ตอนที่ 63 ปณิธานของกองทัพเลือดเหล็ก (2) / ตอนที่ 64 ปณิธานของกองทัพเลือดเหล็ก (3)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 63 ปณิธานของกองทัพเลือดเหล็ก (2)

 

 

ชิงจู๋กลัวเฟิงหรูชิงเข้าใจผิด หากนางเข้าใจผิด มันก็อาจกลายเป็นงูตุ๋นได้ ดังนั้นจึงรีบพูดอธิบาย

 

 

เฟิงหรูชิงสีหน้าแปลกๆ ที่จริง…นางยังไม่ทันว่าอะไรเลย?

 

 

“นี่ก็เย็นแล้ว เจ้างูน้อย ข้าต้องกลับก่อนล่ะ ไว้คราวหน้าข้าจะมาเยี่ยมเจ้าอีก”

 

 

นางลุกขึ้นแล้วบิดขี้เกียจใส่พระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน สีหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าบัดนี้ร่างกายยังคงอวบอ้วน แต่นิสัยไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนที่ทำอะไรไร้ความยำเกรง นางทำให้คนอื่นรู้สึกสบายใจขึ้นและรับรู้ได้ถึงความสดใสของนาง

 

 

ชิงจู๋เกือบจะร้องไห้ออกมา ขอร้องล่ะ ขอร้องว่าอย่ามาหาข้าอีกเลย งูอย่างข้ารับความตกใจแบบนี้ไม่ไหว

 

 

มันน่าตกใจจริงๆ

 

 

“เจ้างูน้อย ข้ารู้ว่าเจ้าไม่อยากให้ข้ากลับ เจ้าวางใจเถอะ พรุ่งนี้ข้าจะมาหาเจ้าเหมือนเดิม” เฟิงหรูชิงเห็นชิงจู๋ที่ใกล้จะร้องไห้ จึงยิ้มแล้วตบหัวของมันเบาๆ ขณะพูด

 

 

บัดนี้นางได้ป้ายเลือดเหล็กกลับมาอยู่ในมือแล้ว ควรไปเยี่ยมเยียนทัพเลือดเหล็กสักหน่อย เพื่อป้องกันไม่ให้บรรดาผู้คนที่ติดตามเสด็จแม่มานานหลายปีรู้สึกผิดหวังจนเกินไป

 

 

 

 

นับแต่น่าหลานฮองเฮาสิ้นพระชนม์ ทัพเลือดเหล็กก็ไม่ปรากฏตัวอีกเลย ราวกับพวกเขาหลบซ่อนตัวอยู่ในวังหลวง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลก แม้แต่คำสั่งของเฟิงเทียนอวี้ พวกนางก็ไม่ยอมทำตาม

 

 

และด้วยความรักที่เฟิงเทียนอวี้มีต่อน่าหลานฮองเฮาอย่างสุดซึ้ง เรื่องที่คนพวกนี้ไม่ฟังคำสั่งของเขา เขาเลยยอมอะลุ่มอล่วย แล้วแต่ความสมัครใจของพวกนาง

 

 

ขณะนั้น ในสวนที่เงียบสงบ ผู้หญิงจำนวนหนึ่งที่แต่งกายเรียบๆ กำลังประลองยุทธ์อยู่ในสวน ในเวลานั้นมีหญิงนางหนึ่งมองเห็นเฟิงหรูชิงที่จู่ๆ ก็ปรากฏกายในสวน นางมือสั่น รับกระบี่ของหญิงอีกคนที่พุ่งมาตรงหน้าไม่อยู่ กระบี่จึงปาดผ่านชายแขนเสื้อของนาง

 

 

ทำให้ชายเสื้อของนางขาดและตกลงบนพื้น

 

 

เฟิงหรูชิงยืนอยู่ที่ประตู เอ่ยปากทักทายด้วยความประหม่า “ข้ามาขัดจังหวะการประลองยุทธ์ของพวกเจ้าใช่ไหม”

 

 

ในเวลานั้น ทุกคนหยุดการเคลื่อนไหว แล้วมองมาที่เฟิงหรูชิง

 

 

ผู้หญิงคนที่ชายแขนเสื้อถูกฟันขาดแสยะยิ้ม ท่าทีเย้ยหยัน “ตั้งแต่องค์หญิงยกป้ายเลือดเหล็กให้หรงกุ้ยเฟย ก็ไม่เคยปรากฏตัวที่นี่อีกเลย คิดไม่ถึงว่าวันนี้ท่านจะนึกถึงพวกเราคนที่ถูกทอดทิ้งไปแล้ว?”

 

 

นับแต่น่าหลานฮ่องเฮาสิ้นพระชนม์ พวกนางคิดว่าถ้าองค์หญิงโตขึ้นจะรับช่วงนำพาพวกนางออกสนามรบ แต่สิ่งที่ได้พบคือการที่องค์หญิงยกพวกนางให้คนอื่น

 

 

ชีวิตของนางยอมภักดีกับน่าหลานฮ่องเฮาผู้เดียวเท่านั้น เมื่อน่าหลานฮองเฮาสวรรคต พวกนางยอมให้พระธิดาของน่าหลานฮองเฮารับช่วงต่อเท่านั้น ต่อให้น่าหลานฮองเฮามีพระโอรส พวกนางก็ไม่ยอมรับคำสั่ง!

 

 

แต่องค์หญิงไม่เข้าใจ ว่าเรื่องนี้มีความหมายว่าอะไร

 

 

นางยกป้ายเลือดเหล็กให้คนอื่น ก็เท่ากับให้พวกนางทรยศต่อน่าหลานฮองเฮา หรือยิ่งกว่านั้น ชีวิตนี้ไม่อาจออกศึกได้เช่นเมื่อก่อนแล้ว!

 

 

“ถังจือ” ผู้หญิงอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ดึงชายเสื้อของถังจือ แล้วหันไปมองที่เฟิงหรูชิง น้ำเสียงของนางดูเย็นชาฟังดูห่างเหิน “องค์หญิงเพคะ ที่ท่านมาหาพวกเรา มีเรื่องอะไรจะรับสั่งหรือเพคะ”

 

 

เฟิงหรูชิงเอามือลูบจมูก แล้วเดินเข้ามาในสวน “ข้าไม่มีเรื่องอะไร ก็แค่มาเยี่ยมพวกเจ้าเท่านั้น อ้อ จริงสิ ป้ายเลือดเหล็ก…ข้าเอากลับมาจากหรงกุ้ยเฟยแล้ว”

 

 

ถังจือรู้สึกตะลึง นางรีบแหงนหน้ามองเฟิงหรูชิง

 

 

ป้ายเลือดเหล็ก…นางเอาคืนมาแล้วหรือ

 

 

จริงหรือเปล่า

 

 

“เมื่อก่อนข้าไม่รู้ความ ทำสิ่งที่ผิดไปมากมาย ข้ารู้ว่าข้าทำให้พวกเจ้าเสียใจและผิดหวัง แต่ข้าจะใช้เวลาที่เหลือชดเชยให้พวกเจ้า ข้าจะทำให้พวกเจ้าได้ออกรบอีกครั้ง ให้คนทั้งโลกได้รู้ว่าผู้หญิงไม่ด้อยกว่าผู้ชาย ข้าจะทำให้พวกเจ้าเจิดจรัสและมีผลงานการศึกมากขึ้นกว่าเดิม”

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 64 ปณิธานของกองทัพเลือดเหล็ก (3)

 

 

เฟิงหรูชิงในตอนนั้นดึงดันจะยกป้ายเลือดเหล็กให้หรงกุ้ยเฟยให้ได้

 

 

ในวันนั้น ทุกคนในทัพเลือดเหล็กต่างคุกเข่าอยู่หน้าประตูตำหนักของนาง พวกนางสาธยายความยากลำบากของฮองเฮาในการก่อตั้งทัพเลือดเหล็กให้เฟิงหรูชิงฟัง หวังว่านางจะเอาป้ายเลือดเหล็กกลับมา

 

 

แต่เฟิงหรูชิงกลับพูดเพียงถ้อยคำที่ทำให้ทหารในกองทัพรู้สึกผิดหวัง

 

 

นางพูดว่า นางคือนาย ส่วนพวกนางเป็นแค่บ่าว ในเมื่อพวกนางเป็นสิ่งที่เสด็จแม่ทิ้งไว้ให้ นางอยากจะยกพวกนางให้ใครก็ได้ทั้งนั้น ใครก็ไม่มีสิทธิ์มาขัดขวาง นางพูดราวกับว่าคนเหล่านี้ไม่ต่างอะไรกับสัตว์วิเศษที่อยากจะยกให้ใครก็ได้ทั้งนั้น

 

 

นับแต่นั้นมา ไม่มีคนในทัพเลือดเหล็กไปขอร้องนางอีกเลย เพราะคนเหล่านั้นรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง หมดหนทางเรียกศรัทธากลับคืนมาดังเดิม

 

 

ถังจือกำมือแน่น วันนั้นพวกนางวิงวอนเฟิงหรูชิงอย่างยากลำบาก แต่นางกลับไม่ยอมเอาป้ายเลือดเหล็กกลับคืนมา เหตุใดตอนนี้จึงเลือกที่จะเอาคืนมา หรือว่า เป็นเพราะหลายปีมานี้พวกนางไม่สนใจหรงกุ้ยเฟย หรงกุ้ยเฟยจึงให้นางมาเกลี้ยกล่อมพวกนาง?

 

 

ถึงอย่างไรทัพเลือดเหล็กก็แตกต่างกับทัพอื่นๆ กองทัพของเมืองหลวงขึ้นตรงกับแคว้น ป้ายบัญชาอยู่ในมือใคร ก็ต้องฟังคำสั่งคนผู้นั้น

 

 

แต่พวกนางอาศัยการที่ฝ่าบาทตามใจ เลือกที่จะทำตามใจของตนเอง หลายปีมานี้จึงไม่ได้เอาเรื่องหรงกุ้ยเฟย

 

 

แต่หรงกุ้ยเฟยกลับเกรงกลัวพลังของกองทัพ มาบัดนี้ยังไม่กล้าปะทะกับพวกนางแบบซึ่งหน้า!

 

 

“หรงกุ้ยเฟยให้ท่านมาใช่ไหม” ถังจือหัวเราะฮึ “นอกจากหรงกุ้ยเฟย จะมีใครเรียกใช้ท่านได้อีก ต่อให้ท่านยกป้ายเลือดเหล็กให้นางไป พวกเราก็ไม่มีทางฟังคำสั่งของนางหรอก บอกให้นางตัดใจเสียเถอะ!”

 

 

เฟิงหรูชิงถอนหายใจ นี่องค์หญิงคนเดิมทิ้งรอยแผลในจิตใจพวกนางไว้มากแค่ไหนกันนะ จึงทำให้นางพูดตรงไปตรงมา ไม่มีใครยอมเชื่อนางเลยสักคน!

 

 

“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าคงไม่มีทางเชื่อใจข้าในระยะเวลาสั้นๆ แต่พวกเจ้าวางใจเถอะ ข้าจะอาศัยความสามารถของข้าทำให้พวกเจ้ากลับมาเชื่อฟังข้า ข้าจะไม่ใช้อำนาจของเสด็จพ่อข้าเด็ดขาด”

 

 

หากเฟิงหรูชิงต้องการจริงๆ ก็สามารถบอกเฟิงเทียนอวี้ได้ คำพูดของเฟิงเทียนอวี้ คนเหล่านี้คงยอมฟังอยู่บ้าง

 

 

แต่พวกนางไม่ไว้วางใจในเฟิงหรูชิงมากพอ หากใช้วิธีการบังคับ ก็ใช่ว่าพวกนางจะยอมช่วยนางสิ่งที่นางต้องการก็คือใจของคนเหล่านี้!

 

 

“ที่ข้ามาวันนี้ ไม่ได้ติดของฝากอะไรมา มีเพียงผลไม้นิดหน่อย แต่เสียดายที่มีปริมาณไม่มาก ข้าเลยใช้พลังวิเศษทำให้พวกมันกลายเป็นน้ำ”

 

 

แต่น้ำผลไม้นี่ นางละลายน้ำเพิ่มเข้าไป

 

 

เพราะคนของกองทัพมีจำนวนมาก ถ้าไม่ละลายให้เจือจางก็คงไม่พอแจกและแม้ว่าจะเจือจางแล้ว   แต่ละคนก็ได้ดื่มเพียงแค่คนละอึกเท่านั้น

 

 

ยังดีที่เทียนหลิงกั่วที่นางปลูกมีพลังวิเศษที่เข้มข้น ถึงแม้จะละลายให้เจือจาง ก็ยังมีฤทธิ์บรรเทาอาการเหนื่อยล้าเพียงแค่เห็นผลไม่ไวเท่ากับการกินผลของมันตรงๆ เท่านั้น

 

 

พวกถังจือมองดูเฟิงหรูชิงวางกาน้ำผลไม้ทั้งสองลง นิ่งเงียบไม่พูดอะไร

 

 

ทุกคนต่างไม่เข้าใจว่าวันนี้องค์หญิงคิดอะไร แถมยังมีน้ำใจเอาน้ำผลไม้มาให้พวกนาง?

 

 

“ข้าไม่รบกวนการฝึกของพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าเรียกคนอื่นๆ ในกองทัพมาผลไม้นี่ข้าอุตส่าห์ไปซื้อจากร้านขายยาวิเศษมาให้พวกเจ้า”

 

 

“เทียนหลิงกั่วระดับหนึ่ง ถึงแม้เป็นยาระดับหนึ่งที่ปลูกได้ง่ายที่สุด แต่ว่าเพราะพวกสัตว์วิเศษชอบกินเทียนหลิงกั่ว ในทวีปนี้จึงมีเทียนหลิงกั่วไม่มาก ไม่อย่างนั้นท่านแม่ทัพน่าหลานคงไม่ตื่นเต้นขนาดนี้”

 

 

ยาวิเศษอื่นๆ ยังพอหาซื้อได้จากร้านขายยาวิเศษ แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้เฟิงหรูชิงไม่มีทางบอกพวกนาง ต่อให้เทียนหลิงกั่วหายาก ก็ไม่ใช่ว่าไม่มี นางบอกว่าซื้อมาจากร้านขายยาก็ไม่มีปัญหาอะไร