เหนียนเสี่ยวมู่บ้าไปแล้วเหรอ

ซ่างซินเป็นนางแบบสาวที่เป็นที่นิยมสามอันดับแรกของผู้คนในเวลานี้

 

 

หน้าตาสะสวย รูปร่างดี พอได้เปิดตัวก็มีแฟนคลับนับไม่ถ้วน แม้เหนียนเสี่ยวมู่จะไม่ค่อยได้สนใจข่าวบันเทิงนัก แต่ก็เคยได้ยินชื่อของเธอมาบ้าง

 

 

“พรีเซนเตอร์ที่เพียบพร้อมที่สุดของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าคือเซิ่งซิน ข้อมูลผู้จัดการของเธออยู่ในนี้แล้ว คุณต้องไปติดต่อ นัดกับพรีเซนเตอร์ให้ได้ภายในเวลาอันสั้น มีปัญหาไหมคะ” เย่หมิงหมิ่นพูดจบก็ถามขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้คิดอะไรมาก รู้แค่งานของตัวเองก็พอ แล้วจึงพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา “ฉันจะจัดการให้เร็วที่สุด”

 

 

“รบกวนคุณแล้วค่ะ” เย่หมิงหมิ่นพยักหน้าให้อีกฝ่ายเล็กน้อย แล้วหมุนตัวเดินกลับไปที่นั่งตัวเอง

 

 

ในพื้นที่ทำงาน นอกจากตอนที่เหนียนเสี่ยวมู่พูดชื่อนั้นออกมา ทุกคนก็เผยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไม่นานก็จมสู่ความเงียบงันอันน่าประหลาด

 

 

ทุกคนต่างก็ก้มหน้า ยุ่งอยู่กับงานในมือ

 

 

ราวกับภาพเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ก็นั่งลงบ้าง ก่อนจะพลิกอ่านข้อมูลที่เย่หมิงหมิ่นให้เธอมา

 

 

เธอพบว่าในนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับซ่างซินน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นแค่ข้อมูลของผู้จัดการ

 

 

จากนั้นเธอจึงเปิดคอมพิวเตอร์ ค้นหาบนอินเทอร์เน็ตสักหน่อย

 

 

ทว่าเพิ่งเริ่มเสาะหาข้อมูล เธอก็พบว่าแก้วน้ำของตัวเองว่างเปล่าแล้ว จึงถือแก้วน้ำเดินไปที่ห้องน้ำชา

 

 

“พวกเธอว่าเหนียนเสี่ยวมู่เป็นบ้าไปแล้วหรือเปล่า งานนี้ยังกล้ารับอีก!” เหนียนเสี่ยวมู่ยังเดินไปไม่ถึงประตู ก็ได้ยินเสียงพูดคุยบางเบาดังออกมาจากในห้องน้ำชาแล้ว

 

 

“เมื่อกี้ฉันได้ยินตอนซูเปอร์ไวเซอร์เย่ส่งเอกสารให้เธอ มุมปากของคุณเย่ซ่อนรอยยิ้มอยู่ตลอด คาดว่าโยนมันหวานลวกมือนี้ไปแล้ว วันนี้คุณเย่คงไปกินข้าวฉลองสักมื้อ”

 

 

“ทำไมเธอพูดจาแย่แบบนี้ล่ะ ฉันว่าเหนียนเสี่ยวมู่มั่นใจมาก เธออาจจะมีวิธีก็ได้…”

 

 

“เธอสงบปากหน่อยเถอะ! นั่นเป็นใคร ซ่างซินเลยนะ! นางแบบหน้าใหม่ที่มีเอกลักษณ์ที่สุด อยากจะให้เธอมาเป็นพรีเซนเตอร์ เธอเตรียมโลงให้ตัวเองก่อนเถอะ!”

 

 

“ก็ใช่…”

 

 

“…” เหนียนเสี่ยวมู่อึ้งงันอยู่หน้าประตู พลันนึกขึ้นได้ว่าทำไมตอนเธอพูดชื่อนั้นออกมาถึงทำให้ทุกคนมีปฏิกิริยาอย่างนั้น

 

 

มือที่ถือแก้วน้ำอยู่เริ่มกำแน่นเข้าหากัน

 

 

เธอไม่ได้เข้าไปในห้องน้ำชา แต่มุ่งตรงกลับไปนั่งลงตรงหน้าโต๊ะทำงานของตัวเองอีกครั้ง

 

 

ก่อนจะอ่านข้อมูลเกี่ยวกับซ่างซินบนหน้าเว็บเพจรอบหนึ่ง

 

 

ไม่นานเธอก็พบว่าเธอประมาทความนิยมของซ่างซินไป

 

 

คำพูดที่ว่าเป็นสามอันดับแรก นับว่าเกรงใจเกินไป

 

 

แค่จำนวนแฟนคลับที่ไปต้อนรับที่สนามบิน ตอนที่เธอมาถึงโถงสนามบิน แฟนคลับก็เบียดเสียดกันจะตายแล้ว…

 

 

ความนิยมสูงขนาดนี้ ต้องเป็นอันดับหนึ่งแล้วล่ะ!

 

 

ทีแรกเหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่

 

 

นางแบบหน้าใหม่ คนเห็นแล้วรู้สึกไม่คุ้นตา อยากจะดูหลายๆ ครั้งก็เป็นเรื่องปกติ

 

 

แต่เมื่อเธอพบว่านอกจากแฟชั่นโชว์ที่มีกฎระเบียบจำนวนมากแล้ว ซ่างซินแทบจะไม่ออกงานอีเว้นท์ และตอนที่เธอพบว่าซ่างซินไม่เคยพูดคุยเกี่ยวข้องกับดาราชายคนไหน เธอก็ตกใจอยู่บ้าง

 

 

นางแบบที่แสดงตัวน้อย แต่กลับมีความนิยมสูงขนาดนี้ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่

 

 

และถึงแม้ซ่างซินจะมีชื่อเสียงมาก ที่พรีเซนเตอร์สนใจอยู่เสมอก็มีเพียงเรื่องราคา แค่พูดถึงชื่อของซ่างซิน ทุกคนก็หวาดหวั่นกันไปหมดแล้ว…

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เท้าคางด้วยมือทั้งสองข้าง มีคำถามมากมายที่ยังคิดไม่ตก ตอนที่กำลังจะค้นหาข้อมูลนั้น โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา

 

 

“ที่รัก ในที่สุดเธอก็โทรกลับมาหาฉันแล้ว ฉันมีเรื่องสำคัญอยากคุยกับเธอแหละ นัดเจอกันนะ!”