ตอนที่ 20 บุกจวนซิวหลอ เยี่ยอ๋องยามวิกาล

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

มู่อวู่ซวงส่ายหน้า “ยังไม่พอ อย่างน้อยต้องถึงขั้นราชายอดยุทธ์ถึงจะได้”

ราชายอดยุทธ์ต้องเก่งกาจกว่าท่านอาเล็กมากไปอีกขั้นหนึ่ง มู่เฉียนซีถึงกับอึ้งไป

“ที่จริงแล้วซีเอ๋อร์ไม่จำเป็นต้องกังวลใจในเรื่องนี้ เจ้าจะไม่แข็งแกร่งก็ไม่เป็นไร คอยดูแลตระกูลมู่ ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย มีความสุข อาเล็กจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเจ้าแม้แต่น้อย ข้าไม่อยากให้เจ้าเดินบนเส้นทางอันตรายเพื่อก้าวไปสู่ความแข็งแกร่ง”

มู่เฉียนซีเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อาเล็ก พูดความจริง วันนี้เป็นวันที่พวกเราได้พบเจอ ท่านยังไม่รู้จักข้าดีพอ”

นางเงยหน้า เอ่ยขึ้น “ข้ามู่เฉียนซีมาถึงที่นี่ ย่อมไม่ใช้ชีวิตธรรมดาทั่วไป แน่นอนว่าจะไม่ใช้ชีวิตภายใต้การดูแลปกป้องจากใคร”

“สมแล้วที่เป็นลูกสาวของพี่ใหญ่” มู่อวู่ซวงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“ในเมื่อซีเอ๋อร์ได้ตัดสินใจเลือกแล้ว อาเล็กก็จะสนับสนุนเจ้าโดยไร้เงื่อนไขใด ๆ”

มู่เฉียนซีจับรถเข็นของเขา ดันรถเข็นไปข้างหน้าเพื่อกลับเรือนเข้าไปพักผ่อน “พยายามไปให้ถึงระดับราชายอดยุทธ์นั้นสำคัญมาก แต่ว่าหาวิธีรักษาดวงตาและขาของอาเล็กก็สำคัญเช่นเดียวกัน อาเล็กเชื่อใจข้าไหม ?”

“ถ้าไม่เชื่อใจซีเอ๋อร์ในตอนนี้ ข้าจะเชื่อใจใครได้ ?”

ขาทั้งสองข้างของเขา ท่านพ่อพี่ใหญ่และพี่รองต่างดั้นด้นค้นหาวิธีรักษาไปทั่วทุกที่ แต่ไม่มีใครสามารถรักษาให้หายได้

ดวงตาของเขาคู่นี้ถูกวางยาพิษ ถูกทำลายไปหมดแล้ว

ในใต้หล้านี้ถ้าใครบอกว่าสามารถรักษาเขาให้หายได้ เขาก็ทำได้แต่เพียงยิ้มตอบ ไม่นำมาใส่ใจ

แต่นี่ซีเอ๋อร์เป็นผู้เอ่ยขึ้นเขากลับเชื่อ เชื่อโดยไม่มีข้อกังขาใด ๆ

นี่คือหลานสาวคนที่เขารักและทะนุถนอมมากที่สุด

“ข้าจะไม่ทำให้ท่านอาเล็กผิดหวัง”

หลังจากพามู่อวู่ซวงมาพักผ่อนที่ห้องแล้ว  มู่เฉียนซีก็ได้กลับไปที่เรือนของตน หลิงซือหลินได้นำตำราเกี่ยวกับการปรุงยาของอวิ๋นเซิ่งมาให้แล้ว

ส่วนหนึ่งมีตำราแนะนำสมุนไพรวิญญาณหลายชนิดที่จำเป็นต้องเรียนรู้

สมุนไพรธรรมดาของดินแดนนี้กับสมุนไพรของหัวเซี่ยมีความคล้ายคลึงกันมาก แต่สมุนไพรที่ให้ผลและมีประสิทธิภาพมากจะถูกเรียกว่าสมุนไพรวิญญาณ

สมุนไพรวิญญาณแบ่งได้ถึงเก้าระดับ ยิ่งมีระดับสูงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งหาได้ยากมากเท่านั้น ในแคว้นจื่อเยี่ยสมุนไพรวิญญาณระดับสามถือเป็นสมบัติของแคว้นได้เลย

หากอยากจะรักษาร่างกายของท่านอาเล็กให้หายก็จำเป็นต้องศึกษาวิชาปรุงยาของดินแดนนี้

ใช้เวลาหนึ่งคืน มู่เฉียนซีได้อ่านตำราขั้นพื้นฐานทั้งหมด มองบนโต๊ะที่มีสูตรการปรุงยาระดับหนึ่งอยู่หลายชนิด

สูตรการปรุงยาเป็นสิ่งที่มีมูลค่ามาก ถึงแม้ตระกูลมู่มั่งคั่งร่ำรวยในระดับต้น ๆ ในแคว้นจื่อเยี่ยก็มีแค่เพียงสูตรปรุงยาระดับหนึ่ง

มู่เฉียนซีสะบัดมือ “ไปสืบมา ในแคว้นจื่อเยี่ยที่ใดมีตัวยาจินอวี่ซูหวงจือขั้นสอง

เจ็ดวันต่อมา อาเล็กของนางต้องเปลี่ยนตัวยา สิ่งนี้ไม่สามารถละเลยได้

ระบบการหาข่าวสารของตระกูลมู่ดีมากในแคว้นจื่อเยี่ย เพียงไม่นานนางก็รับข่าว ตัวยาจินอวี่ซูหวงจือในแคว้นจื่อเยี่ยนี้มีอยู่แห่งหนึ่ง อยู่ที่จวนของเยี่ยอ๋อง

มู่เฉียนซีเอ่ยขึ้นมาหนึ่งคำ แสดงถึงความร่ำรวย “ซื้อ ไม่ว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ ซื้อมาให้ข้าทั้งหมด” ถึงใช้เงินเยอะมากเท่าไรก็ไม่สำคัญเท่ากับร่างกายของท่านอาเล็ก

คนผู้นั้นกระตุกมุมปาก “นายหญิง นั่นคือจวนของเยี่ยอ๋อง เยี่ยอ๋องไม่ขาดแคลนเงินทอง แต่ไหนแต่ไรไม่มีใครซื้อของจากจวนเยี่ยอ๋องได้สำเร็จ”

“ถ้าฝ่ายนั้นไม่ยินยอม ก็ส่งองครักษ์เงาไปแย่งชิงมา”

“นายหญิงนั่นคือจวนเยี่ยอ๋อง” คนนั้นยังคงส่งเสียงเน้นย้ำ

“จวนเยี่ยอ๋องแล้วทำไม ? ไม่ใช่แค่จวนของท่านอ๋องเหรอ ?”

“มีข่าวเล่าลือกันมาว่าจวนเยี่ยอ๋องเป็นดังเช่นนรกอเวจี หากผู้ใดรุกล้ำเข้าไปจะไม่มีโอกาสกลับออกมาแม้แต่กระดูกยังไม่มีเหลือ”

“แม้แต่ความสามารถขององครักษ์เงาก็ไม่ได้หรือ ?” มู่เฉียนซีเอ่ยถาม

“ถึงแม้องครักษ์เงาจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มอีกสักสิบเท่า ข้าน้อยก็เกรงว่าจะไม่ได้”

นรกอเวจี ทำไมฟังดูคุ้น ๆ

“นำแผนที่จวนเยี่ยอ๋องมาให้ข้า”

“ขอรับ”

ยามค่ำคืนที่มืดมิดลมพัดแรง ผู้นำตระกูลมู่ออกมาด้วยตนเอง อยากจะเห็นว่าจวนเยี่ยอ๋องน่ากลัวสมคำเล่าลือหรือไม่

เมื่อนางไปตามแผนที่ของจวนเยี่ยอ๋องแล้ว นางถึงกับผงะไป ดูเหมือนนางทายถูกแล้ว มันคือจวนของเจ้าก้อนน้ำแข็งนั่นจริง ๆ

“จะเข้าไปดีหรือเปล่า ?”

ร่างกายของอาเล็กไม่สามารถทนรอได้ วันนี้ยังไงต้องนำของมาให้ได้

เมื่อตัดสินใจได้แล้ว มู่เฉียนซีก็เข้าไปในจวนเยี่ยอ๋อง

ถ้าหากเป็นผู้อื่น การก้าวเข้าไปก็เหมือนกับการเข้าสู่ประตูแห่งความตาย

แต่ว่ามู่เฉียนซีนั้นไม่เหมือนกัน พ่อบ้านไป๋ได้สั่งเรียบร้อยแล้วว่ามู่เฉียนซีสามารถเข้าออกจวนเยี่ยอ๋องได้ตามต้องการ ดังนั้นอันตรายที่อยู่โดยรอบจวนเยี่ยอ๋องไม่สามารถทำอันตรายมู่เฉียนซีได้แม้แต่น้อย

นางรู้จักห้องยาของจวนเยี่ยอ๋อง นางจึงเดินไปตามทางที่คุ้นเคย

“นายท่าน มีคนลอบเข้ามาในจวน”

หมอกสีขาวปกคลุม เผยให้เห็นเงาแผ่นหลังที่งดงามท่ามกลางหมอกขาว

เมื่อได้ยิน จิ่วเยี่ยยังคงไม่เคลื่อนไหว ใบหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์ เพียงแค่ดวงตาที่ปิดอยู่ได้ลืมตาขึ้นมา

มีเพียงคนพิเศษเท่านั้นที่สามารถเข้าออกจวนเยี่ยอ๋องได้แล้วไม่ตาย

“ข้าน้อยขอลา”

มู่เฉียนซีรีบหยิบตัวยาจินอวี่ซูหวงจือ แต่เมื่อเห็นไฟห้องพักในจวนเยี่ยอ๋องดับไปก็พลันหยุดชะงัก

นางเป็นหมอปีศาจผู้สง่างาม มีหลายคนร้องไห้ขอให้นางรับสิ่งของอันมีค่า แต่สภาพในตอนนี้ต้องมาขโมยของจากผู้อื่น

ชายผู้นั้นไม่เคยแพร่งพรายข่าวว่านางครอบครองศาลานิรันดร์ แต่กลับให้ของล้ำค่ากับนางอีกมากมาย นางมาทำแบบนี้รู้สึกว่ารับไม่ได้จริง ๆ

เขียนหนังสือขอยืมดีกว่า ถึงเวลาเหมาะสมค่อยนำมาคืน

ขณะที่มู่เฉียนซีเตรียมหนังสือขอยืมเสร็จแล้วและเตรียมตัวนำไปวางที่ห้องของซวนหยวนจิ่วเยี่ย

— แอ๊ด! —

ประตูข้างหน้าก็ถูกเปิด เผยให้เห็นเงาคนผู้หนึ่ง

ใบหน้าอันงดงาม แม้แต่แสงของดวงจันทร์ยังหม่นหมองลงเมื่อเทียบกับใบหน้าและดวงตาสีฟ้าที่แฝงด้วยความเยือกเย็นสามารถแช่แข็งผู้คนได้

.