เล่ม 1 ตอนที่ 24 เตะออกไปทันที!

ราชินีพลิกสวรรค์

ทันทีที่เสียงของลู่จ้านเงียบลง เจียงหลีก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากทางซ้ายและขวา 

 

 

นางกวาดสายตาจากหางตาของตน มองเห็นเด็กวัยรุ่นสี่ห้าคนที่อายุมากกว่าเซียวเซียวเดินถอยหลังไปห้าก้าวด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว 

 

 

เห็นทีคนเหล่านี้ได้ลิ้มรสความน่ากลัวของขบวนทุบพันครั้งฝึกร้อยคราแล้วจึงกลัว และเลือกที่จะถอยออกไป เจียงหลีเดาอยู่ในใจของตน 

 

 

นางกระซิบถามเซียวเซียวที่อยู่ข้างๆ “จะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ถอยหลังไปห้าก้าว” 

 

 

ความดูถูกได้เพิ่มขึ้นในสายตาของเซียวเซียว “ผู้ที่ถอยไปห้าก้าว ไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะเข้าไปในเรือนทหาร พวกเขาจะถูกขายให้เป็นทาสโดยตระกูลลู่” 

 

 

หลังจากที่พูดจบแล้ว เขาก็ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวอย่างไม่ลังเล 

 

 

เจียงหลีกะพริบตา พบว่าเซียวเซียวเด็กคนนี้ แม้นจะมีภูมิหลังทั่วไป แต่กลับมีความหยิ่งผยอง นี่เขากำลังดูถูกคนเหล่านั้นที่ยอมแพ้เองงั้นรึ บางทีคนเหล่านั้นไม่ได้ตั้งใจยอมแพ้ในตอนต้น มิเช่นนั้นพวกเขาคงจะไม่เข้าร่วมในการคัดเลือก อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่แล้ว และได้เห็นรูปแบบการฝึกฝนด้วยตาของพวกเขา คงเกิดความขี้ขลาดขึ้นภายในใจ และเลือกล้มเลิกด้วยตนเอง แต่สิ่งที่ตระกูลลู่ที่อยู่อย่างยาวนามมาหลายร้อยปีไม่ต้องการที่สุดก็คือคนขี้ขลาด! 

 

 

วัยรุ่นหกคนที่ติดตามเซียวเซียว สบตากันอย่างลับๆ สายตาของพวกเขาแน่วแน่และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันกับเซียวเซียว เจียงหลีมองไปที่ทั้งเจ็ดคน กวาดสายตาไปมาสองสามครั้ง ไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ 

 

 

พอมีคนนำ หลายคนจากบริเวณอื่นก็ได้ลุกเดินออกมา ดูจากท่าทางของพวกเขาแล้ว ประหนึ่งต้องรวบรวมความกล้าเป็นอย่างมากจึงจะก้าวออกมาได้  

 

 

เจียงหลีละสายตา และมองไปที่ขบวนรบขบวนทุบพันครั้งฝึกร้อยครา นางมีความครั่นคร้ามต่อผู้นำคนนี้ ขบวนรบที่น่าเกรงขามนี้กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของนางเป็นอย่างมาก  

 

 

“ขบวนทุบพันครั้งฝึกร้อยครา จะทุบพันครั้ง ฝึกซ้อมร้อยครากันอย่างไร” เจียงหลีบ่นพึมพำ ไขว้มือทั้งสองข้างไว้ด้านหลัง ยืดลำตัวตั้งตรงแล้วเดินไปยังสนามฝึกด้วยท่าทีมั่นใจและสงบ 

 

 

จะมาก็เข้ามา เหตุใดต้องเดินมาแค่ก้าวเดียว 

 

 

ขู่ให้ผู้คนหวาดกลัวอย่างนั้นหรือ!  

 

 

เจียงหลีเดินเข้าไปในสนามฝึกอย่างโอ่อ่า เซียวเซียวพอเห็นจึงหรี่ตาลง กำสองมือไว้แน่น สหายของเขามองดูและอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่ได้ชื่นชมเจียงหลีอย่างแน่นอน แต่กำลังคิดว่านางช่างเป็นคนที่งี่เง่าจริงๆ 

 

 

“ฮึ่ม เป็นจริงที่ว่า ผู้ที่ไม่รู้ย่อมไม่กลัว” มีเสียงเยาะเย้ยอยู่ข้างๆ 

 

 

เซียวเซียวหันไปและจ้องมองดวงตาอันเยือกเย็นที่เยาะเย้ยนั้น “อย่างน้อย นางเป็นผู้หญิง ก็ยังกล้าที่จะเข้าไป ไม่เหมือนบางคน ทำได้เพียงถอยหลังอย่างคนขี้ขลาดตาขาว” 

 

 

“นี่เจ้า” 

 

 

คำพูดของเขา ทำให้คนเหล่านั้นโกรธ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่กล้าอวดดีที่นี่ หนึ่งในนั้นหัวเราะเยาะ “หึ นั่นเป็นเพราะนางไม่รู้ว่าการต่อสู้นั้นทรงพลังแค่ไหน เกรงว่าเมื่อนางรู้แล้วจะร้องหาบิดามารดา” 

 

 

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็รอดูเถอะ” เซียวเซียวพูดอย่างไม่ยอมแพ้ 

 

 

“ถ้านางสามารถยืนหยัดในการต่อสู้ได้ถึงครึ่งก้านธูป ข้าจะคุกเข่าลงคำนับนางสามครั้งแล้วเรียกนางว่ามารดา” ชายคนนั้นถูกเซียวเซียวยั่วยุ และพูดอย่างไม่พอใจว่า “ถ้านางไม่ไหวเจ้าก็จงคุกเข่าลงคำนับข้าสามครั้งและเรียกข้าว่าบิดา เป็นอย่างไร เจ้ากล้าหรือไม่” 

 

 

“ใช่ เจ้ากล้าหรือไม่ ถ้าไม่กล้า อย่ามาทำตัวเป็นวีรบุรุษที่นี่” ในขณะเดียวกันนั้นผู้ที่ถอนตัว ก็พร้อมใจกันไม่ยอมให้ผู้อื่นมาดูถูก 

 

 

“พี่เซียว อย่าหุนหันพลันแล่นไป” คนเหล่านั้นที่อยู่รอบข้างๆ เซียวเซียวกระซิบบอก 

 

 

“ใช่ อย่าหุนหันพลันแล่น เพื่อว่าเมื่อเจ้าจะต้องเรียกข้าว่าบิดา ในใจของเจ้าคงรอไม่ไหวที่จะบีบคอยัยเด็กนั่น” ชายคนนั้นพูดอย่างเยาะเย้ย 

 

 

ท่าทางของเขา ยั่วให้คนรอบข้างเซียวเซียวไม่พอใจ แน่นอน แม้ว่าพวกเขารู้ว่าเจียงหลีมีทักษะบางอย่าง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่านางจะสามารถต่อสู้ได้ ขบวนรบเช่นนี้ลองเพียงแค่ครั้งเดียว ก็จะไม่คิดลองอีกเป็นครั้งที่สอง หากพวกเขาไม่เต็มใจที่จะสละโอกาสในการเข้าเป็นทหาร พวกเขาก็จะถอนตัวเช่นกัน 

 

 

ในความคิดเห็นของพวกเขา เซียวเซียวไม่มีความจำเป็นต้องบาดหมางกับคนกลุ่มนี้เพื่อเจียงหลี  

 

 

เซียวเซียวไม่ได้ตอบกลับทันที แต่มองกลับไปที่ด้านหลังของเจียงหลี สถานการณ์ฝั่งนี้ได้ก้าวเข้าสู่ประลอง เจียงหลีไม่ได้ตื่นตระหนกสงสัยกลองยักษ์เหล่านั้นแต่อย่างใด เมื่อเห็นท่าทางที่ผ่อนคลายของนาง เซียวเซียวอธิบายไม่ถูก เพียงรู้สึกว่านางสามารถทนต่อไปได้ 

 

 

“ได้ ข้าตกลง” เซียวเซียวเป็นคนที่เด็ดขาด หลังจากตัดสินในใจแล้วเขาก็ได้ตัดสินใจเดิมพันกับอีกฝ่าย 

 

 

“พี่เซียว!” 

 

 

“พี่เซียว!” 

 

 

สหายทั้งหกของเขาตกใจจนหน้าซีด 

 

 

หลายคนในอีกฝ่ายถึงกับผงะ ไม่คาดคิดว่าเซียวเซียวจะรับคำท้า และก็มีเสียงหัวเราะออกมา สายตาที่มองดูเซียวเซียว เหมือนเห็นว่าเขาเป็นคนปัญญาอ่อน 

 

 

“ดีมาก ข้าจะอยู่ที่นี่รอให้เจ้าเรียกข้าว่าบิดา” ชายคนนั้นพูดอย่างหยิ่งผยอง 

 

 

“เข้าสู่ขบวน!” ขณะนี้เอง เสียงของลู่จ้านดังขึ้นอีกครั้ง 

 

 

ฝ่ายนี้ ผ่านการฝึกซ้อมของเขา ย่อมทราบดีอย่างชัดเจน แต่เขากลับไม่หยุดไว้ เขามองไปที่เจียงหลีด้วยความประหลาดใจ และใครรู้ว่าความกล้าของนางนั้นมาจากความไม่รู้หรือความสามารถที่แท้จริง 

 

 

ปีศาจที่มีเนตรญาณเก้าญาณในตำนาน หากไร้สมอง เห็นทีจะไม่ได้ 

 

 

สิ้นเสียงของลู่จ้าน เซียวเซียวมองดูฝ่ายตรงข้ามอย่างดุร้าย ย้อนกลับไปและเดินเข้าไปในขบวน สหายทั้งหกคนก้าวตามเขาเข้าไปในขบวนด้วยสีหน้าที่ประหม่า 

 

 

“อย่าบอกเด็กนั่นนั้นเรื่องเดิมพันนี้ เพราะนี่เป็นการตัดสินใจของข้าเอง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาง” เซียวเซียวกระซิบกับพวกทั้งหก 

 

 

ทั้งหกคนมองดูเขาด้วยสายตาที่สับสน ต่างพยักหน้าเงียบๆ 

 

 

ทุกคนที่ไม่ถอนตัวเดินเข้าสู่ขบวนด้วยกัน ทันทีที่ลู่จ้านที่อยู่ไกลออกไปยกมือขึ้น บรรดาชายฉกรรจ์ที่เป็นมือกลองต่างก็ยกไม้ตีกลองขึ้นมา เมื่อมือของลู่จ้านฟันฉับลงเหมือนดาบ ระหว่างสวรรค์และพิภพ มีเสียงกลองดังกระหึ่ม 

 

 

ตูม! 

 

 

ตูม! 

 

 

ตูม ตูม! 

 

 

เสียงกลองในตอนแรกนั้นไม่มีอะไรพิเศษ เจียงหลียืนอยู่ในสนามประลองและดูกลองยักษ์ที่ถูกตี ทันใดนั้นหัวใจของนางก็บีบตัวอย่างรุนแรง ขณะเดียวกัน หลังของนาง ดูเหมือนจะถูกกระแทกอย่างแรง ทำให้นางคุกเข่าลงข้างหนึ่งและล้มลงกับพื้น  

 

 

นี่มัน! ความตกใจสะท้อนออกมาจากดวงตาของเจียงหลี 

 

 

ตูม ตูม ตูม ตูม!!! 

 

 

เสียงกลองรัวเร็วขึ้นและแรงขึ้น 

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น กลองทุกจังหวะ ดูเหมือนจะตีลงบนตัวนาง ขบวนทุบพันครั้งฝึกร้อยครา ทุบพันครา ซ้อมร้อยครั้ง ทันใดนั้นเจียงหลีก็เข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของมัน 

 

 

นางในตอนนี้ เปรียบเสมือนแร่เหล็กหนึ่งแผ่นและเสียงของกลองก็เหมือนค้อนสำหรับหลอมเหล็กทุบตีแผ่นแร่เหล็กนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับจะทำให้สิ่งสกปรกในแร่เหล็กหลุดออกไป 

 

 

นี่คือการฝึกซ้อมทางกาย! เจียงหลีคร้ามในใจ 

 

 

กล้ามเนื้อกระดูก แม้แต่เส้นเลือดของนางก็ได้รับผลกระทบและสิ่งสกปรกก็ถูกกำจัดออกไปภายใต้การโจมตีอย่างหนัก 

 

 

ปวด! ปวดเหลือเกิน! 

 

 

อย่างไรก็ตามมันมีประโยชน์มาก! 

 

 

แสงแห่งความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของเจียงหลี ดวงตาของนางขยับ มองหาร่างของเซียวเซียวทุกทั่วทิศ พบว่าเขาอยู่ไม่ไกลจากตนเอง ทันใดนั้นนางก็พุ่งเข้าหาเขา ขณะที่เซียวเซียวยังประหลาดใจอยู่นั้น นางก็คว้าสายรัดเอวของเขายกขึ้นอย่างแรง และดึงเขาไปยังลู่จ้านอย่างรวดเร็ว 

 

 

ระยะทางไม่ไกลนัก แต่เสียงกลองทำให้เซียวเซียวกระอักเลือดออกมาลายอึก หลังจากที่เขาถูกลากเข้ามาใกล้สนาม เขาเพิ่งได้โอกาสตะโกนถามเจียงหลีว่า “เจ้าทำอะไรของเจ้า” 

 

 

“เมื่อกี้เจ้าถามข้ามิใช่หรือว่าจะทำให้เจ้าได้ที่หนึ่งได้อย่างไร ข้าจะบอกเจ้าให้ตอนนี้” เจียงหลีพูดจบ ก็ยกเท้าขึ้นเตะอย่างแรงเตะเซียวเซียวออกจากขบวนไป…