เล่มที่ 1 บทที่ 21 รังแกเด็กสองคนที่ไม่มีพ่อแม่คอยปกป้อง

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

เซี่ยยวี่หลัวไม่มองเถียนเอ๋ออีก เดินผ่านข้างกายนางออกประตูบ้านไป เซียวซานรีบให้เซียวจื่อเซวียนหลบอยู่ด้านหลัง ด้วยเกรงว่าเซี่ยยวี่หลัวจะรู้ว่าเซียวจื่อเซวียนกลับมาแล้ว

เซี่ยยวี่หลัวเดินมาหยุดอยู่กลางกลุ่มคนที่มุงดู ยื่นนิ้วมือเรียวงามออกมา ชี้ไปยังกลุ่มเด็กที่นางมองเมื่อครู่ “พวกเจ้า ออกมาเดี๋ยวนี้!”

เด็กกลุ่มนี้ค่อนข้างหวั่นเกรงต่อเซี่ยยวี่หลัว เมื่อถูกนางชี้นิ้ว พวกเขาจึงเดินออกมาเอง แต่ละคนก้มหน้าก้มตา ต่างไม่กล้ามอง

ดวงตาคู่งามของเซี่ยยวี่หลัวจ้องเด็กกลุ่มนี้เขม็ง แสยะริมฝีปากแดงเบาๆ วาจาที่เอ่ยออกมากลับฟังดูน่ากลัวจนขนหัวลุก “พวกเจ้าเป็นคนบอกท่านป้าเทียนเอ๋อ ว่าที่เซียวต้าหมินไข่ขึ้นเพราะถูกจื่อเซวียนของข้าทำให้ตกใจใช่หรือไม่?”

จื่อเซวียนของข้า?

เซียวจื่อเซวียนได้ฟังสี่คำนี้ก็ตกตะลึง เมื่อครู่ตอนนางเอ่ยถึงเขา นางพูดว่าจื่อเซวียนของข้า?

นางเห็นว่าเขาเป็นคนในครอบครัวอย่างนั้นหรือ?

เซียวจื่อเซวียนผงะไปชั่วครู่ มองสตรีที่กำลังเอ่ยวาจานั้นท่ามกลางกลุ่มคนที่มุงดูด้วยอาการตกตะลึง

เซี่ยยวี่หลัวไม่ทันเห็นเซียวจื่อเซวียน นางจ้องเด็กกลุ่มนั้นเขม็ง พร้อมซักถามพวกเขาด้วยความเดือดดาล

เถียนเอ๋อกลับถามนาง “ยวี่หลัว เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” เมื่อครู่นี้นางยังเรียกเซียวจื่อเซวียนแบบเอ่ยเต็มชื่อแซ่ไม่ใช่หรือ? เพิ่งคุยกันไปได้ไม่กี่ประโยค เหตุใดถึงเรียกว่าจื่อเซวียนบ้านข้าล่ะ?

หรือว่าโมโหเกินไปจนเลอะเลือน?

เซี่ยยวี่หลัวชี้กลุ่มเด็กที่นิ่งเงียบเหล่านั้นด้วยรอยยิ้ม “ท่านป้าเทียนเอ๋อ ท่านรู้หรือไม่ว่าท่านถูกหลอกแล้ว?”

 “ถูก… ถูกหลอก?” เถียนเอ๋อไม่รู้ว่าตัวเองได้ย่างกรายเข้าสู่หลุมพรางที่เซี่ยยวี่หลัวขุดไว้แล้ว มองเด็กกลุ่มนั้นด้วยท่าทางมึนงง ก่อนมองเซี่ยยวี่หลัว “ข้า ข้าถูกหลอกเรื่องอะไร?”

เซี่ยยวี่หลัวชี้กลุ่มเด็กที่ยังนิ่งเงียบ กล่าวเสียงดัง “ “พวกเจ้าบอกป้าเทียนเอ๋อหรือว่าจื่อเซวียนของข้าแกล้งเซียวต้าหมิง?”

เด็กกลุ่มนั้นก้มหน้าก้มตา มองหน้ากันไปมา ไม่กล้าเงยหน้าหรือเอ่ยสิ่งใด

พวกเขากลัวเซี่ยยวี่หลัวผู้นี้!

เถียนเอ๋อเห็นว่าเหตุการณ์เริ่มผิดปกติ เซี่ยยวี่หลัวไม่มีทีท่าว่าจะตีเซียวจื่อเซวียน กลับเหมือนจะแก้ต่างให้เซียวจื่อเซวียนมากกว่า “เซี่ยยวี่หลัว คำพูดของเด็กกลุ่มนี้จะเป็นเท็จได้อย่างไร? หรือเจ้าคิดว่าข้าจะพาเด็กมาหลอกเจ้า!”

เซี่ยยวี่หลัวเผยรอยยิ้ม “ท่านป้าเทียนเอ๋อ ข้าไม่ได้บอกว่าท่านมาหลอกข้า ต้าหมินถูกแกล้งจนตกใจจริง เรื่องนี้ข้าเชื่อ”

 “เจ้าเชื่อก็ดี!” เถียนเอ๋อกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เช่นนั้นเจ้าก็รีบพาตัวเขาออกมาขอโทษลูกชายข้าเดี๋ยวนี้”

 “ท่านป้าเทียนเอ๋อพาตัวข้ากลับไปแล้วกัน”

 “ข้าจะพาเจ้ากลับไปทำไม?” เถียนเอ๋อเหลือบมองเซี่ยยวี่หลัว กล่าวพร้อมแค่นเสียงเย็นชาขึ้นจมูก

 “เพราะคนที่แกล้งลูกชายท่าน ไม่ใช่จื่อเซวียน แต่เป็นข้าเอง!” เซี่ยยวี่หลัวแย้มรอยยิ้มกว้าง ช่างงดงามสดใสไร้ที่ติ

ทุกคนต่างมองไปทางเซี่ยยวี่หลัว แต่ละคนต่างตกอยู่ในภวังค์

เซี่ยยวี่หลัวมักคุยโวโอ้อวดว่าตนเองเป็นคนมีฐานะ และดูแคลนคนชนบทอย่างพวกเขาไม่ใช่หรือ เหตุใดอยู่ๆ ถึงไปกลั่นแกล้งเด็กคนหนึ่งเล่า?

และนี่ยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ที่สำคัญคือ ผู้คนในหมู่บ้านที่มุงดู ต่างจับจ้องไปที่ตัวเซี่ยยวี่หลัว ไม่อยากละสายตาแม้แต่น้อย

เดิมทีเซี่ยยวี่หลัวก็งดงามมากอยู่แล้ว ยิ่งนางแต่งหน้าทาปากก็ยิ่งประหนึ่งนางจิ้งจอกก็มิปาน

แต่ตอนนี้ นางไม่ได้แต่งหน้า ผิวขาวเนียนบริสุทธิ์ราวกับแค่ต้องลมก็อาจแตกได้ เหมือนผิวไข่ไก่ที่กะเทาะเปลือกออกแล้ว ริมฝีปากแดงชุ่มฉ่ำดูมันวาวอย่างเป็นธรรมชาติ แต่งแต้มความงดงามท่ามกลางความสดใสบริสุทธิ์ เมื่อมองแล้วก็ไม่อาจละสายตาได้อีก!

สตรีผู้นี้ ใบหน้าเดิมถึงจะเรียกได้ว่างดงามไร้ที่ติ! ดูงดงามกว่าตอนแต่งหน้าเป็นร้อยเท่าพันเท่า!

เซียวซานถึงกับผงะ เอ่ยถามเซียวจื่อเซวียนที่อยู่ข้างๆ ด้วยท่าทีสงสัย “นี่ ที่นางพูดมาเป็นความจริงหรือ? นางเป็นคนแกล้งจริงอย่างนั้นหรือ?”

เซียวจื่อเซวียนจ้องมองเซี่ยยวี่หลัวที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มคน กัดริมฝีปากแน่น

นางไม่ได้ตบตีหรือส่งเขาให้ท่านป้าเถียนเอ๋อลงโทษ ยิ่งไปกว่านั้น นางแบกรับความรับผิดชอบทั้งหมดไว้เอง

เถียนเอ๋อก็ไม่กล้าเชื่อว่าเซี่ยยวี่หลัวจะเป็นคนทำ “ฮึ เจ้าอย่าคิดว่าเจ้าทำแบบนี้แล้วข้าจะปล่อยเซียวจื่อเซวียนไป หากไม่ใช่เพราะเขา ต้าหมินของข้าก็คงไม่ป่วย…”

 “ท่านป้าเทียนเอ๋อ ข้าบอกแล้ว ว่าข้าเป็นคนแกล้งเซียวต้าหมินให้ตกใจเอง” เซี่ยยวี่หลัวใบหน้าบึ้งตึง เมื่อนางจริงจัง ดวงหน้าก็ดูเย็นเยียบราวกับเป็นคนละคน

หากตอนยิ้มเปรียบเสมือนพระโพธิสัตว์กวนอิม เช่นนั้นตอนที่นางเย็นชา ก็เหมือนรูปปั้นน้ำแข็งหญิงงามก็มิปาน

ทั้งงาม ทั้งเย็นยะเยือก ทำให้คนไม่กล้าคิด และไม่กล้ามอง

ทว่า นางงดงามเยี่ยงนี้ ไม่ว่าใครก็อยากมอง

มีคนที่ไม่กลัวตายแอบมองนางแวบหนึ่ง ก็ต้องรีบหลบสายตา ด้วยเกรงว่าหากมองนานกว่านี้จะโดนแช่แข็ง

เด็กกลุ่มนั้นโดนสายตาของเซี่ยยวี่หลัวมองจนขวัญผวา รีบกล่าวทันที “ท่านป้าเถียนเอ๋อ เป็น… เป็นนางจริงๆ นางเป็นคนแกล้งต้าหมิน…”

เซี่ยยวี่หลัวกล่าวเสียงดุต่อ “เช่นนั้นพวกเจ้าลองบอกมา ว่าเหตุใดข้าถึงได้แกล้งเซียวต้าหมิน?”

เด็กที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มตกใจจนแทบจะร้องไห้ “เพราะ… เพราะต้าหมิน… เพราะต้าหมินแกล้งเซียวจื่อเมิ่งก่อน นางจึง… จึงแกล้งต้าหมิน…”

ที่แท้เรื่องราวเป็นแบบนี้เอง

กลุ่มคนที่มุงดูตะโกนเสียงดัง “ท่านป้าเถียน ต้าหมินลูกท่านแกล้งจื่อเมิ่งก่อน เขายังไม่ได้คิดบัญชีกับท่านเลย ท่านกลับมาหาเรื่องเสียเอง แบบนี้เท่ากับคนกระทำผิดชิงฟ้องก่อนไม่ใช่รึ!”

เถียนเอ๋อฝืนโวยวายต่อ “ต้าหมินของข้ายังเป็นไข้อยู่เลย”

 “ท่านป้าเทียนเอ๋อ ต้าหมินของท่านเป็นผู้ชายตัวโตขนาดนั้นยังกลัวงู เช่นนั้นท่านคิดว่าจื่อเมิ่งที่เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กจะกลัวขนาดไหน ต้าหมินป่วยเป็นไข้ แล้วจื่อเมิ่งล่ะ? จื่อเมิ่งของข้าก็ไม่ได้ดีกว่ากันมากนัก ท่านจะลองเข้าไปดูเองหรือไม่?”

นางยังกล่าวไม่ทันจบ เงาร่างหนึ่งก็พุ่งเข้ามาในลานบ้าน “จื่อเมิ่ง…”

น้ำเสียงบ่งบอกถึงความเป็นห่วงเต็มประดา นั่นคือเซียวจื่อเซวียน

เมื่อเถียนเอ๋อเห็นเซียวจื่อเซวียน ก็กำลังจะเรียกเขาไว้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เรียก เซียวจื่อเซวียนไม่ใช่คนแกล้ง นางจะเรียกเซียวจื่อเซวียนทำไม?

เซี่ยยวี่หลัวเดินไปหยุดอยู่ข้างกายเถียนเอ๋อ มองเถียนเอ๋อด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ท่านป้าเทียนเอ๋อ เมื่อครู่ท่านพูดเองว่าใครกระทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ เช่นนั้นท่านพาต้าหมินของท่านมาขอโทษจื่อเมิ่งของข้าก่อน จากนั้นข้าจะไปบ้านท่านเพื่อขอโทษต้าหมิน ดีหรือไม่?”

 “เรื่องนี้… เรื่องนี้…” เถียนเอ๋อลังเลแล้ว

เซี่ยยวี่หลัวกล่าวซ้ำวาจาของเถียนเอ๋อเมื่อครู่นี้ด้วยท่าทางจริงจัง “ท่านป้าเทียนเอ๋อ เมื่อครู่ท่านบอกเอง หากเด็กกระทำผิดแม้เพียงน้อยนิด ก็จะละเว้นไม่ได้ ถ้าเราไม่สั่งสอน ก็ถือเป็นการทำร้ายเด็ก ต้าหมินกลั่นแกล้งจื่อเมิ่งรุนแรงนัก ตอนเด็กยังแกล้งคน โตมาจะฆ่าคนวางเพลิงได้…”

เซี่ยยวี่หลัวจงใจลากเสียงยาว กล่าวเน้นย้ำเรื่องฆ่าคนวางเพลิง จนใบหน้าของเถียนเอ๋อแดงก่ำไปครู่ก่อนเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด ผู้คนที่มุงดูเห็นว่าเถียนเอ๋อคิดจะหาเรื่องผู้อื่น แต่กลับโดนย้อนด้วยวาจาของนางเอง ต่างก็หัวเราะขบขัน

เถียนเอ๋อถอยหลังไม่หยุด แต่ไม่ได้กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว

ดูจากท่าทาง คงไม่ให้บุตรชายมาขอโทษ

เซี่ยยวี่หลัวยิ้มอย่างเย็นชา เพราะต้าหมินเป็นลูกท่าน จื่อเซวียนกับจื่อเมิ่งของข้าก็สมควรโดนรังแกอย่างนั้นหรือ?

รังแกเด็กสองคนที่ไม่มีพ่อแม่คอยปกป้อง!