ตอนที่ 29 ค่าเช่านี้ใครจะกล้ารับ?

ลืมรักเลือนใจ

ค่าเช่างั้นเหรอ? 

 

 

ค่าเช่าบ้าบออะไรกัน!!! 

 

 

เธอเข้ามาอยู่ในร่างกายฉันเนี่ย เจ้าของอย่างฉันอนุญาตหรือยัง? 

 

 

อนุญาตหรือยัง? ห๊ะ! 

 

 

แล้วยังค่าเช่านี่อีก! แต๊ะอั๋งเผยอวี้เฉิง? 

 

 

ค่าเช่านี้ใครจะกล้ารับ!? 

 

 

และในขณะที่หลินเยียนกำลังจะโดนทรมานจนเป็นบ้านั้น ร่างกายของเธอพลันกระตุกที หลังจากความเลื่อนลอยนัยน์ตาของเธอหายไป หลินเยียนก็พบว่า เธอกลับคืนสู่ร่างกายของตัวเองแล้ว 

 

 

ดี…ดีจังเลย! 

 

 

เธอกลับมาแล้ว! 

 

 

ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว! 

 

 

หลินเยียนดีใจจนน้ำตาไหล 

 

 

ตกใจแทบแย่ เธอคิดว่าตัวเองจะกลับมาไม่ได้แล้ว! 

 

 

แต่แล้ว รอยยิ้มที่ราวกับได้เกิดใหม่บนใบหน้าของหลินเยียนยังไม่ทันเปล่งออกมา วินาทีต่อมาเธอพลันเห็นว่า… 

 

 

ขนตาที่ยาวเป็นแพของเผยอวี้เฉิงที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้กระดิกที ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น 

 

 

และในตอนนี้ กรงเล็บมหาบาปของเธอ…ก็ยังวางอยู่บนขอบคอเสื้อของเขา… 

 

 

หลินเยียน “…” 

 

 

อย่ากลับมาอีกเลย 

 

 

เธอ…ตายไปซะเถอะ… 

 

 

ชั่ววินาทีที่ชายหนุ่มลืมตาขึ้น ความน่าเกรงขามอย่างผู้สูงส่งก็กลับมาทันที พลันแผ่กระจายไปทั่วทั้งห้อง 

 

 

ดูเหมือนจะเป็นเพราะเพิ่งตื่นจึงยังงุนงงอยู่ สายตาของชายหนุ่มค่อยๆ กลับมาโฟกัส 

 

 

จากนั้นสายตาที่กลับมาสว่างอีกครั้ง พลันมองบนนิ้วมือ…ของหลินเยียน…ที่วางอยู่บนขอบคอเสื้อของตน… 

 

 

คิ้วของชายหนุ่มเลิกขึ้นเล็กน้อยจนแทบจะไม่รู้สึก สายตาอันราบเรียบเย็นชาฉกจ้องเธอ พร้อมพูดด้วยเสียงที่แฝงความแหบพร่า “คุณหลิน เจอกันอีกแล้ว” 

 

 

หลินเยียนไม่คิดเลยว่าจะโดนจับได้คาที่ อยู่ในท่าที่วางมือบนขอบคอเสื้อของคนอื่น เหมือนจะถอดเสื้อผ้าของเขา กลืนไม่เข้า คายก็ไม่ออก 

 

 

บรรยากาศอึดอัดอยู่หลายวินาที 

 

 

หลินเยียนพูดอย่างยากลำบากด้วยสีหน้าปานจะพุ่งไปหาความตาย “คุณเผย…ถ้า…ถ้าตอนนี้ฉันบอกคุณว่า…ฉันไม่ได้มาที่นี่เอง…ฉันถูกคนอื่นเข้าสิง…คุณจะเชื่อมั้ย?” 

 

 

ดวงตาที่เลือนรางราวกับมีหมอกชั้นบางๆ กั้นอยู่ของชายหนุ่มค่อยๆ กระเพื่อมคลื่นระลอกหนึ่งออกมา “ด้วยสติปัญญาของคุณหลิน สามารถคิดเหตุผลแบบนี้ออกมาได้ คิดว่าคงพยายามมากแล้ว” 

 

 

หลินเยียน “…” 

 

 

ปักโธ่เฮ้ย! ที่เธอพูดคือความจริงนะ! ความจริง+ 

 

 

ต้องให้เธอพูดอย่างไร เขาถึงจะเชื่อ? 

 

 

หลินเยียนตกอยู่ท่ามกลางความสิ้นหวัง มือแข็งทื่อลืมขยับไปชั่วขณะ 

 

 

ชายคนนั้นมองไปที่มือเล็กอันขาวกระจ่างและเนียนนุ่มนิ่งๆ “หรือ…คุณหลินอยากต่อ?” 

 

 

หลินเยียนรีบหดมือกลับ “ไม่ๆๆ! ไม่อยาก! ขอโทษ!” 

 

 

สายตาของเผยอวี้เฉิงเหมือนจะไม่ดีนัก เวลามองคนมักจะเหมือนมีหมอกชั้นบางๆ กั้นอยู่ ให้ความรู้สึกลึกล้ำเกินจะคาดเดา 

 

 

เธอเหมือนถูกเขาอ่านใจออกหมดแล้ว แต่เธอกลับอ่านใจเขาไม่ออกเลยสักนิด 

 

 

ตอนนี้เห็นเพียงว่าชายหนุ่มค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง แล้วหยิบแว่นที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้นมาใส่ “ผมคิดว่า คุณหลินต้องอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับผม” 

 

 

หลินเยียนสันหลังเย็นวาบ นี่เป็นอีกหนึ่งคำถามปราบเซียนอย่างไม่ต้องสงสัย