ตอนที่ 47 การประจันหน้ากับหรงกุ้ยเฟยเป็นครั้งแรก (2) / ตอนที่ 48 การประจันหน้ากับหรงกุ้ยเฟยเป็นครั้งแ

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 47 การประจันหน้ากับหรงกุ้ยเฟยเป็นครั้งแรก (2) 

 

 

ยิ่งกว่านั้น นางยังรู้ดีว่า เรื่องทั้งหมดเกิดจากอวี่เอ๋อร์เป็นฝ่ายแกล้งน่าหลานไต้เอ๋อร์ก่อน 

 

 

ถ้าเกิดคนของจวนแม่ทัพรู้เข้า เกรงว่า…สกุลหลิวคงไม่ได้อยู่อย่างสงบสุข 

 

 

“องค์หญิง เรื่องไม่ดีในบ้านอย่าเอาไปบอกคนนอก ถ้าพวกขุนนางเหล่านั้นรู้เข้า พวกเขาจะนินทาลับหลังองค์หญิงได้ ดังนั้น…” 

 

 

หลิวหรงขมวดคิ้ว ทำท่าทำทางอย่างกับตัวเองหวังดีกับเฟิงหรูชิง 

 

 

ใครจะไปรู้ว่าเฟิงหรูชิงไม่ฟังเลยแม้แต่น้อย นางกลับหลังแล้วเดินจากไป 

 

 

“ชิงเอ๋อร์ เจ้าจะไปไหน” หลิวหรงเดินตามไปแล้วถาม 

 

 

เฟิงหรูชิงไม่สนใจนาง ราวกับเห็นนางเป็นอากาศธาตุ 

 

 

หลิวหรงรู้สึกลนลานถึงขีดสุด นางรีบดึงแขนของเฟิงหรูชิงเอาไว้ แล้วพูดด้วยความกังวล “ชิงเอ๋อร์ ทั้งๆ ที่เจ้ารู้ว่าแม่หวังดีต่อเจ้า ทำไมเจ้าถึงไม่ฟังแม่” 

 

 

เฟิงหรูชิงอยากสะบัดแขนให้หลุดไปจากมือของหลิวหรง แต่ว่าหลิวหรงเองก็เป็นผู้บำเพ็ญตบะ พรสวรรค์ก็ไม่ด้อย นางดึงตัวเองหลายครั้งแต่ก็ดึงไม่หลุด หน้าอันอวบอ้วนของนางเริ่มมีอารมณ์ 

 

 

แต่นางก็เก็บอาการเอาไว้ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ข้าไม่มีแม่อะไรที่ไหน ข้ามีแค่เสด็จแม่คนเดียว เจ้าเป็นแค่กุ้ยเฟย เท่านั้น มีสิทธิ์อะไรมาเป็นแม่ของข้า อีกอย่าง เจ้าคงลืมไปแล้วว่าตำแหน่งกุ้ยเฟยของเจ้า ได้มาได้อย่างไร” 

 

 

สีหน้าของหลิวหรงไม่ดีนัก ไฟโทสะในทรวงเกือบจะลุกโชนออกมา นางข่มมันไว้ดื้อๆ แล้วยิ้มออกมา 

 

 

“ชิงเอ๋อร์ แม่…ข้าแค่หวังดีกับเจ้าเท่านั้น เจ้าขาดแม่ตั้งแต่เล็ก ข้าสงสารเจ้า ก็เลยอยากเป็นแม่ให้เจ้า” 

 

 

เฟิงหรูชิงมองดูหลิวหรงด้วยรอยยิ้ม “ความหวังดีของเจ้า ข้าคงรับไม่ไหว เก็บความหวังดีของเจ้าไว้ให้เฟิงหรูซวงเถอะ” 

 

 

“ชิงเอ๋อร์!” หลิวหรงมองดูเฟิงหรูชิงอย่างเจ็บใจ “ทำไมตอนนี้เจ้าถึงกลายเป็นคนเย็นชาแบบนี้ หรือว่าคนของจวนแม่ทัพ…บอกอะไรกับเจ้าใช่หรือไม่ ข้าเคยบอกตั้งนานแล้วว่าคนพวกนั้นไม่จริงใจกับเจ้าหรอก พวกเขาก็แค่ต้องการป้ายเลือดเหล็กในมือเจ้า” 

 

 

นัยน์ตาเฟิงหรูชิงเจือรอยยิ้มยียวนกวนประสาท “ถ้าเจ้าไม่คิดจะเอาป้ายเลือดเหล็กของข้า ก็จงเอาป้ายเลือดเหล็กคืนมาให้ข้า” 

 

 

หลิวหรงสีหน้าเจื่อน นางคิ้วขมวด แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ข้าบอกแล้วอย่างไร ข้าเกรงว่าเจ้าอายุยังน้อย รักษาป้ายเลือดเหล็กไม่ได้ ข้าเลยเอาไปเก็บให้เจ้า อีกอย่าง ชิงเอ๋อร์ เจ้าอย่าลืมนะว่า สมัยก่อนซวงเอ๋อร์เคยช่วยเจ้าไว้” 

 

 

แปดปีก่อน เฟิงหรูซวงที่ยังเป็นเด็กช่วยเฟิงหรูชิงเอาไว้ ดังนั้น เพื่อตอบแทนบุญคุณ องค์หญิงคนเดิมจึงรั้นจะให้เฟิงเทียนอวี้แต่งตั้งแม่ของเฟิงหรูซวงเป็นกุ้ยเฟยให้ได้ ทั้งยังทำให้บรรดาญาติพี่น้องและขุนนางเลิกร่วมสังฆกรรมด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังเอาป้ายเลือดเหล็กยกให้หลิวหรงอีก 

 

 

เฟิงหรูชิงปิดตาลงช้าๆ ผ่านไปสักครู่ นางจึงลืมตาขึ้น ดวงตาอันใสราวกับน้ำ มองดูหลิวหรงด้วยความสงบ 

 

 

“นางช่วยข้าไว้ แปดปีมานี้ข้าตอบแทนบุญคุณให้เจ้ามากพอแล้ว ถ้าเจ้าไม่เอาป้ายเลือดเหล็กมาคืนให้ข้า ต่อไป…ข้าเจอเฟิงหรูซวงกับหลิวอวี่เมื่อไหร่ ข้าจะตีพวกเขาเมื่อนั้น ต่อให้ข้าตีพวกเขาจนตาย จะมีใครกล้าว่าอะไรข้า” 

 

 

แต่ไรมานางคืออันธพาลแห่งแคว้นหลิวอวิ๋น คนที่ถูกนางรังแกมีนับไม่ถ้วน ต่อให้นางตีเฟิงหรูซวงกับหลิวอวี่จนตาย ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคำ! 

 

 

หลิวหรงเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจกระวนกระวาย นางมองดูเฟิงหรูชิงที่มีสีหน้าโหดเ**้ยม แววตาของหลิวหรงแฝงความรู้สึกหวาดกลัว 

 

 

เด็กคนนี้…เปลี่ยนไปจริงๆ เพราะอะไรกัน หรือว่าตอนนางหมดสติไป ฝันเห็นน่าหลานเยียน? 

 

 

น่าหลานเยียน! 

 

 

จู่ๆ หลิวหรงก็นึกบางอย่างขึ้นได้ นางกัดฟันแน่น 

 

 

นางจิ้งจอกที่สมควรตายนั่น ยั่วยวนฝ่าบาทให้หลงใหลหัวปักหัวปำยังไม่พอ ตอนนี้ตายไปแล้วยังตามราวีนางอีก! 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 48 การประจันหน้ากับหรงกุ้ยเฟยเป็นครั้งแรก (3) 

 

 

“ชิงเอ๋อร์ เจ้าอยากได้ป้ายเลือดเหล็ก ข้าคืนให้ก็ได้ ทำไมเจ้าต้องสงสัยในความจริงใจที่พวกเรามีให้เจ้าด้วย” หลิวหรงตั้งสติได้ นางจึงมองดูเฟิงหรูชิงด้วยสายตาที่ผิดหวังอีกครั้งหนึ่ง “ต่อไปเจ้าจะต้องเสียใจ เจ้าจะเข้าใจว่า นอกจากพวกเรา ไม่มีใครหวังดีกับเจ้าอีกแล้ว” 

 

 

เหล่าขุนนางใหญ่ที่เคยภักดีกับน่าหลานฮองเฮาล้วนผิดหวังกับเฟิงหรูชิง แม้แต่คนของจวนแม่ทัพก็ไม่อยากพบนางอีกตลอดชีวิต หากเฟิงหรูชิงต้องเสียพวกนางไปอีก ต่อไป โลกของเฟิงหรูชิงคงจะเหลือเพียงเฟิงเทียนอวี้เพียงคนเดียวเท่านั้น 

 

 

คนพวกนั้น ชาตินี้ไม่มีทางอภัยให้นางหรอก! 

 

 

หลิวหรงหัวเราะเยาะอยู่ในใจ รอให้ถึงเวลานั้น เฟิงหรูชิงคงร้องไห้กลับมาหานาง ตอนนั้น นางจะต้องสั่งสอนเฟิงหรูชิงให้เข็ดหลาบ! 

 

 

ความจริงแล้ว ตั้งแต่หลิวหรงได้ป้ายเลือดเหล็กมา นางก็อยากบัญชาการทัพเลือดเหล็ก แต่พวกกระด้างกระเดื่องในทัพเลือดเหล็กล้วนไม่ฟังคำสั่งนาง ดังนั้นป้ายเลือดเหล็กในมือนางก็เป็นเพียงแค่ป้ายธรรมดาๆ ใช้การอะไรไม่ได้ 

 

 

แต่ต่อให้เป็นแบบนั้น การให้นางหยิบป้ายเลือดเหล็กมาคืนก็เป็นอะไรที่ฝืนใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้โอกาสยังไม่เป็นใจนัก นางไม่อยากงัดกับเฟิงหรูชิงซึ่งๆ หน้าจึงทำได้เพียงหยิบป้ายออกมาแล้วส่งให้เฟิงหรูชิงด้วยความเจ็บใจ 

 

 

เมื่อป้ายเลือดเหล็กกลับมาอยู่ในมืออีกครั้ง เฟิงหรูชิงใจเต้นอย่างควบคุมไม่อยู่ นางกำมันไว้แน่น นัยน์ตาแฝงไว้ซึ่งความเด็ดเดี่ยว 

 

 

บางทีทางที่นางต้องเดินยังอีกไกลแสนไกล แต่อย่างน้อยตอนนี้นางได้ป้ายเลือดเหล็กกลับคืนมาแล้ว ถือว่ามีคำตอบให้กับคนทั้งใต้หล้า! 

 

 

“ชิงเอ๋อร์ ข้านึกได้อีกเรื่องหนึ่ง” หลิวหรงนัยน์ตาไม่สบอารมณ์ 

 

 

“ได้ยินว่า ช่วงก่อนหน้านี้เจ้าไปป่าไผ่ทิศใต้มา” 

 

 

อาจเป็นเพราะเฟิงหรูชิงได้ป้ายเลือดเหล็กคืนเลยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ นางยิ้มแล้วพูดว่า “พูดถึงเรื่องนี้ ข้าต้องคิดบัญชีกับเจ้า เจ้าเคยหลอกข้าว่ากั๋วซือเป็นคนโหดเ**้ยมอำมหิต ทำให้ข้าไม่กล้ามองดูเขา คิดไม่ถึงว่ากั๋วซือจะรูปงามถึงเพียงนี้ ถ้าได้เจอกับเขาเร็วหน่อย มีหรือที่ข้าจะสนใจหลิ่วอวี้เฉิน” 

 

 

หลิวหรงหน้านิ่งไป สุดท้ายเด็กนี่ก็สนใจกั๋วซือจริงๆ ด้วย 

 

 

ไม่ได้! กั๋วซือต้องเป็นของซวงเอ๋อร์คนเดียวเท่านั้น ผู้หญิงคนอื่น เป็นได้แค่ตัวประกอบฉากให้ซวงเอ๋อร์อย่างเดียว 

 

 

“ชิงเอ๋อร์ เจ้าเข้าใจข้าผิดอีกแล้ว” หลิวหรงพูดด้วยรอยยิ้มเล็กๆ “เจ้าไม่รู้หรอกว่ากั๋วซือชอบซวงเอ๋อร์มากแค่ไหน ในใจของเขามีซวงเอ๋อร์เพียงคนเดียว ข้าเกรงว่าเจ้าจะหลงใหลในตัวกั๋วซือแล้วต้องเสียใจ ก็เลยต้องพูดแบบนั้นออกไป” 

 

 

เฟิงหรูชิงยักคิ้วยียวนเพราะรู้สึกตลก “งั้นทำไมข้าได้ยินว่า เฟิงหรูซวงไปเกาะแกะกั๋วซือ สุดท้ายโดนงูเขียวที่เขาเลี้ยงไว้ฉกแถมยังถูกโยนออกมา” 

 

 

สีหน้าของหลิวหรงดูแย่กว่าเดิม เกือบจะยิ้มไม่ออก แต่ด้วยนางเป็นคนใจแข็ง ครู่เดียวก็กู้อาการกลับมาได้ 

 

 

“ไม่รู้ใครพูดเหลวไหล ซวงเอ๋อร์กับงูเขียวเล่นด้วยกัน ไม่ทันระวังเลยได้รับบาดเจ็บเข้า ส่วนเรื่องถูกโยนออกมา…ก็เป็นแค่คำพูดเลื่อนลอยไม่มีหลักฐาน! ตอนนั้นกั๋วซือจะอุ้มซวงเอ๋อร์ออกมาจากป่าไผ่ทิศใต้ให้ได้ แต่นางเขิน ไม่อยากให้คนอื่นรู้ความสัมพันธ์ของนางกับกั๋วซือ เลยออกมาขอความช่วยเหลือด้วยตัวเอง” 

 

 

นางเงยหน้าขึ้นจ้องมองดูเฟิงหรูชิง นางพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ชิงเอ๋อร์ ข้าเห็นเจ้าเป็นเหมือนลูกตัวเอง ถึงบอกเรื่องพวกนี้กับเจ้า กั๋วซือรักซวงเอ๋อร์มาก ถ้าเจ้าคิดไปเกาะแกะกั๋วซือละก็ ระวังกั๋วซือจะไม่สบอารมณ์เข้า เขาไม่ใช่หลิ่วอวี้เฉิน ไม่มีทางแต่งกับเจ้าเพราะเหตุที่เจ้าเป็นองค์หญิง” 

 

 

ด้วยรูปลักษณ์และความสามารถของเฟิงหรูชิง กั๋วซือไม่มีทางข้องแวะกับนางหรอก ต้องเป็นเพราะเด็กนี่ไม่เชื่อฟังนางที่บอกให้ก้มหน้าเดินเวลาเห็นกั๋วซือ พอเงยหน้าเห็นความงดงามของกั๋วซือ เลยตัดสินใจไปเกาะแกะกั๋วซือที่ป่าไผ่ทิศใต้เป็นแน่ 

 

 

คิดไม่ถึงว่ากั๋วซือจะอยู่ที่ป่าไผ่ทิศใต้ นางเลยไม่ได้สนใจ และยังไม่เคยโดนกั๋วซือจับโยนออกมา