ตอนที่ 19 นำยาไปให้อาเล็ก

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

มู่เฉียนซีกล่าว “ว่ามา”

“ท่านผู้นำตระกูลเป็นนักปรุงยาด้วยใช่ไหมขอรับ ?”

เมื่อครู่ท่านผู้นำอยู่ในห้องยา ขั้นตอนวิธีการปรุงแม้แต่อวิ๋นเซิ่งยังทำไม่ได้ถึงขนาดนี้

“นักปรุงยารึ ? ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เจ้าจงรวบรวมตำราเกี่ยวกับการปรุงยาของเจ้าหมอคนนั้นมา ส่งไปที่เรือนสุ่ยซีของข้า ข้าจะเรียนรู้ดู”

แต่เดิมนางเคยเป็นประมุขหมอปีศาจ วิธีการทำยาของหัวเซี่ย (ประเทศจีน) กับการปรุงยาของโลกนี้ไม่เหมือนกัน

การปรุงยาเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่นายหญิงของพวกเขากลับพูดแค่ ‘เรียนรู้ดู’

ถ้าหากว่าแค่เรียนก็เป็นหมอปรุงยาได้แล้วล่ะก็ กลัวว่าหมอปรุงยาทั้งทวีปเสวียคงจะหาก้อนเต้าหู้ชนปลิดชีพ

“ขอรับ”

“เรื่องต่อไป ตามข้าไปห้องยา ข้าต้องไปห้องยาเพื่อปรุงบางสิ่ง”

“ขอรับ”

หลิงซือหลินคุ้นเคยกับห้องยาเป็นอย่างดี มู่เฉียนซีต้องการอะไร เขาก็หามาให้ด้วยความรวดเร็ว

แต่พวกเขาไม่รู้จริง ๆ ว่านายหญิงนำตัวยาแต่ละชนิดที่มีคุณสมบัติตรงข้ามกันมาใส่รวมกัน ทำไปเพื่ออะไร ?

ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าฤทธิ์ยาต้องตีกัน แต่ท่านผู้นำตระกูลกลับนำพวกมันมารวมเข้าด้วยกันโดยไม่เกิดเหตุการณ์ใดขึ้น

มู่เฉียนซีนำยาที่ปรุงเสร็จมาเทใส่ขวดและกล่าวขึ้นว่า “ไป ตามข้าไปเรือนอวู่โยว”

“เรือนอวู่โยว” หลิงซือหลินมีสีหน้าตกใจเมื่อได้ยินชื่อเรือนนั้น

ที่นั่นเป็นเรือนที่มู่อวู่ซวงคุณชายสามแห่งตระกูลมู่ของพวกเขาพำนักอยู่ ผู้เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแคว้นจื่อเยี่ย

“ใช่”

“ขอรับ” หลิงซือหลินก้มหน้า

เรือนอวู่โยว ในตระกูลมู่ทั้งหมดนอกจากเจ้าของเรือนนี้แล้ว ผู้ที่สามารถเดินเข้าออกตามต้องการก็มีเพียงมู่เฉียนซี ผู้นำตระกูลคนนี้เท่านั้น

หลิงซือหลินมาถึงที่หน้าประตูก็ถูกขวางทาง มู่เฉียนซีจึงเอื้อมมือไปรับยาและกล่าวว่า… “เจ้ากลับไปก่อนไป”

ท่านผู้นำตระกูลนำยามาหาคุณชายสาม ยานั้นคงไม่ใช่ยารักษาโรคของคุณชายสามหรอกนะ! หลิงซือหลินแอบคิด

เมื่อเดินเข้ามาใกล้เรือนอวู่โยวที่ห้อมล้อมไปด้วยต้นไผ่ ก็เห็นบุรุษสวมชุดขาวนั่งอยู่บนรถเข็นในกลางดงไผ่ทึบ เขานั่งสงบนิ่งมองนกที่โผบินผ่านไปมา

ปอยผมพาดร่วงลงมาที่ไหล่ แสงแดดที่สาดส่องผ่านต้นไม้ ประกายแสงกระทบเข้าใบหน้าเขาทำให้ดวงหน้าอันผุดผ่องดั่งหยกนี้มีความงดงามโดดเด่นเหนือใคร

เมื่อได้ยินเสียงเดิน เขามีรอยยิ้มที่สงบเหมือนสายลมที่พัดผ่านจิตใจคน “ซีเอ๋อร์มาแล้วหรือ ?”

“ท่านอาเล็ก วันนี้ข้ามาไม่ดีนะ” มู่เฉียนซีถือยา กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“มาไม่ดี เพราะเจ้าจะบังคับให้อาเล็กดื่มยาใช่ไหม ?”

มู่เฉียนซีปรุงยาในห้องยาเป็นเวลานาน ยังมีกลิ่นยาติดร่างกายอยู่ กลิ่นยังไม่เลือนหายไป

“นี่อย่างหนึ่ง” มู่เฉียนซีเดินเข้ามาใกล้ กล่าวขึ้น “อ้าปาก เชื่อฟัง ดื่มให้หมด”

มู่อวู่ซวงมุมปากกระตุกเล็กน้อย “ข้าไม่ใช่เด็ก ๆ ดื่มเองได้”

มู่อวู่ซวงรับขวดยามาพร้อมจะดื่มก็มีคนชุดดำปรากฏตัวตรงหน้า กล่าวด้วยน้ำเสียงอันร้อนรน “คุณชายสาม ไม่ได้…”

ผู้นำตระกูลน้อยคนนี้ธรรมดาก็วุ่นวายพอแล้ว วันนี้ยังจะส่งยาให้คุณชายสามดื่มอีก ถ้าเกิดยานั้นเป็นยาพิษจะทำอย่างไรกัน ?

“ถอยไป” มู่อวู่ซวงกล่าวด้วยใบหน้าอันเยือกเย็น

“นายท่าน…” คนชุดดำหันไปมองมู่เฉียนซี สายตาส่อแววไม่พอใจ

มู่เฉียนซีเลิกคิ้วเล็กน้อย “นี่คืออาเล็กของข้า ตอนนี้เป็นญาติเพียงคนเดียวของข้า ถึงข้าจะวางยาพิษกับคนทั่วทั้งแคว้น ข้าก็ไม่อาจวางยากับท่านอาเล็กของข้าได้ เจ้าพอใจรึยัง ?”

คนชุดดำชะงักไปสักพัก มองมู่เฉียนซี คำพูดของนางแต่ละคำแต่ละประโยคเด็ดขาดแน่นอนทำให้คนไม่สามารถสงสัยได้ เขารู้สึกได้ว่าผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ผู้นำตระกูลน้อยที่ไร้ความสามารถ แต่เป็นผู้นำที่มีความสามารถในใต้หล้าคนนั้น

“ถอยไป…”

คนชุดดำไม่พูดอะไรและถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

มู่อวู่ซวงไม่รีรอรีบดื่มยาในขวดนั้น

มู่เฉียนซีเอ่ยขึ้น “ร่างกายของท่านอาเล็กจำเป็นต้องได้รับการบำรุง ในเจ็ดวันนี้ข้าจะให้คนนำยามาส่ง ท่านจำเป็นต้องดื่มให้หมด หลังจากเจ็ดวันข้าจะเปลี่ยนตัวยา”

“ได้” เขาเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

มู่เฉียนซีขมวดคิ้วเอ่ย “ท่านอา ข้าเปลี่ยนแปลงไปมาก ท่านไม่ประหลาดใจบ้างเลยรึ ?”

นางไม่ใช่เจ้าของร่างคนเดิม มีอาเล็กเป็นญาติเพียงคนเดียว นางไม่ต้องการปกปิด แต่ว่าอาเล็กฉลาดหลักแหลม ไหนเลยจะมองไม่ออก

มู่อวู่ซวงเอ่ยขึ้น “ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ซีเอ๋อร์ก็คือญาติข้าไม่ใช่รึ ? เป็นญาติเพียงคนเดียวที่อยู่ข้างกายข้า”

“ซีเอ๋อร์คงประหลาดใจล่ะสิ เจ้ามีความทรงจำแค่สามปีใช่ไหม ?” มู่อวู่ซวงย้อนถาม

มู่เฉียนซีอึ้งไป นางได้รับความทรงจำจากเจ้าของเดิมแค่สามปี ความทรงจำก่อนหน้านั้นสามปี เหมือนกับเด็กแรกเกิด ไม่รู้ประสีประสา

อาเล็กให้นางเป็นท่านผู้นำของตระกูลมู่ หลังจากนั้นถูกมู่หรูอวิ๋นและคนเหล่านั้นชี้นำแบบผิด ๆ รวมถึงร่างกายที่ไร้ความสามารถ ไม่สามารถฝึกฝนได้ทำให้กลายเป็นคนไร้ค่าดั่งเช่นวันนี้

มู่เฉียนซีเอ่ยถาม “อาเล็กไม่เคยบอกกับมู่เฉียนซีคนก่อน วันนี้อาเล็กบอกกับข้าได้หรือไม่ ?”

“ไม่ได้”

“เพราะอะไรถึงไม่ได้ ?”

“เพราะความสามารถของเจ้ายังไม่เพียงพอ รู้แล้วมันไม่เป็นผลดีกับเจ้ามากนัก”

“ต้องทำอย่างไรความสามารถถึงจะพอ ถ้าต้องใกล้เคียงกับความสามารถของอาเล็ก ตอนนี้ข้ายังห่างไกลนัก”

ท่าทางแปลก ๆ ที่อาเล็กแสดงออกมา บอกนางว่าการที่นางย้อนมาอยู่ต่างดินแดนนี้ มาเป็นมู่เฉียนซีไม่ใช่แต่เรื่องบังเอิญ หรือว่านาง…

.