ตอนที่ 49 ประกาศจากองค์หญิง (1) / ตอนที่ 50 ประกาศจากองค์หญิง (2)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 49 ประกาศจากองค์หญิง (1) 

 

 

“อืม” เฟิงหรูชิงชำเลืองดูหรงกุ้ยเฟย ยิ้มแล้วพูดกับนางด้วยท่าทีขี้เกียจจะพูด “เจ้าพูดมาถูกทั้งหมด งั้นรอให้กั๋วซือกลับมาแล้ว ข้าจะช่วยถามให้ว่าเมื่อไหร่เขาจะขอแต่งงานกับเฟิงหรูซวง” 

 

 

หลิวหรงยิ้มไม่ออก เด็กนี่ไม่เข้าใจสิ่งที่นางสื่อหรืออย่างไร 

 

 

ยิ่งกว่านั้น คนชื่อเสียงฟอนเฟะอย่างเฟิงหรูชิง ย่อมไม่มีทางได้พบกับกั๋วซือผู้บริสุทธ์และสูงส่ง 

 

 

“อ้อ จริงสิ” เฟิงหรูชิงหยีตาแล้วเดินมาทางหลิวหรง “สมัยก่อนที่ข้าได้เจอกับหลิ่วอวี้เฉิน เป็นเพราะเฟิงหรูชวงช่วยชี้นำ และเป็นเพราะนางคอยกรอกหูข้าว่าเขาดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ข้าเลยปักใจกับเขา ข้าจะเขียนประกาศติดทั่วกำแพงเมืองเพื่อขอบคุณนาง” 

 

 

นัยน์ตาหลิวหรงเต็มไปด้วยความกลัวและกระวนกระวาย ถ้าหากฝ่าบาทรู้ว่าเฟิงหรูชิงตกหลุมรักหลิ่วอวี้เฉิน เพราะมีซวงเอ๋อร์เป็นต้นเหตุละก็ ฝ่าบาทต้องพิโรธเป็นแน่ 

 

 

“ชิงเอ๋อร์ เจ้าเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า ซวงเอ๋อร์ไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้นสักหน่อย” 

 

 

เฟิงหรูชิงสีหน้ายิ้มไม่หยุด “งั้นก็ให้คนทั้งแคว้นตัดสินแล้วกันว่านางมีเจตนาอย่างนั้นหรือเปล่า” 

 

 

หลิวหรงมองดูเฟิงหรูชิงอย่างทำอะไรไม่ถูก เมื่อนางตั้งสติได้และจะพูดอะไรออกไป เฟิงหรูชิงก็กลับหลังเดินมุ่งหน้าออกจากตำหนังอู๋โยวไปแล้ว 

 

 

แต่สายตาเย้ยหยันครั้งสุดท้ายของเฟิงหรูชิงยังคงฝากรอยลึกอยู่ในจิตใจนาง นางกำมือแน่น 

 

 

แสงยามรุ่งอรุณสาดส่องไปทั่วท้องฟ้า ตกกระทบลงมาทั่วกายของเฟิงหรูชิง 

 

 

นางบิดขี้เกียจใส่ท้องฟ้าสีคราม อาจเป็นเพราะอารมณ์ดีมาก จึงอดยิ้มไม่ได้ 

 

 

เฟิงหรูชิงก้มหน้ามองป้ายเลือดเหล็กที่อยู่ในมือ นัยน์ตามีประกาย 

 

 

“แม้ป้ายเลือดเหล็กจะอยู่ในมือแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่โอกาส” 

 

 

ทัพเลือดเหล็กเกิดขึ้นจากการฝึกฝนของเสด็จแม่ แม้ทหารในกองทัพทุกคนจะเป็นผู้หญิง แต่กลับทำให้ผู้ชายในโลกนี้ต้องอายที่สู้ไม่ได้ 

 

 

คนเหล่านี้ผิดหวังเพราะนาง นางไม่อยากใช้ป้ายเลือดเหล็กทำให้พวกเขายอมสวามิภักดิ์ แต่อยากให้คนเหล่านั้นติดตามรับใช้นางด้วยความเต็มใจ 

 

 

เฟิงหรูชิงคลึงหน้าผากเพราะปวดหัว “องค์หญิงคนเดิมจากไปแล้ว แต่ทิ้งปัญหาไว้ให้ข้าเต็มไปหมด” 

 

 

ไม่ว่าอย่างไร ป้ายเลือดเหล็กก็กลับคืนมาแล้ว นางจะต้องทำให้ทัพเลือดเหล็กกลับมาเป็นที่ยอมรับของคนทั้งโลกอีกครั้ง 

 

 

ประกายความเด็ดเดี่ยวปรากฏขึ้นในดวงตาของเฟิงหรูชิง นางไม่ไปหาเฟิงเทียนอวี้ แต่เดินออกจากวังหลวงไป 

 

 

… 

 

 

จวนองค์หญิงอันดับหนึ่ง 

 

 

อักษรจีนตัวใหญ่ๆ ห้าตัว ลอยเด่นอยู่บนป้ายเหนือประตู 

 

 

แต่ว่าหน้าประตูจวนองค์หญิงกลับเงียบเหงา บนถนนมีคนเดินผ่านเพียงสองสามคน เปรียบไม่ได้กับความคึกคักที่เคยพบเห็นแต่ก่อน 

 

 

เฟิงหรูชิงมองภาพถนนที่ด้านหน้าจวน นางคิดอย่างไรก็คิดไม่ตก ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นจริงๆ 

 

 

นางกำลังคิดว่าถนนทิศใต้ที่คึกคักตลอดเวลา ทำไมคนกลับน้อยลง 

 

 

“ชิงหลิง” เฟิงหรูชิงเพิ่งเดินเข้าจวนมาก็มองไปเห็นชิงหลิง นางรีบตระโกนเรียกชิงหลิงเพื่อถามว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับถนนทิศใต้ ทำไมจู่ๆ ถึงเงียบเหงาวังเวงแบบนี้” 

 

 

ชิงหลิงอึ้ง นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนขานตอบว่า “องค์หญิง ถนนทิศใต้ไม่ได้เงียบเหงาหรอกเพคะ เป็นเพราะคนพวกนั้น…รู้ว่าองค์หญิงย้ายออกมาอยู่ที่นี่ พวกเขาเลยเดินอ้อมจวนองค์หญิงเพคะ” 

 

 

“…” 

 

 

เฟิงหรูชิงสีหน้าเจื่อน ในสายตาของคนทั้งโลก นางน่ากลัวขนาดนี้เชียวหรือ 

 

 

“ข้าน่ากลัวมากใช่หรือไม่” เฟิงหรูชิงถามด้วยสีหน้าเจื่อนๆ 

 

 

ชิงหลิงพยักหน้า “เมื่อห้าปีก่อน เด็กคนนึ่งไม่ทันระวังวิ่งชนองค์หญิง เลยโดนองค์หญิงสั่งคนให้จับเขาไปตีเกือบตาย คนของจวนแม่ทัพมาเจอเข้าเลยเข้ามาช่วยเด็กคนนั้นไว้เพคะ และเมื่อสามปีก่อน องค์หญิงแย่งซื้อเครื่องประดับกับคนในร้านขายเครื่องประดับ เป็นเพราะเจ้าของร้านถือหลักใครมาก่อนได้ก่อน เครื่องประดับนั้นเลยขายให้คนอื่นไป สุดท้ายองค์หญิงเลยสั่งให้คนพังร้านทิ้ง แล้วเล่นงานเจ้าของร้านเสียจนบาดเจ็บสาหัสเพคะ” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 50 ประกาศจากองค์หญิง (2) 

 

 

“แล้วยังมี…” 

 

 

ชิงหลิงตั้งใจจะพูดต่อ แต่เฟิงหรูชิงฟังต่อไม่ไหวแล้ว นางรีบขัดจังหวะชิงหลิง 

 

 

“ไม่ต้องพูดแล้ว เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว” 

 

 

เพราะถึงแม้นางจะรับช่วงความทรงจำต่อจากองค์หญิงองค์เดิม แต่ก็ไม่มีเวลาไปดูความทรงจำทั้งหมด ทำได้เพียงค้นดูเฉพาะเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นนางจึงคิดไม่ถึงว่า องค์หญิงคนเดิม…จะบัดซบได้ถึงเพียงนี้ 

 

 

ทำเรื่องชั่วไว้มากมายจริงๆ สมควรตายเป็นที่สุด 

 

 

มิน่าล่ะคนพวกนั้นเห็นนางเป็นอันต้องเดินหลบ ที่แท้ก็เป็นเพราะสาเหตุนี้ 

 

 

“องค์หญิง แม้ปกติจะไม่ชอบออกไปข้างนอกวัง แต่ทุกปีก็ต้องออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกหนึ่งครั้ง แต่ละปีจะต้องมีคนที่ถูกองค์หญิงรังแก บ่าว…” ชิงหลิงหยุดไปพักหนึ่ง นางพูดอย่างอายๆ “ก็ช่วยองค์หญิงทำเรื่องเลวๆ ไว้ไม่น้อยเพคะ” 

 

 

นางไม่ทำตามองค์หญิงไม่ได้ ไม่อย่างนั้น ก็จะมีจุดจบแบบหลิวลี่หรือไม่แน่ว่าอาจเลวร้ายยิ่งกว่า 

 

 

“พอที พอที” เฟิงหรูชิงโบกมือห้าม “เรื่องที่แล้วก็ให้มันแล้วกันไป ต่อไปพวกเราอย่าทำผิดซ้ำก็พอ” 

 

 

“บ่าวจะทำตามองค์หญิงรับสั่งทุกอย่างเพคะ” 

 

 

“อืม” เฟิงหรูชิงเอามือจับคาง “ก็ดี ข้าจะให้เจ้าไปติดประกาศแผ่นหนึ่ง เนื้อหาในประกาศคือจดหมายหย่า” 

 

 

นางเตือนเสนาบดีหลิ่วแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้เอาจดหมายหย่าที่นางทำหล่นไว้มาคืนให้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้านางไม่บอกหย่ากับหลิ่วอวี้เฉิน แล้วจะมีสิทธิ์ไปตามจีบกั๋วซือได้อย่างไร 

 

 

ที่น่าดีใจอย่างหนึ่งก็คือ หลิ่วอวี้เฉิน รังเกียจที่นางดูอัปลักษณ์ ยังไม่เคยหลับนอนด้วยกันจวบจนบัดนี้ จึงทำให้นางยังคงรักษาพรหมจรรย์เอาไว้ได้ 

 

 

“ฮะ?” ชิงหลิงมึนงง จด…จดหมายหย่า? 

 

 

“ข้าเฟิงหรูชิง ก่อนอื่นต้องขอบคุณเฟิงหรูซวง ที่พาข้าไปรู้จักกับหลิ่วอวี้เฉิน แถมยังคอยพูดกรอกหูว่าเขาดีอย่างโน้นอย่างนี้ ทำให้ข้าหลงรักเขา ต่อมาต้องขอบคุณหรงกุ้ยเฟย ที่นางบอกข้าว่า ข้าเป็นองค์หญิงของราชวงศ์ มีเสด็จพ่อคอยให้ท้าย หลิ่วอวี้เฉินไม่กล้าขัดราชโองการไม่แต่งงานกับข้า เช่นนี้ข้าเลยใช้อำนาจบีบบังคับให้เขารับข้าเป็นภรรยา!” 

 

 

เฟิงหรูชิงยิ้ม รอยยิ้มของนางดูเจ้าเล่ห์ นางพูดต่อไปว่า “แต่ตอนที่ข้าหมดสติไปได้ฝันเห็นเสด็จแม่ ข้าจึงรู้ว่า ฝืนความจริงสุดท้ายมีแต่เสีย ข้าเลยเขียนจดหมายหย่าขึ้นฉบับหนึ่ง ปล่อยหลิ่วอวี้เฉินให้เขาได้เป็นอิสระ และเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ตามหารักแท้” 

 

 

ชิงหลิงฟังแล้วนิ่งไป นางมองเฟิงหรูชิงด้วยสายตาเหม่อลอย 

 

 

“ที่ข้าพูดไปเจ้าจำได้หรือเปล่า ถ้าจำได้ก็ไปหากระดาษพู่กันมาเขียนให้ข้า ติดให้เต็มกำแพงเมือง บัดนี้ข้าเฟิงหรูชิงบอกหย่าสามี ต่อไปข้ากับหลิ่วอวี้เฉินไม่เกี่ยวข้องกันอีก” เฟิงหรูชิงใช้นิ้วมือดีดหน้าผากของชิงหลิงขณะที่บอกให้นางเขียน 

 

 

“อ๋อๆ” ชิงหลิงเพิ่งตั้งสติได้ “องค์หญิง บ่าวจะไปเขียนประกาศให้เดี๋ยวนี้เพคะ” 

 

 

เมื่อเห็นชิงหลิงที่รีบเดินไปที่ห้องหนังสือ รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงหรูชิงค่อยๆ จางหายไป 

 

 

“หรงกุ้ยเฟยกับเฟิงหรูซวงกล้าคิดไม่ซื่อกับข้า พวกนางต้องชดใช้!” 

 

 

… 

 

 

วันนี้แคว้นหลิวอวิ๋นคึกคักเป็นพิเศษ ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนมามุงอยู่ตามกำแพงเมือง เบียดเสียดยัดเยียดจนไม่มีที่เดิน 

 

 

“อวี้เฉิน ตรงนั้นมีอะไรน่ะ” 

 

 

เสียงอันอ่อนโยนดังขึ้นหลังกลุ่มคน มีพวกชอบจุ้นจ้านหันหลังมามอง เมื่อเขามองมาเห็นคนสองคนที่กำลังเดินเข้ามา สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที รีบดึงตัวคนที่อยู่ข้างๆ 

 

 

ไม่นานผู้คนทั้งหมดก็สังเกตเห็นคนสองคนที่เข้ามาใกล้ๆ จึงเปิดทางเดินให้โดยสัญชาตญาณ สีหน้าของพวกเขาดูแปลกๆ 

 

 

หลิ่วอวี้เฉินขมวดคิ้วเบาๆ เขาไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จึงจูงมือถานซวงซวงเดินเข้าไปใกล้ๆ กำแพงเมือง 

 

 

สิ่งแรกที่มองเห็นก็คือแผ่นป้ายที่เขียนไว้ว่าประกาศจากองค์หญิง 

 

 

เขาหน้าถอดสี 

 

 

เฟิงหรูชิงอีกแล้วหรือ ผู้หญิงคนนี้ หาเรื่องอะไรกันอีก