ตอนที่ 57 งานพบปะ (2) / ตอนที่ 58 งานพบปะ (3)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 57 งานพบปะ (2) 

 

 

“ก็ดี” 

 

 

เฟิงหรูชิงพยักหน้าทั้งรอยยิ้ม “ถ้าคราวหน้าเขามาอีก ห้ามเขาเข้ามาในจวนแม้เพียงก้าวเดียว” 

 

 

แต่ไรมานางเป็นคนเกลียดชังการพรากคนรักออกจากกัน ดังนั้น นางไม่มีทางกลายเป็นคนแบบนั้น! 

 

 

หลิ่วอวี้เฉินชอบถานซวงซวงไม่ใช่หรือ อย่างนั้นนางจะให้พวกเขาได้สมปรารถนา 

 

 

… 

 

 

ริมแม่น้ำฉินหวย หอแห่งแรก สมดั่งชื่อคือโรงเตี้ยมแห่งแรกของเมืองหลวง 

 

 

ทุกเดือน พวกลูกชายลูกสาวของพี่น้องขุนนางในเมืองหลวงต่างมาจัดงานพบปะที่นี่ ดังนั้น หอแห่งแรกในวันนี้จึงคึกคักเป็นพิเศษ 

 

 

“ทำไมวันนี้องค์หญิงหรูซวงถึงไม่มา” 

 

 

คนที่ถามคำถามนี้คือหลินเยว่อิ่งลูกสาวเจ้ากรมอาญาหลิน เห็นได้ชัดว่านางยังไม่รู้เรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง ดังนั้น น้ำเสียงของนางจึงมีความสงสัย 

 

 

“อย่าถามเลย ช่วงก่อนหน้านี้ องค์หญิงหรูซวงไม่รู้ไปมีเรื่องอะไรกับองค์หญิงหรูชิง แน่นอนว่าฝ่าบาทต้องเข้าข้างองค์หญิงหรูชิง เลยให้องค์หญิงหรูซวงไปกักตัวสำนึกผิดอยู่ที่เขตเขาต้องห้าม แม้แต่คนของสกุลหลิวก็เข้าไปเยี่ยมไม่ได้” 

 

 

เสียงฮึแกมหมั่นไส้ดังออกมา 

 

 

แววตาของคนหนุ่มสาวที่พูดเจือด้วยท่าทีดูถูก กับองค์หญิงหรูชิงนั่น เขาไม่เคยรู้สึกชอบเลยสักนิด อาจเรียกได้ว่ารังเกียจด้วยซ้ำ 

 

 

“เจาหยาง เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว เจ้าลืมไปแล้วหรือ ก่อนหน้านี้ไม่นาน เจ้ากำลังพูดนินทาลับหลังองค์หญิงหรูชิง จังหวะนางโผล่มาได้ยินเข้าพอดี นางเกือบให้คนมาจับตัวเจ้าไปแล้ว ตอนหลังองค์หญิงหรูซวงไปช่วยพูดให้เจ้า นางถึงยอมปล่อยเจ้าไป” 

 

 

“ถูกต้อง ยังมีคราวนั้น…พ่อข้าพูดในท้องพระโรงขอให้ฝ่าบาทอบรมองค์หญิงหรูชิงให้ดี สุดท้ายองค์หญิงหรูชิงรู้เข้า เลยจะขอให้ฝ่าบาทถอดตำแหน่งพ่อข้า เพราะได้องค์หญิงหรูซวงช่วยพูดให้เหมือนกัน นางถึงยอมปล่อยพ่อข้าไป” 

 

 

“องค์หญิงหรูซวงเป็นคนดีเหลือเกิน เดิมทีนางกับองค์หญิงหรูชิงรักใคร่กันดี แต่คงเป็นเพราะช่วยเหลือพวกเราบ่อยๆ เลยทำให้องค์หญิงหรูชิงไม่พอใจ ถูกกักตัวที่เขตเขาต้องห้าม จะว่าไปเป็นพวกเราที่สร้างความเดือดร้อนให้นาง” 

 

 

“คนที่เก่งๆ อย่างน่าหลานฮองเฮา ทำไมถึงมีลูกอย่างองค์หญิงหรูชิง…บุ๋นก็ไม่สู้บู๊ก็ไม่ได้เรื่อง แถมยัง…” 

 

 

หญิงสาวคนนี้ยังไม่ทันพูดจบประโยค คนที่อยู่ข้างๆ ก็รีบเอามือมาปิดปากนางไว้ ทำให้นางต้องกลืนคำพูดที่กำลังจะพูดออกมาลงคอไป 

 

 

สายตาของทุกคนหันออกไปมองด้านนอกประตู ทันใดนั้น ภาพคนคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูท่ามกลางแสงแดดก็ปรากฏขึ้น ดูราวกับเป็นฝันร้าย สายตาที่มาพร้อมรอยยิ้มจ้องมองมาที่พวกเขา 

 

 

หญิงสาวเสียวสันหลังวาบ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตกใจกลัว นางกำมือแน่น ตัวสั่นสะท้านหยุดไม่อยู่ องค์หญิงหรูชิง นาง…โผล่มาตั้งแต่เมื่อไร ไม่รู้ว่าคำพูดของพวกเขาเมื่อสักครู่ นางได้ยินไปมากน้อยแค่ไหน 

 

 

ถ้าหาก… 

 

 

หญิงสาวไม่กล้าคิดถึงจุดจบจากการที่เฟิงหรูชิงได้ยินคำพูดเหล่านั้น 

 

 

เฟิงหรูชิงคลายมือที่กอดอกออก เดินไปหาหญิงสาวช้าๆ 

 

 

สีหน้าของนางเจือด้วยรอยยิ้ม “ถ้าข้าจำไม่ผิด เจ้าคือมู่ชิงเอ๋อร์ลูกสาวของผู้ตรวจราชการ?” 

 

 

ฝ่ามือของมู่ชิงเอ๋อร์ชุ่มไปด้วยเหงื่อ เมื่อเห็นสายตาที่มาพร้อมรอยยิ้มของเฟิงหรูชิงแบบนั้น นางก็รีบคุกเข่าลงกับพื้น พูดด้วยเสียงสั่นเครือเหมือนกับจะร้องไห้ 

 

 

“องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันผิดไปแล้ว ขอองค์หญิงอย่าเอาความสกุลมู่เลยเพคะ บิดาของหม่อมฉันจงรักภักดีต่อแคว้นหลิวอวิ๋นมาตลอด คำพูดเมื่อครู่หม่อมฉันพูดเองคนเดียว ไม่เกี่ยวกับสกุลมู่เพคะ” 

 

 

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับองค์หญิงอันธพาลอันดับหนึ่งของแคว้นหลิวอวิ๋น มู่ชิงเอ๋อร์รนจนไม่เป็นตัวของตัวเอง นางกลัว กลัวว่าเมื่อเฟิงหรูชิงโมโห คนสกุลมู่ทั้งตระกูลจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย 

 

 

“เจ้าทำอะไรของเจ้า” เฟิงหรูชิงหยุดยิ้ม นางประคองมู่ชิงเอ๋อร์ขึ้นมา พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เมื่อครู่ข้าแค่คิดว่าเจ้าด่าได้ดี ข้าในสมัยก่อนไม่เอาไหนเลย พวกเจ้าไม่ได้พูดผิดอะไร” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 58 งานพบปะ (3) 

 

 

“…” 

 

 

มู่ชิงเอ๋อร์ยิ่งรู้สึกกลัว นางกระวนกระวายใจจนแทบอยากร้องไห้ออกมา ถ้าเฟิงหรูชิงตบตีนางเสีย นางคงรู้สึกสบายใจกว่านี้ แต่เฟิงหรูชิงกลับพูดจาแบบนี้ออกมา จะไม่ทำให้รู้สึกกลัวได้อย่างไร 

 

 

คนอื่นๆ ต่างก็ตกใจจนคุกเข่าลงกับพื้น แววตาเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย กลัวว่าถ้าองค์หญิงอันธพาลคนนี้โมโหขึ้นมา พวกเขาจะไม่มีโอกาสออกจากหอแห่งแรกอีกเลย 

 

 

เฟิงหรูชิงขมวดคิ้วแรงขึ้น “พวกเจ้าลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!” ไม่มีใครกล้าขยับ 

 

 

เฟิงหรูชิงหงุดหงิด “ถ้าพวกเจ้ายังไม่ลุกขึ้น ข้าจะสั่งให้คนจัดการพวกเจ้าเดี๋ยวนี้!” 

 

 

กลุ่มคนหนุ่มคนสาวเห็นเฟิงหรูชิงกำลังจะโมโห จึงตกใจรีบลุกขึ้นยืน 

 

 

ทันใดนั้นเฟิงหรูชิงก็ยิ้มพอใจ “ต้องขู่ให้พวกเจ้ากลัว พวกเจ้าถึงจะยอมทำตาม ที่ข้ามาวันนี้ ก็เพราะสนใจงานพบปะของพวกเจ้าเท่านั้น พวกเจ้าไม่ต้องกังวล ข้าไม่ใช้ปีศาจกินคน” 

 

 

“…” 

 

 

เจ้าไม่ใช่ปีศาจกินคน แต่เจ้าน่ากลัวกว่าปีศาจเสียอีก 

 

 

“อ้อ จริงสิ” เฟิงหรูชิงเอียงหน้ามองดูกลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม “งานพบปะของพวกเจ้า ปกติพูดคุยเรื่องอะไรกัน” 

 

 

เจาหยางตั้งสติได้เป็นคนแรก เขาหน้าซีด แสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวที่เขาเคยมีต่อเฟิงหรูชิง 

 

 

“วันนี้พวกเราพูดคุยกันเรื่อง…การแพทย์พ่ะย่ะค่ะ” การแพทย์? 

 

 

เฟิงหรูชิงเอามือลูบคาง เรื่องนี้ นางรู้สึกสนใจ 

 

 

อันที่จริง ยาวิเศษก็เป็นการแพทย์แขนงหนึ่ง ยาวิเศษช่วยคนในการฝึกตบะและช่วยในการรักษาโรค แต่น่าเสียดาย ถ้าเป็นยาวิเศษตั้งแต่ระดับสองราคาจะสูงเสียดฟ้า คนธรรมดาไม่มีทางได้พบเห็น 

 

 

คนธรรมดาทั่วไปอย่างมากก็ได้ใช้แค่ยาธรรมดาสามัญ 

 

 

“พวกเจ้ากำลังคุยหัวข้ออะไรอยู่ พูดให้ข้าฟังหน่อยสิ” เฟิงหรูชิงนั่งลง ถามอย่างสนอกสนใจ 

 

 

คนที่อยู่ตรงนั้นมองหน้ากันไปมองหน้ากันมา พวกเขาต่างคิดไม่ถึงว่าเฟิงหรูชิงจะอยู่เพื่อฟังพวกเขาพูดคุยกันต่อ ที่สำคัญกว่านั้นคือ…ที่พวกเขาวิพากษ์วิจารณ์นางเมื่อสักครู่…นางกลับ…ไม่โกรธเลยสักนิด? 

 

 

เรื่องราวแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน! 

 

 

ถ้าเป็นเมื่อก่อน พวกเขาคงโดนอัดแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้กระทั่งคนในตระกูลก็อาจเดือดร้อนไปด้วย 

 

 

“พวกเรากำลังพูดคุยกันว่า มีวิธีอะไรหรือไม่ ที่ช่วยลบรอยแผลเป็นพ่ะย่ะค่ะ” 

 

 

ในทวีปนี้ การต่อสู้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่พ้น แน่นอนว่าต้องฝากรอยแผลเป็นไว้ แต่จวบจนบัดนี้ ยังไม่มีวิธีใดที่ทำให้รอยแผลเป็นหายไปไม่เหลือร่องรอยได้ 

 

 

“แผลเป็น?” นัยน์ตาของเฟิงหรูชิงมีประกาย 

 

 

นางจำได้ว่าในตำราอาหารบำรุงสุขภาพวิเศษมีสูตรอาหารบำรุงสุขภาพวิเศษที่ช่วยกำจัดรอยแผลเป็นและตุ่มบวมแดงได้ 

 

 

แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นอาหารบำรุงสุขภาพที่ทำมาจากยาวิเศษ ยาธรรมดาสามัญจะมีสรรพคุณ แบบนั้นหรือไม่ก็ไม่รู้ 

 

 

“พวกเราเคยลองใช้บ๊วยดำ ผงไข่มุก โสมขม มะกอก ซานชี…แล้วก็สมุนไพรตัวอื่นๆ ผสมกันเป็นยาทา แต่ก็ไม่ได้ผล ไม่ได้ช่วยให้แผลเป็นจางลงแม้แต่น้อยพ่ะย่ะค่ะ” 

 

 

เจาหยางไม่คิดว่าเฟิงหรูชิงจะช่วยอะไรพวกเขาได้ และไม่ได้อยากจะพูดคุยอะไรกับนางด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อเฟิงหรูชิงถาม เขาก็ไม่กล้าปฏิเสธ ด้วยเหตุนี้ จึงนำสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันเล่าให้เฟิงหรูชิงฟังทั้งหมด 

 

 

เฟิงหรูชิงงง เขามองดูเจาหยางแบบเหม่อๆ ยาพวกนี้…มันเยอะแยะอะไรขนาดนั้น 

 

 

อีกอย่าง นางก็คิดไม่ถึงว่า พวกลูกหลานขุนนางจะสนใจเรื่องการแพทย์ขนาดนี้ 

 

 

“ทำไมพวกเจ้าต้องทำยาทาลบรอยแผลเป็นด้วยล่ะ” 

 

 

เจาหยางอึ้ง ไม่พูดอะไร 

 

 

คนอื่นๆ ต่างมองเฟิงหรูชิงด้วยความกลัว ไม่มีใครกล้าเปิดปากพูดสักคน