ตอนที่ 136 กรรมตามสนองเร็วเกินไปแล้ว!

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

“เสี่ยวลิ่วลิ่ว…” เหนียนเสี่ยวมู่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบร้อนอุ้มเด็กหญิงขึ้นมา “หนูมาได้ยังไงเนี่ย” 

 

 

สาวน้อยเอียงคอ ตากลมโตกะพริบปริบๆ “มากินข้าวกับพี่สาวคนสวย!” 

 

 

“…” เหนียนเสี่ยวมู่รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา 

 

 

วินาทีต่อมา เธอเห็นมือเล็กๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่วชี้ไปที่ทางเข้าร้านอาหาร พร้อมทั้งยิ้มแป้นแล้น “ปาปาก็มาด้วยนะ!” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !! 

 

 

เธอเงยหน้าขึ้น มองตามสายตาของเสี่ยวลิ่วลิ่วไป เห็นเงาร่างสูงส่งกำลังเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า ท่ามกลางสายตาจับจ้องของทุกคน 

 

 

ออร่าความยิ่งใหญ่ทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจของทุกคนทันทีที่ปรากฏตัวขึ้น 

 

 

“คุณชายหาน” 

 

 

พนักงานในร้านอาหารลุกขึ้นกล่าวทักทายโดยสัญชาตญาณ 

 

 

“ไม่ต้องสนใจผม พวกคุณตามสบายเถอะ” อวี๋เยว่หานใช้ดวงตาสีดำกวาดมองรอบๆ ไม่นานเขาก็หลุบตาลง แล้วเดินมาทางเหนียนเสี่ยวมู่ 

 

 

“คุณชาย!” เหนียนเสี่ยวมู่อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่ว พลางยืนตัวตรงทันที 

 

 

เธอแอบร้องโหยหวนอยู่ในใจ 

 

 

เธอคิดถึงเสี่ยวลิ่วลิ่วมาก แต่ไม่คิดถึงเจ้าก้อนน้ำแข็งสักนิด 

 

 

แค่กินข้าวกับอวี๋เยว่หานแล้วถูกเขาถลึงตาใส่ เธอก็ท้องอืดแล้ว 

 

 

“คุณชายหาน คุณก็มากินข้าวด้วยเหรอ” เหนียนเสี่ยวมู่ถามอย่างระมัดระวัง 

 

 

“…” 

 

 

อวี๋เยว่หานชำเลืองมองเธอด้วยสายตาเยียบเย็น ราวกับกำลังสงสัยไอคิวของเธอ 

 

 

จากนั้นเขาก็เอ่ยปากเรียบๆ 

 

 

“มากับเสี่ยวลิ่วลิ่ว”  

 

 

“…” 

 

 

“ถือโอกาสกินข้าวด้วย” 

 

 

“…” คำพูดเรียบง่าย ราวกับว่าไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับเธอ 

 

 

เธอเข้าใจดี 

 

 

ถ้าเสี่ยวลิ่วลิ่วไม่มาหาเธอ เขาก็คงไม่อยากมาที่ร้านอาหารพนักงานโดยสิ้นเชิง 

 

 

แต่เฉยชากับเขาเพราะความคิดแบบนี้ จะดูไม่รู้จักบุญคุณเกินไปหน่อยหรือเปล่า 

 

 

“งั้นมื้อนี้ฉันเลี้ยงคุณเป็นยังไงคะ” เหนียนเสี่ยวมู่ถามตามมารยาท 

 

 

ปากพูดด้วยความยินดี แต่ในใจเริ่มรอคอยเขาปฏิเสธแล้ว 

 

 

อย่างไรเสียเขาก็เป็นประธานบริษัท ไม่ได้เงินทองขาดมืออยู่แล้ว เขาจะอยากให้เธอเลี้ยงข้าวจริงๆ ได้อย่างไร 

 

 

เขาต้องปฏิเสธแน่ๆ ใช่ไหม 

 

 

“ตกลง” คำง่ายๆ คำเดียวออกจากริมฝีปากบางน่ามองของเขาอย่างเชื่องช้า 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึง 

 

 

เธอมองเขาอย่างงุนงงราวกับฟังไม่รู้เรื่อง ดวงตาสดใสถมึงทึงขึ้นมาทันควัน “เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ” 

 

 

“ตกลง คุณเลี้ยงผม” อวี๋เยว่หานชำเลืองมองสีหน้าเสียหน้าของเธอ แต่เธอยังไม่ทันดึงสติกลับมา เขาก็หันไปสั่งผู้ช่วยว่า “เอาอาหารชุดที่ดีที่สุดสามชุด ส่วนเงินก็หักจากโบนัสปลายเดือนของซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !! 

 

 

หลังจากผู้ช่วยยกอาหารชุดสามชุดมา ตัวเลขเด่นหราอยู่ต่อหน้า ในใจกระอักเลือดหมดแล้ว 

 

 

นี่ยังไม่น่าเวทนาที่สุดหรอกนะ 

 

 

พวกเขาสามคนกินอาหารชุดหรูหรา ส่วนคนที่ออกเงินอย่างเธอกินอาหารชุดธรรมดาอยู่คนเดียว 

 

 

มีความยุติธรรมบ้างหรือเปล่าเนี่ย 

 

 

เธอรู้สึกถึงเจตนาร้ายที่มาจากจุดที่ลึกที่สุดของโลกใบนี้… 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่จิ้มผักในชาม สายตาจับจ้องไปยังหมูผัดไฟแดงในจานของอวี๋เยว่หาน 

 

 

ครั้งก่อนเขาแย่งหมูผัดไฟแดงของเธอ ครั้งนี้เขาให้คืนกลับมาบ้างไม่ได้เลยเหรอ 

 

 

“คุณอยากกินเหรอ” อวี๋เยว่หานดึงถาดอาหารมาไว้ตรงหน้าตัวเอง ก่อนจะใช้ตะเกียบคีบหมูผัดไฟแดงขึ้นมาชิ้นหนึ่ง จ้องมองเธอไปด้วย 

 

 

เนื้อหมูที่มีไขมันสมส่วน สีสันมันวาวเหลืองทอง ทำให้เธอน้ำลายสอ 

 

 

ดูแล้วน่ากินกว่าจานที่เขาแย่งไปครั้งก่อนอีก! 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กำลังลังเล ว่าต้องพยักหน้าให้เขาแบ่งให้สักหน่อยหรือเปล่า แต่ก็เห็นเขาขยับตะเกียบบรรจงวางหมูใส่ปากอย่างสบายอารมณ์ 

 

 

จากนั้นถึงใช้ตะเกียบคีบมะระขึ้นมาอีกสองชิ้น แล้ววางลงในชามของเธอ 

 

 

“กินเนื้อสัตว์มากๆ จะอารมณ์เสียง่าย มะระเหมาะกับคุณมากกว่า”