บทที่ 22 สั่งสมบุญกุศล ปฏิเสธหญิงงาม

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 22 สั่งสมบุญกุศล ปฏิเสธหญิงงาม
เสิ่นเทียนไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ในสายตาของคนบางกลุ่ม ตนเองได้กลายเป็นไอดอลไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

และในสายตาของคนบางกลุ่ม เขาได้กลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ไม่ควรล่วงเกินของสวนหมื่นวิญญาณ

สิ่งเดียวที่เขาคิดในตอนนี้คือ

การที่สามารถนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่มมันช่างสบายเหลือเกิน!

เมื่อวานเสิ่นเทียนต้องแบกของหนักสามสิบชั่ง เดินไกลหลายสิบลี้ มันทำให้เขาเหนื่อยจนกระดูกแทบแตกร้าว

ต้องบอกก่อน เขายังเป็นเด็กหนุ่มที่เพิ่งฟื้นฟูจากการถูกธาตุไฟเข้าแทรกเมื่อไม่นาน!

โชคดีคือตอนที่เขากลับถึงสวนหมื่นวิญญาณ กุ้ยกงกงและฉินเกาได้จองโรงเตี๊ยมไว้ให้เขาเรียบร้อยแล้ว

หลังจากอาบแช่น้ำอุ่น เรียกบริกรมานวดให้ รู้สึกสบายไปหมดทั้งตัว

มีเพียงสิ่งเดียวที่เสิ่นเทียนรู้สึกไม่สบอารมณ์ก็คือผู้หญิงที่มานวดไม่มีความเป็นมืออาชีพ

นวดก็นวดไปสิ แต่ทำไมต้องไปลูบคลำตรงจุดที่ไม่จำเป็นด้วย

แถมยังบอกว่าเขาหน้าตาดี ช่วยให้นางรู้สึกสบายด้วยได้หรือไม่

เสิ่นเทียนรู้สึกโมโหจนสั่งให้นางออกไปทันที

จะนวดก็นวดดีๆ ฝีมือการนวดห่วยก็ช่างเถอะ แต่มารยาทในการบริการก็ไม่ดี

ข้าจ่ายเงินเพื่อให้เจ้าบริการข้า

อะไรคือข้าช่วยให้เจ้าสบายด้วยได้หรือไม่

ทำไม ต้องการให้ข้านวดให้เจ้าหรือ

ข้าเหนื่อยจนหมดสภาพ เจ้าไม่รู้สึกผิดต่อมโนธรรมบ้างหรือ

อีกอย่าง เจ้าจ่ายเงินให้ข้าหรือ

ฝีมือการนวดของลุงกุ้ยดีกว่าเยอะ น้ำหนักก็กำลังดี

ฝีมือที่ฝึกฝนจากการช่วยองค์ชายสิบสามกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและล้างไขกระดูกกว่าสิบหกปี นี่สิของจริง

สุดท้าย เสิ่นเทียนเผลอหลับภายใต้การนวดจังหวะช้าหนักเบาของกุ้ยกงกง

วันที่สอง พระอาทิตย์ขึ้น

เสิ่นเทียนตื่นจากการนอนหลับ รู้สึกเพียงสบายไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว ราวกับเกิดใหม่

กุ้ยกงกงที่อยู่ข้างๆ กล่าวด้วยความเป็นห่วง “เมื่อวานฝ่าบาททรงเหนื่อยเช่นนั้น หรือไม่วันนี้พักผ่อนเถิด!”

“ไม่ได้ ครั้งนี้ออกจากวังเพื่อฝึกฝนหาประสบการณ์ จะล้มเลิกความตั้งใจเพียงเพราะเหนื่อยได้อย่างไร”

เจ้าวงรัศมีสีดำที่สมควรตาย จะต้องชำระล้างให้ขาวโดยเร็ว!

ส่องกระจกมองดูวงรัศมีสีดำที่เริ่มมีจุดสีขาวปรากฏให้เห็น เสิ่นเทียนรู้สึกว่าจิตวิญญาณนักสู้เปี่ยมล้นขึ้นมาทันใด

ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว พึ่งพาโชคลิขิตอันประเสริฐอีกครั้งสองครั้ง

ก็จะสามารถชำระล้างจนขาวแล้ว

ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ข้าจะแอบขี้เกียจได้อย่างไร

“ลุงกุ้ยช่วยข้าเก็บกระบี่เล่มนี้ก็แล้วกัน!”

เสิ่นเทียนชี้กระบี่วารีที่หลี่เหลียงเอ๋อร์ให้มาแล้วกล่าวกับกุ้ยกงกง

“นี่เป็นของแทนใจที่พระสนมมอบให้องค์ชาย บ่าวเป็นคนเก็บคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่กระมัง!”

“ข้อหนึ่ง นางไม่ใช่พระสนม ข้อสอง ตอนนี้ข้ายังไม่เริ่มฝึกกระบี่ ข้อสาม กระบี่เล่มนี้หนักเกินไป ข้าสะพายไม่ไหว”

เมื่อวานเสิ่นเทียนแบกกระบี่เล่มนี้เดินทางไกลสามสิบลี้ เขาแบกจนหนังแทบถลอก!

ถ้าเขาต้องแบกกระบี่เล่มนี้ไปไหนมาไหนทั้งวัน ไม่สู้เอาชีวิตของเขาไปดีกว่า

กุ้ยกงกงกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “เช่นนั้น บ่าวจะเป็นคนช่วยแบกก็แล้วกัน!”

ในอนาคตหากได้พบพระสนม บ่าวจะรีบมอบกระบี่เล่มนี้ส่งถึงมือท่าน คงจะไม่มีปัญหาอะไรกระมัง

ล้างหน้าล้างตาเสร็จ จัดแจงชุดนักพรตและหนวด

เสิ่นเทียนหยิบป้ายเรียกแขก เตรียมตัวออกไปตั้งแผง

แต่หลังจากคิดไปคิดมาเขากลับหยุด

หยิบพู่กันขึ้นมาเติมคำว่า ‘ปฏิเสธหญิงงาม’ ขนาดใหญ่สี่ตัวลงด้านหลังของ ‘สั่งสมบุญกุศล’

หลังจากนั้น เสิ่นเทียนถึงเดินออกไปอย่างโล่งใจ

คนทั้งสามมาถึงสถานที่ตั้งแผงก่อนหน้านี้อีกครั้ง กลับพบว่าที่นี่เต็มไปด้วยผู้คน

และถึงขั้นยังมีผู้หญิงไม่น้อยยืนถือป้าย ครั้นเห็นเสิ่นเทียนก็รีบตะโกนทันที

“พี่เซียน ข้ารักท่านก็เหมือนกับที่หนูวิญญาณรักข้าวเซียน”

“ท่านคือน้ำเต้าเซียนของข้า ข้าคือดอกไม้ของท่าน ท่านคือพี่เซียนของข้า เป็นความหวงแหนทั้งชีวิตของข้า!”

“พี่เซียน วาสนาก็เหมือนกับสะพาน ข้ายินดีข้ามเขาข้ามแม่น้ำ ข้ามสะพานไปพบท่าน”

เห็นแฟนคลับที่คลั่งไคล้มากเช่นนี้ เสิ่นเทียนชี้ไปที่ป้ายของตนเองอย่างไร้เยื่อใย

‘สั่งสมบุญกุศล ปฏิเสธหญิงงาม’

ทันใดนั้น มีเสียงหัวใจแตกสลายดังขึ้นจากโดยรอบ

เสิ่นเทียนยกแขนขึ้นคำนับแล้วกล่าว “ข้าเสิ่นเอ้าเทียน ศิษย์ใต้สังกัดผู้สูงศักดิ์เทียนจี ถ้ำหุบเหวเดียวดายแห่งเขานามวสันต์ เดินทางมาเพื่อสั่งสมบุญกุศล ช่วยผู้มีวาสนาค้นวิญญาณประเมินแร่”

“หวังว่าแม่นางทุกท่านจะใช้เหตุผลเป็นหลัก ไม่ส่งผลกระทบต่อกฎระเบียบของสวน ไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของตนเอง”

“ยามปกติดื่มน้ำอุ่นให้มาก ตามดาราให้น้อยลง มีผลดีต่อสุขภาพและจิตใจ”

เสิ่นเทียนเพิ่งกล่าวจบ ผู้หญิงเหล่านั้นรู้สึกมีความสุขขึ้นมาทันที

“ว้าว พี่เซียนอบอุ่นมาก!”

“เขากำลังเป็นห่วงพวกเรา ช่างเป็นคนที่อ่อนโยนเหลือเกิน”

“ข้าเหมือนจะมีความรักแล้ว หวังว่าข้าและพี่เซียนจะมีวาสนาต่อกัน!”

“พี่เซียน แสวงวาสนา แสวงวาสนา!”

ก็ได้! เสิ่นเทียนยอมแพ้แล้ว

ขอเพียงใบหน้าที่หล่อเหลาของเขายังคงอยู่หนึ่งวัน ผู้หญิงรอบข้างก็จะไม่มีทางลดน้อยลง

อย่างไรก็ดี คนนอกวังเหล่านี้ไม่เคยรู้ เขาเคยต้องเศร้าโศกเพียงใด

บอกตามตรง เขาในตอนนี้ถึงขั้นเริ่มคิดถึงบรรยากาศที่เงียบสงบของตำหนักใจพิสุทธิ์แล้ว

ตอนนี้ถูกรายล้อม ไม่มีแม้กระทั่งพื้นที่ส่วนตัว รู้สึกปวดหัวยิ่งนัก

“ทุกท่านอย่าส่งเสียงดัง เข้าแถวเข้ามาทีละคน”

“คนที่มีวาสนากับข้าเชิญไปยืนฝั่งซ้าย อีกเดียวข้าจะพาทุกท่านไปค้นวิญญาณประเมินแร่”

“ส่วนคนที่ไม่มีวาสนา สามารถอยู่ดูและสามารถไปได้ทุกเมื่อ ข้าไม่บังคับอย่างแน่นอน”

ภายใต้การอารักขาของกุ้ยกงกงและฉินเกา บวกกับความร่วมมือจากผู้หญิงที่อยู่โดยรอบ

ระเบียบหน้าแผงสงบลงอย่างรวดเร็ว

นักเดิมพันหินที่เดินทางมาเพื่อหวังเปลี่ยนโชคชะตา ทุกคนยืนเป็นแถวยาวตรงหน้าแผงของเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนก็ไม่รีบร้อน ตรวจดูทุกคนอย่างละเอียดถึงให้พวกเขาไป

“อะไรนะ ข้ากับพี่เซียนมีวาสนาต่อกัน เยี่ยมไปเลย!”

“เชิญแม่นางรอสักครู่ อีกเดี๋ยวข้าจะพาแม่นางไปค้นวิญญาณประเมินแร่ อีกอย่างรบกวนแม่นางอย่าขยับลูบไล้ไปมา เช่นนี้มันจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์”

“เพราะอะไร เหตุใดข้ากับท่านเซียนจึงไม่มีวาสนาต่อกัน ไม่นะ!”

“คุณชายไม่จำเป็นต้องเสียใจ วาสนาเป็นสิ่งที่ลึกลับซับซ้อนและไม่แน่นอน วันนี้ท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน บางทีวาสนาอาจจะมาพรุ่งนี้ก็เป็นได้”

“ท่านเซียน ข้ามาเพื่อดูวาสนาของลูกสาว ไม่ทราบว่าท่านเซียนมีคนรักหรือยัง”

“ท่านป้ากับข้าไร้วาสนาต่อกัน หากสนใจสามารถมาถามวาสนาด้วยตนเอง อีกอย่าง บนป้ายเขียนอย่างชัดเจน ข้าปฏิเสธหญิงงาม คนต่อไป!”

“ข้าเป็นถึงผู้แท้จริงระดับแก่นพลังทอง กลับบอกว่าข้าไม่มีวาสนา? บังอาจยิ่งนัก!”

“วาสนาไม่อาจฝืนบังคับ หากผู้อาวุโสต้องการใช้ไม้แข็ง เชิญผ่านด่านของกลุ่มผู้คุมกฎก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”

“เจ้า! เจ้ารอก่อนเถอะ ข้าจะต้องกลับมาแน่!”

ภายใต้การคัดกรองอย่างเป็นระบบระเบียบ

เสิ่นเทียนใช้เวลาเพียงครึ่งวัน สามารถรวบรวมกลุ่มคนที่มีวาสนาเด่นชัดยี่สิบคน

มีทั้งชายและหญิง พลังบำเพ็ญสูงและต่ำ ทุกคนยืนอยู่ด้านหลังของเขาอย่างพร้อมเพรียง

“วันนี้เอาคนพวกนี้ก็แล้วกัน!”

เสิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อย เริ่มแบ่งกลุ่มให้กับทุกคน “หมายเลขหนึ่ง หมายเลขสาม หมายเลขแปด หมายเลขสิบห้า พวกเจ้าเป็นกลุ่มเดียวกัน ตามข้าไปที่ร้านวิญญาณสวรรค์ คนอื่นเชิญตามสบาย”

กล่าวจบ เสิ่นเทียนพาคนทั้งสี่ที่มีโชคลิขิตในร้านวิญญาณสวรรค์ ตรงไปที่ร้านวิญญาณสวรรค์

แต่คำพูดของเขาก็เหมือนกับไม่ได้พูด เพราะการยุ่งเรื่องชาวบ้านเป็นสัญชาตญาณโดยกำเนิดของมนุษย์

ตอนที่เสิ่นเทียนไปถึงร้านวิญญาณสวรรค์ ทุกคนเดินตามหลังของเขา

ท่านเซียนมีความสามารถค้นวิญญาณประเมินแร่ที่แท้จริง หรือที่เปิด ‘เมล็ดน้ำเต้าเซียนเจ็ดสมบัติ’ เป็นเพราะโชคช่วย

อีกเดี๋ยวทุกคนก็จะรู้แล้ว!

…………………………………..