ตอนที่ 54 ประสบอันตราย + ตอนที่ 55 ชายหนุ่มชุดสีขาว

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

ตอนที่ 54 ประสบอันตราย

ไม่เสียทีที่เป็นเมืองหลวง ไม่เพียงคลาคล่ำไปด้วยเสียงผู้คน การค้ายังเจริญเฟื่องฟู่

เพียงทอดสายตามองไป จะเห็นสองข้างของถนนเต็มไปด้วยโรงเตี้ยมร้านเหล้า ร้านค้าและหอโคมแดงมากมายนับไม่ถ้วน!

มีโรงทอแพรไหม ร้านภาพวาด ร้านเครื่องประทินโฉม และร้านวัตถุโบราณเครื่องหยกต่างๆ ที่ครบครัน!

ด้านหน้าของร้านเหล่านั้น ยังมียังมีพวกขายศิลปะริมน้ำอย่างรำกระบี่กระบองและแผงลอยมากมายต่างพากันร้องตะโกนสุดกำลัง  ทำให้ถนนใหญ่สายนี้เฟื่องฟูและคึกคักอย่างมาก

อันที่จริงครั้งแรกที่มาถึงยุคสมัยที่แปลกตา เห็นถนนใหญ่ที่วิจิตรงดงามเส้นนี้ ทั่วทุกสารทิศเรียงรายไปด้วยสิ่งปลูกสร้างไม่ขาดสาย ทำให้เล่อเหยาอดอุทานในใจไม่ได้

เธอไม่ได้กำลังฝันอยู่ เธอข้ามเวลามาแล้วจริงๆ!

ข้ามเวลามายังยุคสมัยที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ สิ่งของทุกอย่างที่นี่จึงล้วนแปลกตาและแปลกใหม่ แม้เธอกลับไปไม่ได้แล้ว แต่เธอก็ไม่ใช่สาวน้อยประเภทถูกประคบประหงมมาตั้งแต่เด็กพวกนั้น

เมื่อมาถึงแล้ว จงอยู่อย่างมีความสุข! ดังนั้นเล่อเหยาเหยาต้องเจริญก้าวหน้าและมีชีวิตที่ดีอยู่ที่นี่ให้ได้!

เล่อเหยาเหยาคิดอย่างมุ่งมั่น จากนั้นพลันถูกของเล่นทั้งสองฝั่งของถนนดึงดูดไป

ยกตัวอย่างเช่นตุ๊กตาดิน หน้ากาก เครื่องประทินโฉม เป็นต้น

แม้ตอนที่ออกจากวัง เล่อเหยาเหยาและเสี่ยวมู่จื่อจะถอดชุดขันทีออกแล้วเปลี่ยนมาสวมชุดเดิมของตน แต่เพราะเป็นผู้หญิง การเดินซื้อของจึงเป็นสัญชาติญาณของผู้หญิง

โดยเฉพาะความอึดอัดที่อยู่ในตำหนักอ๋องมาเป็นเวลานาน วันนี้เล่อเหยาเหยาไม่สนใจสิ่งใด เพียงเที่ยวอยากเที่ยวให้สบายเท่านั้น

อีกทั้งตอนนี้เล่อเหยาเหยากำลังดูเครื่องประทินโฉมที่วางอยู่บนร้านค้าแผงลอยซ้ายทีขวาที แตะอันนี้ ทดลองอันนั้นอย่างมีความสุข!

สำหรับการสนใจของใช้ของผู้หญิงของเล่อเหยาเหยา เสี่ยวมู่จื่อกลับไม่รู้สึกว่าแปลกประหลาดเลยสักนิด

เพราะถึงอย่างไรขันทีเช่นพวกเขา หลังตัดแท่งหยกแห่งความเป็นชายของตนออก นิสัยจะเหมือนผู้หญิงมากขึ้น ขันทีส่วนมากล้วนชื่นชอบแต่งแต้มใบหน้าตนเอง

โดยเฉพาะหัวหน้าขันทีลี่ แม้อายุจะเลยห้าสิบ ทว่าก็ชื่นชอบแต่งแต้มเครื่องปะทินโฉมลงบนใบหน้าและฉีดน้ำหอม

ดังนั้นเมื่อเห็นเล่อเหยาเหยาดูเครื่องประทินโฉม เสี่ยวมู่จื่อจึงยืนรอเธออยู่ด้านข้าง

ส่วนเถ้าแก่ร้านเครื่องประทินโฉม เมื่อเห็นมีลูกค้าเข้ามาไม่สนใจว่าหญิงหรือชาย เพียงหาเงินได้ก็พอ ดังนั้นจึงแนะนำอยู่ด้านข้างอย่างกระตือรือร้น

เนื่องจากเล่อเหยาเหยาและเสี่ยวมู่จื่อให้หมกมุ่นกับเครื่องประทินโฉมเหล่านั้นมากเกินไป จึงไม่สังเกตเห็นว่าตอนนี้มีรถม้าคันหนึ่งกำลังวิ่งมาด้วยความเร็ว บนถนนผู้คนต่างหลบหลีกกันอุดตลุตไปทุกที่อย่างวุ่นวายพลางก่นด่าเสียงดัง

เล่อเหยาเหยาที่ตั้งใจลองเครื่องประทินโฉมหลังสังเกตถึงการเคลื่อนไหวด้านหลัง จึงหันไปมองอย่างช้าๆ

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เล่อเหยาเหยาตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ  ดวงตาพลันเบิกกว้างขึ้น!

มองเห็นรถม้าคันนั้นกำลังจะชนมาที่เธอ ความเร็วของรถม้าและกีบม้าอันทรงพลังนั้น หากถูกมันชนเข้าเดาได้เลยว่าเธอไม่ตายก็คงพิการเป็นแน่

เวลานี้เล่อเหยาเหยาควรรีบหลบไป ทว่าน่าเสียดายที่เธอถูกภาพตรงห้าทำให้ตกใจจนยืนแข็งท่อ สองเท้าคล้ายโดนถ่วงด้วยเหล็ก จนไม่สามารถขยับตัวได้

เวลาคล้ายหยุดนิ่ง ผู้คนรอบด้านต่างกลั้นหายใจอย่างไม่เชื่อสายตา ขณะที่เล่อเหยาเหยาได้ยินคล้ายเสียงอันแผ่วเบาดังจากแดนไกลราวไม่ใช่ความจริง

…………………………………………………………………..

ตอนที่ 55 ชายหนุ่มชุดสีขาว

และในลำคอของเล่อเหยาเหยาคล้ายมีสำลีก้อนหนึ่งอุดไว้จนพูดอะไรออกมาไม่ได้ ทำได้เพียงลืมตามองรถม้าคันนั้นวิ่งทะยานเข้ามาหาตนอย่างรวดเร็วดุจลมพัด

เดิมทีคิดว่าครั้งนี้เธอไม่ตายก็ต้องพิการเป็นแน่ จึงทำใจเตรียมรับการถูกใจเอาไว้ พลันหลับตาลงดังคำกล่าวที่ว่าสิ่งที่ตาไม่ได้มองเห็นถือว่าสะอาด

คาดไม่ถึงว่าขณะที่เล่อเหยาเหยาหลับตาลง รู้สึกเพียงแน่นที่เอวและท้องฟ้าหมุนวนผืนดินพลิกกลับอยู่ชั่วครู่ ความรู้สึกนั้นคล้ายก่อนหน้านี้ผ่านการนั่งรถไฟเหาะอันแสนตื่นเต้นมา

เดิมคิดว่าเธอบ้าไปจนไม่รู้สึกเจ็บปวดไปชั่วขณะ ทว่าความจริงเธอคงถูกชนจนกระเด็น ดังนั้น เล่อเหยาเหยายังคงหลับตาแน่น รอรับความเจ็บปวดที่จะตามมา

ใครจะรู้ว่าเธอรออยู่เป็นเวลานาน ความเจ็บปวดที่คิดไว้กลับไม่เกิดขึ้น ทว่าหูพลันได้ยินน้ำเสียงอันไพเราะมีเสน่ห์ขึ้นมา

“น้องชาย เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่!?”

น้ำเสียงทุ้มต่ำแหบพร่า คล้ายไหเหล้าชั้นดีที่เพิ่งถูกเปิดออก ชวนให้ผู้คนรู้สึกมึนเมา

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เล่อเหยาเหยารู้สึกสงสัยในใจ ทว่ายังแอบค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา

แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาอย่างชัดเจน ดวงตาพลันเบิกกว้างออกมาอย่างประหลาดใจ

สวรรค์!

ชายหนุ่มแสนหล่อเหลา! ตอนนี้เธออยู่บนสวรรค์ใช่หรือไม่!? หรือชายหนุ่มผู้นี้จะเป็นเทพเซียน!?

ชุดสีขาวกระจ่างใส ผมสีดำสนิทเงางาม ท่วงท่าสง่างามรูปร่างปราดเปรียว ทว่าสิ่งที่ดึงดูดใจที่สุดคือใบหน้าอันหล่อเหลาดั่งหยกนั้น

คิ้วทรงดาบคมเข้มเป็นเส้นตรงดั่งในตำนาน ดวงตาเรียวยาวดำขลับดั่งหยกสีดำ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ  โค้งขึ้นเล็กน้อย เมื่อรวมเข้ากับความสุภาพมีมารยาทบนใบหน้า รอยยิ้มนั้นดูอบอุ่นอ่อนโยน คล้ายสายลมเย็นในเดือนสามที่พัดผ่านเหนือผิวน้ำอันใสแจ๋ว ดูอบอุ่นและงดงามจนทำให้มองเท่าใดล้วนไม่เพียงพอ!

เวลานี้เล่อเหยาเหยาจึงมองอย่างตกตะลึงพลางอุทานในใจ ที่แม้เทพเซียนบนสวรรค์หน้าตาหล่อเหลาเช่นนี้เอง แล้วจึงโพลงออกมาอย่างไม่รู้ตัวว่า

“ท่านเป็นเทพเซียนที่มารับข้าไปสวรรค์ใช่หรือไหม?”

“…”

เมื่อได้ยินคำพูดของเล่อเหยาเหยา ชายหนุ่มสวมชุดสีขาวมีใบหน้าตกตะลึงเล็กน้อย ทันใดนั้นมุกปากปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา กระทั่งน้ำเสียงในคำพูดยังคล้ายหยอกเย้า

“เกรงว่าคงทำให้น้องชายผิดหวัง ตอนนี้ข้ายังไม่อยากไปสวรรค์”

“หือ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม เล่อเหยาเหยาจึงกระพริบตาลงอย่างข้องใจ ยังไม่ทันได้คิดอะไรหูพลันได้ยินน้ำเสียงร้อนรนและกังวลของเสี่ยวมู่จื่อดังขึ้น

“เสี่ยวเหยาจื่อ เจ้าไม่เป็นไรนะ!? ข้าตกใจแทบแย่!”

เมื่อได้ยินคำถามของเสี่ยวมู่จื่อ เล่อเหยาเหยาจึงได้สติจนรู้ว่าตอนนี้ตนยังไม่ได้ขึ้นสวรรค์ เพราะเธอยังไม่ตาย!

กวาดสายตามองรถม้าที่วิ่งไปโดยไม่คิดที่จะหยุดลง ยังมีชายหนุ่มสวมชุดสีขาวที่กำลังกอดตน เล่อเหยาเหยาจึงพลันรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น!

ใบหน้าที่ตกใจจนซีดขาว หลังเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดชัดเจนแล้วพลันแดงก่ำขึ้นทันที

ในใจเธออับอายขายหน้ายิ่งนัก

สวรรค์!

เธอทำเรื่องขายหน้าอีกแล้ว!

เธอไม่รู้เป็นการสะท้อนกลับของยุคนี้หรือไม่ หลังมาถึงที่นี่เธอทำเรื่องหน้าอายสามครั้งแล้ว

แม้ใบหน้าจะหน้าเหมือนกำแพง แต่เธอก็ทนอับอายไม่ไหวแล้ว!

หลังคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาทั้งอับอายและกระอักกระอวนใจ รีบออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่มแล้วยืนขึ้น

…………………………………………………………………..