บทที่ 26 วิเศษ Ink Stone_Romance

“ดีมาก วิเศษมาก!”

นายรองเฉิง ซึ่งยุ่งอยู่กับการเชิญหมออยู่หลายวันโดยไม่มีเวลาหยุดพัก กล่าวชื่นชมหมอ

คนป่วยจนเกือบตาย มีอะไรน่ายินดีปรีดา

หมอผู้นี้เชื่อถือได้หรือไม่?

นายใหญ่เฉิงมองหน้านายรองเฉิง จนนายรองเฉิงรู้สึกเก้ๆ กังๆ

“หมอเหลียว ท่านดูอาการของท่านชายสี่แล้วเป็นเช่นไรบ้าง” นายรองเฉิงกล่าวอย่างรีบร้อน

หมอเทวดาท่านนี้มีชื่อเสียงมากในมณฑลเจ้อเจียง กว่าข้าจะเชิญมาได้ ข้าเสียแรงมาก ฉะนั้น อย่าให้เสียแรงเปล่าเลย ไม่มีทั้งความดีความชอบและความมานะตั้งใจ

“เป็นเช่นไรบ้าง” หมอเหลียวกล่าวพลางลูบหนวด “หายแล้ว หายแล้ว”

หายแล้ว?

นี่หายแล้วหรือ?

“ท่านหมอ นี่ นี่อาการดีขึ้นได้อย่างไรกัน?” นายใหญ่เฉิงถามด้วยความร้อนใจ

“เจ้านี่ อยากให้ป่วยต่ออย่างนั้นหรือ?” หมอเหลียวมองนายใหญ่เฉิงและกล่าวออกมา

พูดแบบนี้ได้อย่างไรกัน! เหตุใดหมอเหลียวถึงพูดจาห้วนเช่นนี้!

นายใหญ่เฉิงขมวดคิ้ว

“ท่านหมอ เมื่อวานท่านชายสี่ยังไม่ฟื้นเลย ป่วยหนักมาก นี่ผิดปกติหรือไม่?” นายใหญ่เฉิงรีบถาม

“ไม่ผิดๆ แต่ตอนนี้หายขาดแล้ว” หมอเหลียวกล่าว

นายท่านทั้งสองของตระกูลเฉิงต่างสบตากัน

“รักษาหายได้อย่างไรกัน?” นายนายทั้งสองถามอย่างพร้อมเพรียงกัน

หมอเหลียวมองไปที่นายท่านทั้งสอง พร้อมกับยิ้มแบบแฝงความหมาย

“หายตกใจหรือยัง” หมอเหลียวกล่าว “วิเศษยิ่งนัก!”

ในบ้านด้านใน เมื่อฮูหยินใหญ่เฉิงเห็นลูกชายที่เกือบจะหายดีแล้ว พร้อมกับได้ฟังคำพูดของสามีก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย

หมอยังอยู่ แต่นายใหญ่เฉิงเป็นห่วงฮูหยินใหญ่เฉิง จึงรีบเข้ามาส่งข่าวก่อน เพื่อให้ฮูหยินใหญ่สบายใจ

“หายตกใจแล้ว?” ฮูหยินใหญ่ถาม “นี่เรียกว่าโรคอะไรกัน?”

หมอเหลียวท่านนั้นบอกว่า กังวลคิดมาก ตับทำงานผิดปกติ เลือดลมไม่ไหลเวียน ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่าโรคไข้ใจ

สีหน้าของฮูหยินใหญ่เฉิงแย่มาก

สิ่งที่บรรดาหมอก่อนหน้านี้พูดถูกต้องทั้งหมดเลย

ทว่าไม่เป็นโรคอย่างอื่น แต่กลับเป็นโรคไข้ใจเช่นนี้ ช่างน่าอดสูจริงๆ

“ไม่ใช่ว่าไข้ใจ ต้องใช้ใจแก้หรือ แต่นายสี่ไม่ได้พบเจอหญิงสาวที่ใคร่ครวญถึง ก็หายดีแล้ว จะเรียกว่าไข้ใจได้อย่างไร” ฮูหยินใหม่เฉิงโต้เถียง

หมอเหลียวบอกว่า คิดถึงไม่จำเป็นว่าคิดถึงคน สิ่งของ นก ดอกไม้ แมลง หรือแม้กระทั่งวิวทิวทัศน์ ล้วนคิดถึงได้ทั้งนั้น” นายใหญ่เฉิงกล่าว คำพูดเหล่านี้ ทำให้หมอเหลียวดูเหมือนหมอจริงๆ

ฮูหยินใหญ่เฉิงถอนหายใจ พร้อมกับดีใจมีความสุข

ขอเพียงว่าลูกชายไม่เป็นโรคไข้ใจเช่นนั้นก็พอ

“แต่ว่าลูกชายของเรา เป็นไข้ใจที่เกิดจากคน” นายใหญ่เฉิงกล่าว

ใบหน้าของฮูหยินใหญ่เฉิงกลับมาบึ้งตึงอีกครั้ง

ให้ดื่มยาต้มปรับลมปราณ แล้วก็ตกใจกลัวขึ้นทันที จิตไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หลังจากนั้นลมปราณก็ติดขัดน้อยลง เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น แล้วก็หายดี!”

ส่วนในของห้องนั่งเล่น หมอเหลียวกล่าวด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับปรบมืออีกครั้ง “วิเศษมาก วิเศษมาก”

นายรองเฉิงที่นั่งรอเป็นเพื่อนฟังด้วยสับสน มึนงง แต่ก็จนปัญญา เต๋าแตกต่างมิอาจร่วมทาง นายรองเฉินไม่ใช่หมอ จึงไม่เข้าใจสิ่งที่หมอพูด

“ที่แท้คือยาต้มที่รักษาตามอาการนี่เอง ใครเป็นผู้สั่งยานั่น รีบให้รางวัลเร็ว” นายรองเฉิงกล่าวกับสาวใช้

คนใช้ขานรับ แล้วรีบวิ่งออกไปถาม

“ยาต้มดีมาก แต่ยังมีผู้หนึ่งที่ต้องได้รับรางวัลใหญ่ นั่นก็คือหญิงสาวที่ใช้หน้ากากผีหลอกนายน้อยของพวกเจ้า” หมอเหลียวกล่าว “เพราะหากดื่มยาต้มนี้เพียงอย่างเดียว ปกติมักจะไม่ได้ผล แต่เพิ่มตัวกระตุ้นนี้ จึงทำให้ยอดเยี่ยมมาก!”

พูดจบ หมอเหลียวปรบมือหัวเราะอีกครั้ง

“วิเศษมาก” หมอเหลียวอุทาน “เหตุใดข้าถึงคิดไม่ถึงว่า คิดถึงคือสติรวม ตกใจคือสติแตก ซึ่งสามารถใช้สลับกันได้ วิเศษมาก วิเศษมาก”

นายรองเฉิงมั่นใจแล้วว่า หมอเหลียวเป็นหมอเทวดาที่แท้จริง ลึกลับซับซ้อน

เมื่อเห็นท่านชายเฉิงสี่ค่อยๆ กินโจ๊กไก่ผสมโสมหลายคำ ฮูหยินใหญ่เฉิงเริ่มรู้สึกโล่งใจ

“ข้าทำให้ท่านแม่ต้องเป็นห่วง” ท่านชายเฉิงสี่กล่าวอย่างอ่อนแรง

แม้ว่าร่างกายยังไม่ฟื้นฟู แต่กลับมีสติบ้างแล้ว

ฮูหยินใหญ่เฉิงใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา มองดูสาวใช้พยุงตัวท่านชายสี่ลงนอนพักผ่อน ถึงจะเดินออกมา

ฮูหยินใหญ่เฉิงอยากจะถามผู้หญิงที่ทำให้ท่านชายเฉิงสี่หลงรักจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ฮูหยินใหญ่ก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะถาม จึงหันไปแก้ปัญหาอื่นก่อน

ชุนหลานคุกเข่าอยู่ในห้องโถงใหญ่มาครึ่งค่อนวัน

“พูดเถิด” ฮูหยินใหญ่เฉิงคุกเข่าลง พร้อมกับเอ่ยเบาๆ

“ฮูหยิน ข้าน้อย ข้าน้อยคิดว่าท่านชายสี่เห็นผี จึงไปที่สระบัวไหว้ขอพร แต่อาการของท่านชายสี่กลับไม่ดีขึ้น ข้าน้อยนึกถึงคำพูดของเหล่าหญิงชราที่อยู่ในชนบทว่า ผีกลัวคนชั่ว จึงอยากหลอกให้ผีกลัว…” ชุนหลานกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ “ข้าน้อยมีความผิด”

ชุนหลานพูดไป หมอบกราบไป

เหล่าสาวใช้ที่อยู่ข้างๆ ฮูหยินใหญ่ ต่างพากันแสดงสีหน้าสับสน เป็นความโชคดีโดยแท้ คำพูดของหมอเหลียวได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วว่า อาการของท่านชายสี่จะดีขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นความดีความชอบของชุนหลานที่ทำให้ท่านชายสี่ตกใจกลัว

ซึ่งถือว่าเป็นผู้ช่วยชีวิตท่านชายเฉิงสี่ จากนี้ไปคงมิได้เป็นแค่สาวใช้ธรรมดาคนหนึ่งแล้ว

“เจ้าไม่ผิด” ฮูหยินใหญ่เฉิงกล่าวพลางถอนหายใจ “ เจ้ามีบุญคุณต่างหาก”

ชุนหลานซึ่งหมอบอยู่บนพื้นร้องไห้ แต่เสียงร้องไห้แฝงไปด้วยความดีใจ ซึ่งยากที่จะเก็บซ่อนความรู้สึกนี้ไว้

“เพียงแต่ว่าความดีความชอบนี้มิใช่เป็นของเจ้าเพียงผู้เดียว” ฮูหยินใหญ่เฉิงมองไปที่ชุนหลาน พร้อมกับกล่าวด้วยเสียงเรียบ

ชุนหลานซึ่งหมอบอยู่บนพื้น ตัวแข็งเล็กน้อย พร้อมกับหัวใจเต้นแรง

“ฮูหยิน …” ชุนหลานเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่อฟัง “ข้าน้อยไม่กล้ารับความดีความชอบนี้ ข้าน้อยมีความผิด”

“หากเป็นเช่นนั้น ถือว่าเอาความดีความชอบหักล้างความผิดไป พูดเถิด ผู้ใดบอกวิธีนี้แก่เจ้า” ฮูหยินใหญ่เฉิงกล่าว

ทันทีที่พูดคำนั้นออกมา ทุกคนในห้องถึงกับตะลึง และสีหน้าของชุนหลานก็ขาวซีด

“ฮูหยิน?” ชุนหลานถามด้วยเสียงสั่น

“ชุนหลาน อันที่จริงชายสี่จะหายหรือไม่ เจ้าก็ไม่แน่ใจใช่ไหม” ฮูหยินใหญ่เฉิงกล่าวช้าๆ พลางมองไปที่ชุนหลาน “ข้าคิดว่า หากชายสี่มีอันเป็นไป เจ้าคงบอกว่าไม่ทันระวังจนทำหน้ากากตกใส่ ใช่หรือไม่?

ชุนหลานส่ายหัวด้วยความตื่นตระหนก

“ฮูหยิน ฮูหยิน ข้าน้อยไม่เคยคิดเช่นนั้น ข้าน้อยมิบังอาจ” ชุนหลานกล่าวไป ร้องไห้ไป

“หยุดร้องก่อน ชิวขุ่ย” จู่ๆ ฮูหยินใหญ่เฉิงก็ตะโกน

สาวใช้ชิวขุ่ยที่ยืนอยู่ด้านนอกรีบเข้ามาคุกเข่า

“หากตอนนั้นเจ้าทำให้ท่านชายสี่ตกใจกลัว ตอนนั้นเจ้าควรทำเช่นไร? ฮูหยินใหญ่เฉิงถาม

“ข้าน้อยมีความผิด ข้าน้อยทำให้ท่านชายสี่ตกใจ” ชิวขุ่ยรีบกล่าว ขณะนั้นชิวขุ่ยหวาดผวาและเสียงสั่น ราวกับว่าชิวขุ่ยทำผิดจริงๆ

“ชุนหลาน เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เจ้าทำเช่นไร” ฮูหยินใหญ่เฉิงถาม

ใบหน้าของชุนหลานซีดเซียว สาวใช้ที่อยู่รอบๆ เริ่มรับรู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับมองไปที่ชุนหลานซึ่งคุกเข่าอยู่

นายท่านบอกว่า ตอนนั้นเจ้าแค่คุกเข่าร้องไห้ แต่ไม่ได้บอกว่าทำผิดเพราะประมาท ไม่มีแม้แต่ที่จะพูดแก้ต่างว่าหน้ากากนั้นปรากฎอยู่ตรงท่านชายสี่ได้อย่างไร” ฮูหยินใหญ่เฉิงกล่าวพร้อมกับหัวเราะ “เจ้าเอ่ย นั่นเป็นเพราะ เจ้าต้องการรอดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะพูดเช่นไรใช่หรือไม่?”

ชุนหลานกัดริมฝีปากล่างพร้อมกับร้องไห้และก้มหน้า เพราะไม่กล้าสบตาฮูหยินใหญ่เฉิง

“พูดมา ผู้ใดบอกให้เจ้าทำเช่นนี้” ฮูหยินใหญ่เฉิงตะโกนด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

ความโกรธที่เพิ่มขึ้นฉับพลันนี้ ทำให้ทุกคนถึงกับตกใจ

ชุนหลานสะอึกพร้อมกับคุกเข่าลงบนพื้น

เมื่อประตูลานหน้าบ้านของเฉิงเจียวเหนียงถูกเปิดออก ปั้นฉินก็รู้สึกประหลาดใจ

“นายหญิง ท่านพูดถูกอีกแล้ว!” ปั้นฉินกล่าว “หลอกนายท่านกับฮูหยินไม่ง่ายเลยจริงๆ !”

…………………………………………………………