บทที่ 135 ที่ดื่มเข้าไปน่ะไม่ใช่น้ำแต่เป็นเลือดไก่ต่างหาก / บทที่ 136 พี่ชายฉันตอบแทนให้

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 135 ที่ดื่มเข้าไปน่ะไม่ใช่น้ำแต่เป็นเลือดไก่ต่างหาก

 

 

หลังจากกลับที่นั่ง เจียงเยียนหรานเหมือนมีอาการเซื่องซึม

 

 

เยี่ยหวันหวั่นทำหน้าชื่นชมเหมือน “ลูกสาวบ้านข้าโตเป็นสาวแล้ว” เอ่ยว่า “ยอดเยี่ยม! เมื่อกี้ทำได้ดีมากเลยนะ!”

 

 

“ขอบคุณ ทั้งหมดเป็นเพราะเธอสอนมาดี” เจียงเยียนหรานยิ้มเฝื่อน ตัวเธอเองก็แปลกใจมาก คิดไม่ถึงว่าวันหนึ่งตัวเองจะทำท่าทางและพูดจาแบบนี้กับซ่งจื่อหาง

 

 

เวลาพักสิบห้านาทีหมดลงอย่างรวดเร็ว และเริ่มต้นการแข่งขึนครึ่งหลัง

 

 

เสียงนกหวีดดังขึ้น บรรยากาศบนสนามแข่งพลันดุเดือนขึ้นมา

 

 

ทุกคนค้นพบแล้วว่า บรรยากาศในการแข่งครึ่งหลังต่างไปจากก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด กลิ่นควันปืนเข้มข้น ความจริงจังกระจายไปทั่ว

 

 

ซ่งจื่อหางปรายตามองฉู่เฟิงอย่างดูแคลนทีหนึ่ง

 

 

เพื่อนร่วมทีมด้านข้างก็มีสีหน้าไม่สนใจ “ก็แค่ที่บ้านมีเงินนิดหน่อยไม่ใช่เหรอ? ก็แค่สวะเท่านั้น!”

 

 

“ใช่แล้ว! ฝีมือเล่นบาสกระจอกมาก ยังกล้าแย่งผู้หญิงกับรุ่นพี่ของพวกเราอีก!”

 

 

ฉู่เฟิงไม่สนใจถ้อยคำถากถางของคนฝั่งตรงข้ามพวกนั้น หันไปบอกเพื่อนร่วมทีมรอบข้าง “อีกเดี๋ยว ทุกคนส่งบอลมาให้ฉันให้หมดเลยนะ”

 

 

หวงเหมาร้องครวญ “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ได้ไข่เป็ด (0) น่ะสิ!”

 

 

“ถ้าแพ้ ฉันจะเลี้ยงข้าวทั้งทีมหนึ่งเดือน”

 

 

“โอ้โห หนึ่งเดือนเลยเหรอ รีบกอดขาเศรษฐีให้แน่น นี่นายพูดเองนะ ทุกคนจำไว้นะ อีกเดี๋ยวทุกคนส่งบอลให้เขาทั้งหมด!”

 

 

“ฮ่าๆๆ ได้อยู่แล้ว!”

 

 

 

 

ไม่ช้า ทุกคนบนสนามแข่งเริ่มวิ่งอย่างรวดเร็ว หัวหน้าทีมจิ่นซิ่วแย่งบอลมาได้จากมือแนวหน้าของทีมชิงเหอฝ่ายตรงข้าม แล้วส่งต่อให้ฉู่เฟิงอย่างรวดเร็ว

 

 

เขากลัวจริงๆ ว่าฉู่เฟิงจะรับพลาดอีก โชคดีที่ครั้งนี้ฉู่เฟิงรับไว้ได้อย่างมั่นคง

 

 

ทว่าคนของชิงเหอเข้าชาร์จฉู่เฟิงอย่างรวดเร็ว บีบฉู่เฟิงจนไปถึงตำแหน่งของเส้นชู้ต 3 แต้ม

 

 

ซ่งจื่อหางแค่นหัวเราะ ภายใต้การคุ้มกันของเพื่อนร่วมทีม ต้องการที่จะเข้าไปแย่งบอลในมือฉู่เฟิง ตำแหน่งนี้ ขอแค่เขาได้บอลมาก็ต้องชู้ตเข้าแน่นอน

 

 

จากนั้น พริบตาที่เขากำลังจะได้สัมผัสบอล ฉู่เฟิงพลันก้าวถอยหลัง จากนั้นก็โยนบอลในมือออกไปอย่างแรง

 

 

สายตาของทุกคนมองตามทิศทางของบอลที่ถูกโยนออกไป ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น…

 

 

“ว้าว เข้าแล้ว! ลูกสามแต้ม!!!” เสียงโห่ร้องราวฟ้ากัมปนาทดังขึ้นไปทั่วสนาม

 

 

เพิ่งจะเริ่มแข่งมาได้ไม่ถึงสามสิบวินาที กลับชู้ตเข้าแล้วอย่างไม่น่าเชื่อ ซ้ำยังเป็นลูกสามแต้มอีกด้วย ทุกคนไม่ทันได้ระวังตัว พวกเขาไม่เห็นด้วยซ้ำว่าฉู่เฟิงทำท่าทางอย่างไร เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วพริบตา

 

 

“สวยมาก!”

 

 

“รุ่นพี่ฉู่เฟิงเก่งมากเลย!”

 

 

“ก็แค่โชคช่วยเท่านั้นแหละ ดีใจอะไร!” สมาชิกทีมชิงเหอสบถ

 

 

การแข่งขันครึ่งแรกคะแนนห่างกันตั้ง 17 คะแนน พวกเขาไม่กังวลสักนิด

 

 

แต่ต่อจากนั้น พวกเขาก็ไม่อาจผ่อนคลายได้อีกแล้ว…

 

 

ทุกคนในทีมบาสเก็ตบอลจิ่นซิ่วล้วนส่งลูกบอลให้ฉู่เฟิง และฉู่เฟิงราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน แทบจะไม่พลาดเลย ขอเพียงแค่ได้บอลก็ชู้ตเข้าอย่างแน่นอน

 

 

ความแม่นยำนั้น ช่างเป็นเหมือนเทพนักบาสอย่างไรอย่างนั้น ขอเพียงเป็นบอลที่เขาโยนก็จะถูกดูดเข้าไป

 

 

จนถึงช่วงหลัง ชิงเหอกลับถูกบุกเสียจนไม่อาจโต้ตอบได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

 

ผู้ชมทั้งสนามล้วนนิ่งอึ้ง จนตอนนี้เองพวกเขาถึงได้พบว่า ก่อนหน้านี้ฉู่เฟิงปิดบังความสามารถที่แท้จริงมาโดยตลอด

 

 

หัวหน้าทีมบาสเก็ตบอลจิ่นซิ่วนวดคอของฉู่เฟิงด้วยความตื่นเต้น “แม่เอ๊ย ไอ้ตัวแสบ หรือว่าสิ่งที่นายดื่มเข้าไปเมื่อกี้ไม่ใช่น้ำแต่เป็นเลือดไก่อย่างนั้นเหรอ?”

 

 

ฉู่เฟิงมองไปที่อัฒจรรย์ผู้ชม “นายจะไปเข้าใจอะไร!”

 

 

นั่นเป็นน้ำที่เจียงเยียนหรานให้เชียวนะ! น้ำของเทพธิดา!

 

 

เพียงพริบตาเวลาก็ผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้ว เวลานี้คะแนนของทั้งสองทีมคือ 0 ต่อ 17

 

 

ทางชิงเหอชู้ตไม่เข้าสักลูก ทั้งๆ ที่คะแนนห่างกันขนาดนี้ การแข่งครึ่งหลังเพิ่งจะผ่านไปเพียงครึ่งเดียว กลับถูกตีเสมอได้แล้ว

 

 

……………………………………………….

 

 

 

 

 

 

บทที่ 136 พี่ชายฉันตอบแทนให้

 

 

ต่อมา นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ช่วงครึ่งหลังยังคงเป็นฝ่ายจิ่นซิ่วที่ตีตื้นกลับมานำอยู่ และแทบจะเป็นการโชว์เดี่ยวของฉู่เฟิงคนเดียวด้วย

 

 

บรรดาสาวๆ แห่กรี๊ดเสียงแหลมเรียก “ฉู่เฟิง” เสียงกระหึ่มหลังคาแทบแตก

 

 

เหลือบเห็นเวลาการแข่งขันเหลืออีกเพียงหนึ่งนาที

 

 

คะแนนการแข่งของสองทีมเกรงว่าจะเป็น 0:24

 

 

ชิงเหอยังคงชู้ตไม่ลงสักลูกเช่นเดิม แต่จิ่วซิ่วทำคะแนนนำชิงเหอไปแล้ว 7 คะแนน

 

 

คิดจะเอาชนะ 7 คะแนนในเวลาหนึ่งนาที นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ชิงเหอแพ้แน่แล้ว

 

 

ในสนามแข่ง ทุกคนต่างกำลังฉลองชัยชนะของทีมจิ่วซิ่ว

 

 

เป็นไปตามคาด ในช่วงนาทีสุดท้าย บอลยังคงอยู่ในมือของฉู่เฟิง

 

 

ผู้เล่นทีมชิงเหอถูกต้อนจนไม่มีอารมณ์เล่นแล้ว ต่างทิ้งการต่อสู้ไปโดยสิ้นเชิง

 

 

“ขวางเขาไว้!” ซ่งจื่อหางคำราม

 

 

ต่อให้พ่ายแพ้ ก็ไม่สามารถแพ้ด้วย 0 คะแนน คนอย่างซ่งจื่อหางขายหน้าให้คนคนนี้ไม่ได้

 

 

ทำอะไรไม่ได้ ทุกคนทำได้เพียงฮึดพลังไปขัดขวางฉู่เฟิงไว้

 

 

ภายใต้สายตาของบรรดาผู้ชมและการล้อมขัดขวางจากผู้เล่นฝ่ายชิงเหอ ฉู่เฟิงควงหมุนลูกบาสในมืออย่างสบายใจ แล้วจู่ๆ ก็เคลื่อนไหวอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

 

 

เขาเปลี่ยนทิศทางฉับพลันยังไม่ทันได้ตั้งตัว วิ่งไปยังทิศทางของห่วงบาสเก็ตบอลของทีมตัวเอง ชู้ตบอลในมือขึ้นไปเข้าห่วง

 

 

เสียงนกหวีดแหลมดังขึ้น การแข่งขันจบสิ้น ทีมชิงเหอได้สองคะแนน

 

 

ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน ฉู่เฟิงเดินท่าทางไม่รีบไม่ร้อนไปอยู่ตรงหน้าซ่งจื่อหาง แล้วพูดว่า “สองคะแนนนี้ฉันตอบแทนให้พี่ชาย ไม่ต้องขอบใจนะ”

 

 

ชู้ตเข้าเป้าตัวเองหนึ่งลูก บอลลูกนี้ฉู่เฟิงตั้งใจชู้ตเข้าเป้าของตัวเอง เพื่อมอบสองคะแนนให้กับซ่งจื่อหาง

 

 

“นาย…” ต้องอับอายต่อหน้าสาธารณชน ซ่งจื่อหางโมโหหน้าเบี้ยวบูด พลันจะกระโจนซัดเข้าใส่ แต่ถูกผู้เล่นคนอื่นดึงห้ามไว้ก่อน

 

 

และหลังจากความเงียบเพียงชั่วครู่ เสียงโห่ร้องพลันกระหึ่มทั่วสารทิศ “กรี๊ด~ รุ่นพี่ฉู่เฟิงเท่ระเบิดไปเลย”

 

 

สุดท้าย คะแนนการแข่งขันครึ่งหลังคือ 2:24

 

 

คะแนนรวมของชิงเหอและจิ่วซิ่วคือ 25 ต่อ 30 ภายใต้สถานการณ์การแข่งขันครึ่งแรกมีคะแนนทิ้งห่างกันมาก ทว่าในช่วงหลังทีมจิ่วซิ่วกลับมาแรงแซงทางโค้งทำคะแนนนำ คว้าชัยชนะการแข่งทั้งสนามมาได้

 

 

บนอัฒจันทร์ เยี่ยหวันหวั่นถอนใจโล่งอกได้สักที “แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าของจริง ไม่เสียแรงที่พี่สาวอย่างฉันช่วยนาย!”

 

 

เห็นชัดว่าบอลลูกสุดท้ายฉู่เฟิงตั้งใจเอาคืนให้เจียงเยียนหราน

 

 

เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็หันไปพูดกับเจียงเยียนหราน “เป็นอย่างไร? หายโกรธไหม?”

 

 

เจียงเยียนหรานพยักหน้า ไม่อาจปฏิเสธได้ ระบายความโกรธได้ดีจริงๆ

 

 

ในสนามแข่ง ฉู่เฟิงถูกเพื่อนในทีมโยนขึ้นฟ้าด้วยความตื่นเต้นดีใจ ใบหน้าของชายหนุ่มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มสดใส

 

 

หลังจากปล่อยลงสู่พื้นแล้ว ฉู่เฟิงก็กระซิบปรึกษากับเพื่อนในทีมอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถือถ้วยรางวัลการแข่งขันนั้นเดินมาทางเจียงเยียนหราน

 

 

เมื่อยืนอยู่ตรงหน้าของเจียงเยียนหราน ฉู่เฟิงก็กลับมาสู่ท่าทางตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกทันที “คือว่า…มอบ…มอบให้เธอ…”

 

 

เจียงเยียนหรานอึ้งไปครู่หนึ่ง “ให้ฉันเหรอ? แต่ว่า มันเป็นถ้วยรางวัลของทีมพวกนาย และฉันเอาไปก็เหมือนจะไม่ได้มีประโยชน์…”

 

 

“อ๊า…เธอไม่ชอบเหรอ? ฉันนึกว่าพวกผู้หญิงจะชอบกันหมดซะอีก แต่ว่าของแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์จริงๆ ด้วย ขอโทษนะ!” ฉู่เฟิงคอตกทันที

 

 

เยี่ยหวันหวั่นยิ้ม สายตาชำเลืองมองไปยังทางหนึ่ง “จะไม่มีประโยชน์ได้อย่างไร? เป็นของที่ระลึกได้ดีทีเดียวนะ”

 

 

มีคนอยากได้แต่ก็ไม่ได้มาครอง!

 

 

เห็นเพียงซ่งจื่อหางจ้องเขม็งมองมาทางเจียงเยียนหรานและฉู่เฟิง แล้วเตะก้าวอี้ข้างกายคว่ำไป ก่อนจะจากไปด้วยความโกรธเคือง

 

 

เจียงเยียนหรานได้ยิน เห็นท่าทางเหงาหงอยของฉู่เฟิง พลันคิดได้ว่าในสนามแข่งเขาพยายามระบายความแค้นแทนตนถึงขนาดนั้น ท้ายที่สุดก็ใจอ่อน “งั้น…ขอบคุณนะ”

 

 

ฉู่เฟิงพลันเหมือนบุปผาบานยามวสันต์ สายตาที่มองเยี่ยหวันหวั่นดั่งได้เห็นผู้กอบกู้โลก

 

 

เยี่ยหวันหวั่นถูกแววตาซาบซึ้งฉ่ำวาวราวกับลูกกวางน้อยจ้องมอง จนทำหน้าหมดคำจะพูด พลันปัดก้นลุกขึ้นยืน “ดูแข่งจบแล้ว ไม่รบกวนโลกของพวกเธอสองคนแล้ว ฉันกลับหอพักก่อนนะ!” ​​​​​​​