีเสียงเยี่ยหวั่นหวันพูดโพล่งขึ้นมาด้วยความร้อนรน ตื่นเต้นตกใจ “คุณน้า! หนูไม่ใช่เยียนหราน เป็นเพื่อนนักเรียนของเธอ คุณน้ารีบมาที่โรงเรียนเถอะค่ะ! เมื่อกี้เยียนหรานกระโดดเมื่อน้ำฆ่าตัวตายแล้ว…”
เจียงเยียนหรานได้ยินคำพูดเยี่ยหวั่นหวันก็อึ้งไป รีบร้อนกำลังจะพูด แต่โดนสายตาเยี่ยหวั่นหวันห้ามไว้
อีกฝั่งของมือถือน้ำเสียงคุณแม่เจียงเปลี่ยนไป “เธอพูดอะไร! เธอบอกว่าเยียนหรานของฉันกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย! เธอพูดมั่วอะไร! เยี่ยนหรานอยู่ดีๆ ทำไมต้องฆ่าตัวตาย? เธอหลอกใช่ไหม…”
“คุณน้า หนูไม่ใช่พวกหลอกลวง หนูเป็นเพื่อนนักเรียนของเยียนหรานจริงๆ ค่ะ แต่คุณน้าไม่ต้องเป็นห่วง โชคดีที่เจอเร็ว เยียนหรานไม่เป็นอะไรแล้ว เธออยู่ที่หอพักหนูกำลังพักผ่อนอยู่ เพียงแต่สภาพจิตใจยังไม่คงที่ ถ้าคุณน้าไม่เชื่อ มาที่โรงเรียนดูก็รู้แล้ว ตอนนี้เยียนหรานอยู่ที่หอพักหนู…” เยี่ยหวั่นหวันบอกเลขห้องตัวเองไป
คุณแม่เจียงได้ยินฝ่ายตรงข้ามไม่ได้หลอกลวงต้องการอะไรก็รู้ว่าไม่น่าจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ เลยรีบบอก “ได้ได้ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”
หลังวางสายลง เจียงเยียนหรานขมวดคิ้วหนัก “หวั่นหวัน เธอทำแบบนี้… ไม่ใช่ว่ากำลัง…”
“อะไร? หลอกคนหรือ? เธอกล้าบอกไหมว่าเมื่อกี้เธอไม่ได้คิดฆ่าตัวตาย?” เยี่ยหวั่นหวันพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
เจียงเยียนหรานอึ้งไปไม่พูดอะไร
ถ้าไม่ใช่เยี่ยหวั่นหวั่นจู่ๆ ปรากฏตัวขึ้นมา ตอนนี้กลัวว่าเธอจะกระโดดลงไปจริงๆ ไม่แน่ตอนนี้อาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว…
“เธอก็บอกแล้ว เรื่องสำคัญมาก เรื่องยกเลิกสัญญางานแต่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถ้าไม่พูดเหี้ยมๆ หน่อย พ่อแม่เธอจะไม่เคลื่อนไหวทันทีแน่นอน และเพื่อป้องกันพ่อแม่เธอหูเบา โดนคนตระกูลซ่งขอโทษตามมารยาทก็เปลี่ยนใจกลับไปเป็นเหมือนเดิม!” เยี่ยหวั่นหวันอธิบาย
พอเจียงเยียนหรานคิดดูก็เข้าใจเหตุผลนี้จริงๆ พยักหน้าทันที
…………………………………..