บทที่ 623 ตีตัวตุ่น โดย Ink Stone_Fantasy
ตอนนี้มู่เฉินเสียใจจนแทบอยากจะตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด ในใจก็เอาแต่ด่าตัวเองว่าโง่ไม่หยุด!
ทำไมเขาคาดไม่ถึงเลยล่ะว่าจะลงเอยอย่างนี้! หรือว่า เขาคิดง่ายเกินไปตั้งแต่แรกแล้ว…
อุปสรรคของเรื่องนี้ ไม่ได้มีแค่ความเชื่อใจซึ่งกันและกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่มันยังมีแผนการในใจของคนข้างตัวอีกด้วย
ความรู้สึกที่ถูกหักหลัง และถูกคนปั่นหัวอย่างนี้ ทำให้มู่เฉินเดือดดาลมากกว่าที่เคยผ่านมา เพลิงโทสะนี้รุนแรงยิ่งกว่าตอนที่ถูกหลิงม่อจับเป็นตัวประกันและเบี้ยต่อรองหลายร้อยเท่า
ถ้าหากจนถึงตอนนี้เขายังไม่เข้าใจจุดประสงค์ของซย่าจื้ออีกล่ะก็ สมองของเขาก็คงติดเชื้อไวรัสแล้วล่ะ
ซย่าจื้อไม่เพียงอยากเป็นคนที่หลบหนีไปจากที่นี่ แต่ยังคิดจะฉวยโอกาสคว้าประโยชน์ไว้ด้วย อย่างเช่น…กำจัดขวากหนามอย่างเขา
“หึหึ…ฉันกลับคิดว่ามันกำลังล้อเล่น!”
ถ้าหากไม่ใช่ว่ากำลังเจ็บท้องจนแทบจะตายอยู่แล้ว มู่เฉินอยากจะเอาหมัดต่อยหัวตัวเองแรงๆ ซักหนึ่งที
รู้ทั้งรู้ว่าซย่าจื้อจ้องจะเสียบตำแหน่งของเขาอยู่ แต่เขากลับไม่คิดเอามาใส่ใจ!
แต่เท่าที่ดูแล้ว เรื่องที่เขาไม่ค่อยสนใจ สำหรับซย่าจื้อกลับต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
พอนึกถึงสายตาของซย่าจื้อที่มองเขาอย่างดูแคลนและผยองเต็มที่ แล้วยังมีสัญลักษณ์มือที่สื่อว่าเขาชนะแล้วนั่นอีก…
“แม่งเอ๊ย!”
มู่เฉินพยายามคลานไปจนถึงข้างบันได จากนั้นก็ยกมือขึ้นจับราวบันไดตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน
เขามองไปที่มีดเล่มนั้น แล้วยืดเอวขึ้นอย่างยากลำบาก
ไล่ตามซย่าจื้อ? ไม่ทันแล้ว สภาพของเขาในตอนนี้ตามไม่ทันแน่นอน
ถ้าอย่างนั้น…กลับไปช่วยสวี่ซูหาน? มู่เฉินกันกลับขึ้นไปมองข้างบน
เขาไม่เห็นว่าสวี่ซูหานกำลังทำอะไรอยู่ แต่จากที่ซย่าจื้อพูด เขาก็พอเดาอะไรได้รางๆ แล้ว
ซย่าจื้อไม่เพียงหลอกใช้เขา แต่ยังคิดจะใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือ ให้ถ่วงเวลาพวกหลิงม่อไว้ซักพัก
และไม่ต้องสงสัยเลย พวกเขาไม่อาจรั้งพวกหลิงม่อไว้ได้ สุดท้ายก็มีแต่จะถูกพวกหลิงม่อฆ่าทิ้งเท่านั้น
และวิธีที่จะทำให้หลิงม่อระเบิดโทสะ และสูญเสียสติก็คือ…
“ทำร้ายผู้หญิงของเขา…” สมองของมู่เฉินคำนวณถึงความเป็นไปได้ที่มากที่สุด ขณะเดียวกันความเย็นก็แผ่ซ่านขึ้นมาจากเท้ากระจายไปทั่วตัว
ซย่าจื้อลงมือได้อำมหิตมาก!
รู้ทั้งรู้ว่าแฟนสาวคือจุดเดือดของหลิงม่อ แต่คนคนนี้ก็ยังเลือกใช้เรื่องนี้ จากนั้นก็หลอกใช้ให้สวี่ซูหานลงมือ
ถ้าเป็นอย่างนี้สวี่ซูหานต้องตายแน่ๆ มู่เฉินที่บาดเจ็บก็คงไม่รอด มีแค่เขาซย่าจื้อที่จะหนีรอดออกไปได้
วิธีที่ดีที่สุดในการหยุดเรื่องนี้ ก็คือต้องทำให้หลิงม่อที่กำลังโมโหเชื่อว่าตัวเขาบริสุทธิ์ให้ได้…
แต่ในสถานการณ์อย่างนั้น เขาจะยอมสงบนิ่งเพื่อฟังเขาอธิบายเรื่องซับซ้อนอย่างนี้จริงหรอ?
เกรงว่าเพิ่งจะได้ยินพวกเขาเปิดปากพูดว่า “จริงๆ แล้วพวกเราวางแผนหนี” หลิงม่อก็คงจะฆ่าพวกเขาทันที
ส่วนอีกหนึ่งวิธี ก็คือช่วยสวี่ซูหานออกมา และอาศัยความวุ่นวายข้างใน พยายามหนีไปอย่างสุดความสามารถ
ถ้าหากจะให้เขาหนีเอาตัวรอดในสถานการณ์อย่างนี้ ก็สู้ฆ่าตัวตายเสียยังจะดีกว่า
“ซย่าจื้อ!”
มู่เฉินเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบน กัดฟันกรอดแล้วคำรามเสียงดัง “ถ้าหากฉันยังไม่ตาย ก็รอดูวันที่ฉันจะจับแกโยนให้ซอมบี้กินเถอะ!”
จากนั้นเขาก็จับด้ามมีดแน่น ร้อง “ว๊าก” เสียงดัง แล้ววิ่งขึ้นไปข้างบน…
“ฟู่ว!”
ใต้แสงจันทร์ เงาร่างหนึ่งวิ่งเข้าไปในซอยเล็กๆ เส้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ยืนพิงผนัง พลางหอบหายใจเร็วระรัว
เขาเงยหน้าขึ้น แล้วมองออกไปยังตึกเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกล
บนระเบียงชั้นสาม ซอมบี้ยักษ์น่ากลัวตัวนั้นยังคงทุบกำแพงดัง “ปึงปังๆๆ” อย่างต่อเนื่อง บางครั้งมันก็กระโดดขึ้นลงเหมือนลิง เพื่อหลบการโจมตีที่มาจากด้านในอาคาร
และเสียงโครมครามที่ดังออกมาจากด้านในอย่างต่อเนื่องนั้น ก็ดังมากพอที่จะทำให้เดาได้ว่าข้างในกำลังวุ่นวายกันขนาดไหน
เมื่อเสียงตะโกนของผู้ชายดังกึกก้องออกมา ไม่นานก็เงียบลงหลังจากกรีดร้องทรมาน ใบหน้าไร้อารมณ์ของเงาร่างนี้ก็เผยรอยยิ้มออกมา
“ขอบใจนะ” เขาฉีกยิ้ม แล้วพูดเสียงเบา
หลังก้มหน้ามองปืนในมือแวบหนึ่ง ซย่าจื้อก็หันไปมองรอบตัว
“จะเล่นทั้งที ก็ต้องเล่นให้ใหญ่หน่อย…” ซย่าจื้อพึมพำกับตัวเอง “ใช่ไหมล่ะ?”
เขาหันไปมองหน้าต่างบานนั้นอีกครั้ง จากนั้นหมุนตัว และหายเข้าไปในซอยเล็กๆ เส้นนั้นไปอย่างรวดเร็ว…
………..
“โอ๊ย!”
มู่เฉินร้องลั่นเจ็บปวด เขากุมท้องแล้วล้มลงไปกับพื้น
ทว่าสายตาของเขากลับจ้องเม็งไปยังเบื้องหน้า ปากก็อ้ากว้างจนสามารถยัดไข่ไก่เข้าไปได้ทั้งฟอง “ทะ…ทำไมกัน?”
“ขอโทษที…” คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า กลับเป็นสวี่ซูหานที่เพิ่งจะใช้ด้ามปืนทุบเขา แถมตอนนี้เธอก็ยังทำหน้ารังเกียจเขา…
และในอาคาร ก็ยังคงเต็มไปด้วยเสียงดังวุ่นวาย แถมยังรุนแรงกว่าเมื่อกี้อีกต่างหาก…
ซอมบี้เจ้าเมืองสองตัวนี้รับมือยากมากจริงๆ ไม่เพียงตัวใหญ่ยักษ์เท่านั้น แต่ด้านอื่นๆ ก็ยังแข็งแกร่งว่าซอมบี้ธรรมดามากอีกด้วย
ทว่าการที่พวกมันมัวแต่ถ่วงกันไปถ่วงกันมากลับเปิดโอกาสให้หลิงม่อ ไม่นานหลิงม่อก็นึกวิธีที่จะฆ่าพวกมันได้
“รุมโจมตีตัวหนึ่งก่อน พอโจมตีตัวนี้จนบาดเจ็บ อีกตัวก็จะคลั่งขึ้นมาเอง แล้วถึงเวลานั้นพวกเราค่อยหันกลับไปโจมตีตัวนั้น สรุปคือตัวไหนคลั่งให้โจมตีตัวนั้น เหมือนเกมทุบตัวตุ่น เพียงแต่พวกเราสามารถควบคุมได้ว่าตัวไหนจะโผล่หัวออกมาให้ทุบก่อน” หลิงม่อหลบหลีกการโจมตีจากซอมบี้ยักษ์หญิง พลางตะโกนบอก
“เป็นแผนที่ชั่วร้ายมาก…”
“แต่เธอชอบใช่ไหมล่ะ?” หลิงม่อตัดบทซย่าน่าอย่างรวดเร็ว
ซย่าน่ายิ้มบางๆ จากนั้นก็ใช้การกระทำตอบคำถามเขา เธอยกเคียวดาบขึ้นสูง และฟันไปที่แผ่นหลังของซอมบี้ยักษ์หญิงตัวนั้นทันที “ฮาโหล ซอมบี้มินนี่!”
“โฮกกก!”
สัมผัสอันตรายจากข้างหลัง ทำให้ซอมบี้ยักษ์หญิงรีบหันไปยกฝ่ามือตบออกไปทางซย่าน่าอย่างรวดเร็ว
แต่ซย่าน่าที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศกลับหัวเราะ “คิกคิก” ร่างกายของเธอพลันลอยขึ้นสูง จนติดอยู่กับเพดาน
“ไม่ได้มีแค่พวกแกที่เป็นผัวเมียกันหรอกนะ!” หลิงม่อตะโกน จากนั้นก็ยื่นมือออกไปกระชากสุดแรง
ซอมบี้หญิงตัวนั้นยังยืนไม่ทันมั่นคง ก็ถูกกระชากเท้าอย่างแรง ร่างกายของมันจึงเซไปเซมาทันที
และซย่าน่าที่ลอยอยู่กลางอากาศรีบพุ่งลงมาทันที เคียวดาบถูกฟันลงไปบนหัวไหล่ของซอมบี้ยักษ์หญิงอย่างแรง เลือดสีแดงพุ่งกระฉูดไปทั่ว
ซอมบี้ยักษ์หญิงที่ได้รับบาดเจ็บกรีดร้องเสียงแหลม และนั่นก็ได้ไปกระตุ้นซอมบี้ยักษ์ชายที่ยังคงอยู่นอกหน้าต่าง
“ระวัง! ซอมบี้มิกกี้!” หลิงม่อตะโกนเตือนเสียงดัง
“โฮกกกก!!”
ซอมบี้ยักษ์ชายคำรามเสียงก้อง มันใช้มือตะครุบของหน้าต่าง เสียง “แกร๊กๆๆ” ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งผนังก็เกิดรอยแยกเป็นเส้น
มันถูกกันให้อยู่ข้างนอกมาโดยตลอด และตอนนี้พอได้ยินเสียงซอมบี้ยักษ์หญิงได้รับบาดเจ็บหนักกันอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดมันก็คลุ้มคลั่ง
ด้วยพละกำลังของมัน หากมันกระชากขอบหน้าต่างนานกว่านี้อีกหน่อย เป็นไปได้มากว่าผนังอาจถล่มลงมาจริงๆ
แต่หลังจากได้ยินเสียงตะโกนของหลิงม่อ เงาร่างหลายเงาก็ได้พุ่งเข้าไปปรากฏกายอยู่ตรงหน้าซอมบี้ยักษ์ชายทันที จนทำให้ซอมบี้ยักษ์ชายต้องเงยหน้าขึ้นมอง
ร้อยบุปผาบานสะพรั่งของหลี่ย่าหลิน ก่อกวนศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อซอมบี้ยักษ์ชายพุ่งเป้าโจมตีไปที่เธอแทน รุ่นพี่ก็โฉบตัวหายวับไป พริบตาเดียวเธอก็ไปปรากฏตัวอยู่ด้านหลังในจุดที่ห่างออกไปหลายเมตร และหลบการโจมตีอันคลุ้มคลั่งของซอมบี้ยักษ์ชายได้พอดี
และระหว่างคำรามเดือดดาล ซอมบี้ยักษ์ชายกลับไม่ทันสังเกตเห็น ว่ารูปืนสีดำสนิทกำลังจ่อไปที่หัวของมัน
“ฟึ่บ!”
กระสุนเจาะทะลุเนื้อ หยาดเลือดสีแดงฉานกระจายไปทั่ว ร่างกายท่อนบนของซอมบี้ยักษ์ชายโน้มเอียงไปข้างหลัง มันยังไม่ทันล้มลงไป เงาร่างหนึ่งก็ไปปรากฏตัวอยู่ด้านบนของหน้าต่างแล้ว
หลี่ย่าหลินห้อยหัวลงมาจากบนหน้าต่าง จูบอสรพิษเฉือนผ่านลำคอของซอมบี้ยักษ์ชายอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางเลือดสดๆ ที่ทะลักออกมา เธอจิกผมของซอมบี้ยักษ์ชายแน่น จากนั้นก็ตีลังกาตลบหลังกลางอากาศ เหวี่ยงมันเข้าไปในอาคารอย่างแรง
เมื่อถูกโจมตีต่อเนื่องและได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่างกายของซอมบี้ยักษ์ชายก็กระตุกสั่นไม่หยุด แต่ไม่นานมันต้องสิ้นลมอย่างแน่นอน
เมื่อหลี่ย่าหลินย่อกายลงไปอย่างรวดเร็ว และใช้มีดแทงไปที่ศีรษะด้านหลังของ๙อมบี้ยักษ์ชาย ทันใดนั้นซอมบี้ยักษ์หญิงก็กรีดร้องออกมาอย่างทรมานแสนสาหัส
“โฮกกกกก!”
มันพลิกตัวแล้วกระโดดขึ้นจากพื้น จากนั้นก็ยกมือกระชากแขนอีกข้างที่ถูกฟันจนห้อยต่องแต่งอยู่ข้างลำตัวทิ้ง
เลือดที่พุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่งย้อมร่างกายครึ่งท่อนของมันจนแดงไปหมด ทว่านั่นกลับยิ่งกระตุ้นให้ดวงตาของมันแดงก่ำยิ่งกว่าเดิม
ทว่าหลังจากที่ซอมบี้ยักษ์หญิงคลุ้มคลั่ง มันกลับไม่ได้เลือกที่จะโจมตีพวกเขา แต่หันไปวิ่งเข้าใส่ศพของซอมบี้ยักษ์ชายแทน
หลี่ย่าหลินหลบออกไปอย่างรู้เท่าทัน แต่ในมือของเธอกลับมีไวรัสนางพญาเพิ่มขึ้นมาหนึ่งก้อนแล้ว
เห็นซอมบี้ยักษ์หญิงพุ่งเข้าไปราวกับรถถัง หลิงม่อถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว
เขารู้สึกสะเทือนใจขึ้นมาทันที การเคลื่อนไหวที่หมายจะโจมตีชะงักลงทันที บางทีสัตว์ประหลาดพวกนี้ อาจไม่ได้สูญเสียความรู้สึกทั้งหมดไปก็ได้…
“โฮกกกกก!”
ซอมบี้ยักษ์หญิงกระชากศพของซอมบี้ยักษ์ชายขึ้น จากนั้นก็ชูขึ้นกลางอากาศ
“เอ๋?” หลิงม่อรู้สึกใจคอไม่ดีโดยสัญชาตญาณทันที เขาเบิกตากว้างแล้วมองซอมบี้ยักษ์หญิงตัวนั้น “เฮ้ยๆๆๆ…”
“แคว่ก!”
แขนทั้งสองข้างของศพถูกกระชากจนหลุดอย่างแรง จากนั้นก็ร่างกายส่วนที่เหลือก็ถูกขว้างมาทางพวกหลิงม่อดัง “สวบ”
“เชี่ยยยย!”
—————————————————————————–