บทที่ 12 คนนอกเข้าไม่ได้(2)

แดนนิรมิตเทพ

บทที่ 12 คนนอกเข้าไม่ได้(2)
ลุงฝูถอนหายใจ และไปต้อนรับคนอื่น หลี่ซู่เฟินจับมือเฉินโม่เดินอกผายไหล่ผึ่ง เข้าไปในลานบ้าน
ตอนที่เข้าไปในลานบ้านกับหลี่ซู่เฟิน จู่ๆ เฉินโม่รู้สึกว่า มีสายตามากมายจากบริเวณรอบๆ มองมาที่เขา สายตาแต่ละสายตาเหมือนลูกธนูแหลมคม ไม่มีสายตาไหนมีเจตนาดีเลย!
จำได้ว่าเมื่อชาติก่อน เฉินโม่เพิ่งเข้ามาในตระกูลหลี่ ก็โดนสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร ทำให้ตกใจจนต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัว
แต่ชาตินี้ ในใจเฉินโม่ไม่ยินดียินร้าย เดินตามหลังหลี่ซู่เฟิน อย่างอกผายไหล่ผึ่ง สีหน้าแน่วแน่ ในสายตาของเขา ทั้งตระกูลหลี่ก็แค่มด ไม่ต้องพูดถึงสายตาพวกนี้!
ในห้องโถงใหญ่ โลงแก้วโลงหนึ่งวางอยู่อย่างสงบ หลี่ตงหยางนั่งขัดสมาธิอยู่ในห้องโถง ตอนที่เห็นหลี่ซู่เฟินกับเฉินโม่ ใบหน้าชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าเย็นชา
หลี่ลี่เหวิน ลุงใหญ่ของเฉินโม่ รับหน้าที่ต้อนรับ มองหลี่ซู่เฟินด้วยสีหน้าสับสน หลังจากเห็นเฉินโม่ สีหน้ารังเกียจอย่างเห็นได้ชัด
“น้องสี่มาได้ยังไง” เพราะเป็นพี่น้องกันมาหลายปี อยู่ต่อหน้าหลี่ซู่เฟิน พี่ใหญ่อย่างหลี่ลี่เหวินจึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ
หลี่ซู่เฟินสีหน้าเย็นชาเรียบเฉย มองหลี่ลี่เหวินแล้วพูดว่า “ในเมื่อพี่เรียกฉันว่าน้องสี่ แม่จากไปแล้ว ฉันจะไม่มาได้ยังไง”
หลี่ลี่เหวินเงียบไม่พูดอะไร หลี่ลี่อู่ ลุงรองของเฉินโม่ ยืนสีหน้าเคร่งขรึมอยู่ข้างๆ ส่วนพวกเด็กๆ ในตระกูลหลี่ต่างมีสีหน้าเยาะเย้ย สีหน้าเหมือนกำลังดูเรื่องสนุก
“ในเมื่อน้องสี่มาแล้ว งั้นเข้าไปเจอแม่เป็นครั้งสุดท้ายเถอะ!” หลี่ลี่เหวินรู้ว่า ในเมื่อหลี่ซู่เฟินรู้ข่าวแล้ว ไม่ว่าอย่างไร คงไม่มีทางขัดขวางให้เธอมาแสดงความเสียใจต่อแม่ได้ จึงตัดสินใจไม่พูดไร้สาระ เห็นได้ชัดว่าเขายังคิดถึงเยื่อใยพี่น้อง
“ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่!”
หลี่ซู่เฟินจูงมือเฉินโม่ กำลังจะเดินไปยังห้องโถงตั้งศพ
จู่ๆ หลี่ลี่อู่ที่ยืนหน้าเคร่งขรึมอยู่ข้างๆ ยื่นมือออกมาขวางหน้าเฉินโม่เอาไว้ พูดอย่างเย็นชาว่า “น้องสี่ งานศพแม่ คนเป็นลูกสาวแสดงความเสียใจได้อยู่แล้ว แต่คนนอกอย่างเขา ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในห้องโถงตั้งศพ หลีกเลี่ยงไม่ให้รบกวนการจากไปของแม่!”
เฉินโม่หรี่ตาเบาๆ มองลุงรองของเขา ยังคงไม่ยินดียินร้าย
หลี่ซู่เฟินกลับโมโหขึ้นมาทันที จ้องหลี่ลี่อู่ แล้วตำหนิว่า “เขาเป็นลูกชายฉัน หลานชายของแม่ เรียกคนนอกได้ยังไง พูดแบบนี้ลูกชายสามคนกับลูกสาวหนึ่งคนของพี่รอง ก็เป็นคนนอกด้วยเหมือนกันใช่ไหม”
หลี่ลี่อู่ไม่สนใจ พูดเย็นชาว่า “ไม่ได้อยู่ในรายชื่อตระกูล ก็คือคนนอก มีฉันอยู่ อย่าหวังว่าเขาจะได้เข้าไปในห้องโถงตั้งศพ แม้แต่ครึ่งก้าว!”
“พี่……”
หลี่ซู่เฟินมองพี่รองอย่างโมโห แต่ไม่มีเหตุผลมาเถียง ถึงตอนที่แม่ยังอยู่ พูดเกลี้ยกล่อมให้หลี่ตงหยางว่าพาหลี่ซู่เฟินเข้ามาในตระกูลอีกครั้ง หลี่ตงหยางก็ตกลงแล้ว ส่วนเฉินโม่ ยังไม่เคยอยู่ในรายชื่อของตระกูลเลย
เห็นสองพี่น้องกำลังจะทะเลากัน น้องเล็กอย่างหลี่ลี่เอี๋ยน ที่ปกติมีความสัมพันธ์กับหลี่ซู่เฟินค่อนข้างดี รีบเข้ามาไกล่เกลี่ย “พี่สี่ ที่พี่รองพูด เป็นความคิดของพ่อ พี่อย่าดึงดันอีกเลย จะรบกวนการจากไปของแม่นะ พี่กับฉันจะได้ชื่อว่าอกตัญญู ทำให้ตระกูลอื่นเห็นเป็นเรื่องตลก!”
พี่ใหญ่อย่างหลี่ลี่เหวินก็เกลี้ยกล่อมด้วยเสียงขรึม “น้องเล็กพูดถูก น้องสี่ ทำแต่พอดีเถอะ ถ้าทำให้พ่อไม่พอใจ กลัวว่าจะไล่เธอออกไปด้วยนะ”
หลี่ซู่เฟินครุ่นคิดอย่างจริงจัง กัดฟันกรอด คลายมือที่กำแน่นทั้งสองข้างออก มองหลี่ตงหยางที่นั่งอยู่ในห้องโถงอย่างโมโห สุดท้ายทำได้เพียงยอม
“เสี่ยวโม่ ตอนยายลูกมีชีวิต ยายรักลูกมาก ทั้งตระกูลหลี่ ลูกจะไม่รู้จักใครก็ได้ แต่ห้ามทำเป็นไม่รู้จักยาย ในเมื่อพวกเขาไม่ให้ลูกเขาไป งั้นลูกส่งยายเป็นครั้งสุดท้ายที่หน้าประตูห้องโถงตั้งศพก็แล้วกัน!” หลี่ซู่เฟินมองเฉินโม่ น้ำตาคลอเบ้า แต่สะกดกลั้นไม่ให้มันไหลออกมา
เฉินโม่พยักหน้า ไม่ว่าชาติก่อนหรือชาตินี้ เฉินโม่รู้สึกซาบซึ้งกับการดูแลของยายเสมอ จากนั้นจึงคุกเข่าหน้าประตูห้องโถงตั้งศพ คำนับสามครั้ง ไปทางโลงแก้วโลงนั้นอย่างจริงใจและซื่อสัตย์
หลี่ซู่เฟินมองเฉินโม่ พยักหน้าอย่างปลื้มใจ และเข้าไปในห้องโถง เดินพลางถอดเสื้อขนเป็ดสีดำบนตัวออก เสื้อตัวด้านในเป็นชุดกระสอบสำหรับไว้ทุกข์
สีหน้าพี่น้องของหลี่ซู่เฟิน ฉายแววรู้สึกผิด มองหลี่ซู่เฟินในชุดไว้ทุกข์ แอบหดหู่ใจ
หลี่ซู่เฟินเดินช้ามาก แต่ละก้าวเหมือนค้อนหนักๆ ทุบลงไปในใจของทุกคนอย่างแรง ราวกับจะบอกความน้อยใจของตัวเองให้แม่บนสวรรค์รู้!
หลี่ซู่เฟินเดินมาหน้าโลงแก้ว คุกเข่าสองข้างลงบนพื้น เสียงอันไพเราะ มาพร้อมกับความเจ็บปวดแทบขาดใจ “แม่ ซู่เฟินลูกสาวอกัตญญูมาหาแม่แล้ว……”
บทที่ 11 คนนอกเข้าไม่ได้(1)

บทที่ 13 ก่อเรื่อง(1)