ตอนที่ 137 สาวสวยข้างหน้า ระวังด้วย

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

เหนียนเสี่ยวมู่ “…”  

 

 

เธอมองมะระสองชิ้นในชามตัวเอง ใบหน้าขมขื่นเหมือนมะระแล้ว 

 

 

ก่อนจะลอบต่อว่าว่าเขาขี้งกอยู่ในใจ 

 

 

ถ้าสายตาฆ่าคนได้ ตอนนี้ตัวอวี๋เยว่หานคงถูกเธอแทงเป็นรูพรุนร้อยรูแล้ว 

 

 

ในหัวเธอจมอยู่กับความโกรธเคืองเรื่องการควัก ‘เงินก้อนใหญ่’ เลี้ยงข้าวอวี๋เยว่หาน จึงไม่ได้รู้ตัวเลยการกระทำของพวกเขาสองคนอยู่ในสายตาของคนโดยรอบ แถมพวกเขายังตกใจจนแทบจะทำตะเกียบหลุดมืออยู่แล้ว… 

 

 

โดยเฉพาะคนของแผนกประชาสัมพันธ์ เมื่อครู่มัวแต่คิดว่าจะไม่ทำความรู้จักกับเหนียนเสี่ยวมู่ คราวนี้เห็นคนที่นั่งตรงหน้าเธอแล้วถึงรู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมา 

 

 

ในหนึ่งปีคุณชายหานเข้ามาที่ร้านอาหารพนักงานน้อยครั้ง ใช้นิ้วนับครั้งได้ 

 

 

ถ้าเมื่อครูพวกเธอนั่งกับเหนียนเสี่ยวมู่ ตอนนี้ก็คงได้นั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกับคุณชายหานแล้วสินะ 

 

 

เพื่อนร่วมงานสวมที่ถูกดึงไว้เมื่อครู่รู้สึกเสียใจภายหลังจนแทบจะกินข้าวไม่ลงแล้ว 

 

 

หญิงสาวได้แต่ถือโทรศัพท์มือถือจึงจ้องไปที่เทพบุตรที่เขาแอบถ่ายไว้ เหมือนกับทุกคนในที่นี้ 

 

 

“ปรับตัวกับแผนกใหม่เป็นยังไงบ้าง” อวี๋เยว่หานกินข้าวอย่างไม่รีบร้อน พลางเอ่ยปาก 

 

 

น้ำเสียงเยียบเย็น ฟังไม่ออกเลยว่าเป็นห่วง คล้ายกับถามไปเรื่อยเปื่อยมากกว่า 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงงันเป็นอันดับแรกเมื่อได้ยินดังนั้น 

 

 

เธอควบคุมความคิดที่อยากจะหั่นเขาเป็นชิ้นๆ ไว้ แล้วเงยหน้าขึ้นมา ตอบอย่างจริงจัง “ก็พอได้” 

 

 

ก็แค่ถ่ายเอกสาร เรื่องเล็กน้อยพรรค์นี้เธอจะทำไม่ได้ได้อย่างไร 

 

 

ส่วนเรื่องอื่น… 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตาเป็นประกายทันใด แต่ไม่นานก็กลับคืนสู่สภาพปกติ แล้วยิ้มแสร้งว่าไม่เป็นอะไร 

 

 

พนักงานใหม่ทุกคนล้วนเคยเจอปัญหาประเภทนี้ 

 

 

เธอได้ลงมาทำงานที่แผนกประชาสัมพันธ์ ไม่น่าจะได้รับการยอมรับจากทุกคนเร็วขนาดนั้น ถ้าน้อยใจเรื่องเล็กน้อยก็ต้องฟ้อง อย่างนั้นยิ่งทำให้เพื่อนร่วมงานในแผนกไม่ชอบหน้าเธอเข้าไปใหญ่ 

 

 

เหตุผลข้อนี้เธอเข้าใจดี 

 

 

อวี๋เยว่หานเงยหน้าเหลือบมองเธอครั้งหนึ่ง ก่อนจะหรี่ตาลง 

 

 

เห็นเธอไม่อยากพูด เขาก็ไม่ได้ถามให้มากความ 

 

 

หลังจากกินข้าวเสร็จ เขาถึงจะลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง แล้วยื่นมือไปหาเสี่ยวลิ่วลิ่ว 

 

 

เด็กหญิงเพิ่งกินอิ่ม เธอตีพุงกลมๆ ที่นูนขึ้นมา พลางตะเกียกตะกายเข้าไปในอกเขา 

 

 

“ยังไม่ได้เช็ดปากเลย” เหนียนเสี่ยวมู่เหลือบไปเห็นเม็ดข้าวที่มุมปากของเธอ จึงกระดาษทิชชูออกมา แล้วเดินไปจัดการให้เธออยู่ข้างๆ 

 

 

เพิ่งเงยหน้าขึ้น เธอก็สบตาสีดำขลับของอวี๋เยว่หานแล้ว 

 

 

เขาอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วด้วยมือข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างล้วงกระเป๋ากางเกงสบายๆ 

 

 

เงาร่างสูงชะลูดมีออร่าความสูงส่งกระจายออกมา 

 

 

เขายืนให้เธอเช็ดปาดให้เสี่ยวลิ่วลิ่วอยู่อย่างนั้น 

 

 

ทั้งสองคนไม่รู้ตัวเลยว่าภาพความกลมเกลียวแบบนี้ดูเหมือนพ่อแม่ลูก 

 

 

ส่วนคนโดยรอบโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกันหมดแล้ว 

 

 

อินทราเน็ตของบริษัทตระกูลอวี๋ ถูกรูปภาพในร้านอาหารทำให้ฮือฮาอีกครั้ง 

 

 

 

 

 

ในห้องทำงานประธานบริษัท 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วนั่งอยู่บนโซฟา เปลี่ยนยกใส่แผลให้เด็กหญิงอย่างละเอียดรอบคอบ 

 

 

แต่หางตาเธอลองมองชายหนุ่มที่อ่านเอกสารอยู่หน้าโต๊ะทำงานอยู่ตลอด 

 

 

หลายครั้งที่เธออยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่ออ้าปาก ก็พลันต้องกลืนคำพูดนั้นกลับไป 

 

 

“พี่สาวคนสวย พี่รู้แล้วช่ายม้ายว่าปาปาของหนูหล่อมาก” เสี่ยวลิ่วลิ่วสังเกตว่าเธอมองอวี๋เยว่หานอยู่ตลอด จึงถามขึ้นพร้อมสีหน้าตื่นเต้น 

 

 

เสียงอ้อแอ้ดังกังวานเป็นพิเศษ 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่หวาดหวั่นขึ้นมา ก่อนจะรีบปิดปากเล็กๆ ของเธอเอาไว้ 

 

 

“ไม่ใช่สักหน่อย ก็แค่ก้อนน้ำแข็ง มีอะไรน่าดู” 

 

 

เธอรู้สึกหนาวสันหลังวาบทันทีที่พูดจบ ครั้นเงยหน้าขึ้น อวี๋เยว่หานที่กำลังอ่านเอกสารเมื่อครู่ใช้นัยน์ตาสีดำจ้องมองเธอแล้ว…