บทที่ 23:การขู่กรรโชก

ไหปีศาจ

บทที่ 23: การขู่กรรโชก

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาระหว่างตัวเขาและสัตว์วิญญาณอย่างต้าหวงนั้น มีการเชื่อมต่อกันด้วยสัญญาวิญญาณอยู่

อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่ลั่วอู๋รู้สึกได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของต้าหวง มันรุนแรงและเปี่ยมไปด้วยโทสะ นอกจากนี้ยังมีความตกใจปนเปอยู่ในนั้น

“เกิดอะไรขึ้น!” ลั่วอู๋วิ่งตรงออกไป

เพราะเป็นเวลาประมาณตีสาม ข้างนอกจึงมืดสนิท ไร้ซึ่งแสงสว่าง

“มู่เถา จุดไฟหน่อยสิ!”

ลั่วอู๋ร้องเรียกมู่เถา แต่ก็ไม่มีการตอบสนองใด ๆ ห้องโถงนั้นว่างเปล่า

ใจของลั่วอู๋ดิ่งวับวูบลงทันที

หวังว่าคงยังไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น

“เสี่ยวชา! อาฟู!” ลั่วอู๋รีบไปดูที่สนามหลังบ้าน แต่ห้องของพวกเขาทั้งสองคนก็ว่างเปล่า คนงานของร้านทั้งสามคนหายตัวไป

“ต้าหวง!”

ต้าหวงโผล่ขึ้นจากลานบ้านและมาหยุดลงแทบเท้าของลั่วอู๋ มันหายใจหนักๆ กล้ามเนื้อตามลำตัวตึงเขม็ง ดวงตาสีแดงก่ำดูเหมือนสัตว์ร้ายในความมืด

“ดีมาก เด็กดี” ลั่วอู๋พยายามสงบสติอารมณ์ตนเองและสงบจิตใจของต้าหวงลงด้วย “อย่าเพิ่งตื่นเต้นไป บอกข้าว่าเกิดอะไรขึ้น”

ผ่านพันธสัญญาวิญญาณระหว่างทั้งสองต้าหวงแสดงภาพความทรงจำของการบุกรุกของศาลาไป่หยู่

หัวใจของลั่วอู๋บีบรัดแน่น

เกิดอะไรขึ้น มีคนบุกเข้ามาที่ศาลาไป่หยู่งั้นเหรอ

ทั้งสามคนล้วนเป็นแค่คนปกติธรรมดา หากต้องสู้กับผู้ใช้พลังวิญญาณ พวกเขาไม่มีทางที่จะรอดได้เลย

แม้ว่าพวกเขาจะมีพลังวิญญาณเช่นกัน แต่เวลาฝึกซ้อมของพวกเขานั้นสั้นเกินไป ไม่ต้องถึงขั้นผู้เชี่ยวชาญพลังวิญญาณหรอก แค่ระดับมือใหม่พวกเขาก็คงจะไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยซ้ำ

“ต้าหวงผู้บุกรุกคนนั้นอยู่ที่ไหน” ลั่วอู๋ถาม

ต้าหวงเห่าขึ้น 2-3 ครั้งตรงลานหลังบ้าน

ลั่วอู๋หายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินไปที่ลานบ้านอย่างระมัดระวัง แต่มันกลับไม่มีอะไรในลานหลังบ้าน

“มันอยู่ที่ไหน” ลั่วอู๋ถามด้วยเสียงต่ำ

ต้าหวงขยับจมูกราวกับว่ามันได้กลิ่นอะไรบางอย่างแล้วจึงเห่าอีกหลายครั้งที่ลานหลังบ้าน

แย่แล้วสิ!

ทางนั้นเป็นห้องของหลี่หยิน

หัวใจของลั่วอู๋เหมือนตกวูบลงสู่ก้นบึ้งอันมืดมิด

ทั้งสามคนนั้นก็หายตัวไปแล้ว เสียงเห่าของต้าหวงเองก็ดังมาก ทั้งที่วุ่นวายขนาดนี้แต่หลี่หยินก็ยังไม่ออกมา เกิดอะไรขึ้นกันแน่

ผู้บุกรุกเป็นใครกัน

ลั่วอู๋ยังคงครุ่นคิดอยู่

ตั้งแต่มาถึงเมืองแห่งความพินาศ เขาก็ไม่เคยไปมีเรื่องบาดหมางกับใครเลยด้วยซ้ำ หรือว่าจะเป็นเพราะศาลาไป่หยู่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ ข้อพิพาททางธุรกิจอย่างนั้นหรือ

หอคอยหวงชา

ศาลาไป่เปา

พวกเขาไม่น่าจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้

แม้ว่าธุรกิจของศาลาไป่หยู่จะขายดีขึ้นแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถเทียบขั้นจนมาคุกคามหอคอยหวงชาหรือศาลาไป่เปาในปัจจุบันได้

ความคิดมากมายผุดขึ้นในใจของลั่วอู๋

แต่ท้ายที่สุดเขาก็เดินอย่างช้า ๆ ไปที่ห้องของหลี่หยิน

ในบริเวณศาลานั้นเงียบสงบ ลั่วอู๋รู้ว่าต้าหวงรับรู้เพียงกลิ่นลมหายใจที่หลงเหลืออยู่ของอีกฝ่าย ผู้บุกรุกตัวจริงน่าจะหนีไปแล้ว

ลั่วอู๋เปิดห้องของหลี่หยินอย่างระมัดระวัง

มันว่างเปล่าเช่นเดียวกับห้องอื่น

ลั่วอู๋กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ เพราะหลี่หยินนั้นได้หายตัวไปแล้ว ทำให้ตอนนี้ที่ศาลาไป่หยู่ เหลือเพียงแค่เขาคนเดียว

“ใครกันบุกเข้ามาหาข้า และเลือกที่จะจับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ มันทำไปเพื่ออะไรกัน ” ลั่วอู๋คำรามอย่างโกรธเคือง

สายลมยามค่ำคืนนั้นช่างหนาวเย็นเหลือเกิน

ไม่มีใครตอบรับเสียงของเขา

ต้าหวงเอาตัวถูกับขากางเกงของลั่วอู๋ พยายามช่วยให้เขาสบายใจลง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงให้เห็นความโศกเศร้าในสายตาของมัน

ความรักที่มีต่อหลี่หยินของต้าหวงนั้นไม่ได้น้อยไปกว่าที่มันรักลั่วอู๋

หลังจากคำรามด้วยโทสะ ลั่วอู๋ก็ต้องอ้าปากค้าง มื่อเจอจดหมายบนเตียงของหลี่หยิน

“นี่มัน!”

ลั่วอู๋รีบเปิดจดหมายฉบับนั้น

เพื่อช่วยชีวิตพวกเขา จงนำเงินไปที่โรงน้ำชาเก่าที่ตั้งอยู่ตรง 500 เมตรทางตะวันตกของตัวเมือง

อักษรถูกเขียนด้วยลายมือปลอม เพื่อไม่ให้สามารถสืบย้อนถึงตัวตนคนเขียนได้

พวกมันทำสิ่งนี้เพื่อเงินงั้นเหรอ

ลั่วอู๋ได้นำของมีค่าทั้งหมดของศาลาไป่หยู่ออกมา แล้วมุ่งไปทางตะวันตกของเมืองโดยไม่ลังเล เขาไม่คิดที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้พิทักษ์เมือง เพราะมันจะอันตรายเกินไป

หากผู้พิทักษ์เมืองทำให้อีกฝ่ายตื่นตระหนกพลั้งมือฆ่าตัวประกันเขาจะทำยังไง

ในไม่ช้าเขาก็มาถึงโรงน้ำชาเก่าที่ตั้งอยู่ห่างจากทางตะวันตกของตัวเมือง 500 เมตร

มันเป็นโรงน้ำชาเก่าจริงๆ มีโต๊ะกระจัดกระจายและป้ายของโรงน้ำชาเองก็ถูกทำลายลงครึ่งหนึ่ง จนดูน่าเศร้า

ที่นั่นมีชายลึกลับคนหนึ่งในชุดพรางตัวเวลากลางคืนยืนอยู่ตรงนั้น ชายลึกลับคนนั้นสวมหน้ากากทำให้คนอื่นไม่สามารถมองเห็นรูปร่างที่แท้จริงของเขาได้ แต่จากสรีระรูปร่างของเขา ก็คงสรุปได้ว่าเขาน่าจะเป็นผู้ชาย

ทันทีที่ต้าหวงเห็นชายลึกลับมันก็คำรามขึ้น เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้คือคนที่บุกเข้าไปในศาลาไป่หยู่

ลั่วอู๋จ้องมองชายลึกลับ “หลี่หยินกับมู่เถา อยู่ที่ไหน”

ชายลึกลับเดินหลบออกมานิดหนึ่ง

ข้างเท้าของเขามีร่างของมนุษย์ที่หมดสตินอนกองกับพื้นอยู่ 4 คน

ลั่วอู๋หายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังปลอดภัยดี

“ตัวประกันทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว ข้าต้องการเงิน” ชายลึกลับอ้าปากพูดด้วยเสียงแหบแห้งและต่ำ ทำให้ไม่สามารถแยกแยะอายุของเขาได้

ลั่วอู๋พูดอย่างเยือกเย็น “เจ้าต้องการเท่าไหร่”

“50,000 หินวิญญาณสำหรับ1 คน” ชายลึกลับตอบ

ทันทีที่ได้ยินลั่วอู๋ก็สบถออกมา “เจ้าบ้าไปแล้ว 50,000 หินวิญญาณต่อ 1 คน ถ้าจะช่วย 4 คนก็เป็น 200,000 หินวิญญาณ รายได้รวมของศาลาไป่หยู่ทั้งปีมียังได้เพียงแค่ 100,000 หินวิญญาณเท่านั้นเอง”

“ฮ่าฮ่า พูดเป็นเล่นน่า ข้าได้ยินมาว่าศาลาไป่หยู่ได้กำไรมามาก เมื่อเร็วๆ นี้นี่นา” ชายลึกลับหัวเราะ เสียงหัวเราะของเขานั้นรุนแรงมาก

ลั่วอู๋กล่าวด้วยความโกรธว่า “รายได้รวมของวันนี้คือ 3,000-4,000 หินวิญญาณ ข้าจะหาอีก 200,000 หินวิญญาณให้เจ้าได้จากที่ไหน”

“ข้าไม่สนเรื่องนั้น” พริบตาเดียวก็มีดาบยาวปรากฏขึ้นในมือของชายลึกลับ ใบมีดดาบนั้นคมกริบและเขาชี้ไปที่เหล่าตัวประกันที่นอนหมดสติอยู่ “เจ้าอยากใครตายก่อนเป็นคนแรกล่ะ”

ลั่วอู๋หน้าซีดเผือดลงทันที

ชายคนนี้โหดร้ายเกินไป เขาไม่มีจังหวะเว้นไว้สำหรับการเจรจาต่อรองเลย

“ช้าก่อน” ลั่วอู๋โยนถุงหินวิญญาณออกไป “ในนี้มีหินวิญญาณอยู่ 75,000 มันคือเงินทั้งหมดของพวกเราใน ศาลาไป่หยู่”

75,000 เป็นจำนวนหินวิญญาณที่ลั่วอู๋นำออกมาจากโกดังเก็บของในศาลาไป่หยู่

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะปล่อยให้คนหนึ่งรอดไป แล้วฆ่าอีกสามคนทิ้ง” คมดาบของชายลึกลับบินข้ามฟันปาดเหนือคอเหล่าตัวประกัน “เจ้าต้องการให้ใครรอด”

ใบหน้าของลั่วอู๋เศร้าหมองและสับสน “ปล่อยหลี่หยินดำเนินออกมาก่อน”

“ได้เลย” ชายลึกลับโยนมู่เถาไปให้ลั่วอู๋

ลั่วอู๋คว้าตัวมู่เถาที่ยังไม่ได้สติเอาไว้

“เจ้าบ้ารึเปล่า ข้าบอกว่าข้าเลือกหลี่หยิน นางสาวใช้ของข้า” ลั่วอู๋สาปแช่ง

“เจ้าไม่มีสิทธิ์ต่อรอง”

ลั่วอู๋แทบจะเป็นบ้า “แล้วเจ้าจะถามข้าไปให้ได้อะไร!”

“ถ้าเจ้าไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้ทั้งสามคนที่เหลือจะต้องตาย” ดาบของชายลึกลับเกือบแทงลงบนใบหน้าของหลี่หยิน

“รอเดี๋ยวก่อน” ลั่วอู๋นำเอาดอกไม้ฟีนิกซ์ เก้ากลีบออกมา “เจ้าสามารถรับสิ่งนี้ไปแทนได้ไหม”

“หญ้าวิญญาณระดับสูง ดอกไม้ฟีนิกซ์เก้ากลีบ มันมีค่าเท่ากับ 6,500 หินวิญญาณ”

ดวงตาของลั่วอู๋ขยับ

ชายลึกลับน่าจะรู้ถึงคุณค่าของมัน

“และยังมีอีก!” ลั่วอู๋หยิบถุงเก็บของออกมา “ข้ามียาวิญญาณที่อยู่ในระดับตำนานทั้งหมด กว่า 320 ในนี้”

“ระดับตำนาน!” ชายลึกลับประหลาดใจเล็กน้อย เขาหยิบถุงเก็บยามาดู แล้วเอายาแก้โรคทุกชนิดออกมาตรวจสอบอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ลองดื่มกินยาวิญญาณดู

“ยาวิญญาณนี่สามารถช่วยในการฝึกฝนพลังวิญญาณได้ มีของคุณภาพดีแบบนี้กว่า 320 เม็ด แต่ละเม็ดมีค่า 100 หินวิญญาณ มูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 32,000 หินวิญญาณ”

“เลือกไปอีกหนึ่งคน” คราวนี้ชายลึกลับก็ยอมปล่อยตัวหลี่หยิน

ลั่วอู๋รีบเข้าไปรับร่างของหลี่หยินเอาไว้

และรีบตรวจดูความปลอดภัยของนาง

โชคดีที่นางไม่ได้บาดเจ็บอะไรแค่หมดสติไปเท่านั้น

“ที่เหลืออีก 2 คน ก็ปล่อยให้พวกเขาตายสินะ” ดาบในมือของชายลึกลับนั้นพร้อมอยู่แล้ว เขาเตรียมแทงมันลงไปที่คนงานที่เหลือทั้ง 2 คน

ลั่วอู๋ตกใจ แต่ก็รีบส่งเสียงห้าม “นี่ หยุดก่อน”

คำห้ามนั้นทำให้ดาบของชายลึกลับหยุดลงได้ทันเวลาพอดี