ตอนที่ 22 คุณไม่คู่ควรจะเหยียบย่างเข้ามา

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

“ซ่าวเจี๋ย…”

กะอีแค่เสียงตะโกนของหวังจื้อหย่วนเพียงเท่านี้ ไม่ได้ทำให้หวังซ่าวเจี๋ยแยแสเขาสักนิด

หวังซ่าวเจี๋ยไม่กล้าล่วงเกินเย่เฉินอีกแล้ว วันนี้โดนเขาซ้อมมาสองครั้ง หากมีครั้งที่สาม หน้าเขาคงยับเยิน

ก่อนหน้านี้หวังจื้อหย่วนเป็นพ่อตาของเย่เฉิน แต่ตอนนี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน เขาเองก็กลัวว่าเย่เฉินจะทำเป็นไม่รู้จักเขาแล้วอาจจะซ้อมอดีตพ่อตาอย่างเขาได้ลงคอ

หวังจื้อหย่วนไม่เหมือนกับหวังจื้อเฉียง เขาไม่รู้จักคนในวงการใต้ดินอะไร

ดังนั้นเขาจึงโทรหาบุตรสาว “เจียเหยา ลูกยังอยู่ที่โรงแรมซีจื่อหูหรือเปล่า?”

หวังเจียเหยา “อยู่ค่ะพ่อ”

หวังจื้อหย่วน “พ่อตรวจเช็คของที่บ้านย่าเสร็จแล้ว นาฬิการิชาร์ดมิลล์หายไปเรือนหนึ่ง ราคาอยู่ที่ห้า ล้านหยวน เย่เฉินต้องเป็นคนฉกไปแน่”

หวังเจียเหยา “สวะ! มิน่าถึงมีเงินพักโรงแรมห้าดาวแถมยังนอนห้องเพรสซิเด้นท์สูทอีก!”

หวังจื้อหย่วน “เจียเหยา คุณย่าโกรธมากนะ ให้ลูกพาเย่เฉินกลับบ้าน พ่อไม่ไปแล้วนะ ลูกจัดการเลย”

โรงแรมซีจื่อหู

พอวางสายเสร็จหวังเจียเหยาเต้นเร่า “แหมดีจริง เย่เฉิน คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าขโมยของของคุณย่า เดี๋ยวคอยดูว่าฉันจะจัดการนายยังไง!”

หวังเจียเหยาเดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วถาม “ห้องพักของเย่เฉินห้องไหน?”

ฟางเชาเห็นเข้าจึงรีบก้าวเท้าไปหา “เจียเหยา นี่คุณจะทำอะไร?”

“ทำอะไรน่ะเหรอ? ก็จะลากตัวเขากลับไปไง เขาขโมยนาฬิกาเรือนละห้าล้านของคุณปู่ไป!” หวังเจียเหยากล่าว

ฟางเชารู้ว่าเย่เฉินจะต้องไม่ยอมกลับแต่โดยดีแน่ พอถึงตอนนั้นต้องทะเลาะกันแน่นอน

แต่ที่นี่เป็นโรงแรมห้าดาว ที่บ้านเขาเองก็ทำธุรกิจโรงแรม สิ่งที่เกลียดที่สุดก็มีคนมาโวยวายก่อเรื่องที่โรงแรม

แล้วบวกกับที่ว่าฟางเชาไม่กล้าล่วงเกินเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ด้วยแล้ว

ฟางเชาคว้ามือหวังเจียเหยาแล้วกล่าว “ไม่ต้องหรอกไปแจ้งความกันดีกว่า”

หวังเจียเหยาสะบัดมือเขา “ทำไมนายขี้ขลาดแบบนี้? ถ้านายไม่กล้าฉันไปเอง!”

เมื่อหวังเจียเหยาได้เลขที่ห้องของเย่เฉินแล้ว เจ้าหล่อนก็ขึ้นลิฟต์ตรงไปห้องพักของเย่เฉินทันที

ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

หวังเจียเหยาคร้านจะกดกริ่ง จึงใช้กำปั้นขาวนวลทุบประตูอย่างแรง

“เย่เฉิน ไอ่หัวขโมย! รีบมาเปิดประตูให้ฉันเร็ว!”

เย่เฉินที่ตอนนี้เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ กำลังเป่าผม พอได้ยินเสียงเคาะประตู ก็ปิดไดร์เป่าผม แล้วเหมือนจะได้ยินเสียงของหวังเจียเหยาลางๆ

“ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้ตามรังควานไม่เลิก! หย่ากันแล้วก็ยังจะมาอีก!”

เย่เฉินวางไดร์เป่าผมลงแล้วเดินไปเปิดประตู

พอเปิดประตูออกมา ก็เห็นชายหนุ่มอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ ผมปรกไปด้านหลังแถมยังชื้นนิดๆ ที่เปรียบกับผมหน้าม้าทรงเก่าแล้ว ดูหล่อกว่าเป็นไหนๆ แถมยังดูมีมาดมากกว่าเดิมด้วย

บวกกับที่เย่เฉินไม่ได้ใส่ชุดคลุมให้เรียบร้อยทำให้เห็นกล้ามเนื้อส่วนบนของร่างกายเขาได้อย่างชัดเจน

“คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินจะมีกล้ามด้วย…”

หวังเจียเหยาชอบผู้ชายมีกล้าม หล่อนแต่งงานกับเย่เฉินมาสามปีแต่กลับไม่เคยรู้เลยว่าสามีของตนเองเป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างสมบูรณ์แบบคนหนึ่ง!

“รู้อย่างนี้ ตอนหน้าร้อนน่าจะให้เขาถอดเสื้ออยู่บ้าน”

หวังเจียเหยาเสียดายเล็กน้อย ถึงเย่เฉินจะจนแต่ก็หล่อเหลาแถมยังมีกล้าม ถ้าให้เขาอยู่บ้านให้ได้เห็นของเจริญหูเจริญตาก็ดี

“มีอะไร?” เย่เฉินถามเสียงเย็น

หวังเจียเหยาเพิ่งละจะละสายตาจากเขาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว “เย่เฉิน นายขโมยนาฬิการิชาร์ด มิลล์ที่บ้านคุณย่าไปใช่ไหม?”

“นาฬิการิชาร์ดมิลล์อะไร?” เย่เฉินงุนงง

หวังเจียเหยารีบกล่าว “นายยังจะไขสืออีก? ที่บ้านคุณย่ามีนาฬิการาคาห้าล้านอยู่เรือนหนึ่ง นายต้องเป็นคนเอาไปแน่ ไม่อย่างนั้นนายจะมีเงินมาเช่าห้องเพรสซิเด้นท์สูทในโรงแรมหรูห้าดาวแบบนี้ได้ยังไง ฉันยังไม่เคยนอนเลยด้วยซ้ำ!”

เย่เฉินไม่เพียงแต่อยากหัวเราะ คนตระกูลหวังนี่สุดยอดจริงๆ เรื่องดีๆ ไม่เคยคิดหรอกว่าเขาจะทำ แต่พอเป็นเรื่องแย่ๆ มักจะลงที่เขาเสมอ

เย่เฉินกล่าว “คุณหนูหวัง ผมไม่เคยเอาเงินตระกูลหวังของคุณมาแม้แต่สตางค์แดงเดียว นับประสาอะไรจะมาขโมยนาฬิกาของพวกคุณ เชิญคุณไปเถอะ”

พอได้ยินเย่เฉินใช้สรรพนามเรียกเธอว่าคุณหนูหวัง ในใจหวังเจียเหยาก็เจ็บแปลบๆ

สามปีที่ผ่านมาเขาเรียกหล่อนว่าเจียเหยาด้วยน้ำเสียงรักใคร่ บางครั้งเขาเรียกเธอว่าที่รักเอย คุณภรรยาเอย นางฟ้าเอยด้วยซ้ำไป

แต่มาตอนนี้เขากลับเรียกตนเองอย่างห่างเหินว่าคุณหนูหวัง

หวังเจียเหยารู้สึกไม่ดีนัก น้ำเสียงที่กล่าวออกมาจึงเจือเสียงสะอื้น “เย่เฉิน นายนี่มันไร้หัวใจจริงๆ ทำไมถึงได้รีบไล่ฉันไปนัก? หรือว่าในห้องนายซ่อนผู้หญิงคนอื่นเอาไว้?”

ในห้องเขาต้องมีผู้หญิงคนอื่นอยู่แน่ แต่เขาไม่ใช่ผู้ชายที่จะไม่เลือกแบบนั้น

ทว่าเย่เฉินกลับกล่าวต่อว่า “จะมีหรือไม่ ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ พวกเราหย่ากันแล้ว”

หวังเจียเหยาโกรธจนถึงขีดสุด ชี้นิ้วใส่เย่เฉินแล้วกล่าวว่า “พวกเราหย่ากันยังไม่ถึงชั่วโมงดีเลยด้วยซ้ำ นายก็ไปหาผู้หญิงคนอื่นแล้ว! แถมเงินที่ใช้ก็เป็นเงินของตระกูลหวังเรา! นายทำผิดต่อฉันมากเลยนะ!”

เย่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ปนกับเสียงหัวเราะ “ฮ่าๆ คุณมีชู้ทั้งที่ยังแต่งงานกับผม แล้วผมที่หย่าแล้วจะมีคนอื่นไม่ได้หรือไง? ใครทำผิดต่อใครกันแน่?”

หวังเจียเหยาไม่รู้จะพูดอะไรต่อ หล่อนปิดปากเงียบไม่พูดอะไรอีก แล้วตรงดิ่งเข้าห้อง อยากจะหาผู้หญิงที่อยู่ในห้องแล้วว่าจะฟาดหน้าอีกฝ่ายสักฉาด

แต่ว่าเย่เฉินไม่ได้มีท่าทีจะปล่อยให้หวังเจียเหยาได้ย่างเท้าเข้ามาด้วยซ้ำ

เย่เฉินกล่าวว่า “คุณหนูหวัง ห้องเพรสซิเด้นท์สูทของโรงแรมห้าดาวนี้ คุณไม่คู่ควรจะได้ย่างเท้าเข้ามา ถ้าไม่ไปผมจะเรียกรปภ.แล้วนะ!”