บทที่ 28 ศัตรูหัวใจโผล่
จางซิ่วเอ๋อผงะอีก หลีฮวาไม่ชอบนางเพราะสวี่หวินซานเนี่ยนะ?
แต่สองคนนี้เป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ?
หรือว่ามีอะไรในกอไผ่ หรือว่า หลีฮวาเป็นโรคหวงพี่ชาย เป็นพี่ชายตัวเองดีกับผู้หญิงคนอื่นแล้วหึง?
อืม ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
จางซิ่วเอ๋อเรียบเรียงเรื่องราวได้ก็เลิกสนใจเรื่องนี้ อย่างไรซะนางก็ไม่มีทางชอบสวี่หวินซาน ตอนนี้นางเป็นแม่ม่าย จะแต่งงานใหม่ในหมู่บ้านนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ง่ายขนาดนั้น
อีกอย่างต่อให้แต่งงาน นางก็ไม่แต่งกับสวี่หวินซาน
นางไม่คิดจะไปยุ่งกับสวี่หวินซาน เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนาง บวกกับในความทรงจำของจางซิ่วเอ๋อก็ไม่มีสวี่หวินซาน คิดแล้วสองคนนี้น่าจะไม่ได้พัฒนาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเท่าไหร่
อย่างมากก็แค่สวี่หวินซานรู้สึกดีกับเจ้าของร่าง
ตอนนี้อีกนานกว่าจะฟ้าจะมืด จางซิ่วเอ๋อก็ไม่อยากให้ซานหยากลับไปตอนนี้ หากอยู่ซานหยาอยู่กับนาง อย่างน้อยซานหยาก็ยังพอได้อยู่อย่างสงบบ้าง
จากนั้นไม่นาน จางชุนเถาที่เห็นทั้งสองกลับมา ใบหน้าของนางก็บังเกิดความดีใจอันยากจะข่มไว้
นางมารับตะกร้าและมองเข้าไปอย่างรอไม่ไหว หวังจะเจออะไรดี ๆ ด้านใน เพราะนางยังไม่ลืมเรื่องที่จางซิ่วเอ๋อจับไก่ป่าได้
แต่สุดท้าย สิ่งที่จางชุนเถาค้นเจอก็คือปลาขนาดเท่าฝ่ามือ 2 ตัว
“พี่ พี่ลงน้ำไปจับปลามาเหรอ?” จางชุนเถาเลิกคิ้ว
จางซิ่วเอ๋อคิดในใจว่าแย่แล้ว จึงเอ่ยขึ้น “เรื่องนั้น…”
“แผลพี่ยังไม่หายดีเลย ลงน้ำตอนนี้ได้อย่างไรกัน ถ้าแผลฉีกหรืออักเสบจะทำอย่างไร?” จางชุนเถาสั่งสอนยกใหญ่
เวลานี้แยกไม่ออกแล้วว่าใครเป็นพี่ใครเป็นน้อง
เรื่องนี้จางซิ่วเอ๋อก็เพิ่งจะคิดได้ตอนขึ้นจากน้ำเช่นกัน
เพราะคนที่บาดเจ็บคือจางซิ่วเอ๋อเจ้าของร่าง ถึงอย่างไรนางก็เพิ่งใช้ร่างนี้ได้ไม่นาน ถึงจะมีความทรงจำของจางซิ่วเอ๋อ แต่บางทีก็ประสานความทรงจำได้ไม่ดีนัก
อย่างครั้งนี้ ตอนลงน้ำก็เผลอเรอ ลืมเรื่องแผลของตัวเองไปเสีย
แต่อย่างไรซะแผลก็ตกสะเก็ตแล้ว ตอนนางยืนอยู่ในน้ำ ระดับน้ำถึงแค่ช่วงหน้าอกเท่านั้น แม้จะเปียกแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่
พอเห็นจางชุนเถาที่หน้าตาเป็นห่วงและไม่สบอารมณ์ที่นางไม่รักตัวเอง จางซิ่วเอ๋อก็เลือกที่จะน้อมรับคำสั่งสอน
มีแต่พี่น้องแท้ ๆ ที่เป็นห่วงนางจริง ๆ เท่านั้นแหละถึงจะเป็นแบบนี้
นิสัยจางชุนเถาออกจะกระโตกกระตาก โกรธง่ายหายเร็ว นางกำชับจางซิ่วเอ๋ออีกครั้งว่าห้ามลงน้ำอีกแล้วก็หายโกรธ
“ลอกเปลือกไม้แล้วก็เด็ดใบไม้พวกนี้มาทำไมเหรอ? ของพวกนี้เอาไปให้หมูกิน หมูยังไม่กินเลย” จางชุนเถามีสีหน้าไม่เข้าใจ
จางซิ่วเอ๋อนึกขำในใจ หมูน่ะไม่ชอบกิน แต่ถ้าทำเป็นเครื่องปรุง คนน่ะชอบกินมากเลยนะ
“พี่รอง เมื่อกี้พวกข้าเจอพี่สวี่กับพี่หลีฮวาด้วย” จางซานหยาพูดเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้
พอได้แบบนั้นสีหน้าจางชุนเถาก็ไม่เป็นมิตรขึ้นมาทันที นางมองจางซิ่วเอ๋อพลางถาม “หลีฮวารังแกพี่อีกแล้วใช่ไหม?”
จางซิ่วเอ๋อหัวเราะ “เจ้าคิดว่าพี่สาวเจ้าตอนนี้ใครก็รังแกได้เหรอ? อีกอย่าง พี่สวี่ก็อยู่ เขาต้องจัดการนางอยู่แล้ว”
จางซิ่วเอ๋อแค่คิดก็รู้แล้วว่าถ้าวันนี้สวี่หวินซานไม่อยู่ที่นั่น ไม่รู้ว่าหลีฮวาจะพูดจาแย่ ๆ อะไรอีกบ้าง
จางชุนเถาโล่งใจ “ก็จริง ต่อหน้าพี่สวี่ หลีฮวาก็ต้องเสแสร้งว่ามีความเป็นคนหน่อย”
พอได้ยินจางชุนเถาพูดถึงหลีฮวาอย่างไม่ไว้หน้า จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าความขัดแย้งระหว่างชุนเถาและหลีฮวาก็ไม่เบาเหมือนกัน
“จริงสิพี่ ตอนพี่เจอพี่สวี่ได้ขอบคุณพี่สวี่ไหม ยารักษาแผลที่พี่ใช้ตอนพี่บาดเจ็บก็ได้มาจากพี่สวี่ ข้าได้ข่าวมาหลังจากนั้นว่าถ้าซื้อที่ร้านยา ยารักษาแผลนั่นอย่างน้อย ๆ ต้องใช้ 2 ตำลึงเงินแนะ” จู่ ๆ จางชุนเถาก็พูดขึ้น
จางซิ่วเอ๋อถึงนึกขึ้นได้ว่า จางชุนเถาเคยเอายารักษาแผลให้ตัวเองใช้ บอกว่าพี่สวี่ให้มา ที่แท้พี่สวี่คนนั้นก็คือสวี่หวินซานคนนี้เอง
พอได้ยินว่ายารักษาแผลต้องใช้ถึง 2 ตำลึงเงิน จางซิ่วเอ๋อก็รู้สึกขึ้นมาว่าตัวเองเป็นหนี้บุญคุณสวี่หวินซานเข้าแล้ว
ไม่ว่าสวี่หวินซานจะดีกับนางหรือดีกับเจ้าของร่าง ของแพงขนาดนี้นางก็รับไว้เฉย ๆ ไม่ได้หรอก
พูดง่าย ๆ ก็คือ นางจะคืน 2 ตำลึงเงินนี่ให้เขา
ใช้ของคนอื่นก็ต้องรับใช้คนอื่น ในหมู่บ้านตามป่าตามเขาอย่างหมู่บ้านชิงสือแล้ว เงิน 2 ตำลึงเงินไม่ใช่เงินจำนวนเล็ก ๆ เลยนะ จางซิ่วเอ๋อไม่อยากต้องข้องเกี่ยวกับสวี่หวินซาน จะใช้ของนี่ไปเฉย ๆ ไม่ได้
แต่…
แม้ตอนนี้นางอยากจะคืนตำลึงเงินอย่างมีศักดิ์ศรี นางก็ไม่มีจะคืน สงสัยเรื่องนี้คงต้องค่อยเป็นค่อยไป
“ครั้งหน้าถ้าข้าเจอเขา ข้าจะขอบคุณเขาดี ๆ นะ” จางซิ่วเอ๋อเลิกคิด และตอบรับคำพูดเมื่อครู่ของจางชุนเถา
จางชุนเถาบ่นขึ้นมาอีก “พี่ พี่สวี่ดีกับพี่มากนะ พี่อย่าโกรธพี่สสวี่เพราะเรื่องหลีฮวาเลย…พี่สวี่เห็นหลีฮวาเป็นน้องสาวแท้ ๆ”
จางซิ่วเอ๋อจับใจความสำคัญจากคำพูดนี้ได้
เห็นเป็นน้องสาวแท้ ๆ ก็หมายความว่าไม่ใช่น้องสาวแท้ ๆ ล่ะสิ
ถ้าเป็นแบบนี้จางซิ่วเอ๋อก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหลีฮวาถึงเกลียดตัวเอง ต้องเป็นเพราะหลีฮวาคนนี้ชอบสวี่หวินซานแน่ ๆ ส่วนสวี่หวินซานชอบจางซิ่วเอ๋อเจ้าของร่าง
นี่มันรักสามเส้าชัด ๆ
จางซิ่วเอ๋อคิดไม่ถึงเลยว่ามาอยู่ในหมู่บ้านนี้ยังจะตกอยู่ในสถานการณ์รักสามเส้าแบบนี้อีก
พอรู้ถึงสาเหตุ จางซิ่วเอ๋อก็ตัดสินใจว่าหลังจากหาตำลึงได้ เรื่องแรกที่จะทำก็คือคืนเงินค่ายารักษาแผลให้สวี่หวินซาน แล้วอยู่ห่างสวี่หวนซานให้ไกล
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตอนนี้นางยังไม่มีความคิดว่าจะหาผู้ชายสักคนมาร่วมใช้ชีวิตเลย ต่อให้มีก็คงไม่ใช่สวี่หวินซาน
ในหมู่บ้านนี้นางคือแม่ม่าย แถมยังเป็นแม่ม่ายที่ดวงกินผัว สวี่หวินซานจะแต่งงานกับตัวเองคงไม่ง่าย
ต่อให้มันไม่เป็นปัญหา จางซิ่วเอ๋อก็ไม่สบายใจ
คนที่สวี่หวินซานชอบคือจางซิ่วเอ๋อเจ้าของร่าง การที่นางมาอยู่ในร่างของจางซิ่วเอ๋อเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่ก็ไม่มีทางแต่งงานกับผู้ชายที่ชอบจางซิ่วเอ๋อเจ้าของร่างแน่ อีกอย่างนางไม่ได้ชอบสวี่หวินซาน
พอตัดสินใจได้ จางซิ่วเอ๋อก็สบายใจขึ้นเยอะ
ตอนนี้จางชุนเถาได้ตักน้ำมันกระดูกในหม้ออก แล้วอุ่นน้ำในหม้อต่อ
ของที่เหลือจากตอนเที่ยงมีไม่เยอะ จางซิ่วเอ๋อจึงต้มข้าวต้มสำหรับมื้อเย็น และเพราะตอนเที่ยงกินกันอิ่มแล้ว ตอนนี้สามพี่น้องจึงกินกันไม่เยอะนัก
จางซิ่วเอ๋อเหลือแผ่นแป้งข้าวโพดอีก 2 แผ่นไว้ หั่นแผ่นแป้งออกและยัดเนื้อเข้าไปนิดหน่อย จากนั้นก็ให้ซานหยาแอบเอากลับไป
จากนั้นเวลาก็ผ่านไปจนถึงวันรุ่งขึ้น จางซิ่วเอ๋อเอาเงินที่เหลือเพียงน้อยนิดออกจากบ้านไป ซึ่งก่อนออกจากบ้านนางก็กำชับจางชุนเถาเอาไว้
“ชุนเถา อบเชยกับใบหอมพวกนี้เจ้าดูดี ๆ นะ ถ้าฝนตกต้องรีบเอาเข้าบ้านทันที” จางซิ่วเอ๋อบอก