ตอนที่ 35 ดื่มน้ำอุ่นมากๆ

ลืมรักเลือนใจ

คนชราเดินไปอยู่ข้างๆ เลิกหนังตาของหลินเยียนขึ้น หลังจากพินิจอยู่ครู่หนึ่ง ก็กลับไปนั่งที่เดิม 

 

 

           “คุณหลิน คุณอย่าได้กังวลจนเกินไป อาการของคุณธรรมดามาก ผมรู้สึกว่าคุณไม่ได้เป็นโรคหลายบุคลิก เพียงแค่ช่วงนี้อารมณ์แปรปรวนและกดดันมากเกินไป ส่งผลให้ความจำและประสาทเสื่อมตัว” เฮ่อรุ่ยยวนพูด 

 

 

           “ห๊ะ? เป็นไปไม่ได้!” หลินเยียนงุนงง ดูแค่ลูกตาของตัวเอง…ไม่มีความเข้มงวดตามหลักวิทยาศาสตร์เลยสักนิด! 

 

 

           “เหอะเหอะ ในเมื่อคุณหลินไม่เชื่อ เราไปตรวจดูอย่างละเอียดอีกครั้งแล้วกัน” 

 

 

           “แล้วค่าใช้จ่าย…” 

 

 

           “วันนี้ฟรีทั้งหมด” 

 

 

           “อื้มๆๆ งั้นได้!” หลินเยียนพยักหน้ายิกๆ  

 

 

           ไม่นานหลินเยียนก็ตามเฮ่อรุ่ยยวนออกจากห้องไป  

 

 

           สองชั่วโมงหลังจากนั้น หลินเยียนก็ไม่รู้ว่าตัวเองตรวจอะไรไปบ้าง เครื่องมือทั้งเล็กใหญ่ทุกอย่างเหมือนจะถูกเธอใช้ครบทั้งหมดแล้ว ทั้งยังมีการตอบแบบสอบถามและกรอกคำตอบด้วยตัวเอง 

 

 

           หลังจากตรวจเสร็จ หลินเยียนก็ตามเฮ่อรุ่ยยวนกลับเข้าห้องทำงานไปอีกครั้ง  

 

 

           คนชรามองรายงานในมือและพูดกับหลินเยียนว่า “คุณหลินจากผลการสังเกตและการตรวจสอบของผม คุณไม่ได้เป็นโรคหลายบุคลิก กลับไปกินอาหารรสเผ็ดให้น้อย ผ่อนคลายจิตใจ อย่ากังวลให้มากไป ดื่มน้ำอุ่นให้มาก” 

 

 

           “ศาสตราจารย์เฮ่อ…ฉันรู้สึกว่าไม่น่านะ ฉันต้องเป็นโรคหลายบุคลิกแน่! คุณตรวจให้ฉันอีกครั้งมั้ย?” หลินเยียนจ้องเฮ่อรุ่ยยวนพูด  

 

 

           “คุณหลิน คุณอย่าได้กังวลจนเกินเหตุ คุณต้องเคารพหลักวิทยาศาสตร์และเชื่อหมอ” เฮ่อรุ่ยยวนขมวดปมคิ้วพูด  

 

 

           “ศาสตราจารย์ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อหลักวิทยาศาสตร์และคุณหมอ หลักๆ คือฉันไม่เชื่อตัวเอง!” หลินเยียนพูด 

 

 

           “เหอะเหอะ คุณหลิน ในเมื่อคุณรู้กรณีคลาสสิกของโรคหลายบุคลิกในต่างประเทศ งั้นก็คงรู้อิทธิพลของผม ผมบอกว่าคุณไม่ได้เป็น ก็คือไม่เป็น” เฮ่อรุ่ยยวนยิ้มพูด 

 

 

           “แต่ฉันก็ยังรู้สึกว่า…” หลินเยียนลังเลมาก  

 

 

           “คุณหลิน หรือไม่คุณลองไปหาหมอคนอื่นๆ ดูมั้ย?” สุดท้ายเฮ่อรุ่ยยวนนวดระหว่างคิ้ว 

 

 

           “หมอคนอื่นงั้นเหรอ? ยังมีหมอที่เก่งกว่าคุณอีกเหรอ?” หลินเยียนรีบถาม 

 

 

           คนชรายิ้มอย่างถ่อมตัว “คงไม่มี” 

 

 

           หลินเยียน “…” 

 

 

           ขอโทษที่รบกวน 

 

 

           สุดท้ายหลินเยียนจากไปอย่างเศร้าหมอง 

 

 

           หลินเยียนรีบสละความคิดอันน่ากลัวในหัวออก ในเมื่อผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวทอย่างเฮ่อรุ่ยยวนบอกว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร…งั้นเธอก็คงไม่ได้เป็นอะไร คงเหนื่อยเกินไปจริงๆ บวกกับก่อนหน้านี้เธอก็มีอาการซึมเศร้า สติอาจจะฟั่นเฟือน… 

 

 

           ไม่มีทางที่จะถูกผีเข้าสิงหรอก… 

 

 

           หลังจากหลินเยียนกลับไป คนชราก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทร 

 

 

           “คุณเผย งานที่คุณมอบหมายสำเร็จแล้ว ใช่แล้ว คุณหลินไม่ได้สงสัยอะไร ใช่ ร่างกายของคุณหลินปกติ นอกจากอาการเก่าๆ และแผลบนขาซ้าย ก็ไม่มีปัญหาอะไรอื่นเลย” 

 

 

…… 

 

 

           ใต้ตึกโรงพยาบาล           

 

 

           หลินเยียนเพิ่งออกจากประตู ก็เห็นเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าซึ่งห่างออกไปไม่ไกลนัก 

 

 

           เห็นเพียงว่า เผยอวี่ถังพิงรถสปอร์ตเฟอร์รารี่คันสีแดงสดเฉียงๆ เห็นได้ชัดว่ากำลังรอเธออยู่ 

 

 

           หางตาของหลินเยียนกวาดมองผ่านๆ ก็ดูออกทันทีว่ารถคันนี้ผ่านการดัดแปลงมา 

 

 

           เผยอวี่ถังคนนี้เหมือนจะเป็นผู้คลั่งไคล้การแข่งรถ? 

 

 

           หลินเยียนจำต้องเดินเข้าไป “คุณชายสามเผย คุณฟังฉันอธิบาย…” 

 

 

           เธอซวยมากพอแล้ว ต้องหนีตายอยู่ร่ำไป ไม่อยากสร้างปัญหาให้ตัวเองเพิ่มหรอกนะ ถ้าคุยกันให้เข้าใจได้ ก็พูดกันซะ 

 

 

           เผยอวี่ถังมองหลินเยียน พลันคลี่ยิ้ม เผยฟันขาวสว่าง “อยากให้ฉันฟังเธออธิบายงั้นเหรอ! ได้! ขึ้นรถก่อนแล้วค่อยว่ากัน!” 

 

 

           “ได้…” หลินเยียนไม่ได้คิดอะไรมาก มองประตูข้างคนขับที่เปิดออกแล้วก้าวเข้าไปนั่ง 

 

 

           เผยอวี่ถังมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างคนขับพร้อมกัดฟันกร่อน  

 

 

           วันนี้เขาจะต้องให้บทเรียนผู้หญิงคนนี้สักหน่อย! 

 

 

           เวิงๆๆ… 

 

 

           เสียงเครื่องยนต์อันไพเราะดังขึ้น 

 

 

           แทบจะทันทีที่หลินเยียนเข้าไปนั่ง เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้น พร้อมกับรถเฟอร์รารี่สีแดงที่พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า…