ตอนที่ 8 ขยะแล้วอย่างไร?

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

สมาคมทหารรับจ้างตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสกลางของเมืองหลินซี พื้นที่บริเวณนั้นเป็นศูนย์รวมที่ตั้งของสมาคมผู้ประกอบอาชีพที่มีอยู่อย่างหลากหลายภายในเมือง อาทิ เช่น สมาคมผู้หลอมอาวุธ สมาคมผู้หลอมโอสถ และสมาคมผู้ฝึกสัตว์

ผู้ใดก็ตามที่ต้องการรับงานหรือภารกิจจากสมาคมทหารรับจ้าง ขั้นแรกจะต้องลงทะเบียนกับสมาคมเสียก่อนเพื่อให้ทางสมาคมจัดหางานที่ตรงตามระดับและเหมาะสมกับความสามารถของผู้รับงานได้

เมื่อมาถึงด้านหน้าอาคารที่มีป้ายขนาดใหญ่สลักอักษรงดงามว่า *‘สมาคมทหารรับจ้าง’*ฉินอวี้โม่ก็พาร่างบอบบางเดินลิ่วเข้าไปด้านในอย่างไม่ลังเล

สมาคมทหารรับจ้างค่อนข้างเป็นที่นิยม พื้นที่ภายในจึงคับคั่งไปด้วยผู้คนจำนวนมาก ทว่านอกจากหญิงสาวที่ยืนอยู่หลังโต๊ะตัวยาวตรงจุดที่ใกล้กับทางเข้าแล้ว ที่แห่งนี้ก็ไม่มีสตรีคนอื่นอยู่เลย

ด้วยเหตุนั้นการปรากฏตัวของฉินอวี้โม่จึงกลายจุดสนใจของคนจำนวนมากในทันที

“แม่นางคนงาม ท่านมาที่นี่เพื่อมอบหมายงานอย่างนั้นหรือ?” หญิงสาวผู้อยู่หลังโต๊ะยาวเอ่ยถามด้วยความนอบน้อม นางมีนามว่าเสี่ยวอวี่ทำหน้าที่ประจำโต๊ะติดต่อสอบถาม

เนื่องจากฉินอวี้โม่สวมใส่ผ้าคลุมปิดบังใบหน้าจึงไม่มีผู้ใดทราบว่าแท้จริงแล้วนางคือใคร แต่ด้วยรูปร่างบอบบางอรชร รวมทั้งกายแต่งกายและท่วงท่าการเดินที่สูงส่งสง่างามทำให้ผู้คนคาดเดาเอาว่านางคงจะเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์จากตระกูลใดสักตระกูลหนึ่ง ที่มาเพื่อมอบหมายงานให้กับสมาคมแห่งนี้

“มิได้ ข้ามาที่นี่เพื่อลงทะเบียนเป็นทหารรับจ้าง” ฉินอวี้โม่ส่ายหน้าก่อนจะกล่าวตอบเสียงนุ่มนวล

“สมัครเป็นทหารรับจ้าง?!”  หญิงสาวผู้มีนามว่าเสี่ยวอวี่เอ่ยถามอย่างประหลาดใจเพราะน้อยนักที่จะมีสตรีมาสมัครเป็นทหารรับจ้าง

“ทำไม ข้าสมัครไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”

ฉินอวี้โม่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้าเอาแต่ยืนมองดูนางอย่างงุนงงไม่ยอมขยับตัวดำเนินการสมัครให้  เท่าที่นางทราบมาดูเหมือนจะไม่มีกฎข้อใดระบุว่าห้ามสตรีสมัครเป็นทหารรับจ้าง

“มิได้ มิได้ ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็สมัครเป็นทหารรับจ้างได้ทั้งนั้น”  เสี่ยวอวี่รีบเอ่ยตอบพร้อมกับส่ายศีรษะอย่างนอบน้อม

ไม่บ่อยนักที่จะมีสตรีมาสมัครขอรับงาน เพราะภารกิจทหารรับจ้างค่อนข้างอันตรายและมีความเสี่ยงสูงกว่าอาชีพอื่นๆ เมื่อเห็นหญิงสาวรูปร่างบอบบางอีกทั้งยังดูมีสง่าราศีเช่นนี้มารับงาน เสี่ยวอวี่จึงคิดเอาว่าบุคคลตรงหน้าจะต้องเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งมากแน่

“ขออภัยแม่นาง ข้าขอทราบระดับพลังของแม่นางหน่อยจะได้รึไม่?” เสี่ยวอวี่แย้มยิ้มเป็นมิตรและสอบถามข้อมูลตามปกติ

การจะรับผู้ใดเข้ามาเป็นทหารรับจ้าง ทางสมาคมจะต้องทราบระดับพลังของคนผู้นั้นก่อนเพื่อที่จะได้จัดหางานหรือภารกิจที่เหมาะกับคนนั้น ๆ ได้

“ข้าเองก็ไม่แน่ใจ” ฉินอวี้โม่ขมวดคิ้วและส่ายศีรษะ   ซึ่งนั่นก็ทำให้เสี่ยวอวี่รู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง

“ไม่รู้แม้กระทั่งระดับพลังของตัวเอง? แต่ยังกล้ามาสมัครเป็นทหารรับจ้าง หัวของผู้หญิงคนนี้คงจะมีปัญหาแน่ๆ ”

“ข้าว่าไม่ใช่แบบนั้นหรอก แม้ว่าจะมีผ้าคลุมหน้า แต่ถ้ากล้ามาสมัครแบบนั้น ทั้งยังแต่งตัวดูดีท่าทางสูงส่ง ดูแล้วไม่น่าจะเป็นคนธรรมดาๆ”

“ร่างของนางบอบบางแบบนั้นยังมาถามหางานต่อสู้ ข้าว่าถ้าไม่ใช่เพราะสติไม่ดี นางก็อาจจะมีฝีมือสูงส่งถึงขั้น ดาบเดียวล้างป่า แล้วที่นางบอกว่าไม่แน่ใจเรื่องระดับก็เพราะสูงส่งเกินไปจนประเมินไม่ได้ก็ได้”

“$%^฿&*)(%฿=!&@…”

เมื่อได้ยินคำตอบของฉินอวี้โม่ ผู้คนที่อยู่โดยรอบก็ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ในตอนนี้ไม่ว่าผู้ใดต่างก็พากันมองดูสตรีผู้ปิดบังใบหน้าเป็นตาเดียว

ฉินอวี้โม่ขมวดคิ้วแน่นขึ้นอีกเล็กน้อย “ทำไมกัน ถ้าไม่แน่ใจระดับพลังแล้วจะสมัครเป็นทหารรับจ้างไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”

“มิใช่เช่นนั้น แต่ถ้าพวกเราไม่ทราบระดับพลังของแม่นาง พวกเราก็ไม่สามารถจัดหางานที่เหมาะสมให้ได้”

เสี่ยวอวี่ตอบกลับด้วยท่าทางที่นอบน้อมน้อยลงกว่าเดิมเล็กน้อย

“งั้นลงทะเบียนให้ข้าเป็นระดับต่ำสุด”

ฉินอวี้โม่ไม่อยากจะก่อปัญหาขึ้นที่นี่ นางแค่จะมาสมัครเป็นทหารรับจ้างเพื่อรับงานและดูว่ามีงานที่ต้องการหรือไม่เท่านั้น นางไม่ได้สนใจว่างานที่จะได้รับจะเป็นระดับใด

“ถ้าเช่นนั้น โปรดถอดผ้าคลุมหน้าออกเพื่อแสดงตัวตนด้วย ข้าจะได้ลงทะเบียนให้ท่าน”

เสี่ยวอวี่บอกก่อนจะหันไปง่วนกับการเปิดสมุดเล่มใหญ่สำหรับลงทะเบียน เตรียมพู่กัน และยกขวดหมึกขึ้นมาตั้งบนโต๊ะ

ฉินอวี้โม่ปลดผ้าคลุมหน้าออกอย่างนุ่มนวล ใบหน้านวลใส เครื่องหน้างดงามไร้ที่ติเผยสู่สายตาของคนรอบข้าง

“เอ๊ะ! เป็นเจ้าเหรอเนี่ย?!”

เมื่อเห็นใบหน้าของฉินอวี้โม่ เสี่ยวอวี่ก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจในทันที นางจำสตรีผู้นี้ได้!

เหล่าทหารรับจ้างและผู้เข้ามาติดต่อมอบหมายงานที่นั่งกระจายกันอยู่ในที่แห่งนั้นต่างก็มองฉินอวี้โม่ด้วยสายตาตกตะลึงไม่แพ้กัน

สมาคมทหารรับจ้างแห่งเมืองหลิงซีตกอยู่ในความเงียบไปชั่วขณะ!

อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คำวิจารณ์เผ็ดร้อน คำติฉินนินทา คำด่าทอเสียๆ หายๆ แม้กระทั่งคำพูดติดตลกเชิงเสียดสี ‘คุณหนูสี่ตระกูลฉินผู้ไร้ค่า’ ก็ดังขึ้นแซงแซ่

“ถึงว่าทำไมถึงไม่รู้ระดับของตัวเอง ที่แท้ก็เป็นคุณหนูสี่ขยะไร้ค่าแห่งตระกูลฉินนี่เอง”

“น่าแปลกจริงๆ ที่ขยะแบบนี้มาสมัครเป็นทหารรับจ้าง ถ้าจะให้นางทำงานสำเร็จนี่มันยากพอๆ กับให้ตะวันขึ้นทางทิศตะวันตกเลยนา”

“บางทีอาจจะเป็นเพราะว่านางถูกไล่ออกมาจากตระกูล คุณหนูผู้สิ้นไร้หนทางคงจะสิ้นหวังอยากตาย ถึงมาขอสมัครเป็นทหารรับจ้างเพื่อจะได้หาที่ตายเหมาะๆ ล่ะมั้ง”

“เปิดโต๊ะรับพนันดีไหม ข้าจะลงพนันข้างที่ว่านางตายภายในสามชั่วยาม ข้าว่างานนี้คงรวยอื้อซ่า”

“เจ้าโง่ ขยะอย่างนางจะได้งานเหรอ ใครเขาอยากจะเอาขยะไปทำงานกัน!”

“$%^฿&*)(%฿=!&@…”

เสี่ยวอวี่ที่จากเดิมกำลังจัดแจงเปิดสมุดเพื่อจะลงทะเบียนให้สตรีผู้มาสมัครรับงานรีบหยุดมือทันทีเมื่อได้เห็นใบหน้าใต้ผ้าคลุมนั้น  สีหน้าและแววตาของนางเปลี่ยนเป็นขุ่นเคืองอย่างหนัก

“ฉินอวี้โม่ เจ้ากล้ามาเล่นตลกกับข้าอย่างนั้นรึ?!”

แน่นอนว่าเสี่ยวอวี่เคยได้ยินเรื่องราวของฉินอวี้โม่ และนางเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ไม่ชอบคุณหนูสี่ของตระกูลฉิน อย่างไรก็ตามเสี่ยวอวี่เคยเห็นคุณหนูผู้นี้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อนานมาแล้วตอนเดินเล่นอยู่ในตลาด อีกทั้งฉินอวี้โม่ก็ไม่เคยมาที่สมาคมทหารรับจ้างมาก่อน ดังนั้นหากหญิงสาวผู้รับลงทะเบียนแห่งสมาคมทหารรับจ้างจะจดจำคุณหนูสี่ตระกูลฉินที่ใส่ผ้าคลุมหน้าไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

ที่สำคัญคือ เสี่ยวอวี่ไม่คิดเลยว่าฉินอวี้โม่ผู้นี้จะกล้ามาที่สมาคมทหารรับจ้าง อีกทั้งยังมาเพื่อขอสมัครเป็นทหารรับจ้าง! นี่มันเป็นการเล่นตลกครั้งใหญ่ใช่หรือไม่!

“ข้าไม่ได้มาล้อเล่น และอย่างเจ้าก็ไม่มีคุณสมบัติอะไรที่ทำให้ข้าต้องเล่นกับเจ้าด้วย!”

ฉินอวี้โม่กล่าวอย่างเย็นชา อดีตคุณหนูสี่ไม่ได้สนใจคำเสียดสีหรือแววตาที่มองมาด้วยความดูถูกเหยียดหยามของผู้คนที่อยู่รอบข้างเลย

“ข้าบอกแล้วว่าข้ามาที่เพื่อสมัครเป็นทหารรับจ้าง โปรดลงทะเบียนสมัครให้ข้าด้วย เร็วเข้า!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ตลกเป็นบ้า ขยะอยากจะเป็นทหารรับจ้างอย่างนั้นรึ? เจ้ามีแรงยกดาบหรือไง? หรือว่าอยากตายถึงได้มาที่นี่”

เสี่ยวอวี่กล่าวก่อนจะยิ้มเย้ย วาจาถากถางปนข่มขู่ของนางมีเจตนาเหยียดหยามอย่างเด่นชัด

คำพูดของเสี่ยวอวี่ทำให้ฉินอวี้โม่มีสีหน้าเปลี่ยนไป นางจ้องคนตรงหน้าแล้วพูดอย่างเย็นชา “ขยะแล้วยังไง? ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีกฎข้อห้ามข้อไหนที่ไม่ให้ข้าสมัคร และที่สำคัญ ขอเพียงมีหัวใจที่แข็งแกร่ง ข้าไม่คิดว่าคนที่พวกเจ้าตราหน้าว่าขยะจะด้อยกว่าพวกที่เรียกตัวเองว่าผู้มีพรสวรรค์!”

เสียงของฉินอวี้โม่เต็มไปด้วยพลังและความน่าเกรงขาม ความภาคภูมิและแรงกดดันที่ส่งออกมาจากคำพูดนั้นถึงกับทำให้ทหารรับจ้างบางคนเงียบเสียงลงไปทันทีอย่างหวาดหวั่น

ในดินแดนนี้ ทหารรับจ้างต่างก็เป็นผู้ที่อุทิศชีวิตเพื่อความแข็งแกร่ง แม้ว่าบางคนจะไร้พรสวรรค์และความสามารถ แต่พวกเขาก็มีหัวใจนักสู้ที่จะไม่ย่อท้อ นี่แหละคือคุณสมบัติของทหารรับจ้าง

สิ้นคำกล่าวของฉินอวี้โม่ เหล่าทหารรับจ้างที่อยู่ที่นี่ต่างก็เริ่มคิดได้ พวกเขาเริ่มเห็นว่า ขยะไร้ค่าในตำนานอย่างคุณหนูสี่ตระกูลฉินแท้จริงแล้วก็มิได้ย่ำแย่น่ารังเกียจ หรืออ่อนแอน่าเวทนาอย่างที่เคยเข้าใจ

แปะ แปะ แปะ!

สิ้นเสียงของฉินอวี้โม่ ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นจากมุมมุมหนึ่ง

ทันใดนั้นก็มีบุรุษสองคนค่อยๆ ปรากฏกายขึ้น พวกเขาเดินออกมาจากประตูห้องห้องหนึ่งที่อยู่ลึกเข้าไปด้านในสมาคมทหารรับจ้างแห่งนี้

เมื่อเห็นใบหน้าของบุรุษสองคนก้าวออกมา ฉินอวี้โม่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอคิดในใจ ‘คนพวกนี้นี่เอง’

“แม่นางผู้นี้กล่าวถูกแล้ว สมาคมทหารรับจ้างไม่เคยมีกฎที่บอกว่าผู้ไร้พรสวรรค์ห้ามมาลงทะเบียนเป็นทหารรับจ้าง”

บุรุษมีใบหน้าสุภาพท่าทางสูงส่งเอ่ยขึ้น ก่อนจะหันไปส่งยิ้มอ่อนโยนให้ฉินอวี้โม่

“รับเงินเดือนของเดือนนี้ไป จากนั้นก็เก็บข้าวของออกไปจากที่นี่ซะ! สมาคมทหารรับจ้างของเราไม่ต้องการผู้ที่ชอบดูถูกผู้อื่นมาเป็นพนักงานต้อนรับ!”

ใบหน้าของเสี่ยวอวี่เปลี่ยนสีไปอย่างรุนแรงเมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มหน้าตาสุภาพกล่าว นางต้องการจะเอ่ยคัดค้าน แต่เมื่อเห็นความเด็ดขาดและแน่วแน่ในแววตาของคนผู้นั้น อดีตพนักงานต้อนสาวก็ล้มเลิกความคิดและตอบรับคำสั่งสั้นๆ

“เจ้าค่ะ นายน้อย!”

เสี่ยวอวี่หันมองฉินอวี้โม่ด้วยสายตาดุดัน เคียดแค้น นางกัดฟันกรอกพลางเดินออกไปด้วยความโมโห

“อาหลี่ เจ้ามารับช่วงต่อหน้าที่นี้ชั่วคราว แล้วรีบจัดการหาคนอื่นมาแทนให้เร็วที่สุด”

ชายหนุ่มผู้ถูกเรียกว่า ‘*นายน้อย’*กล่าวกลับชายวัยกลางคนที่กำลังเดินตรงเข้ามา

“สวัสดีแม่นางฉินอวี้โม่ ข้าคือผู้ดูแลสมาคมทหารรับจ้างของเมืองนี้มีนามว่าหลินจิ้งหง ยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบแม่นาง”

ชายหนุ่มหน้าตาสุภาพกล่าวทักทายฉินอวี้โม่อย่างเป็นมิตร ก่อนจะส่งยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง

เมื่อวานนี้เขากับสหายนามว่าหานโม่ฉือเข้าไปในป่าและได้เห็นฉากการสังหารหมู่ด้วยมือเปล่าของสตรีตรงหน้ากับตาของตัวเอง ภาพในตอนนั้นติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเขา และมันก็ทำให้เขาติดใจสงสัยในตัวคุณหนูผู้นี้มาจนถึงตอนนี้

เขาไม่คิดเลยว่าสตรีเก่งกาจผู้นั้นจะเป็นคุณหนูสี่ผู้ไร้ค่าแห่งตระกูลฉินที่เขาร่ำลือกันจริงๆ และยิ่งไม่คิดเลยว่าจะได้พบนางอีกครั้งที่สมาคมทหารรับจ้างแห่งนี้

ฉินอวี้โม่พยักหน้าเล็กน้อยให้บุรุษผู้นั้นเพื่อรับการทักทาย ก่อนจะกล่าวถามเสียงนุ่ม  “คือว่า….ตอนนี้ข้าสามารถลงทะเบียนได้หรือยัง?”

“แน่นอนว่าได้ ไม่มีปัญหา”

ผู้ที่ถูกเรียกว่าอาลี่รีบจัดการลงทะเบียนให้ฉินอวี้โม่ และอำนวยความสะดวกให้นางอย่างนอบน้อม

ฉินอวี้โม่พยักหน้า ทว่าหลังจากที่ดูข้อมูลในสมุดรับมอบงานอย่างละเอียดถี่ถ้วนและพบว่าไม่มีงานที่นางต้องการ ฉินอวี้โม่จึงหันหลังเพื่อเตรียมตัวกลับออกไป

“คุณหนูฉิน โปรดรอสักครู่”

หลินจิ้งหงหยุดฉินอวี้โม่ไว้