บทที่ 39 ภารกิจต่อเนื่อง

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

ปกติเมื่อเฉินชางกำลังผ่าตัดจะปิดเสียงโทรศัพท์ เมื่อลงลิฟท์มาจึงค่อยหยิบโทรศัพท์ออกมาดู พบว่ามีสายไม่ได้รับหลายสิบสาย

มีเฉินปิ่งเซิง เถียนเซียงหลาน ฉางลี่น่า…

เฉินชางแปลกใจ?

ฐานะลูกคนรวยของฉันถูกเปิดเผยหรือไง?

ไม่ใช่สิ ฉันไม่ใช่ลูกคนรวยนี่นา…

จากนั้นจึงโทรกลับไปหาเฉินปิ่งเซิง “หัวหน้า มีอะไรหรือครับ?”

เฉินปิ่งเซิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์นัก “ผ่าตัดเสร็จแล้วหรือ? รีบมาที่ห้องโถงแผนกฉุกเฉินหน่อยครับ”

เฉินชางกล่าวตอบโดยไม่ถามอะไร “ได้ครับ!”

จู่ๆ เฉินปิ่งเซิงก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงกล่าวเสริมอีกประโยคหนึ่ง “มาที่ห้องทำงานแพทย์ก่อนดีกว่าครับ”

เขาต้องถามก่อนว่าเฉินชางก่อไปเรื่องอะไรมากันแน่ ถ้าคนกลุ่มนี้มาแก้แค้น พอเจอหน้ากันจะไม่ก่อเรื่องเลยหรือ?

ดังนั้นเหล่าเฉินจึงยืนอยู่หน้าประตูห้องทำงานด้วยท่าทีร้อนใจเล็กน้อย

ปกติงานในแผนกฉุกเฉินมีเยอะมาก หากมัวแต่ถามว่าเพราะอะไรจะเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ เฉินชางรีบวิ่งมาที่ห้องทำงาน เห็นเฉินปิ่งเซิงเดินเข้ามา

เหล่าเฉินรีบดึงเขาเข้าไปในห้อง เอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ช่วงนี้คุณไปหาเรื่องใครมาหรือเปล่าครับ?”

เฉินชางคิดไปถึงค่าความรู้สึกดีของสองคนเมื่อครู่นี้ นับอันเยี่ยนจวินและพี่เชียนด้วยหรือเปล่าล่ะ?

ส่วนคนอื่น เขาคิดอยู่นานก็คิดไม่ออกจริงๆ

“เปล่านะครับ!”

เหล่าเฉินขมวดคิ้ว “ด้านนอกมีคนมากลุ่มหนึ่ง แต่ละคนสักทั้งตัว เปลือยไหล่ด้วย เหมือนจะมาหาคุณนะครับ คุณไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไรไว้จริงเหรอ? ลองคิดให้ดีอีกครั้งสิ คุณไปหาเรื่องผู้ป่วย ครอบครัวผู้ป่วย หรือใครสักคนบนถนนหรือเปล่า?”

เฉินชางส่ายหน้า

เหล่าเฉินจึงค่อยพยักหน้าอย่างวางใจ “เอาละ งั้นออกไปดูกันก่อนเถอะ”

เฉินชางเดินตามเหล่าเฉินไปที่ห้องโถงใหญ่ พบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่บนพื้น เหล่าเฉิน หัวหน้าพยาบาลเถียน และฉางลี่น่าก็อยู่ที่นั่นด้วย

เฉินชางชะเง้อมอง พลันเห็นใบหน้าคุ้นเคยหาใดเปรียบ!

นั่นไม่ใช่พี่เสือของพวก “หัวเสือหัวมังกร” ที่เจอวันนั้นเหรอ?

ถึงอย่างไรก็มีแค่ไม่กี่คนที่เอาหยกกวนอูขนาดใหญ่แบบนั้นมาสวมไว้กับตัว

ลายเสือบริเวณหน้าอก…ทำไมให้ความรู้สึกแปลกๆ ล่ะ?

จ้าวหู่ชิวหันมาเห็นเฉินชางเข้าพอดีจึงรีบลุกขึ้นยืน “ปรมาจารย์เฉิน! คุณมาแล้ว!”

ลูกน้องด้านหลังก็รีบลุกขึ้นยืนตาม “ปรมาจารย์เฉิน! คุณมาแล้ว!”

เฉินชางถูกกลุ่มลายเสือพวกนี้ทำเอาตกใจจนอดก้าวถอยหลังไปไม่ได้

ฉันยังไม่ได้บรรจุเลยนะ!

ความน่าเชื่อถือด้านการพิจารณาคดีนี่มันแย่จริงๆ!

พวกนายอย่ามาใกล้ฉันนะ!

“เรียกผมหมอเฉินเถอะครับ” เฉินชางมองทุกคนแล้วรีบพูดออกมา แต่ยังไม่วายหันไปมองหัวหน้าเฉินที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นจึงรีบเปลี่ยนคำพูด “เรียกผมหมอเสี่ยวเฉินเถอะครับ!”

จ้าวหู่ชิวรีบเรียกอย่างเชื่อฟัง “สวัสดีครับหมอเสี่ยวเฉิน”

คนที่อยู่รอบๆ มองอย่างมึนงง…

เฉินชางเป็นลูกพี่ใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่หลังม่านหรือไง?

จู่ๆ ฉางลี่น่าก็คิดไปถึงฉากที่ถูกบรรยายในนิยาย หน่วยรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งที่ความจริงเป็นผู้จัดการใหญ่ซึ่งอยู่หลังม่านเครือบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นตัวละครลับที่ใช้มือเดียวปิดฟ้าทั้งเส้นทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง หรือว่า…เฉินชางจะเป็นลูกพี่ใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในแผนกฉุกเฉิน?

หลังจากเถียนเซียงหลานมั่นใจแล้วก็วางใจลงได้ในที่สุด นับว่าเรื่องราวไม่ได้เลวร้าย ถ้าไม่ได้มาแก้แค้นก็ยังคุยกันได้…

ส่วนเฉินปิ่งเซิงกลับขมวดคิ้วขึ้นมา ทำไมเฉินชางถึงรู้จักคนพวกนี้ได้?

เฉินชางถามจ้าวหู่ชิว “พวกคุณมาที่นี่ทำไมเหรอครับ?”

เขารู้ว่าจ้าวหู่ชิวเป็นหัวหน้าของคนกลุ่มนี้

จ้าวหู่ชิวเดินเข้ามา “หมอครับ คือมันเป็นแบบนี้ พวกเราเดินไปคุยกันหน่อยเถอะครับ”

“หมอเสี่ยวเฉิน คือน้องสาวของหัวหน้าผมถูกกรีดขาเป็นรอย เลือดหยุดไหลแล้ว แต่เรื่องเย็บแผล…หากเย็บแผลบนน่อง ต่อไปเด็กคนนี้จะสวมกระโปรงคงดูไม่ดี เลยให้ผมมาเชิญคุณไปเย็บแผลให้หน่อยน่ะครับ ของทุกอย่างเตรียมไว้ในบ้านเรียบร้อยแล้ว”

เฉินชางขมวดคิ้ว “ผมไปรักษานอกสถานที่ไม่ได้นะครับ ผิดกฎโรงพยาบาล”

จ้าวหู่ชิวรีบส่ายหน้า “ไม่ๆๆ ไม่ได้รักษานอกสถานที่ ถือเป็นเป็นการช่วยเหลือกันระหว่างเพื่อนเท่านั้น”

“คุณวางใจเถอะ ถ้าเกิดปัญหา คุณไม่ต้องรับผิดชอบแน่นอน!”

เฉินชางยังคงลังเล

ความจริงเขาไม่อยากใกล้ชิดและสานสัมพันธ์กับคนกลุ่มนี้มากเกินไปนัก หลังจากคิดครู่หนึ่งจึงพูดว่า “ขอโทษด้วยครับ ผมเป็นแค่หมอตัวเล็กๆ ผมไร้ความสามารถจริงๆ พวกคุณลองไปหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่โรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลดูสิครับ หรือจะไปหาหมอที่คลินิกเสริมความงามก็ได้ พวกเขาอาจมีวิธีจัดการที่ดีกว่า!”

เมื่อพูดจบเฉินชางก็คิดจะเดินจากไป แต่กลับถูกจ้าวหู่ชิวคว้าแขนไว้!

เฉินชางสะบัดมือเล็กน้อย ดึงมือออกมา!

จ้าวหู่ชิวชะงักไปครู่หนึ่ง

เขารู้จักเรี่ยวแรงของตัวเองดี…

หมอเสี่ยวเฉินคนนี้ดูผอมแห้ง ทำไมเมื่อครู่ถึงได้มีเรี่ยวแรงมากขนาดนั้น

อย่างไรก็ตาม จ้าวหู่ชิวรู้ว่าวันนี้ตนมาเพื่อเจรจาดีๆ “หมอเฉินครับ ผมขอร้องคุณจริงๆ นะครับ เรื่องนี้คุณช่วยผมสักครั้งเถอะ เป็นยังไง? ในอนาคตไม่ว่าคุณต้องการอะไรก็บอกมาได้เลย”

เฉินชางหมุนตัวแล้วเดินจากไป

จ้าวหู่ชิวเข้าไปกอดเอวเฉินชางแล้วส่งเสียงร้องไห้ออกมาทันที!“หมอครับ ช่วยแม่ผมด้วยเถอะ! ขอร้องล่ะครับ…”

ลูกน้องรอบตัวต่างก็เป็นคนมีไหวพริบ!

รีบพากันร้องไห้งอแงออกมาทันที

“หมอครับ ขอร้องล่ะ ช่วยแม่พวกเราด้วยเถอะ…”

……

พริบตาเดียวทั่วทั้งห้องโถงก็คึกคักขึ้นมา…

เฉินชางมีสีหน้ามึนงง…

ไม่ใช่น้องสาวของหัวหน้าหรือ?

ทำไมกลายเป็นแม่พวกคุณได้ล่ะ!?

คนพวกนี้วางแผนร้ายใส่ฉันแน่ๆ!

เขามองไปยังกลุ่มคนที่ร้องไห้จนน้ำมูกน้ำตาไหลท่าทางน่าสงสาร…

โดยเฉพาะจ้าวหู่ชิวที่แสดงได้อย่างยอดเยี่ยมน่าประทับใจ ร้องไห้ฮือๆ จนน้ำมูกน้ำตาไหลท่วม กระทั่งน้ำลายยังไหลมาเปื้อนเสื้อสีขาวของเฉินชาง…

เถียนเซียงหลานรู้สึกทนไม่ไหว

จู่ๆ ฉางลี่น่าก็รู้สึกว่าลูกพี่คนนี้น่าสงสารจริงๆ…

และเธอยิ่งสงสัยว่าเฉินชางจะต้องมีฐานะเป็นลูกพี่ใหญ่ที่อยู่หลังม่านแน่นอน หรือเฉินชางจะใช้คำพูดประโยคเดียวตัดสินความเป็นความตายของคนอื่นได้ด้วย?

นี่จะน่ากลัวเกินไปหรือเปล่า?

ความอยากรู้อยากเห็นแผ่ขยายอย่างบ้าคลั่ง เหมือนกับคลื่นวิทยุที่ถูกรวบรวมและปล่อยสัญญาณออกมาอย่างเอาเป็นเอาตาย…

เถียนเซียงหลานเดินเข้ามา “เสี่ยวเฉิน คุณมีอะไรเหรอคะ ไม่งั้นก็ช่วยเขาเถอะ? แม่เขาจะต้องอยู่ในอันตรายมากแน่”

เฉินชาง “…”

เฉินปิ่งเซิงก็เดินเข้ามา “พวกคุณคุยกันดีๆ นะครับ มีอะไรเหรอ ถ้าแม่คุณไม่สบายก็พามาที่โรงพยาบาลได้ คุณพูดให้ชัดเจนก่อนเถอะ…”

จ้าวหู่ชิวกอดเอวเฉินชางทั้งน้ำตา “แม่ผมอยากพบหมอเสี่ยวเฉิน! แม่ต้องการให้หมอเสี่ยวเฉินไปหา…หมอเสี่ยวเฉิน คุณก็ตกลงเถอะ!”

เฉินชาง “…”

เฉินปิ่งเซิงพูดขึ้นว่า “เสี่ยวเฉิน ไม่งั้นผมไปเป็นเพื่อนคุณดีไหมครับ ถึงยังไงตอนนี้ก็เลิกงานแล้ว”

เมื่อเห็นท่าทางไม่น่าไว้ใจของจ้าวหู่ชิว เฉินชางยังคงรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อถือ

[ติ๊ง! ภารกิจต่อเนื่อง คำขอร้องของจ้าวหู่ชิว ต้องการรับหรือไม่?]

เฉินชางชะงักไปทันที ภารกิจต่อเนื่อง?

ความหมายก็คือ หลังจากรับแล้วจะมีภารกิจต่อเนื่องกันเหรอ?

เฉินชางพูดว่า “คุณปล่อยผมก่อน คนเยอะขนาดนี้มันดูไม่ดีนะครับ”

จ้าวหู่ชิวกล่าวว่า “ถ้าคุณไม่รับปาก ผมก็ไม่ปล่อย…”

“หมอครับ ผมสาบาน น้องสาวของหัวหน้าผมไม่สะดวกออกมาจริงๆ ตอนนี้หัวหน้าแผนกผิวหนังของโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑลก็อยู่ที่นั่นด้วย ผมสาบาน! คุณไปดูหน่อยเถอะครับ ดูหน่อยว่ารักษาได้หรือเปล่า! ถ้าคุณไปดูแล้วคิดว่าไม่ได้จริงๆ ผมจะส่งคุณกลับมา เป็นไงครับ?”

ภาพคนกลุ่มใหญ่ร้องไห้ท่าทางน่าสงสารอยู่ในห้องโถงดึงดูดคนเข้ามาไม่น้อย กระทั่งเริ่มถ่ายคลิปกันแล้ว

เฉินชางคิดครู่หนึ่ง ดูแล้วก็ไม่มีอะไรเสียหาย ถ้าไปแล้วรักษาไม่ได้ก็ค่อยกลับมา

เคยได้ยินแต่บังคับซื้อบังคับขาย ยังไม่เคยได้ยินบังคับเย็บแผลบังคับรักษามาก่อน!

ดังนั้นจึงพูดขึ้นว่า “คุณปล่อยผมเถอะ บอกให้พวกเขาหยุดร้องได้แล้ว ผมจะไปกับคุณ แต่ไม่แน่ว่าผมจะรักษาได้นะครับ”

จ้าวหู่ชิวได้ยินก็รู้สึกดีใจ รีบหันไปบอกกับทุกคนว่า “ทุกคน หยุดร้อง!”

ทุกคนเชื่อฟังมาก รีบหุบปากทันที ทักษะการแสดงเมื่อครู่ยังเทียบพวกดาราหนุ่มน้อยวัยละอ่อนไม่ได้ด้วยซ้ำ

แต่เหล่าจ้าวนับเป็นนักแสดงยอดเยี่ยมได้เลยจริงๆ

เขายืดตัวขึ้นกอดเฉินชาง “ขอบคุณมากครับ! หมอเสี่ยวเฉิน ขอบคุณจริงๆ!”

ตอนนี้เอง หวังเชียนที่มีสีหน้าเศร้าสร้อยและอารมณ์ซับซ้อนกลับมาจากห้องผ่าตัดแล้ว ได้ยินเสียงครึกครื้นทางด้านนี้และเห็นฉากเมื่อครู่เข้าพอดี ดวงตาทั้งสองพลันเบิกกว้างเหมือนตาวัว!