บทที่ 16 บันทึกของสวี่ชีอัน

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

‘วันนี้คือปีเกิงจื่อ เดือนปิงซู วันเจี๋ยอู่…วุ่นวายอะไรขนาดนี้ หากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน ข้าจะต้องงุนงงจนไม่รู้อะไรเลยเป็นแน่ โชคดีที่สืบทอดความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมมา

จากการคาดคะเนของข้า น่าจะเป็นปีชวด วันที่ 18 เดือน 10 ตามปฏิทินสุริยคติ อืม ข้าคงต้องเริ่มเขียนบันทึก ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร

อารองพูดถูก ข้าต้องเปลี่ยนวิถีชีวิต

สังคมบัดซบเช่นนี้ การอยู่สูงเกินไปอาจจะไม่ใช่เรื่องดี ในสมัยโบราณเจ้าหน้าที่ที่ถูกค้นบ้านและยึดทรัพย์สินมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง คนแบบไหนที่จะใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย ข้าศึกษาดูแล้วว่าเป็นชนชั้นกลาง

ร่ำรวยกว่าคนธรรมดา ไม่เกี่ยวข้องกับสงครามชั้นสูง ปกติขาดทุนเล็กน้อยก็ไม่ใช่ปัญหา คนลำดับชั้นนี้เป็นคนที่สุขสบายที่สุด’

เพิ่มเติม ‘วันนี้เก็บได้หนึ่งตำลึงเงินที่ตลาด’

‘วันที่ 19 เดือน 10 สภาพอากาศอึมครึม ข้าต้องมีเงิน บนโลกนี้สิ่งที่ไว้ใจได้ยิ่งกว่าตำลึงเงินคือตำลึงทอง แม้ว่าพ่อค้าจะไม่มีสถานะทางสังคม แต่ก็พูดได้ว่าเพียงมีได้ย่อมมีเสีย ข้าวางแผนว่าอีกสองสามวันจะลาออก เลิกเป็นมือปราบของที่ทำการปกครอง หนึ่งเดือนได้เพียงสองตำลึงเงินกับข้าวอีกหนึ่งกระสอบ แล้วเมื่อไหร่จะได้ไปนอนกับคณิกาที่สำนักสังคีตกันล่ะ’

‘วันที่ 20 เดือน 10 สภาพอากาศอึมครึม ข้าจะไม่รีบร้อนลาออก แต่จะก่อตั้งธุรกิจก่อนค่อยลาออก วันนี้เห็นสหายร่วมงานนำหนังสือคำสั่งไปขู่กรรโชกพ่อค้า ในใจรู้สึกอึดอัดมาก แต่ข้ารู้ว่านี่เป็นบรรทัดฐานของสังคม เหอะ หากเป็นข้าในสมัยนั้นคงด่าสาดเสียเทเสียไปนานแล้ว และชีวิตก็บั่นทอนเหลี่ยมมุมของข้า เมื่อเจ้าไม่อาจเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ จงเรียนรู้ที่จะเงียบ’

เพิ่มเติม ‘วันนี้เก็บได้หนึ่งตำลึงเงินที่ที่ทำการปกครอง’’

‘วันที่ 21 เดือน 10 สภาพอากาศแจ่มใส วันนี้หัวหน้ามือปราบหวังพาข้าไปเที่ยวเล่นที่หอคณิกา ความประทับใจที่มีต่อหอคณิกาของข้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย มันเป็นสถานที่ไว้ฟังเพลง ดูละครและร่วมประเวณี ข้ายังอยู่ระดับหลอมจิต ไม่อาจเสียความบริสุทธิ์ได้จึงเศร้ามาก ข้ามองอยู่นาน ไม่มีใครสวยกว่าอาสะใภ้เลย อาสะใภ้เป็นสาวสวยอวบอิ่มและมีเสน่ห์ และยังเป็นหญิงตระกูลดีที่สง่างามอีก ผู้หญิงในหอคณิกาไร้สาระและผ่านประสบการณ์โชกโชนมากเกินไป เห็นอย่างนี้หน้าตาของน้องสาวหลิงเยวี่ยกับอาสะใภ้ก็ดีมาก หลังจากนั้นข้าก็เก็บได้หนึ่งตำลึงเงินที่หอคณิกา จึงใช้เพื่อจ่ายค่าฟังเพลงกินข้าว…ช่วงนี้ข้าโชคดีใช่หรือไม่’

‘วันที่ 22 เดือน 10 ฟังเพลงที่หอคณิกา’

‘วันที่ 23 เดือน 10 ฟังเพลงที่หอคณิกา’

‘วันที่ 24 เดือน 10 ฟังเพลงที่หอคณิกา หัวหน้ามือปราบหวังถามข้าว่าทำไมข้ามีความสุขเช่นนี้ ข้าตอบว่าเพราะโสเภณีทำให้ข้ามีความสุข’

‘วันที่ 25 เดือน 10 สวี่ชีอันหนอสวี่ชีอัน เจ้าเสื่อมทรามเช่นนี้ได้อย่างไร จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เจ้าลืมเป้าหมายของตัวเองไปแล้วหรือ ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ก่อน หาเงินสักร้อยล้าน’

‘วันที่ 26 เดือน 10 ฟังเพลงที่หอคณิกา’

‘วันที่ 27 เดือน 10 ฟังเพลงที่หอคณิกา วันนี้เก็บตำลึงเงินไม่ได้เลย ข้าจึงจ่ายค่าตอบแทนไป ฮึ สถานที่ที่ป่าเถื่อนเลวทรามเช่นนี้ ข้าจะไม่มาอีกแล้ว’

‘วันที่ 28 เดือน 10 โลกนี้มีดินปืน ปืนไฟและจ้าวเจี่ยว[1] ได้ผลดีอย่างน่าประหลาดใจ ดังนั้นแผนสบู่หอมจึงดับวูบไป ข้าเกลียดนักเล่นแร่แปรธาตุ ใช่ แก้ว! ข้าเผาแก้วได้ แก้วเป็นของดี คนสมัยโบราณกลุ่มนี้ต้องไม่เคยเห็นแน่’

‘วันที่ 29 เดือน 10 อ้อ แก้วก็มีแล้วเช่นกัน ข้าคงต้องหาทางออกอื่น วันนี้ข้าเก็บเงินส่วนตัวของอารองได้ที่บ้านหนึ่งตำลึงเงิน’

‘วันที่ 30 เดือน 10 ฟังเพลงที่หอคณิกา’

‘วันที่ 31 เดือน 10 วันนี้ข้าค้นพบแผนการหาเงินอีกแผนหนึ่ง ข้าจะปรับปรุงกระดาษ วรรณกรรมของต้าฟ่งจะเจริญรุ่งเรือง ขอเพียงข้าทำกระดาษที่ดีกว่าออกมาได้ ข้าก็จะได้รับเงินมหาศาล กินอาหารที่ดีที่สุด และนอนกับคณิกาที่งามที่สุด

ข้าคิดว่ากระบวนการการผลิตกระดาษ…(ขีดฆ่าทั้งย่อหน้า)

เอาล่ะ ไม่ต้องสนใจเรื่องเล็กๆ อย่างกระดาษหรอก ข้ามีความคิดที่ดียิ่งกว่านั้น ผลิตปูนซีเมนต์ ข้ารู้ส่วนผสมของปูนซีเมนต์ แคลเซียมคาร์บอเนต ซิลิคอนไดออกไซด์ อะลูมิเนียมออกไซด์และไอเอิร์นออกไซด์… ตามสูตรมาตรฐานวิชาฟิสิกส์กับวิชาเคมีโดยเฉพาะ อืม วันนี้เก็บได้หนึ่งตำลึงเงินที่ตลาด ??? นี่มันเรื่องอะไรกัน ความถี่ในการเก็บเงินได้ของข้าสูงเกินไปหรือเปล่า นี่ทำให้ข้ากังวลใจมาก’

‘วันที่ 2 เดือน 11 แผนปูนซีเมนต์ล้มเหลว ความรู้เชิงทฤษฎีกับความสามารถในการลงมือทำเป็นคนละเรื่องกัน อืม เกินจริงไปหน่อย’

‘วันที่ 3 เดือน 11 ไม่กี่วันมานี้ข้าใช้เงินฝากจนหมด จึงขอยืมเงินอารอง แต่อารองก็ไม่มีเงิน หลังจากสวี่ซินเหนียนรู้ เขาแสดงความรังเกียจก่อนแล้วจึงเยาะเย้ยข้า และสุดท้ายก็ให้ข้าห้าตำลึงเงิน…นอกจากความปากร้ายกับความเย่อหยิ่งแล้ว อันที่จริงญาติผู้น้องของข้าก็ไม่เลวนัก หากฟ้าไม่สร้างข้าสวี่ซินเหนียน ราชวงศ์ต้าฟ่งคงราวกับค่ำคืนอันยาวนาน…ข้าตอบไปเช่นนั้น สวี่ซินเหนียนสะบัดแขนเสื้ออย่างโกรธๆ เอ้อร์หลางหนอ หากไม่ใช่เพราะพวกเราเป็นพี่น้องกัน ข้าคงมอบตำแหน่งนางเอกให้เจ้า’

‘วันที่ 3 เดือน 11 วันนี้ข้าไปอู้งานกับพวกมือปราบของที่ทำการปกครองที่โรงน้ำชา ได้ฟังนักเล่าเรื่องเล่าเรื่องเป็นครั้งแรก และจู่ๆ ข้าก็คิดว่าหากเขียนนวนิยายศิลปะการต่อสู้ สี่สุดยอดวรรณกรรมจีน กับวรรณกรรมออนไลน์ออกมา แม้ข้านอนก็ยังหาเงินได้ ข้าฉลาดจริงๆ วันนี้เจออีกหนึ่งตำลึงเงิน มีเงินไปหอคณิกาพรุ่งนี้แล้ว’

‘วันที่ 7 เดือน 11 ข้าไร้เดียงสาโคตร นวนิยายหนึ่งเรื่องมีหลายแสนหลายล้านคำ ข้าจะเขียนด้วยพู่กันหรือ อืม ข้าทำปากกาถ่านได้ แต่ แต่ข้าจำเนื้อหาในนวนิยายไม่ได้ ผ่านมาสิบวันแล้ว ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย อ๊ากกก ข้ากำลังจะสติแตก’

‘วันที่ 8 เดือน 11 สภาพอากาศฝนตก เช่นเดียวกันอารมณ์ของข้าในตอนนี้ เห็นชัดว่าข้ารู้ทุกอย่าง แต่ตอนที่จะเปลี่ยนพวกมันเป็นตำลึงเงิน ตั้งแต่เริ่มก็พบว่าตัวเองแย่ลงไปมาก ข้าตระหนักอย่างแท้จริงแล้วถึงความล้มเหลวของการศึกษาเชิงสอบ วันนี้คุยกับอารอง ฟังเขาเล่าเรื่องงานราชการมากมาย และจากสิ่งที่ข้าได้ยินได้เห็นตอนเป็นมือปราบประจำที่ทำการปกครอง ข้าก็พบทันทีว่าโลกใบนี้แย่กว่าที่ข้าจินตนาการมาก เจ้าหน้าที่ทุจริตประพฤติตนอย่างไร้ศีลธรรม โลภน้อยจึงจะเป็นข้าราชการที่ดี ข้าราชการที่ซื่อสัตย์ยังหายากกว่าสาวบริสุทธิ์ในหอคณิกาอีก’

‘วันที่ 9 เดือน 11 เมฆหนา ทำไมแม่นางไฉ่เวยแห่งสำนักโหราจารย์ไม่มาหาข้า นางไม่อยากได้วิธีการเล่นแร่แปรธาตุในตำนานแล้วหรือ หน้าตาของแม่นางคนนั้นไม่ด้อยไปกว่าน้องสาวหลิงเยวี่ยเลย ใบหน้ารูปไข่น่ารัก ดวงตากลมโตน่ามอง ด้วยทักษะการจีบสาวอันสมบูรณ์แบบของข้า ไม่แน่ว่าอาจจะไล่ตามนางได้ เป็นศิษย์ของท่านโหราจารย์หรือไม่ไม่สำคัญ หลักๆ คือในสังคมที่ไม่น่าแยแสนี้ข้าโหยหาความรัก รีบมาหาข้าเถอะ ข้าไม่อยากกระเสือกกระสนแล้ว’

‘วันที่ 10 เดือน 11 ข้าจะไม่ยอมให้แผนนวนิยายล้มเหลว ดังนั้นจึงเล่าโครงเรื่องคร่าวๆ ของตำนานรักผีเสื้อให้น้องสาวสองคนฟัง เรื่องราวเรียบง่ายมาก และข้าก็ลืมรายละเอียดไปเยอะมาก เมื่อฟังจบขอบตาของน้องสาวหลิงเยวี่ยแดงก่ำ แต่หลิงอินไม่ร้องไห้ ข้าจึงตีนาง นางเลยร้องไห้ ข้ารู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่วัยของนางน่าจะทนได้’

‘วันที่ 11 เดือน 11 วันนี้ข้าดื่มกับผู้คุมหลี่ ระหว่างที่มึนเมาเล็กน้อยเขาก็พูดว่าพระมเหสีในอ๋องสยบแดนเหนือเป็นสาวงามคนแรกในราชวงศ์ ข้าถามเขาว่างามแค่ไหน แต่เขาอธิบายไม่ได้ เพราะผู้คุมหลี่ก็ฟังท่านนายอำเภอพูดมา หลังจากเลิกงานกลับบ้านตอนเย็น ข้าก็แอบไปถามอารอง สีหน้าของอารองแปลกมาก เขาพยายามอธิบายความงามของพระมเหสีด้วยคำศัพท์กิ๊กก๊อกของเขาอย่างเต็มที่ ข้าแยกปัจจัยหลักๆ คือ พระเจ้า ยิ่งใหญ่ นี่ทำให้ข้าหมดความสนใจและคาดหวังในตัวพระชายา…’

‘วันที่ 12 เดือน 11 จนถึงวันนี้ข้าก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย ข้ารู้สึกละอายใจต่อบ้านเกิด ละอายใจต่อผู้ที่ผ่านทางมา’

‘วันที่ 13 เดือน 11 นี่เป็นเดือนแรกที่ข้ามาถึงโลกนี้ เงินเดือนข้าราชการออกแล้ว ข้าวางแผนว่าจะตั้งใจทำงาน เรื่องธุรกิจก็ค่อยเป็นค่อยไป…’

‘วันที่ 14 เดือน 11 ฟังเพลงที่หอคณิกา’

……………………………………………

[1] จ้าวเจี่ยว เป็นสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง รูปร่างคล้ายฝักถั่ว ซึ่งฝักสามารถนำมาใช้ทำสบู่ได้