บทที่ 28 เลเวล 8

“ทางด้านทีมพัฒนายังไม่ได้ให้คำตอบอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่จากสายข่าววงในมันจะถูกใช้งานในตอนที่มีผู้เล่นเปลี่ยนคลาสไปแล้วครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดของผู้เล่น”

เล่าสวียิ้มอย่างคลุมเครือ หลายคนรู้สึกผ่อนคลายที่ได้รับข่าวนี้ สมแล้วที่เขาได้รับการยอมรับว่าเป็น ‘นักวิเคราะห์เกมออนไลน์ที่เก่งที่สุดในโลก’

พวกผู้เล่นถาม “หมายความว่าระบบจะใช้การได้เมื่อมีผู้เล่นไปถึงเลเวล 10 กันครึ่งเซิร์ฟเวอร์สินะ?” อย่างไรก็ตามเล่าสวีส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ อันที่จริงเวลาที่ไปถึงเลเวล 10 จะมีภารกิจทดสอบมาให้ทำ และการเปลี่ยนคลาสจะต้องทำภารกิจนั้นให้สำเร็จเท่านั้น”

“ภารกิจทดสอบ? หมายถึงการเปิดพื้นที่ทดสอบที่ถูกป่าวประกาศไปทั่วทั้งเซิร์ฟเวอร์น่ะนะ?”

เล่าสวีอธิบาย “ใช่ ภารกิจทดสอบของเขตฮัวเซียได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่ต้องมีเลเวล 10 ก่อนอยู่ดีถึงจะรับได้ เป็นไปได้ว่าจะมีคนพบพื้นที่ทดสอบโดยบังเอิญ”

“ใช่ แต่ความยากของภารกิจนั้นมากกว่าปกติ ต้องทำให้สำเร็จก่อนถึงจะสามารถเปลี่ยนคลาสได้ แต่ถ้ามันจะยากเกินก็คงไม่มีใครทำสำเร็จแล้ว!” แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมไม่มั่นใจอยู่แล้ว

“ผิดแล้ว! ตรงกันข้ามเลยต่างหาก! ภารกิจทดสอบน่ะยากระดับเลเวล 10 จึงถือเป็นเรื่องที่ใหญ่มากสำหรับมือใหม่!” อย่างไรก็ตามเล่าสวีปฏิเสธคำพูดของเขา

“อ้าว? ทำไมมันถึงยากล่ะ? จะเป็นยังไงถ้าล้มเหลวล่ะ? ต้องอยู่ในหมู่บ้านโดยไม่ได้เปลี่ยนคลาสเลยเหรอ?”

เขาทำให้คนทั้งหมดกังวล พวกเขาคาดเดาไว้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถผ่านภารกิจทดสอบได้ ด้วยความยากระดับนั้นทำให้ผู้เล่นทั่วไปรู้สึกตื่นกลัว

“ผมบอกไปก่อนหน้านั้นแล้ว มิธนำเสนอการปฏิวัติเกมออนไลน์ เต็มไปด้วยระบบที่สมจริง ในเกมทั่ว ๆ ไปเราเป็นคนควบคุมตัวละคร แต่เกมนี้เราเป็นตัวละครของเราเอง นั่นคือเหตุผลที่ภารกิจทดสอบที่มีอยู่ มันเป็นกำแพงด่านแรกของเกมนี้” เขาอธิบายด้วยความจนใจ

“งั้นพวกผู้เล่นที่มีความสามารถสูง ๆ ในโลกความจริงก็จะได้เปรียบมากเลยสิ?” มีผู้เล่นที่ถามถึงรายละเอียดของมัน

“ใช่ พวกผู้เล่นที่มีความสามารถสูง ๆ ในโลกความจริงก็จะได้เปรียบ พวกเขาสามารถปรับตัวเข้ากับโลกนี้ได้เร็วกว่าคนปกติ แต่มันก็ยังเป็นแค่โลกเสมือน คนทั่วไปก็สามารถไล่ตามได้ไม่ยาก และประสบการณ์ในเกมก็ใช้ในโลกจริงได้เหมือนกัน”

“เดี๋ยว นายบอกว่ามันจะปฏิวัติเกมออนไลน์ มันจะเปลี่ยนแปลงไปถึงหอเกียรติยศด้วยเลยไหม? อย่างเช่นการแสดงอันดับของพวกผู้เล่นระดับสูง” พวกผู้เล่นถามขึ้นทันที

“ใช่ ตอนนี้หอเกียรติยศข้อมูลเก่ามากแล้ว ตอนนี้ยุคของเกมนั้นเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก พวกระดับสูงที่ไม่สามารถปรับตัวได้ก็ควรจะถูกเขี่ยทิ้งซะ” คนในเขตฮัวเซียตะลึงในสิ่งที่เขาพูดออกมา ก่อนที่เล่าสวีจะสรุปทันที “เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงโลกเกมทั้งหมดแล้ว นี่เป็นด่านแรกที่เราต้องผ่านให้ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องกังวล ทุกหมู่บ้านมันจะมีผู้เล่นเก่าไม่ก็คนเก่ง ๆ จากกิลด์ใหญ่ ๆ เพราะฉะนั้นมันไม่น่ายากจนเกินไปหรอก หรือจะจัดทีมไปกับเพื่อน 5 คนก็ได้ ถ้าพวกนายลำบากจะขอให้คนอื่นช่วย หรือจ้างพวกเขาก็ได้นะ ฮ่าฮ่า”

“เยี่ยม! อย่างน้อยก็มีคนช่วยแฮะ!”

“ฉันคงจะต้องร่วมกิลด์ซะแล้วล่ะ! จะได้ช่วยพาไปทำเควสด้วย”

“ฉันต้องการยอดฝีมือที่หมู่บ้านเริ่มต้นหมายเลข 5321! ช่วยฉันทำภารกิจทดสอบที!”

ตอนนี้พวกเขาโล่งใจขึ้นมาก จึงต่างพากันหัวเราะ และพูดคุยหาทีมกันอย่างสนุกสนาน

“เล่าสวีรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องค่าชื่อเสียง และคะแนนเขตไหม? มันเหมือนกับการเก็บอันดับแบบเก่า ๆ หรือเปล่า? ฉันว่าพวกมันไม่น่าจะเป็นอะไรที่ง่ายแบบนั้น”

ปัญหาที่เหล่าผู้เล่นทั่วไปกังวลกันได้จบลงไปแล้ว และเล่าสวีเริ่มที่จะตอบคำถามของพวกกิลด์ระดับสูงบ้าง

“ตอนนี้รู้แค่ว่าค่าชื่อเสียงจะมีผลกับการพูดคุยกับ NPC อย่างเช่นเมื่อค่าชื่อเสียงถึงตามที่กำหนด ก็จะสามารถรับภารกิจพิเศษได้ หรือสามารถแลกของพิเศษกับ NPC ได้ เป็นไปได้ว่าระบบต้องการให้พวกผู้เล่นหาค่าชื่อเสียง เพื่อที่จะเอาไปทำอะไรบางอย่าง เช่นขยายเมือง หรือเปิดร้านขายของ เพราะฉะนั้นเตรียมตัวไว้แต่เนิ่น ๆ จะดีกว่า” เล่าสวีพูดอย่างไม่มั่นใจ “ส่วนคะแนนเขตจะได้จากการเปิดพื้นที่ต่าง ๆ แต่เอาไปทำอะไรได้ก็ยังไม่รู้ แถมตอนนี้ยังมีแค่เขตฮัวเซียเท่านั้นที่มีค่านี้ และมาจากคนคนเดียวกันอีกด้วย ข้อมูลเลยมีน้อยมาก”

“ผู้เล่นปริศนาที่ปกปิดตัวตนของตัวเอง? รู้ไหมว่าเขาเป็นใคร?”

“ไม่รู้ เราอยู่กันคนละหมู่บ้าน รู้แค่ว่าเป็นนักบวชชายหมู่บ้านหมายเลข 9191! เท่านั้น”

“นักบวช? หรือจะเป็นไน่ฉีอันดับที่ 14 ของหอเกียรติยศ”

“ไม่มั่นใจ จะยืนยันได้ต่อเมื่อพบเขาเท่านั้นแหละ ตอนนี้เราทำอะไรต่อไม่ได้แล้ว”

“เล่าสวีถ่อมตัวมากเกินไปแล้ว! เจ๋งสุด ๆ เลย หาข้อมูลมาได้ตั้งมากมายขนาดนี้!”

“ใช่! สมคำร่ำลือเลยจริง ๆ!”

“คุณจัดการสังฆราชคืนชีพเลเวล 10 ได้ และผ่านภารกิจทดสอบแล้ว”

เซียวเฟิงนั่งลงกับพื้นในตอนที่บอสตาย ตอนนี้เขาอยากจะหลับไปทั้ง ๆ อย่างนั้นเลย เขาเสียเวลาไปตั้ง 2 ชั่วโมง! มันใช้เวลามากกว่าถึง 3 เท่าของเวลาที่ใช้จัดการบอสตัวก่อนหน้า! ถึงแม้ความเหนื่อยนี้จะไม่ส่งไปถึงโลกแห่งความจริง แต่ความเหนื่อยทางจิตก็ทำให้แทบยืนไม่ไหว เพราะชายหนุ่มจำเป็นต้องใช้สมาธิเกือบตลอดเวลาในระหว่างการต่อสู้

ซึ่งขณะนี้ เซียวเฟิงก็รู้แล้วว่าบอสอัศวินคืนชีพนั้นจำเป็นต้องใช้ผู้เล่นคลาสนักรบที่อึด ๆ ไม่ก็ต้องมีนักบวชคอยฮิลจึงจะสามารถต้านทานความเสียหายได้นานเพื่อที่จะมีโอกาสรอดจากบททดสอบ ขณะที่สังฆราชคืนชีพต้องเน้นไปที่ทางด้านการโจมตี ผู้เล่นจะต้องโจมตีอย่างต่อเนื่อง และเอาตัวรอดไปด้วย เพราะบอสจะยืนอยู่เฉย ๆ แล้วใช้สกิลโจมตี

เพราะฉะนั้นบททดสอบทั้ง 2 ก็ชัดเจน ทดสอบการป้องกัน และการโจมตี

และด้วยความที่เป็นคลาสนักบวช เขาจึงขาดความสามารถในการโจมตี ดังนั้นการที่จะต้องสู้นานถึง 2 ชั่วโมงเลยเป็นเรื่องปกติ ทำให้ชายหนุ่มเริ่มกังวลเกี่ยวกับคลาสของตนเองเป็นครั้งแรก

ซึ่งขณะนี้ เขาก็มีใบรับรอง 2 ใบอยู่ในมือ แต่มันซ้อนทับความสามารถกัน ตอนนี้เลยมึนตึ้บว่าทำไมต้องให้มาเยอะขนาดนี้? แต่เซียวเฟิงก็ไม่ได้สนใจมันเท่าไร เขาลุกขึ้นเดินไปทางที่บอสตายเพื่อสำรวจว่ามันให้อะไรเขามาบ้าง มีของ 3 ชิ้นเหมือนครั้งก่อน มีของระดับเขียว 2 ชิ้นกับของระดับน้ำเงินอีก 1 ชิ้น และหนึ่งในนั้นเป็นค้อนลูกตุ้ม!

ค้อนลูกตุ้มมนตรา

ระดับ: น้ำเงิน

ประเภทของสวมใส่: อาวุธทุบ 2 มือ

เลเวล: 10

ข้อจำกัดของสวมใส่: นักบวช และนักเวทย์

คุณสมบัติ:

พลังโจมตีเวทย์: 11-15

ค่าความฉลาด +8

ค่าจิตวิญญาณ +9

ความแม่นยำ +2%

เพราะคุณสมบัติพอใช้ได้อยู่ เขาเลยเก็บมันเข้ากระเป๋า ส่วนของระดับเขียวอีก 2 ชิ้นคือชุดคลุม และรองเท้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะไล่สำรวจตามพื้นต่อ

น่าเสียดายที่บอสสังฆราชนั่นไม่ได้ให้อะไรเพิ่มเติมอีก ทำให้เขารู้สึกเสียดายนิดหน่อย ชายหนุ่มคิดว่าอยากได้ตำราสกิลบ้าง มันน่าจะดรอปจากบอสที่เป็นคลาสนักบวชนี่นา และเขายังไม่พบกุญแจผนึกด้านขวาด้วย ซึ่งจริง ๆ แล้วมันน่าจะดรอปมาด้วยแต่ก็ไม่มี แปลว่ากุญแจที่ได้มาจากบอสอีกตัวนั้นเอาไปทำอะไรไม่ได้อีก เขาเลยโยนทิ้งไปเลย บอสทั้ง 2 ตัวถูกจัดการแล้ว เซียวเฟิงเพิ่งรู้ตัวว่าเขาเสียเวลาไปเกือบ ๆ 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว ดังนั้นเลยรีบออกจากพื้นที่ภารกิจทันที

“คุณสำเร็จภารกิจทดสอบ [หลุมใต้ดิน] ได้รับค่าประสบการณ์ 21,000 หน่วย!”

“คุณกลายเป็นเลเวล 7 ได้รับแต้มค่าสถานะ 1 หน่วย!”

“คุณกลายเป็นเลเวล 8 ได้รับแต้มค่าสถานะ 1 หน่วย!”

“ตอนนี้คุณอยู่ที่อันดับ 1 ของเขตฮัวเซียแล้ว ต้องการจะปกปิดชื่อหรือไม่?”

“ชื่อของคุณไม่ได้รับการยืนยัน จะทำการปกปิดโดยอัตโนมัติ”

ตอนที่เซียวเฟิงออกมาจากพื้นที่ภารกิจ เขาก็เพิ่มเลเวลขึ้นมาได้ 2 เลเวล และยังได้รับข้อความจากระบบเพิ่มเติมอีกด้วย ค่าประสบการณ์จากการฆ่าบอสนั้นมากจนทำให้เขาขึ้นมารวดเดียว 2 เลเวล และยังขึ้นมาอีกครึ่งหลอดของเลเวล 8 ทำเอาชายหนุ่มรู้สึกดีสุด ๆ 3 ชั่วโมงที่เสียไปนั้นคุ้มค่ามาก ดังนั้นเขาเลยกลับมาที่หมู่บ้านทันที ซึ่งขณะนั้นชายหนุ่มก็เอาแต่คิดเกี่ยวกับใบรับรองในกระเป๋า และถ้าอยากจะรู้อะไรมากกว่านี้… ก็คงจะต้องลองใช้สถานเดียว!!

“นักผจญภัยผู้กล้าหาญ เมืองหลักนั้นอยู่ในเขตแดนของพระเจ้า ถ้าต้องการไปต่อต้องเพิ่มเลเวลของตัวเองให้เป็น 10 ก่อนนะ” น่าเสียดายดูเหมือนว่าจะยังไปต่อไม่ได้อยู่ดี เขาพูดอะไรไม่ออกแล้วเลือกที่จะไปส่งภารกิจต่อทันที

“อะไรนะ? ทั้งอัศวิน และสังฆราชถูกครอบงำไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?”

หลังจากฟังคำรายงานของเซียวเฟิง นักบวชเฒ่าก็เดินมาหาด้วยสีหน้าปั้นยาก

“นักบวชผู้ศรัทธาเอ๋ย เจ้าจะเข้าไปชำระล้างเหล่าผู้เสียสละได้หรือไม่?”

“คุณจะรับภารกิจ [ทดสอบชำระล้างวิญญาณ] ไหม? จัดการอัศวินคืนชีพ และสังฆราชคืนชีพ แล้วนำใบรับรองมาให้”

“คำแนะนำ ภารกิจนี้จะสำเร็จต่อเมื่อคุณมีเลเวล 10”

ดูท่าเขาจะข้ามขั้นตอน ชายหนุ่มรับภารกิจมาอย่างจำใจ ถึงแม้เขาจะมีของมาส่งแล้วแต่เลเวลของเขานั้นน้อยเกินไป ดูเหมือนที่เหลือจะต้องใช้เวลามากขึ้นแฮะ