“เสียวเหม่ย~รอโผมด้วย~”
อวี๋หมิงหลางถือถุงวิ่งออกมาจากร้านขายยา
เสี่ยวเชี่ยนแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเขา เดินช้าๆอยู่ข้างหน้า เธอเดินได้ช้ามากจริงๆ รู้สึกเหมือนร่างจะแยกเป็นเสี่ยงๆ
“เลิกโกรธเถอะนะ” เขาวิ่งตามมาจูงมือเธอ
“ฉันโกรธอะไร?” เสี่ยวเชี่ยนถามกลับ
“คุณโกรธเรื่อง…ไม่ชอบกลิ่นผลไม้ใช่ไหม? ผมบอกเขาไปแล้วให้เปลี่ยนเป็นกลิ่นช็อคโกแลต…”
เสี่ยวเชี่ยนมองบน
ดู๊ ดูเอา ว่าแล้วเชียวว่าสมองตาทึ่มนี่จะต้องคิดกันไปคนละเรื่องกับเธอ
ช่างเถอะ ไม่คุ้มเลยที่จะมานั่งโกรธคนแบบนี้
เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกว่าถ้าคนเราอยากจะใช้ชีวิตให้สบายใจก็อย่าเอาเรื่องไร้สาระมาหงุดหงิดจะดีกว่า อย่างเช่น อย่าไปโกรธผู้ชายซื่อๆอย่างอวี๋หมิงหลางที่ยังไงก็ไม่มีวันเข้าใจความคิดของผู้หญิง
คนมาเดินตลาดกลางคืนไม่มากนัก เสี่ยวเชี่ยนเห็นข้างทางมีซุ้มยิงปืนชิงรางวัล มีคู่รักคู่หนึ่งกำลังเล่นอยู่ ดูเหมือนจะทำได้ไม่ดีเท่าไร ผู้หญิงจึงทุบตีผู้ชาย ผู้ชายจึงเดินหนีด้วยความโกรธ ส่วนผู้หญิงก็ไล่ตามอยู่ด้านหลัง
ความรักทำไมถึงได้มีหลากหลายรูปแบบนัก คู่รักแต่ละคู่มีการใช้ชีวิตร่วมกันที่แตกต่างกัน เสี่ยวเฉียงของเธออาจจะมีติงต๊องไปบ้างเป็นบางเวลา แต่จริงๆแล้วก็โอเคมากอยู่
พอมาเทียบกันแบบนี้ก็รู้สึกว่าเรื่องที่เขาทำขายหน้าเมื่อครู่ในร้านยาก็ไม่ได้น่าโกรธเท่าไร ช่างเถอะ ออกจากร้านแล้วยังจะมีใครรู้จักเธออีก พอคิดได้แบบนี้ก็รู้สึกว่าอารมณ์หงุดหงิดก่อนหน้านี้ไร้สาระมาก ครั้นแล้วเธอจึงยื่นมือไปอยากจะคล้องแขนเขา
เป็นอีกครั้งที่สมองของอวี๋หมิงหลางคิดไปคนละเรื่องกับเสี่ยวเชี่ยน อยู่ๆเขาก็ยกมือชี้ไปที่ซุ้มยิงปืน มือของเสี่ยวเชี่ยนจึงคว้างกลางอากาศ ตาผู้ชายทึ่มนี่ก็ไม่สังเกตเห็น เธอจึงต้องแสร้งเอามือไปจัดผม
อย่าไปโกรธคนสมองไม่เต็มเลย ใจเย็นๆ…
“เสียวเหม่ย อยากให้ผมไปยิงตุ๊กตาเหรอ?”
รางวัลคือตุ๊กตาตัวใหญ่บิ๊กบึ้ม
เห็นอยู่ชัดๆว่าเป็นคำพูดธรรมดา แต่หลังจากที่เพิ่งเกิดสงครามบนเตียงไป อยู่ๆเสี่ยวเชี่ยนก็รู้สึกว่ามันแฝงไว้ซึ่งความนัย…
ใบหน้าของเธอแดงกล่ำอีกรอบ ยิงตุ๊กตา?
นี่เธอคิดมากไปเองหรือตานี่หน้าไม่อายจนเกินไป?
“เสียวเหม่ย?” เขาไม่มีทางเข้าใจความคิดลามกของเสี่ยวเชี่ยน กำลังรอคำตอบด้วยความสงสัย
“อืม ใช่”
เธอเองก็ไม่รู้จะบอกว่าเขาฉลาดหรือโง่ดี หรือเขาจะเป็นคนที่ไม่มานั่งคิดอะไรหยุมหยิม?
ปืนตามซุ้มยิงปืนในตลาดกลางคืนไม่มีความแม่นยำทั้งนั้น ล้วนถูกดัดแปลงมาแล้ว อวี๋หมิงหลางหยิบขึ้นมากระบอกหนึ่งแล้วเล็งหาจุด จากนั้นก็โยนเงินยี่สิบหยวนให้เจ้าของร้านแล้วเริ่มโซโล่เดี่ยว
ปืนอัดลมที่ต่อให้ถูกดัดแปลงมาแล้วก็ยากที่จะสกัดความสามารถของจอมทหารได้ ตอนแรกอวี๋หมิงหลางก็แค่กะเล่นเอาสนุกๆ แต่พอเหลือบเห็นเสี่ยวเชี่ยนมองเขามาอย่างมีความสุขทันใดนั้นพลังก็พุ่งมาอย่างไร้ขีดจำกัด ยิงปืนด้วยท่าทางต่างๆ สองนัดสุดท้ายเขาหันหลังแล้วยิงลอดผ่านรักแร้
ลูกโป่งที่อยู่บนกระดาน นอกจากนัดแรกที่ทดลองยิงแล้ว นัดที่เหลือยิงถูกลูกโป่งหมด
เจ้าของร้านหน้าเขียวเลยทีเดียว
เงินยี่สิบหยวนเล่นได้สองครั้ง ทำได้แค่อดกลั้นความโมโหไว้ในใจ แล้ววางลูกโป่งขึ้นไปใหม่ให้เต็ม ในใจก็แอบก่นด่า ได้สองคนนี้มันจะมาพังร้านเหรอวะ?
ตุ๊กตาตัวที่ใหญ่ที่สุดราคาร้อยกว่าหยวนเลยนะ มันอยู่ในถุงพลาสติคมาสองปีแล้ว ไม่มีใครเอาไปได้ เจ้าของร้านเองก็ไม่คิดว่าจะมีคนเอาไปได้ด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้มันถูกถอดถุงพลาสติคที่เต็มไปด้วยฝุ่นเขรอะออก เผยให้เห็นขนนุ่มนิ่มอยู่ในอ้อมกอดของเสี่ยวเชี่ยน
ฮือๆ เจ็บใจนัก…
เสี่ยวเชี่ยนไม่ค่อยชอบของที่พวกเด็กผู้หญิงชอบเท่าไรนัก แต่ตัวนี้เห็นได้ชัดว่าไม่เหมือนกัน
“เถ้าแก่ ผมเอาสิบหยวน”
เสียงนี้มัน…
เสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางมองหน้ากัน ทั้งคู่ต่างจำได้ เสียงอันคุ้นเคย พอหันไปดูก็เป็นหวางย่าเฟยจริงๆ
เขาแต่งตัวธรรมดา หน้าแดงเล็กน้อย ดูเหมือนจะเพิ่งไปดื่มเหล้ามา
ส่วนข้างตัวเขามีเด็กวัยรุ่นสองคนเดินตามมา ใส่ชุดลำลองเหมือนกัน แต่ดูจากทรงผมและบุคลิกแล้วก็รู้ได้ว่าเป็นทหาร
หวางย่าเฟยพูดกับเจ้าของร้าน แต่สายตากลับมองอวี๋หมิงหลางอย่างท้าทาย
อวี๋หมิงหลางเลิ่กคิ้ว โอ๊ะโอ คิดจะมาลองดีกับเขา?
“ย่าเฟย ช่างเถอะ” ทหารที่มากับหวางย่าเฟยกระตุกแขนเสื้อหวางย่าเฟย
วันนี้มีทั้งคนดีใจและเสียใจ ผู้ทำคะแนนได้ดีในการทดสอบสามลำดับแรกถูกพาไปเมืองQแล้ว ส่วนหวางย่าเฟยที่ตกการคัดเลือกได้หยุดครึ่งวัน
ไม่มีใครอยากได้เวลาหยุดนี้ ในขณะที่เขากำลังเศร้าเสียใจ ทันใดนั้นก็เห็นหัวหน้าของ011คนเฮงซวยอยู่กับจิตแพทย์ที่ทำให้เขาต้องมาเป็นแบบนี้
คล้ายกับว่าวางแผนกันมานานเพียงเพื่อคัดคนออกหนึ่งคน หวางย่าเฟยรู้สึกเดือดขึ้นมาทันที เขาเดินไปที่ซุ้มยิงปืนแล้วเอาปืนแบบเดียวกับอวี๋หมิงหลาง จากนั้นก็ยกนิ้วกลางให้อวี๋หมิงหลาง
011ไอ้คนเฮงซวย ตอนคัดเลือกทำตัวเหมือนเทพเจ้า เอาชะตาชีวิตคนอื่นไว้ในกำมือ ขัดหูขัดตามานานแล้ว อยากจะทำลายมันซะ อยากจะทำลายความโอหังของมันซะ
หลายปีแล้วที่ไม่มีคนกล้ายกนิ้วกลางให้กับเขา อวี๋หมิงหลางพอเห็นแบบนั้นไม่เพียงแต่จะไม่โกรธ ในใจยังแอบรู้สึกตลก
เขาผายมือทำท่าเชิญ ทั้งสองคนหยิบปืนขึ้นพร้อมกัน อวี๋หมิงหลางยิงปืนขึ้นฟ้าหนึ่งนัดเพื่อเป็นการแสดงออกว่าเขาไม่เอาเปรียบหวางย่าเฟย เพราะเมื่อครู่เขาได้ลองปืนไปแล้ว เขาให้เวลาหวางย่าเฟย
หวางย่าเฟยก็เลียนแบบอวี๋หมิงหลาง ยิงไปหนึ่งนัดเพื่อเรียกความพร้อม จากนั้นก็เริ่มยิงอย่างรวดเร็ว
อวี๋หมิงหลางมองเขายิงปืนด้วยท่าทางนิ่งๆ มองอย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ
ส่วนเสี่ยวเชี่ยนกลับรู้สึกว่าอวี๋หมิงหลางมีความสุขุม จากมุมมองของคนนอกอย่างเธอ สองคนนี้แตกต่างกันมาก ถึงหวางย่าเฟยจะเก่ง แต่ก็ดูอวดความสามารถมากเกินไป
อวี๋หมิงหลางยืนมองด้วยท่าทางนิ่งๆ แต่กลับให้ความรู้สึกที่ยากจะคาดเดา
การอวดความสามารถไม่ใช่เรื่องแย่ คนที่เก่งจนอวดได้มีมากมาย แต่ฝีมือของแต่ละคนเมื่อผ่านอะไรมามากมายก็จะอยู่ในระดับที่เก็บซ่อนเอาไว้ภายในแบบอวี๋หมิงหลาง ในใจของเสี่ยวเชี่ยนรู้ดีถึงความสามารถของอวี๋หมิงหลาง เขาเป็นคนที่มีความสามารถก็พร้อมจะใช้อย่างเต็มที่
แต่ในด้านการทำงาน อวี๋หมิงหลางเลือกที่จะไม่แสดงออกให้คนภายนอกเห็น นี่เป็นสิ่งที่น่านับถือมาก เสี่ยวเชี่ยนพอนึกได้ว่าตัวเองได้ผู้ชายที่เก่งขนาดนี้มาครอบครอง ความรู้สึกภาคภูมิใจก็แผ่ซ่านในจิตใจ
หวางย่าเฟยยิงเสร็จอย่างรวดเร็ว เหมือนผลงานของอวี๋หมิงหลางก่อนหน้านี้ ยิงโดนหมด เจ้าของร้านถึงกับหน้าเขียว
หมดกัน อยู่ไม่ได้แล้ว เจ๊งแน่ๆ
ตาอวี๋หมิงหลางแล้ว
หวางย่าเฟยพอยิงเสร็จก็โล่งใจมาก
วันนี้เขาอึดอัดคับแค้นใจมาทั้งวัน เขาแค่อยากเห็นว่าอวี๋หมิงหลางยังมีอะไรจะพูดอีก ผู้ชายคนนี้วันนี้ทำท่าทางยโส เหยียบความฝันของเขาทั้งหมดให้แหลกสลาย และในเวลานี้เขาอยากพิสูจน์ให้อวี๋หมิงหลางเห็นว่า ถ้าไม่ติดว่าเป็นโรค ฝีมือของเขาก็ไม่ได้น้อยหน้าไอ้บ้า011 นี่เลยสักนิด
เสี่ยวเชี่ยนมองอวี๋หมิงหลาง ตอนนี้ดูเหมือนทางออกที่ดีที่สุดก็คือการเสมอกัน
เพราะอีกฝ่ายยิงถูกเป้าทั้งหมด ถ้าเสี่ยวเฉียงไม่หาข้อได้เปรียบอื่นเพิ่มเข้ามา สถานการณ์ก็ดูจะเสียเปรียบ
อวี๋หมิงหลางเพิ่งจะได้เป็นผู้ชายเต็มตัวเมื่อไม่นานมานี้ คิดว่าเขาอ่อนเหรอ?