นอกหน้าต่างจักจั่นในช่วงฤดูร้อนร้องไม่รู้หยุด
เครื่องปรับอากาศในห้องนอนเสียและแดดเปรี้ยงกำลังหันหน้าไปทางหน้าต่าง เหมือนอยู่ในเตาไฟ
หลินเยียนเปิดคอมพิวเตอร์ กำลังหาข่าวการเปิดรับสมัครของกองถ่าย
ในห้องของลูกพี่ลูกน้องที่ชื่อเฮ่อซานซานที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ได้ยินเสียงเล่นเกมดังแว่วขึ้นเป็นระยะๆ
“ซานซาน ทานผลไม้เยอะๆ ดีต่อผิวพรรณ วิทยาลัยภาพยนตร์ปักกิ่งเป็นวิทยาลัยด้านภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในจีน ลูกต้องตั้งใจเรียนนะ! เข้าใจมั้ย?” หวังเฉี่ยวฮุ่ยหั่นผลไม้เย็นจานหนึ่งด้วยรอยยิ้ม แล้วยกไปไว้ตรงหน้าลูกสาว
เฮ่อซานซานแบะปากพูด “แม่ สมัยนี้ใครเขาเข้าโรงเรียนไปเรียนกัน คนที่มีเส้นสายก็เข้าไปถ่ายหนังกันหมดแล้วมั้ยล่ะ?”
หลินเยียนฟังถึงตรงนี้พลันขมวดปมคิ้ว อดพูดไม่ได้ “ซานซาน ในวงการบันเทิงน่ะ ถ้าอยากไปได้ไกล การสร้างพื้นฐานที่ดีก่อนสำคัญที่สุด…”
เฮ่อซานซานได้ยินแบบนี้ก็หัวเราะเยาะ “ตลกสิ้นดี พี่ ทุกวันนี้พี่ก็ได้เป็นแค่ตัวประกอบอยู่แล้ว แม้แต่บทพูดก็ไม่มีสักคำ จะเอาอะไรมาเข้าใจวงการบันเทิง?”
หวังเฉี่ยวฮุ่ยเองก็ไม่พอใจ “เอาเวลาห่วงเรื่องนี้ ไปห่วงเงินค่าเช่าห้องเดือนนี้ของเธอดีกว่ามั้ย!”
หลินเยียนรู้ว่าตนพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงเงียบไป
เฮ่อซานซานมองบนใส่หลินเยียนที แสร้งพูดด้วยน้ำเสียงโอ้อวด “แม่ พี่ซูหย่าได้ช่วยหาโอกาสให้ฉันไปแคสหนังแล้ว!”
หวังเฉี่ยวฮุ่ยตาเป็นประกาย “หนังเรื่องอะไร?”
“ ‘เพชรตัดเพชร’ บทที่หนูไปแคสเป็นสมบทหญิง ถือว่าเป็นนางรองหมายเลขสี่แต่แม่อย่าดูถูกนางรองหมายเลขสี่เชียวนะ นี่เป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่ทุ่มทุนหลายสิบล้าน นักแสดงนำชายราชาภาพยนตร์เผยวหนานซวี่ ส่วนนักลงทุนคือ JM กรุ๊ป!”
หวังเฉี่ยวฮุ่ยได้ยินแล้วตื่นเต้นขึ้นมาทันที “ไอหยะ หนังที่ JM กรุ๊ปลงทุนงั้นเหรอ? จะต้องเป็นหนังฟอร์มยักษ์แน่! การแข่งขันคงดุเดือดมากใช่มั้ย!”
“แน่นอนสิ สัปดาห์ที่แล้วเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งในหอหนูไปแคสบทตัวประกอบที่มีบทพูดแค่ประโยคเดียวเท่านั้น ยังตกรอบเลย!
แม้แต่ตัวประกอบยังมีกลุ่มนักเรียนเฉพาะทางจากโรงเรียนที่มีชื่อเสียงแย่งกันตัวแทบแตก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกนักแสดงที่ไม่มีชื่อเสียง!” ตอนที่ซานซานพูดประโยคนี้ ก็จงใจมองหลินเยียนอย่างเยาะเย้ย
“งั้นซานซาน หนูต้องเตรียมตัวให้ดีนะ!”
“แม่ไม่ต้องห่วง พี่ซูหย่าคุยให้หนูแล้ว บทนี้ต้องเป็นของหนูแน่!”
……
ภาพยนตร์ที่เฮ่อซานซานพูดถึง หลินเยียนเองก็เคยได้ยิน
ช่วงนี้ภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เจียงอีหมิงกำกับ กำลังคัดเลือกตัวละครอยู่จริงๆ
ทว่าเจียงอีหมิงเป็นคนที่ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวด กองถ่ายของเขาไม่เคยวางบทบาทตัวละคร การคัดเลือกนักแสดงทั้งหมดดูเพียงทักษะการแสดงเท่านั้น
เพราะฉะนั้นแม้เฮ่อซานซานจะได้รับโอกาสไปแคส สุดท้ายก็ต้องพึ่งความสามารถจึงจะอยู่ต่อได้
สำหรับบทนางรองหมายเลขสี่ที่เฮ่อซานซานได้รับนี้…
พอหลินเยียนได้ยินเฮ่อซานซานบอกว่าจะไปแคสตัวละครไหน ก็รู้เลยว่า หลินซูหย่าก็แค่ต้องการให้เฮ่อซานซานเป็นหนี้บุญคุณตน ไม่คิดจะช่วยเฮ่อซานซานอย่างจริงใจ
นางรองหมายเลขสี่คนนี้ถูกวางให้เป็นหญิงแกร่งที่น่าเกรงขาม เป็นท่านประธานหญิงจอมเผด็จการ
ด้วยประสบการณ์และทักษะการแสดงของเฮ่อซานซาน ย่อมไม่สามารถรักษาไว้ได้
หลินเยียนไม่ได้คิดอะไรมาก พลันหาข้อมูลยื่นประวัติต่อ เพราะอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับเธออยู่แล้ว
แต่แล้วสิ่งที่หลินเยียนไม่คาดคิดคือ คืนนั้นประวัติที่เธอยื่นไปได้รับการตอบกลับจากทีมกองถ่ายเรื่องหนึ่ง
กองถ่ายนี้ กลับเป็นกองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง ‘เพชรตัดเพชร’ !