บทที่ 18

“ขยะ?”
อีวอนรู้สึกว่าคำอธิบายนั้นน่าสนใจ ถ้าเธอเดาไม่ผิด กล่องนี้ต้องถูกใช้ในวังหลวงจากสมัยราชวงศ์ชิง ในรัชสมัยของจักรพรรดิเฉียนหลง วัสดุที่ใช้ทำกล่องใบนี้มีค่าสูงมาก และมีความเป็นไปได้สูงที่มันจะเป็น ด้ายทองคำหนานมู่
แม้ว่ามันจะชัดเจนว่ากล่องนั้นมีความสึกกร่อนตามกาลเวลา และดูผุพังไม่น้อย แต่ความประณีตในชิ้นงานนั้นยิ่งตรวจสอบใกล้ ๆ ก็พบว่ามันยิ่งงดงามขึ้นเรื่อย ๆ
ลำพังแค่ตัวกล่องก็มีราคานับแสนแล้ว แต่มันถูกทำราวกับเป็นขยะ?!
และด้วยนิสัยจากอาชีพที่ทำ อีวอนเปิดกระเป๋าและนำแว่นขยายสีเขียวพาสเทลออกมา
ตระกูลยังนั้นทำธุรกิจวัตถุโบราณมาหลายต่อหลายรุ่น บางครั้งก็ไปพบเข้ากับวัตถุล้ำค่าจากข้างถนน มันจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องพกแว่นขยายไปไหนมาไหหนด้วยเสมอ
“ประธานยัง คุณกำลังทำอะไรอยู่?”
หญิงชราถามอย่างช่วยไม่ได้ “นี่มันก็แค่ขยะ เดี๋ยวคนรับใช้จะมาเก็บมันไปทิ้งถังขยะแล้ว”
อีวอนยังคงเงียบ เธอกำลังวิเคราะห์กล่องไม้ด้วยแว่นขยายของเธอ หยดเหงื่อถึงกับไหลออกมาจากหน้าผากของเธอ!
มันมีมังกรทองถูกสลักบนกล่อง!
แม้ว่ามันจะผ่านการกระทบกระทั่งมาหลายปี แต่ภายใต้การมองผ่านแว่นขยาย ข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันถูกใช้โดยจักพรรดิก็ปรากฏขึ้น!
ย้อนกลับไปในสมัยยุคศักดินา มีไม่กี่คนที่กล้าสร้างงานแกะสลักมังกร! มีเพียงช่วงเวลาที่อำนาจของจักรพรรดิขึ้นถึงจุดสุดยอดแล้วเท่านั้น และมีเพียงแค่ช่างแกะสลักขององค์จักรพรรดิเท่านั้นที่จะสลักกล่อง
การประเมินก่อนหน้านี้ที่เคยคิดไว้ว่ามันมีราคาหลายแสนถือเป็นการประเมินที่ต่ำเกินไปมาก มันมีมูลค่าอย่างน้อยหนึ่งล้าน!
“ประธานยัง? เชิญนั่งก่อนเถอะครับ” วิลเลียมเดินเข้ามาและก้มหัวให้อย่างเคารพต่ออีวอน “ประธานยัง งานเลี้ยงจะเริ่มแล้วครับ”
อีวอนเก็บแว่นขยายกลับไปและกระซิบ “กล่องนี้…? เป็นของขวัญของใคร?”
“ไม่มี!” วิลเลียมรีบตอบและโบกมือ “อย่าเข้าใจผมผิด ประธานยัง แขกของเขาทุกคนล้วนเป็นบุคคลผู้ทรงเกียรติ พวกเขาไม่มีทางซื้อของขวัญจากร้านขายของข้างทางอยู่แล้ว ฮ่าฮ่า!”
ยังไงก็ตาม ตระกูลลินดันยังคงเป็นตระกูลที่ทรงเกียรติ ไม่มีทางที่จะยอมรับของขวัญแบบนี้แน่
ทันทีที่วิลเลียมกล่าวจบ เขาก็หยิบกล่องออกไปและทำท่าจะโยนมันลงไปในถังขยะ
หญิงชราจ้องมองวิลเลียมด้วยความชื่นชม เขาเป็นหลานที่ยอดเยี่ยม และเธอก็ไม่ได้โปรดปรานเขาโดยเสียเปล่า!
“เดี๋ยว”
อีวอนกล่าวซ้ำและหยิบเอากล่องกลับมา เธอเข้าใจในที่สุดว่าทุกคนในที่นี้เข้าใจผิดเกี่ยวกับของชิ้นนี้! ของจากร้านข้างทาง? ไม่มีใครรู้เลยว่ามันคือสมบัติล้ำค่า!
เธอเปิดกล่องอย่างช้า ๆ ด้วยความตื่นเต้น แทบจะในทันที อีวอนตกตะลึง เธอขนลุกและสั่นสะท้านไปทั้งตัว!
นี่… หรือว่ามัน หรือว่า?! นี่เธอเห็นภาพหลอนรึเปล่า?
พัดจักรวาลไร้สิ้นสุด?!
นี่มันเป็นไปได้ยังไง!
อีวอนกัดริมฝีปากแน่นจนแทบจะมีเลือดไหลออกมา!
เป็นความรู้พื้นฐานอยู่แล้วว่าจักรพรรดิเฉียนหลงนั้นทรงโปรดปรานของอยู่สองสิ่ง อย่างแรกนั้นคือตราประทับแกะสลัก มีการกล่าวไว้ว่าจักรพรรดิเฉียนหลงนั้นได้สร้างตราประทับไว้กว่าแสนชิ้น!
งานอดิเรกที่สองของพระองค์คือการนิพรธ์บทกวี พระองค์แต่งกวีกว่า 40,000 บทในช่วงชีวิตของพระองค์ แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่บทกวีส่วนใหญ่ก็เป็นบทกวีที่ไม่ได้ดีเลิศนักและมีเพียงไม่กี่คนที่จดจำมันได้ดี ยังไงก็ตาม มีกลอนบทหนึ่งที่ทุกคนจดจำมันได้อย่างชัดเจน
กลอนบทนั้นคือ: ‘หนึ่งเกล็ด, สองเกล็ด, เกล็ดเหมันต์ที่สามและสี่; ห้า หก, เจ็ด แปด, เก้าเกล็ด, สิบและต่อไป; ร่อนลงในดอกเหมย, เกล็ดเหมันต์พลันหายไป’
สามประโยคแรกของกลอนนั้นถูกประพันธ์โดยจักรพรรดิเฉียนหลงเอง แต่ประโยคที่สี่นั้นถูกจี เสี่ยวหลัน เป็นผู้จบมัน
ตำนานกล่าวว่าจักรพรรดิเฉียนหลงนั้นพอพระทัยมากกับกลอนที่พระองค์แต่ง และได้ตรัสให้จิตรกรเอกของพระองค์วาดภาพทิวทัศน์ออกมาและใช้มันในการทำพัด
จักรพรรดิเฉียนหลงได้จารึกกลอนบทนั้นลงไปในพัดและประทับตรามากมายลงไปอีก ซึ่งทำให้พระองค์พอพระทัยมาก
พัดชิ้นนี้เป็นที่รู้กันว่าเป็นพัดที่ดีที่สุดในราชวงศ์ชิง! จักรพรรดิเฉียนหลงได้ตั้งชื่อพัดนี้ว่า พัดจักรวาลไร้สิ้นสุด!
พัดชิ้นนี้ถูกเก็บในพระราชวังต้องห้ามมาตลอด แต่หลังจากราชวงศ์ชิงล่มสลาย พระราชวังต้องห้ามนั้นถูกกวาดสิ้นโดยคนต่างชาติ ด้วยเหตุการณ์ครั้งนั้น ก็ไม่มีใครได้ข่าวของพัดชิ้นนี้อีกเลย
และในเวลานี้ เธอก็ได้เห็นพัดนั้นต่อหน้าต่อตาของเธอ!
อีวอนนั้นสั่นสะท้านจนขาของเธออ่อนยวบ ความคิดแรกของเธอคืออยากจะหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปมันส่งให้พ่อของเธอ เขาต้องปลื้มสุดขีดแน่! พัดนี้เป็นสุดยอดแห่งสมบัติของเหล่านักสะสม เหล่าคนที่เพียงแค่มองก็เห็นคุณค่าของมัน!
“ประธานยัง ผมจะปาพัดนี่ทิ้งไป อย่าทำให้มือคุณสกปรกเลยครับ” วิลเลียมกล่าวด้วยรอยยิ้ม”ผมรู้ว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญวัตถุโบราณ และคุณคงรู้สึกว่ามันน่าขำที่มีของปลอมแบบนี้ปรากฏอยู่ในบ้านลินดันของเรา”

“ของปลอม?” อีวอนถาม เธอเลิกคิ้วสูงขึ้น
เธอสัมผัสกับกับวัตถุโบราณมาตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ และทำธุรกิจกับมันมามากกว่าสิบปี การตัดสินของเธอถูกต้องเสมอ ของชิ้นนี้คือของแท้!
“พวกคุณต้องเข้าใจมันผิดแน่ ใช่ไหม?” อีวอนถามอย่างแผ่วเบา “พัดนี่น่ะ…”
“พัดนั่นเป็นของผม” แดร์ริลยืนขึ้นกะทันหันและเดินเข้าไปหยิบพัดมาจากอีวอน
ทุกคนรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของคุณย่า แต่จะมีใครบ้างที่รู้ว่าวันนี้ก็เป็นวันเกิดของเขา?
แดร์ริลกำหมัดแน่น งั้นก็ช่างมันหากไม่มีใครรู้เรื่องวันเกิดของเขา แต่ทำไมเขาต้องทนกับการดูถูกเหยียดหยามจากพวกเขาด้วย? ถ้าคนพวกนี้แยกแม้แต่หมาแมวไม่ออก เขาก็ไม่ควรให้พัดนี่ไปแต่แรก!
“มันเป็นของคุณเหรอ?”
อีวอนมองที่แดร์ริล
‘นั่นมันแดร์ริลที่มอบที่นั่งให้เราที่โรงแรมโอเรียนทอล เพิร์ลนี่?’
เธอได้ยินมาว่าเขาเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลลินดันและไม่ได้มีความสำคัญอะไร แล้วพัดนี่เป็นของเขาไปได้ยังไง
“ใช่ครับ ประธานยัง พัดพัง ๆ นั่นเป็นของเขา!” วิลเลียมอุทาน “นอกจากไอ้ขี้แพ้แบบเขา จะมีใครมอบของพัง ๆ แบบนี้ได้อีก!”
“ไม่ว่าของขวัญของฉันจะดูเก่าแค่ไหน มันก็ยังดีกว่าไข่มุกเรืองแสงปลอมของนายนะ” แดร์ริลสวนกลับอย่างเย็นชา “คุณย่ารักนายมาก แต่นายก็ยังไม่มีแม้แต่ยางอายสักนิด และมอบไข่มุกเน่า ๆ ที่มีราคาไม่กี่พันให้เธอ? นายไม่เห็นคุณค่าของพัดที่ฉันให้ใช่ไหม? ไม่มีปัญหา ฉันจะเอามันกลับคืน”
แดร์ริลเก็บพัดใส่กระเป๋าเมื่อเขากล่าวจบ
“นี่-ึงบ้ารึไงวะ?!” วิลเลียมตะโกนด้วยโทสะอันเดือดพล่าน “แกกล่าวหาใครว่าให้ของขวัญราคาไม่กี่พัน? ถ้าแกยังกล้าเปรียบเทียบสั่ว ๆ แบบนั้นอีก ฉันจะให้คนมาฆ่าแก”
“พอที” หญิงชราขัดจังหวะในที่สุด “นี่ควรจะเป็นวันที่ดี หยุดทะเลาะ มีบางอย่างที่ฉันต้องการจะพูด”
วิลเลียมถุยน้ำลายไปทางแดร์ริลแล้วเดินกลับไปนั่งที่ของเขา

ในฐานะที่เป็นแขกผู้ทรงเกียรติคนหนึ่ง อวอนควรนั่งอยู่ด้านหน้า แต่เธอกลับเดินตามแดร์ริลไปยังที่ของเขา “ขอหนูนังที่นี้ได้ไหมคะ คุณน้า?” อีวอนมองซาแมนธาแล้วถาม “ได้สิ แน่นอน!” ชาเมนธาตอบด้วยรอยยิ้ม “แดร์ริล รีบลุกออกไปแล้วให้ประธานยังนัง!” “ไม่ไม่ค่ะคุณน้า อย่าเข้าใจหนูผิด” อีวอนยิ้มเล็กน้อย “ที่หนหมายถึงคือ หนูขอ…นั่งข้างเขาได้ไหม?” อีวอนชี้ไปที่แคร์ริลในขณะที่เธอขอ อะไรนะ?! เสียงของอีวอนไม่ได้ดังนัก แต่คนรอบๆ นั้นได้ยินทีเธอกล่าวอย่างชัดเจน! เกิดอะไรขึ้น?!ทําไมเทพธิดาถึงอยากไปนั่งข้างขี้แพ้? ผู้หญิงคนอื่นอยากจะวิ่งหนีทันทีที่เห็นเขา แต่เธออยากจะนั่งข้างเขา? ซาแมนธาถึงกับตะลึง ความคิดแรกของเธอคือคิดว่าแคร์ริลไปคุกคามเธอก่อนหน้านี้ “ประธานยัง แคร์ริลเป็นคนโง่ อย่าได้โกรธคนแบบเขาเลย” ซาแมนธากล่าว “อย่าไปสนใจเขา” “คุณเข้าใจผิดค่ะ คุณน้า” อีวอนริมฝีปากแดงของเธอยิ้มออกมาเล็กน้อย “หนูอยากจะคุยกับเขา” หลังจากได้ยินที่เธอพูด ทุกคนรอบ ๆ ทําอะไรไม่ได้นอกจากตกตะลึง! จะคุยกับแดร์ริลไปเพื่ออะไร?! เขามันจน แค่เห็นเขาก็ทําให้หงุดหงิดแทบบ้าแล้ว! เทพธิดากับขี้แพ้จะมาพูดคุยกันได้ยังไง ซาแมนธาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า เธอยกที่นั่งให้แล้วเดินไปนั่งข้างหลัง ในตอนนั้น ลิลีมองไปด้านข้างเธออย่างไม่รู้ตัว ในหัวใจของเธอ เธอรู้สึกมาตลอดว่าแดร์ริลเป็นขี้แพ้และไม่มีทางดึงดูดหญิงสาวคนใดได้ แต่จู่ ๆ อีวอนกลับขอร้องที่จะนั่งข้างเขา มันช่วยไม่ได้ที่เธอจะมีความรู้สึกไม่สบายในใจ สัญชาตญาณของผู้หญิงในตัวลิลีบอกว่าอีวอนมีเหตุผลบางอย่างที่ทําให้เธอต้องการนั่งข้างแคร์ริล ตอนนี้ หญิงสาวผู้งดงามถึงสามคนกําลังนั่งรอบแดร์ริล – อีวอน, ลิลี ,และเอลซ่า ชายครึ่งหนึ่งใช้สายตาของพวกเขาจดจ้องมายังทิศของแดร์ริล มองข้ามไปยังสตรีทั้งสาม ไม่ต้องสงสัยเลย ทั้งสามคนล้วนมีความงามในแบบของตน “ฮัลโหล…ขอโทษนะคะ…” อีวอนมองที่แดร์ริลและกล่าว แต่เธอก็ต้องกลืนคําพูดกลับไปก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอพบว่าแดร์ริลไม่แม้แต่จะหันมามองเธอ! อีวอนรู้สึกโกรธอยู่ลึก ๆ เธอถึงกับเริ่มบทสนทนาเองในตอนแรก แต่ชายคนนึกลับหันหลังให้เธอแทน