บทที่ 24 ล้างแค้นให้ลูกชาย EnjoyBook
บทที่ 24 ล้างแค้นให้ลูกชาย
“น้องสอง พ่ออยู่ตรงนี้ระวังกิริยาท่าทางหน่อย…อีกอย่างถ้าเกิดหมอหลี่เป็นอะไรขึ้นมา ใครจะดูแลอาหารป่วยของคุณพ่อ?” ไป๋เหรินอันพูดขึ้น ไป๋เหรินอันเอาเรื่องพ่อมาอ้างเพราะหวังว่าจะทำให้เรื่องเบาลงได้ ความโกรธยังคงปะทะอยู่ภายในใจของไป๋เหรินเจี๋ย แต่เขาก็เลือกที่จะปล่อยคอเสื้อหมอหลี่
สำหรับคนที่ต้องการจะเป็นใหญ่ นอกจากจะต้องทนกับเรื่องที่คนอื่นทนไม่ได้แล้ว ยังจะต้องรักษาภาพพจน์อีกด้วย
“พ่อ…ช่วยผมด้วย….” เลือดยังคงไหลอยู่ไม่หยุด ถึงแม้จะนิดเดียว แต่เป็นเพราะผ่านมาหลายชั่วโมง ไป๋เซ่าตอนนี้สีหน้าไม่เหลือชีวิตชีวาอะไรอีกแล้วได้แต่ร้องขอชีวิตเท่านั้น
“พ่อจะพาไปโรงพยาบาลตอนนี้แหละ”
“เดี๋ยวก่อน!” ไป๋เหรินอันร้องห้าม เขายังมีเรื่องที่ไม่ได้ถาม อย่างเช่นเรื่องกลุ่มคนคุ้มกัน ไป๋เหรินเจี๋ยกำหมัดแน่นพร้อมกับเพ่งมองที่ไป๋เหรินอัน
“ชีวิตคนสำคัญกว่า!” ครั้งนี้คุณปู่ตระกูลไป๋พูดขึ้นมาแบบนี้ไม่มีคนโง่ถึงขั้นโต้แย้งเขาแน่ ๆ
“ยืนทำอะไรอยู่ รีบเข้ามาช่วยสิ” ไป๋เหรินเจี๋ยตะคอกใส่ลูกน้องก่อนจะมีลูกน้องสองคนเข้ามาช่วยพยุงไป๋เซ่า
“ตู้มมม!!”
ในตอนที่ลูกน้องทั้งสองกำลังจะแตะตัวไป๋เซ่านั้น…ร่างของไป๋เซ่าก็ระเบิดกลายเป็นฝนเลือด ลูกน้องทั้งสองก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเพราะมือทั้งสองข้างของเขาก็ระเบิดกลายเป็นเศษเนื้อเช่นกัน คนในห้องต่างก็ตกตะลึงด้วยความกลัว
ไป๋เหรินเจี๋ยที่อยู่ใกล้ที่สุดโดนเลือดสาดจนตัวเองแดงเถือก นอกจากเสียงร้องของลูกน้องทั้งสองคนนั้นแล้วคนอื่น ๆ ก็ยืนนิ่งไม่ไหวติง
“ช่วยคนเร็วเข้า” คุณปู่ของตระกูลไป๋เป็นคนแรกที่หลุดจากภวังค์ก่อนแล้วตะโกนบอกลูกน้องคนอื่น ๆ
ลูกน้องทั้งสองคนเมื่อครู่ถูกหามออกไป หมอหลี่ก็ตามออกไปด้วย ตอนนี้เหลือเพียงคนของตระกูลไป๋ทั้งสี่
“พ่อ…” ไป๋เหรินอันอ้าปากค้างแต่กลับพูดอะไรไม่ออก ดูเหมือนว่ามีเมฆดำลอยล้อมคนทั้งสี่ไว้
คุณปู่ตระกูลไป๋ที่มีอายุขนาดนี้แล้วก็ย่อมเคยเห็นการตายที่แปลก ๆ มามาก แต่การตายแบบร่างระเบิดกลายเป็นฝนเลือดแบบไป๋เซ่า ทำให้เขากลัวจนเข้ากระดูกดำ
“พี่สอง ไม่เป็นไรใช่ไหม?” พอได้ยินเสียงของไป๋เหรินฉง คุณปู่ของตระกูลไป๋กับไป๋เหรินอันก็มองไปที่ไป๋เหรินเจี๋ย
พวกเขาเห็นเพียงแค่ไป๋เหรินเจี๋ยที่ยืนนิ่งเหมือนหินอยู่กับที่ไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมา ขนาดลมหายใจก็เหมือนจะหมดลงไปด้วย
“เหรินเจี๋ย!”
คุณปู่ของตระกูลไป๋มองเขาอย่างกังวล การที่เห็นลูกชายตัวเองระเบิดกลายเป็นฝนเลือดต่อหน้าต่อตาแบบนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องเป็นบ้าไปทั้งนั้น
ในเวลานี้เองที่ไป๋เหรินเจี๋ยกะพริบตา ก่อนจะลูบหน้าตัวเองแล้วมองไปยังเลือดที่นองอยู่เต็มมือแล้วเอาเข้าปาก พอเห็นแบบนี้ ขนาดคุณปู่ของตระกูลไป๋ก็ยังรู้สึกหวั่น ๆ
“หวาน…” ไป๋เหรินเจี๋ยพูดพร้อมรอยยิ้ม แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนฟังขนลุกซู่
“พี่ใหญ่ พี่อยากลองชิมดูไหม?” ไป๋เหรินเจี๋ยยกมือที่เต็มไปด้วยเลือดของตัวเองขึ้นมา ไป๋เหรินอันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนจะหันหน้าหนี
“มันหวานจริง ๆ นะ ฮ่า ๆ” ป่ายเหรินเจี๋ยหัวเราะแล้วเดินจากไป
“เฮ้ออ” คุณปู่ตระกูลไป๋ถอนหายใจออกมา ดูเหมือนว่าการตายของไป๋เซ่าจะทำให้ลูกชายของเขากลายเป็นบ้าไปแล้ว
“ไอ้ลูกชาย ยังไงเขาก็เป็นน้องของแกนะ” คุณปู่ของตระกูลไป๋พูดขึ้น ก่อนจะเดินจากไป ไป๋เหรินฉงมองไป๋เหรินอันครั้งหนึ่ง แววตาเหมือนมีเลศนัยบางอย่าง เวลานี้เองที่ลูกน้องคนหนึ่งวิ่งเข้ามา
“คุณชายสองพาตัวหวังซงออกไปแล้วครับ” ไป๋เหรินอันขมวดคิ้วก่อนจะปัดมือไล่ลูกน้องให้ออกไป
“นี่พี่สองจะแก้แค้นให้ไป๋เซ่างั้นเหรอ?” ไป๋เหรินฉงถามขึ้นมา ไป๋เหรินอันพยักหน้าแล้วพูดขึ้นมา “ปล่อยให้เขาไปปลดปล่อยอารมณ์หน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง”
จริงแล้ว ๆ เขาแอบยิ้มในใจ หวังซงเป็นแค่คนนอกเท่านั้น จะตายก็ไม่มีปัญหา แต่การที่ไป๋เซ่าตายถือเป็นการทำลายความหวังของไป๋เหรินเจี๋ย ในการปกครองตระกูลไปเรียบร้อยแล้ว
พวกเขาต่างคิดว่า การที่ไป๋เหรินเจี๋ยพาตัวหวังซงไปเพราะอยากแก้แค้นให้ไป๋เซ่า ยังไงหวังซงก็คือเป้าหมายของอีกฝ่าย
ด้านนอกของสำหนักงานใหญ่เหยี่ยวมังกร มีรถเก๋งสีดำคันหนึ่งขับเข้ามา ดึกขนาดนี้แล้วกลับไม่เปิดไฟรถเข้ามาใกล้ประตูใหญ่แล้วถึงมีคนสังเกตเห็น
“ใครกัน?” ลูกสมุนของกลุ่มเหยี่ยวมังกรถามขึ้น พอกระจกรถถูกลดลง คนขับกลับเป็นไป๋เหรินเจี๋ย
“ไปบอกเฉินฮั่นหลงกับซุนหยิงว่าไป๋เหรินเจี๋ยขอพบ”
“คนของตระกูลไป๋ ยังกล้ามาหาเราถึงที่อีก?” พอรู้ว่าคนที่มาคือไป๋เหรินเจี๋ยทั้งสองก็ตะคอกขึ้นด้วยความโมโห
ผ่านไปไม่นานพี่น้องของเขาเกือบร้อย ต้องตายเพราะคนของกลุ่มคนคุ้มกันที่มาจากตระกูลไป๋ แต่ไป๋เหรินเจี๋ยเป็นถึงคนระดับไหน แม้จะมีความแค้นแต่พวกเขาก็ไม่กล้าลงมือฆ่าไป๋เหรินเจี๋ยด้วยตัวเอง ถึงจะอยากลงมือมากแค่ไหนก็ตามแต่
เพราะแต่ละที่ก็มีกฎเกณฑ์ของตัวเอง สุดท้ายพวกเขาก็เอาเรื่องไป๋เหรินเจี๋ยไปบอกข้างใน
“ไป๋เหรินเจี๋ย?” พอได้ยินคนบอกแบบนี้ ซุนหยิงก็ลุกขึ้นยืนทันที
“ไป๋เหรินเจี๋ยมาหาพวกเราตอนนี้ทำไม” เฉินฮั่นหลงรู้สึกสงสัย
“สนทำไมว่าเพราะอะไร ฆ่ามันให้ตาย ๆ เพื่อล้างแค้นให้พี่น้องของเรา” ซุนหยิงพูดขึ้นด้วยความโมโห เฉินฮั่นหลงขี้เกียจสนใจคนอย่างซุนหยิงก็เลยหันไปถามฉู่ชวิ๋น
“นายท่านว่าไงครับ?”
“ถ้าเจอก็รู้เองไม่ใช่หรือไง” ฉู่ชวิ๋นพูดขึ้นเรียบ ๆ เฉินฮั่นหลงแอบด่าว่าตัวเองโง่เบา ๆ เพราะถ้าอยากรู้ก็ให้เข้ามาเจอก็จบแล้ว จากนั้นเขาก็บอกคนให้ไปพาตัวไป๋เหรินเจี๋ยเข้ามา เพียงพักเดียว ไป๋เหรินเจี๋ยก็เดินเข้ามาพร้อมกับคนของกลุ่มเหยี่ยวมังกร
“คุณชายไป๋ ยินดีต้อนรับ” เฉินฮั่นหลงคำนับ เขากับไป๋เหรินเจี๋ยเคยเจอกันหลายหน
ไป๋เหรินเจี๋ยก็คำนับแล้วพูดขึ้น “มาเจอดึกดื่นแบบนี้ หวังว่าจะไม่เป็นการรบกวนนะน้องเฉิน”
“โดนรบกวนตั้งนานแล้ว มาถึงตอนนี้ก็ช่างมันเถอะ” เฉินฮั่นหลงยิ้มขึ้น ไป๋เหรินเจี๋ยหัวเราะ ราวกับไม่เข้าใจที่เฉินฮั่นหลงพูด
“ไอ้คนตระกูลไป๋ มาหาพวกเราที่นี่ทำไม อย่าบอกนะว่าเรื่องที่พวกแกส่งคนคุ้มกันของตระกูลไป๋มาลอบทำร้ายพวกเรานั้นแกไม่รู้เรื่อง ถึงตอนนี้แล้วแกยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ ไม่กลัวฉันจะสับแกเป็นชิ้น ๆ หรือไง!” ซุนหยิงไม่ได้สุภาพเหมือนเฉินฮั่นหลงแน่นอน เขาชี้หน้าไป๋เหรินเจี๋ยแล้วตะโกนออกมา ไป๋เหรินเจี๋ยมีสายตาที่ไม่พอใจขึ้นมานิดหนึ่ง แต่ก็เก็บเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“เรื่องที่คนคุ้มกันของเราลอบทำร้ายพวกคุณนั้น ผมรู้ดี และยังสนับสนุนอีกต่างหาก เพราะว่าอยากจะช่วยลูกชายตัวเอง”
“พวกคุณจับลูกชายผมไปไม่คิดจะมีของแลกเปลี่ยนหน่อยรึไง คิดว่าไม่มีคนตระกูลไป๋อยู่แล้วรึไง?” พอนึกถึงลูกชายตัวเองที่เพิ่งจะตายไป น้ำเสียงของไป๋เหรินเจี๋ยก็แฝงไปด้วยความโกรธแค้น ไป๋เซ่าร่างระเบิดกลายเป็นฝนเลือด ขนาดกระดูกก็ไม่เหลือ!
“คุณไป๋ คิดว่าพวกเราเสียชีวิตพี่น้องหลายสิบคนไปไม่รู้สึกอะไรหรือไง!” เฉินฮั่นหลงก็โกรธขึ้นมาเหมือนกัน ไป๋เหรินเจี๋ยหยุดคิดไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้น “น้องเฉิน ที่ฉันมาวันนี้ไม่ได้จะมาพูดเรื่องอะไรแบนนี้ ฉันมาเพื่อขอความร่วมมือต่างหาก”
“ร่วมมือ?” เฉินฮั่นหลงสงสัย “พวกเรายังจะทำอะไรร่วมกันได้อีก?” ไป๋เหรินเจี๋ยกะพริบตาก่อนจะพูดขึ้นเสียงต่ำ “ฉันอยากจะแก้แค้น”
“แก้แค้นอะไร?” เฉินฮั่นหลงสงสัยหนักเข้าไปอีก ไป๋เหรินเจี๋ยกัดฟันพูดเสียงต่ำ “แก้แค้นให้ลูกชาย ฉันจะแก้แค้นแทนไป๋เซ่า”
เฉินฮั่นหลงนิ่งไปสัก ก่อนจะพูดขึ้น “ไป๋เซ่าตายแล้ว?” ซุนหยิงกับไท้ถานต่างก็แปลกใจเป็นอย่างมาก
“ใช่…เขา ร่างระเบิดกลายเป็นฝนเลือด ปัง! ไม่เหลืออะไรสักอย่าง” ไป๋เหรินเจี๋ยพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เฉินฮั่นหลงกับซุนหยิง รวมถึงไท้ถานต่างก็มองไปที่ฉู่ชวิ๋น….มีเพียงฉู่ชวิ๋นคนเดียวเท่านั้นที่ทำเรื่องแบบนี้ได้
ไท้ถานดีใจที่ได้ยินว่าไป๋เซ่าตายอย่างอนาถจนน้ำตาไหลออกมา “น้องสาว..พี่ล้างแค้นให้เธอสำเร็จแล้วนะ”
เฉินฮั่นหลงนึกถึงที่ไป๋เหรินเจี๋ยพูดว่าแก้แค้น ถ้าเป็นแบบนี้ คู่แค้นของเขาก็ต้องเป็นฉู่ชวิ๋นน่ะสิ ถ้าเป็นแบบนั้นจะยังไงก็ให้เขารอดกลับไปไม่ได้!
“คุณชายไป๋คิดว่าใครเป็นคนฆ่าลูกชายคุณ?” เฉินฮั่นหลงถามไป๋เหรินเจี๋ยดูว่ารู้จักฉู่ชวิ๋นหรือไม่ ไป๋เหรินเจี๋ยมองที่เฉินฮั่นหลง ก่อนจะยิ้มออกมาแบบแปลก ๆ แล้วพูดขึ้น “คนที่ฆ่าลูกชายผมก็คือไป๋เหรินอัน พี่ชายของผมเอง!”
“อะไรนะ?” ครั้งนี้เฉินฮั่นหลงตกใจจริง ๆ ไป๋เหรินอันเป็นพี่ใหญ่ของไป๋เหรินเจี๋ยไม่ใช่รึไง อีกอย่างคนที่ฆ่าไป๋เซ่าคือฉู่ชวิ๋นต่างหาก ทำไมนักฆ่าถึงกลายเป็นไป๋เหรินอันไปได้ล่ะ?
“ฉันรู้ว่าเบื้องหลังของน้องเฉินมีคนเก่งอยู่ ให้ฉันเขาพบสักครั้งได้ไหม?” ไป๋เหรินเจี๋ยเพิ่งจะพูดจบ เฉินฮั่นหลงก็หรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น
“แกรนหาที่ตายง้ันเหรอ!!”
“น้องเฉินเข้าใจผิดแล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ค่อยรู้จักคนเก่ง ๆ แบบนั้นแต่พอได้ยินจากหมอที่พูดเรื่องการตายของลูกชาย ถ้าฉันไปหาเขาเพื่อล้างแค้น นั้นไม่เท่ากับว่าฉันรนหาที่ตายงั้นเหรอ? ฉันแค่อยากพบเพราะมีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากให้เขาช่วย”
ไม่รอให้เฉินฮั่นหลงได้พูดอะไรต่อ ไป๋เหรินเจี๋ยก็พูดขึ้นอีก “ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายใด ๆ แค่อยากจะพบคนเก่งคนนั้นเพื่อมอบของขวัญให้ เขาจะต้องชอบมันมากแน่ ๆ” เฉินฮั่นหลงไตร่ตรองพักหนึ่ง และในเวลานี้เอง ฉู่ชวิ๋นก็เดินออกมาจากด้านหลัง ในตอนที่ไป๋เหรินเจี๋ยเข้ามาเขาหลบอยู่ข้างหลังไม่แสดงตัวอะไร
“นายท่าน!” เฉินฮั่นหลงรีบทำความเคารพ ซุนหยิงกับไท้ถานก็ไม่รอช้า ไป๋เหรินเจี๋ยตกใจมาก เพราะเท่าที่เห็น ฉู่ชวิ๋นยังเป็นหนุ่ม อยู่เลยไม่ต่างอะไรกับเด็กมหาลัยเลยสักนิด และอีกอย่าง…ลูกชายของเขาก็ต้องมาตายในน้ำมือของเด็กหนุ่มตรงหน้า!
“มาหาฉันมีเรื่องอะไร?” ฉู่ชวิ๋นมองไปที่ไป๋เหรินเจี๋ย
ไป๋เหรินเจี๋ยจัดการกับอารมณ์ของตัวเองแล้วค่อย ๆ โค้งคำนับ “สวัสดีครับ นายท่าน” ถึงแม้พอเห็นเฉินฮั่นหลงเรียกเด็กหนุ่มตรงหน้าแบบนี้จะรู้สึกแปลก ๆ แต่เขาก็เรียกตามในทันที
“พูดจุดประสงค์ของคุณมา” ฉู่ชวิ๋นพูดขึ้นเบา ๆ ไป๋เหรินเจี๋ยโมโหขึ้นมาเล็กน้อย เพราะลักษณะการพูดของฉู่ชวิ๋นเหมือนกำลังข่มเขาอยู่
“ผมอยากจะให้คุณช่วยล้างแค้น พอเรื่องนี้จบผมสัญญาว่าจะไม่ให้คุณเสียแรงฟรี ๆ” ไป๋เหรินเจี๋ยพูดขึ้น วิธีการฆ่าของฉู่ชวิ๋นมันแปลกประหลาด มันตรงกับสิ่งที่เขาต้องการ เขาอยากให้ไป๋เหรินอันตายแบบไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ
เฉินฮั่นหลงกับซุนหยิงรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดที่ไม่ให้เกียรติของไป๋เหรินเจี๋ย ฉู่ชวิ๋นเป็นถึงท่านเทพแล้วมันกล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง
“แกคิดว่าตัวเองเป็นใครวะ ถึงคิดอยากจะให้นายท่านไปรับใช้แก เชื่อไหมว่าฉันฆ่าแกได้ในฝ่ามือเดียว” ร่างที่สูงเกือบสองเมตรอย่างไท้ถานพุ่งเข้าไปดึงคอเสื้อของไป๋เหรินเจี๋ยจนลอยขึ้น ฉู่ชวิ๋นสะบัดมือบอกให้ไท้ถานวางลง
“แม่งเอ้ย พูดอะไรระวังปากแกหน่อย ฉันไม่สนหรอกนะว่าแกเป็นใคร ถ้ายังไม่เคารพนายท่านอีกก็ระวังหัวแกไว้ให้ดี” พอไท้ถานลดมือลง ไป๋เหรินเจี๋ยก็เกือบจะเซล้ม ไป๋เหรินเจี๋ยลูบคอตัวเองเบา ๆ ก่อนจะมองไปที่ไท้ถานอย่างไม่เป็นมิตร
“อยากจะฆ่าพี่ชายตัวเอง เพราะอะไร?” ฉู่ชวิ๋นถาม
“เพราะถ้าไม่ใช่มัน ลูกชายผมก็จะไม่ตาย” ไป๋เหรินเจี๋ยพูดขึ้นด้วยความโกรธแค้นเพราะถ้าไม่ใช่ไป๋เหรินอันยื้อเวลาไม่ยอมส่งตัวหวังซง แถมยังตั้งใจไม่ให้กลุ่มคนคุ้มกันลงมือง่าย ๆ ไป๋เซ่าก็คงไม่ตายอย่างน่าเวทนาอย่างนี้
“ถ้าผมช่วยคุณแล้ว คุณสามารถควบคุมทั้งตระกูลไป๋ได้ไหมล่ะ?” ฉู่ชวิ๋นถามอย่างเรียบ ๆ แต่กลับมีสายตาที่เย้ยหยัน ไป๋เหรินเจี๋ยรู้สึกเหมือนตัวเองโดนดูถูก สายตาของฉู่ชวิ๋นทำให้เขารู้สึกเหมือนหยุดหายใจ สายตาแบบนี้..แบบที่ราวกับตัวเองโดนมองทะลุทุกอย่าง