หาทางเอาเอง

 

 

 

แม่อวี๋ล้างมือ ถอดเสื้อนอกออกแล้วฝังเข็มให้ต้าอี เอวเคล็ดห้ามนวดภายใน24ชั่วโมง ใช้วิธีฝังเข็มเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

 

 

ต้าอีว่าง่ายเธอเปิดเสื้อขึ้น แต่แม่อวี๋กลับไม่เห็นด้วย

 

 

“ไม่ได้ เสื้อผ้าเกะกะ”

 

 

ถึงแม้ต้าอีจะรู้สึกว่าตำแหน่งที่ฝังเข็มอยู่แค่บริเวณเอว ไม่จำเป็นต้องถอด แต่นี่คือท่านแม่ของอวี๋หมิงอี้ เธอไม่กล้าผิดใจ จึงถอดเสื้อออกอย่างว่าง่าย เหลือแค่เสื้อใน แม่อวี๋กวาดตามองทั่วแล้วถอนหายใจ

 

 

“สู้พ่อไม่ได้เลยจริงๆ…”

 

 

ขาวจั๊วเชียว ไม่จูบเลยสักนิด ทำทื่อๆเลยแบบนั้นแล้วเอวจะไม่เคล็ดได้ไง?

 

 

“คุณน้าว่าอะไรนะคะ?”

 

 

“นอนลง อย่าขยับ น้าจะฝังเข็มให้จ้ะ”

 

 

แม่อวี๋ลูบเล็กน้อย แล้วก็ถอนหายใจอีก “นี่ถึงขนาดไขข้อตรงเอวเคลื่อนผิดรูป ทำไมรู้จักแต่เรื่องใช้กำลังกันนะ?”

 

 

ฝีมือแย่จริงๆสินะ

 

 

อวี๋หมิงอี้ที่กำลังกล่อมลูกอยู่ในห้องรับแขกถูกโยนความผิดให้โดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่

 

 

ต้าอีไม่คิดเลยว่าแม่อวี๋จะคิดไปในทางนั้น เธอยังว่าตามไปด้วย

 

 

“หนูทำครั้งแรก ไม่ค่อยเป็นเท่าไร พี่รองให้หนูทำยังไงหนูก็ทำแบบนั้น อาจจะผิดวิธีไปหน่อย…”

 

 

ลูกกลิ้งบริหารหน้าท้องที่เขาให้มามันฝืดจะตาย อาจเพราะก่อนหน้านี้ไว้ให้ผู้ชายฝึก เธอออกแรงมากไปหน่อยเอวเลยเคล็ด

 

 

“อะไรนะ? ให้หนูทำ?”

 

 

แม่อวี๋หน้าเสีย ต้าอีพอเห็นแม่อวี๋โกรธก็ตกใจไม่กล้าพูดอะไรอีก

 

 

แม่อวี๋จัดการฝังเข็มด้วยความเร็วสูงสุด “นอนไปนะอย่าขยับ เดี๋ยวสักพักน้าจะมาเอาเข็มออก”

 

 

พูดจบก็พุ่งไปที่ห้องรับแขกด้วยความโมโห อุ้มพ่านพ่านไปขังไว้ในห้องกับต้าอี จากนั้นก็ชี้หน้าอวี๋หมิงอี้ คำพูดมากมายที่อยู่ในใจแต่กลับพูดไม่ออก

 

 

โกรธจนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน

 

 

“แก…” แม่อวี๋ชี้ไปที่อวี๋หมิงอี้ จากนั้นก็ส่ายหน้าด้วยความโกรธ

 

 

อวี๋หมิงอี้งง “แม่ พ่อทำให้โมโหเหรอครับ?”

 

 

นอกจากเรื่องนี้ก็นึกไม่ออกแล้วจริงๆว่าทำไมแม่ถึงโกรธขนาดนี้?

 

 

“แกนะแก ไม่ใช่แต่งงานครั้งแรกซะหน่อยทำไมยังเป็นแบบนี้?” แม่อวี๋พูดด้วยความอับอาย แต่ในใจกลับแค้นตาแก่ที่บ้าน

 

 

ตาแก่หน้าไม่อาย รู้จักแต่เอาตัวรอดคนเดียว ทำไมไม่รู้จักสั่งสอนลูกชายเรื่องอย่างว่าบ้าง?

 

 

ดูตารองซิ ทำลูกสาวคนอื่นจนเป็นแบบนี้แล้ว

 

 

คนอายุใกล้สามสิบแล้ว จะให้แม่มาพูดเรื่องแบบนี้ ไม่รู้จะเอ่ยปากยังไง

 

 

“ทำไมพูดถึงเรื่องแต่งงานอีกแล้วล่ะครับ?” อวี๋หมิงอี้ไม่เข้าใจว่าแม่โมโหเรื่องอะไร

 

 

“แก ช่างเถอะ ฉันไปพูดกับต้าอีก็แล้วกัน”

 

 

ไม่รู้จะพูดยังไงกับลูกชายจริงๆ นี่มันไม่ควรเป็นหน้าที่ของพ่อหรอกเหรอ? ไม่ถูกสิ ก็ไม่เคยได้ยินพ่อบ้านไหนสอนลูกเรื่องแบบนี้นะ หรือว่าเรื่องแบบนี้เป็นเองกันเหรอ?

 

 

นึกถึงสามีที่ไม่ต้องมีคนสอนก็เทคนิคแพรวพราว แล้วหันมาดูลูกแต่ละคนที่น่าเป็นห่วงทั้งนั้น แม่อวี๋ล่ะปวดใจ

 

 

อวี๋หมิงอี้งงในงง มองแม่กุลีกุจอทำนู่นนี่ เมื่อกี้อุ้มพ่านพ่านเข้าไป ตอนนี้อุ้มพ่านพ่านออกมา แล้วชี้หน้าอวี๋หมิงอี้พลางพูด “แกพาลูกออกไปซื้อขนมไป ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงไม่ต้องกลับมา”

 

 

“ให้เด็กกินขนมไม่ดีนะครับ”

 

 

“ออกไป” แม่อวี๋โมโห คิดว่าแต่ละวันของเธอง่ายนักเหรอ?

 

 

อวี๋หมิงอี้อุ้มลูกเผ่นออกไปทันที ประสบการณ์บอกเขาว่า ถึงจะไม่เข้าใจว่าพวกผู้หญิงโกรธเรื่องอะไร แต่บทเรียนได้สอนว่า เวลาที่ผู้หญิงอาละวาด ให้ออกไปอย่างเงียบๆ ออกห่างจากต้นตอของอันตราย นี่คือวิธีที่ปลอดภัยที่สุด

 

 

จากนั้นต้าอีก็เห็นแม่อวี๋มาในท่าทีของคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน ค่อยๆเดินเข้ามาหาเธอ…

 

 

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงอวี๋หมิงอี้ก็พาพ่านพ่านกลับมาตรงเวลา

 

 

“เดี๋ยวแม่พาหลานกลับไป ช่วงสองวันนี้แกก็ดูแลต้าอีดีๆเข้าใจไหม?” แม่อวี๋อุ้มพ่านพ่านขึ้นมา แล้วยิ้มพลางพูด “พ่านพ่านจ๊ะ ไปเที่ยวสวนสนุกกับย่าดีไหมจ๊ะ?”

 

 

“แต่ปะป๊า…”

 

 

พ่านพ่านมองอวี๋หมิงอี้ด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์

 

 

“ให้ปู่ทำม้าไม้ให้เอามั้ย?” โอ๋เด็ก หลักสำคัญคือจะโอ๋ยังไง

 

 

“แล้วก็อีอี…” เห็นได้ชัดว่าพ่านพ่านหวั่นไหวแล้ว พยายามขัดขืนโดยใช้วิธีของเด็กๆ

 

 

“ไปเที่ยวสวนสนุกจากนั้นไปทำม้าไม้ แล้วก็ซื้อไอติมให้หนูกินด้วยดีไหมจ๊ะ?”

 

 

“ไปฮะ”

 

 

อวี๋หมิงอี้ทำหน้าไม่ถูกที่ลูกชายอยู่ๆก็ถูกซื้อได้ “ไม่อยากเล่นกับปะป๊าแล้วเหรอ?”

 

 

ช่วงหลายวันนี้เขาหยุดบินพอดี อยู่ในช่วงพักผ่อน ยังคิดอยากพาลูกชายกับต้าอีไปเที่ยวด้วยกัน

 

 

“ไปกับอีอี” ตอนนี้พ่านพ่านรู้สึกครอบครัวอบอุ่นมาก ไปจากที่นี่ก็ไม่เป็นไร

 

 

เด็กจะความรู้สึกไวมาก ก่อนหน้านี้พ่านพ่านรู้สึกว่าปะป๊ากับอีอีดูแปลกๆ จึงอยากให้อยู่ด้วยตลอดเวลา กลัวจะถูกทุกคนทิ้ง ช่วงหลายวันนี้รู้สึกได้ว่าปะป๊ากับอีอีดูรักใคร่กลมเกลียวกันดี เด็กน้อยจึงวางใจ

 

 

แม่อวี๋หอมแก้มพ่านพ่าน จากนั้นก็เงยหน้ามองเหยียดลูกชาย

 

 

“เด็กยังรู้เรื่องดีกว่าแกเลย”

 

 

“……” นี่เขาผิดตรงไหนกันเนี่ย อวี๋หมิงอี้เงยหน้าถามสวรรค์ในใจ

 

 

“บ๊ายบายปะป๊ากับอีอีสิจ๊ะ จริงๆเลย คราวหน้าไม่แน่อาจต้องเปลี่ยนคำเรียกแล้ว แกน่ะไม่ต้องหมั้นหรอก แต่งกันไปเลย อายุปูนนี้แล้วยังไม่รู้จักหนักเบา เห็นเขาไม่มีพ่อแม่ก็รังแกเขา ถ้ายังจะเป็นแบบนี้อีกฉันจะไม่สนแกแล้ว”

 

 

“ผมจะไปรังแกเขาได้ไง?” นี่มันเรื่องอะไรกัน?

 

 

แค่ออกกำลังกายหน้าท้องนี่เป็นปัญหาถึงขั้นพ่อแม่เลยเหรอ? งั้นวันๆเขาทำเป็นร้อยครั้งที่ทำงานทำไมไม่เห็นมีใครเป็นห่วงเขาบ้าง

 

 

ในใจของอวี๋หมิงอี้รู้สึกอยากจะบ้า ไม่เข้าใจจริงๆว่าไฟโกรธของแม่มาจากไหน

 

 

พอส่งแม่กลับไปแล้ว อวี๋หมิงอี้ก็ยังไม่รีบร้อนเข้าไปดูต้าอีในห้อง แต่ครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วโทรหาพ่อ

 

 

“พ่อครับ ทำให้แม่โกรธอะไรหรือเปล่าครับ?”

 

 

ด้วยระดับอีคิวของอวี๋หมิงอี้ เขาคิดว่าคนที่จะทำให้แม่ปรี๊ดแตกได้ขนาดนี้คงมีแค่พ่อคนเดียว ปรากฏว่าพอพ่ออวี๋ได้ยินเสียงลูกที่ไม่เอาไหน ลูกที่ไม่ได้เรื่องคนนี้ เมื่อคืนเขาไม่ได้หลับได้นอนก็เพราะไอ้ลูกคนนี้ทำเรื่องไม่สำเร็จ เล่นเอาเขาถูกเมียจิกขึ้นมา นี่ถ้าเขาไม่จัดการ ‘เผด็จศึก’ ทำให้เมียสงบลงล่ะก็ เมื่อคืนคงไม่ได้นอน

 

 

ครั้นแล้วพ่ออวี๋จึงจัดการด่าอวี๋หมิงอี้เป็นชุด

 

 

อวี๋หมิงอี้ทำหน้าเหวอตั้งแต่ต้นจนถูกด่าจบ ตอนแรกก็แม่ ตอนนี้ก็พ่อ นี่เขาทำอะไรไปกันแน่วะเนี่ย?

 

 

พ่ออวี๋ด่าลูกชายเสร็จก็โล่งใจไปไม่น้อย สุดท้ายจึงพูดคำสำคัญออกมา

 

 

“แต่งงานเมื่อไร?”

 

 

“แต่งงาน?”

 

 

“แกนี่ กล้าทำไม่กล้ารับผิดชอบหรือไง?” ถ้าเป็นแบบนี้ พ่ออวี๋รู้สึกว่าไม้กวาดเพชฌฆาตของเขาในที่สุดก็มีที่ให้ออกโรง แบบนี้มันต้องฟาด ฟาด ฟาด

 

 

“ถ้าต้าอียอมก็แต่งได้ครับ เพียงแต่ตอนนี้เธอยังเรียนอยู่ คงไม่เหมาะมั้งครับ? เรียบจบแล้วค่อยแต่ง เธอจะได้ไม่กดดัน” ในใจของอวี๋หมิงอี้ คบกับแฟนโดยไม่เร่งเรื่องแต่งงาน แบบนั้นเป็นการบังคับจนเกินไป

 

 

คำตอบนี้พ่ออวี๋ถือว่าเป็นการยอมรับว่าตัวเองไม่เอาไหน

 

 

“เอาล่ะ แกน่ะไปหาหนังจินXเหมยดูซะนะ ตอนนั้นฉันก็ดูเรื่องนี้แหละเป็นตัวนำร่อง แม่แกจะให้ฉันสอนแกให้ได้ มีอะไรให้สอน เป็นผู้ชายมันต้องหาทางเอาเอง”