“เปล่าๆ! ฉันไม่เสียใจเลยสักนิด!” หลินเยียนส่ายหน้ารัว
เผยอวี้เฉิงเลิกคิ้วเล็กน้อย “หืม?”
หลินเยียนจ้องใบหน้าอันหล่อเหล่าจนฆ่าคนได้ของเผยอวี้เฉิง ‘…’
โธ่เฮ้ย ดูเหมือนว่าจะผิดหวังเล็กน้อยจริงๆ ด้วย!
นี่คือผู้ชายที่ผู้หญิงทั้งประเทศอยากนอนด้วย…
ฮึบไว้ๆ! ใจเย็นๆ!
หลินเยียนรีบควบคุมจิตใจที่เกือบจะลุ่มหลงไปกับความงาม “คุณเผย คุณไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีก!”
เผยอวี้เฉิงกวาดสายตามองบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นหมายปราดหนึ่ง “ในเมื่อคุณหลินพูดแบบนี้ ผมก็สบายใจ ผมจะให้คนขับรถไปส่งคุณ”
หลินเยียนอยากจะปฏิเสธตามสัญชาตญาณ แต่พอคิดๆ ดูแล้ว ที่นี่คงไม่มีรถโดยสารแน่ เรียกแท็กซี่แพงเกินไป ตอนนี้เธอจนขนาดนี้ ประหยัดได้ก็ควรประหยัด
“งั้น..ขอบคุณ.”
……
หลังจากหลินเยียนออกไป เผยหนานซวี่จึงผลักประตูเข้ามาอีกครั้ง
“พี่ชาย พี่ไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ ใช่มั้ย?”
เดิมเขาคิดว่าคราวนี้เผยอวี้เฉิงจะหมดสติไปนานเหมือนที่ผ่านมา ไม่คิดว่าตามที่หลินเยียนบอกเมื่อวาน หลังจากพาเขากลับมาได้ไม่นาน เขาก็ตื่นแล้ว
เผยอวี้เฉิงมองผ่านกระจกที่อยู่ข้างๆ มาหยุดอยู่ที่ร่างกายของหญิงสาวที่อยู่ข้างล่าง “ฉันเหมือนเป็นอะไรเหรอ?”
เผยหนานซวี่ส่ายหน้า
ไม่เพียงแค่ไม่ได้เป็นอะไร แต่ท่าทางยังดูดีมาก
แต่หลินเยียนดูแปลกๆ ไม่เหมือนสองครั้งแรกที่เจอกันนัก
แต่ผู้หญิงก็ไม่แน่นอนแบบนี้แหละ เผยหนานซวี่จึงไม่ได้ใส่ใจ
……
รถคันสีดำขับออกไปนิ่งๆ ภาพทิวทัศน์นอกรถผันเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ไม่นานวิลล่าอันหรูหราหลังนั้นก็ค่อยๆ หายไปจากสายตา
หลินเยียนรู้สึกเหมือนในที่สุดก็ตื่นจากฝันจอมปลอม
แต่ความจริงทุกอย่างยืนยันว่า นี่ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นความจริง
หรือเพราะเมื่อคืนดื่มหนักเกินไปจริงๆ?
ตามหลักแล้ว เธอไม่ควรจะคออ่อนขนาดนี้!
ดูเหมือนว่ากลับไป เธอจะต้องหาเวลาไปหาหมอสักหน่อยแล้ว…
หลังจากกลับถึงบ้าน ในที่สุดหลินเยียนก็นึกถึงใครบางคนที่ถูกตนลืมไป
“ฮัลโหล ไอ้ลูกหมา…”
อีกฝั่งรับสายแทบจะในทันทีที่หลินเยียนโทรติด จากนั้นเสียงที่แฝงความตื่นเต้นของวังจิ่งหยางก็ดังขึ้น “หน๊อย! หลินเยียนไอ้คนเห็นแฟนสำคัญกว่าเพื่อน ในที่สุดก็รู้จักโทรกลับมาหาฉันสักทีนะ!”
หลินเยียนหลุดขำอย่างจนปัญญา “เมื่อคืน ฉันพูดอะไรแปลกๆ กับนายใช่มั้ย?”
วังจิ่งหยางพลันพูดว่า “ไม่ใช่แค่แปลก แต่ระทึกเลยแหละ เมื่อคืนฉันถามเธอว่าจะมาพักกับฉันมั้ย เธอบอกว่าเธอมีที่ไป บอกว่าจะไปหาแฟนเธอ! เพราะฉะนั้น…เธอมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่?”
หลินเยียนอึ้ง ไม่คิดว่าเมื่อคืนเธอยังพูดอะไรแบบนี้ด้วย “ฉันพูดแบบนั้นเหรอ?”
วังจิ่งหยาง “ก็ใช่หน่ะสิ! เมื่อคืนเธอเป็นคนพูดออกมาเองเลยนะ!”
หลินเยียนพูดอย่างเหลืออด “ช่วงนี้ความจำฉันไม่ค่อยดี แล้วนับประสาอะไรกับเมื่อคืนที่ฉันดื่มเหล้าเข้าไป คำพูดซี้ซั้วที่ฉันพูดตอนเมานายก็เชื่อเหรอ?”
วังจิ่งหยางอึ้ง “เยดเข้! ไอ้หลินเยียน! เธอทำฉันไม่ได้นอนทั้งคืน สุดท้ายเธอกลับบอกฉันว่าเธอพูดจาซี้ซั้วงั้นเหรอ?”
หลินเยียนถึงกับพูดไม่ออก “นายไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะเรื่องแค่นี้? มันคุ้มเหรอ?”
วังจิ่งหยางแค่นเสียงไอเบาๆ อย่างละอายใจที “ก็ฉันสงสัยไง…”
วังจิ่งหยางเหมือนจะไม่วางใจนัก “ตอนนี้เธอได้สติหรือยัง? เธอมีแฟนแล้วจริงๆ เหรอ?”
หลินเยียนพูด “ไม่มีอะไร! ตอนนี้ในใจฉันว่างเปล่า มีเพียงการหาเงินเท่านั้น!”
วังจิ่งหยาง “…” เขาก็ถือว่าเชื่อคำพูดนี้
หลินเยียน “บอกแล้วไงว่าฉันหาทางไว้แล้ว ถ้าเดือนหน้าฉันยังไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า เดี๋ยวจะไปขออาศัยนาย!”
หลังจากวางสายไป หลินเยียนก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ทิ้งความสับสนวุ่นวายทุกอย่างในหัว
เรื่องที่เร่งด่วนตอนนี้ คือเธอต้องลุกขึ้นสู้และรีบหาเงิน