ตอนที่ 39 เขาต้องบ้าแน่ๆเลย

“ประธานจิ่ง คุณเมาแล้ว” อันโหรวเอามือสอดเข้าไปที่ตัวของเขาเพื่อไม่ให้เขาร่วงหล่น ไม่นานถังซั่วก็เงยหน้าหันไปมองและเอ่ยพูดขึ้น “คุณครับ รบกวนช่วยเรียกคนขับรถให้หน่อย เราจะพาเขากลับบ้าน”

น้ำเสียงเอินเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ

ถังซั่วผู้ที่มีดวงตาดั่งสีพีชคู่หนึ่งพลางคลี่ยิ้มออกมา “โรงแรมไค่ฮัว สำหรับประธานจิ่งแล้วย่อมมีห้องพักรับรองเป็นพิเศษ และก็อยู่ชั้นที่สิบห้า ทั้งชั้นนี่ล้วนแล้วเป็นของเขาทั้งสิ้น”

คำพูดที่ออกมานี้ ล้วนแล้วแต่แฝงความในไว้ด้วยกันทั้งสิ้น

“ประตูห้องลงกลอนด้วยลายนิ้วมือ เพราะงั้นแล้ว คงต้องรบกวนคุณแล้วล่ะ” ถังซั่วยิ้มออกมาหนึ่งครั้ง ก่อนที่จะมองดูท่าทางที่คล้ายกับการแสดงออกมา

“พี่ชาย ให้ฉันไปส่งพี่เฉินขึ้นไปเถอะ ถ้าหากให้ยัยขี้เหร่นี้ขึ้นไปส่ง ถ้าเกิดเธอเป็นหมาป่าผู้หิวเนื้อแกะขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง?” ถังซือเถียนพูดไปพลางมองไปพลาง จับจ้องและได้เดินไปยังทิศทางจิ่งเป่ยเฉิน จนเกือบจะทนไว้ไม่ไหว

หมาป่าผู้หิวเนื้อ นี่มันยังไงกัน ในสมองของผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่?

หากถามจากใจจริงอันโหรวก็อยากให้ถังซือเถียนไปส่งเขาอยู่หรอก แต่ช่วงขณะนี้จิ่งเป่ยเฉิน วางศีรษะของตัวเองไปบนไหล่ของเธอ และเอามือนั้นสอดไปที่เอวของอันโหรว ลมหายใจที่ค่อยๆแผ่วออกมามันช่างดูร้อนมากนัก

“ยัยน่าเกลียด นี่เธอกอดอะไรกับพี่เฉินอยู่นะยังไม่รีบปล่อยอีก?!” ถังซือเถียนเม้มริมฝีปากของเธอ และเอ่ยด้วยวาจาที่ไม่ค่อยพอใจกับภาพตรงหน้า ไม่นานนักเธอก็ค่อยๆยื่นมือขึ้นไปยังจิ่งเป่ยเฉิน

ถังซั่วไม่ได้ห้ามปราบอะไรน้องสาวตัวเองเลย กลับปล่อยให้เธอได้ทำตามใจชอบ และอย่างน้อยไว้หลังจากนี้ค่อยแก้ปัญหาเอาเอง

ฉีเซิ่งเทียนในยามนี้เองก็มึนเมาพอตัว เมื่อเห็นท่าทางของถังซือเถียนที่กำลังจะสัมผัสมือของจิ่งเป่ยเฉิน ร่างกายของเขาพลั่นสั่นไหว หัวของเขาก็พลันตื่นขึ้นมา แย่ล่ะสิ เหมือนกำลังจะเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น

ในขณะมือของถังซือเถียนกำลังจะสัมผัสไปยังมือของจิ๋วเป่ยเฉิน ทันใดนั้นเอง จิ่งเป่ยเฉินก็พลันขมวดคิ้วและลืมตา ที่ฉายแววด้วยสายตาที่ดูอันตรายและดูน่าหวาดหวั่นจับจ้องไปยังที่เธอ จนไม่กล้าขยับไปไหน

เขาจับจ้องไปที่ถังซือเถียน หลังจากนั้นก็หันไปมองผู้หญิงที่กำลังกอดเขาเอาไว้ ทันใดนั้นเองเขาก็พลันขมวดคิ้ว และเอ่ยด้วยท่าที่ที่แข็งขืน “ไป”

เมื่อพูดจบ เขาลุกขึ้นยืนและจับมือไปยังอันโหรวไปพร้อมกัน

ไม่ใช่แค่อันโหรวเท่านั้นที่ตกตะลึง แม้กระทั้งถังซั่วที่เงียบขรึมก็พลันทำหน้าไม่ถูก หรือว่าเขาคนนี้แกล้งเมาจริงๆยังงั้นเหรอ?

“พี่เฉิน!” ถังซือเถียนรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก ขาของเธอนั้นพลันกระทืบเท้าไปหนึ่งที ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวาดย้อน

ถังซั่วเองก็ไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อย  ดวงตาของพลันมองรุ้มลึกราวกับเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง และหันหน้าไปมองที่ฉีเซิ่งเทียนและเอ่ยปากพูดไปว่า “ผู้หญิงคนนี้ มาจากที่ไหนกันแน่?”

ฉีเซิ่งเทียนถอนหายใจออกมาหนึ่งครา ศีรษะของตนเองรู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย ก่อนจะตอบไป “ผู้หญิงคนนี้ แท้จริงแล้วมีลูกสองคนแล้วล่ะ เป็นแม่คนแล้ว”

ครู่หนึ่ง ใบหน้าของถังซั่วก็พลันเปลี่ยนไปออกมาอย่างอย่างน่าประหลาด

เมื่อถังซือเถียนได้ยิน ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความสุข หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอีกครั้งนึง

เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่มีทางเอาชนะแม่ของเด็กพวกนี้เลย! ทั้งๆที่ยัยผู้หญิงคนนี้เป็นแค่คนเฒ่าที่ดูขี้เหร่เท่านั้น!

อันโหรวดึงจิ่งเป่ยเฉินไปตลอดทาง ก่อนจะพาไปยังที่ที่นึงที่ไม่ใช่ประตูของโรงแรมไค่ฮั่ว แต่กลับเป็นลิฟต์?

บ้าจริงเชียว นี่เขาพาเธอมายังห้องสุดสวีทเอ็กซ์คลูซีฟแล้วเหรอ?

จิ่งเป่ยเฉินกดไปที่ชั้นที่สิบห้า ก่อนจะหันมามองที่ดวงตาของเธอ

เขาถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก เหมือนกับได้รับอะไรบางอย่างมาก จากนั้นก็เอามือทั้งสองของเธอกอดไว้ที่อ้อมแขน

มันเริ่มแน่นขึ้น แน่นขึ้น ราวกับไม่มีช่องว่างปล่อยเหลือไว้แม้แต่น้อย

ผู้ชายคนนี้ ดูแล้วก็คงเป็นบ้าแน่ๆ

อันโหรวยกมือขึ้นมาและตบไปที่ไหล่ของเขา แต่ความแข็งแกร่งของเธอนั้นมันทำให้เขารู้สึกราวถูกคันไม้คันมือนิดหน่อย

เสียงดังติ้ดของประตูลิฟต์เปิดออก จิ่งเป่ยเฉินก็จับเธอไว้ไม่ยอมปล่อยเธอไปไหน

อันโหรวก้มมองหน้าต่ำมายังเขา ก็พบว่าดวงตาของเขานั้นกลับปิดอยู่

เมื่อทำอะไรไม่ถูก เธอก็ทำได้แค่ลากขาของเธอด้วยความยากลำบาก ไปยังประตูห้อง

ประตูที่ลงกลอนด้วยลายนิ้วมือ แล้วนิ้วไหนล่ะที่สามารถสแกนผ่านได้

“นิ้วไหน?”

จิ่งเป่ยเฉินไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง แค่ยังคงพักพิงไหล่ของเธอ

อันโหรวทำอะไรไม่ถูก ก็เริ่มที่จะทดลองไปทีละนิ้วทีละนิ้วแทน

เสียงติ๊ดที่บอกถึงความล้วเหลว ทำได้แค่ต้องลองใหม่ดูอีกครั้งนึง

จนเมื่อกระทั้งนิ้วนางข้างซ้ายถูกวาง ประตูก็ถูกเปิดออกสัญญาณของความสำเร็จก็ปรากฏขึ้น

รสชาติที่ยากจะลิ้มลองไม่เหมือนใครจริงๆ การทดลองทีละนิ้วทีละนิ้วแบบนี้นับว่าเป็นเอกลักษณ์มากนัก

อันโหรวอดไม่ได้ที่จะก้มหน้ามองต่ำด้วยความดุร้ายใส่ไปที่เขา หลังจากนั้นก็ลากเขาเข้าไปด้วยความพยายามอย่างมาก ไม่นานนัก นิ้วเจ้ากรรมก็ดันไปเตะที่ขาของประตูเข้า

ในยามนี้เธอขยับแต่ละครั้ง ก็ล้วนแล้วไม่เหมือนดั่งผู้หญิง

เธอใช้พลังอย่างมากในการลูกผู้ชายที่ดูสูงกว่าเธอ อีกทั้งเธอไม่ได้สังเกตเห็นแม้แต่นิดเดียวเลยว่า ยามนี้มุมปากของผู้ชายกลับปรากฏขึ้นมาเสียแล้ว

…..

ตอนที่ 40 เธอกลับมาแล้วเหรอ

เมื่อวางเขาลงบนโซฟา อันโหรวก็ตบไปที่เสื้อผ้าของตนทีละเล็กละน้อย ก่อนที่คิดจะออกจากที่แห่งนี้ไป

เพียงแต่สายตาของผู้ชายคนนั้นรวดเร็วมากนัก พลันคว้าข้อมือของเธออีกแล้ว

“เอาน้ำให้ผมหน่อยแก้วนึง” น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาดั่งค่ำสั่ง แทบไม่มีความสุภาพใดๆออกมาเลยแม้แต่น้อย

แต่ทันทีที่เสียงแผ่วลงไป เขาก็พลันหลับตา ซึ่งทำให้ไม่รุ้เลยว่ายามนี้หลับจริงหรือแกล้งหลับกันแน่

อันโหรวเริ่มรู้สึกรำคาญใจมากขึ้น แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากจะเทน้ำให้แก้วนึงก่อนจะออกไป

เขาเทน้ำอุ่นออกมาแก้วนึง ก่อนจะส่งมอบให้กับบอสของเธอ “น้ำมาแล้ว”

จิ่งเป่ยเฉินพยายามยกมือตัวเองขึ้น แต่บังเอิญเจ้ากรรมมือข้างขวานั้นกลับกวาดจนกว้างจนเกินไป ส่งผลให้น้ำดันตกไปใส่ทั่วตัวอันโหรว

ช่วงบนของร่างกายพลันเปียกโชก อันโหรวถอนหายใจออกมาดังๆ! เจ้าผู้ชายคนนี้เห็นได้ชัดว่าตั้งใจจริงๆ!

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ” จิ่งเป่ยเฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาก่อนจะยืนขึ้นอย่างกะทันหัน

“ให้ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไหนล่ะ?!” น้ำเสียงของอันโหรวดูมีอารมณ์มากขึ้น เขาคิดว่านี่เป็นบ้านของเธอหรือยังไง ถึงได้จะให้เธอไปเปลี่ยนชุดง่ายๆแบบนี้น่ะ!

เมื่อเห็นเข้าเดินเข้ามาในห้อง เธอก็เหลือบมองไปยังเสื้อผ้าที่เปียกปอนของธอ ที่ไม่มีท่าทีที่จะแห้ง จึงเอ่ยออกไปว่า “คุณพักผ่อนไปเถอะ ฉันจะกลับบ้านแล้ว”

เมื่อพูดจบ เธอก็หันหลังกลับ แต่ยังเดินไม่กี่ก้าว เธอก็ได้ยินเสียงของผู้ชายคนนึงที่กำลังอ้วกออกมา

เธอหายใจเข้าลึกๆ และหันกลับไปมองยังจิ่งเป่ยเฉินอีกครั้งนึง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นจิ่งเป่ยเฉินที่หันกลับมา เขาก็พันมองไปยังห้องอาบน้ำและเอ่ยออกไปว่า “ใส่น้ำให้หน่อย ผมอยากอาบน้ำ”

ช่วงขณะนั้น เหมือนกับว่าอันโหรวรู้สึกเห็นเขาเมื่อห้าปีก่อนอย่างไรอย่างงั้น รูปลักษณ์ท่าทางนี้มันเหมือนกันมากเลย

หลังจากที่เมาแล้ว เขาก็พลันเผยอารมณ์ที่แท้จริง

“ปล่อยน้ำที” จิ่งเป่ยเฉินพูดซ้ำราวกับอดทนไว้ไม่ได้ ไม่ทันไรเมื่อพูดเสร็จเขาก็รีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองอย่างธรรมชาติ

อันโหรวเอามือแตะหน้าผากทันที ราวกับว่าทำอะไรไม่ได้ ทุกอย่างที่เขาพูดเธอต้องทำตาม จากนั้นก็รีบปล่อยน้ำใส่ในอ่างอาบน้ำทันที

เมื่อวัดอุณหภูมิในน้ำแล้ว มันก็กำลังพอดี

เพียงแต่ว่า สิ่งที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ เมื่อเธอหันหลังกลับมา จิ่งเป่ยเฉินก็ยกขาขึ้นและเอาไปจุ่มที่น้ำเสียแล้ว

การเคลื่อนไหวที่ช้าช้าของเขานั้น ส่งผลให้เธอเห็นร่างกายเรือนร่างของเขาอีกครั้ง มันแทบจะทนไม่ไหว ก่อนจะลื่นล้มไปข้างหน้า

ทันใดนั้นเอง แขนยาวข้างหนึ่งก็โอบรับเธอไว้ เรี่ยวแรงทั้งหมด ของเธอนั้นแทบไม่ได้คว้ำหน้าพลิกแผ่นดิน แต่กลับถูกดึงลงไปในอ่างอาบน้ำด้วย

เสียงน้ำกระเซ็นดัง พุ่บพึ่บ ทั่วทั้งหน้าส่งผลให้เปียกปอนอีกครั้งนึง

วันนี้จิ่งเป่ยเฉินค่อนข้างที่จะดื่มหนักมาก ตอนนี้เขาแทบจะไม่ได้สติอะไรเลย

เขาหรี่ตามอง และมองอย่างละเอียดกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า มันซ้อนทับกับผู้หญิงคนนึง ที่ยามนี้เธอกำลังเอาผ้ามาเช็ดบนใบหน้าของเธอ

ชั่วพริบตานี้ มันราวกับเบิกเนตรเผยให้เห็นสิ่งที่ตาปรารถนาเฝ้ามองมาเนิ่นนาน

“เครื่องสำอางเธอหลุดออกหมดแล้ว” เสียงของผู้ชายเอ่ยทุ่มต่ำ ท่วงท่ามือที่ขยับอยู่นั้นไม่มีทีท่าที่จะหยุดลง

ไม่นานหัวใจของอันโหรวก็พลันดังขึ้นตึกตัก

เธอพยายามดิ้นรนออกจากจุดนี้ เพียงแต่เรี่ยวแรงของเขามากจนเกินไป จนเธอไม่อาจออกไปไหนได้ ไม่นานเท่าไหร่นักมวยผมของเธอก็หลุดออก ใบหน้าเผยให้เห็นสิ่งที่ปิดบังซ่อนเร้นเอาไว้

“เธอ….” จิ่งเป่ยเฉินเผยสีหน้าและแววตาออกมา เป็นเธอ….นี่เขาเมายังงั้นเหรอ ถึงได้ฝันอะไรแบบนี้?

“ฉันทำไมฉันอะไร!” อันโหรวรู้ดีว่าเขาเมา ดังนั้นเธอจึงพยายามออกจากตัวเขาในช่วงที่เขาเมายามนี้ให้ได้

“เป็นเธอนี่เอง!” เขาพลันตื่นเต้น แขนเอื้อมไปโอบรัดตัวเธอไว้

“เธอกลับมาแล้ว ครั้งนี้ ฉันจะไม่มีวันปล่อยเธอไปไหนอีก” เขาพูดไปขณะที่กำลังสัมผัสบนใบหน้าของเธอ

“หยุดเอาเปรียบฉันเดี๋ยวนี้ รีบหยุดมือซะ!” อันโหรวปัดมือของเขาออกจากใบหน้าของตน เผยสีอารมณ์โกรธขึ้นมาทันที

“ไม่ปล่อย เธอเป็นของฉัน” จิ่งเป่ยเฉินดวงตาพลันมืดมนลง คิดถึงความทรงจำที่เธอเคยกรีดร้องและขีดข่วนบนตัวเขา

ต่อให้นี่เป็นความฝัน เขาเองก็ไม่อยากจะตื่นขึ้น

เมื่อพูดจบ เขาก็ไม่สนใจว่าอันโหรวจะขัดขืนหรือไม่ขัดขืน เขาค่อยๆโน้มตัวก่อน และเอื้อมใบหน้าก่อนจะโน้มริมฝีปากไปประทับริมฝีปากสีแดงชมพูของเธอทันที เพียงแต่ช่วงเวลานั้นกลับถูกมือขัดขวางเอาไว้ก่อน ไม่นานนักก็ค่อยๆเคลื่อนตัวลง

จูบของเขามันเริ่มที่จะร้อนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ลมหายใจของเธอนั้นกำลังถูกเขาช่วงชิง และเกือบจะถูกพรากทุกอย่างไปอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา

ทันใดนั้นเอง ก่อนที่เธอจะพยายามตื่นตระหนก ยกมือปัดป้องอย่างสุดชีวิต แต่เนื่องจากพละกำลังของชายหญิงล้วนแตกต่าง สุดท้ายเขาก็พลิกตัวกลับมาเหนือเธอจนได้

เสียงน้ำกระเซ็นดัง เฉอะแฉะเต็มห้องไปทั่ว จิ่งเป่ยเฉินปะทุไฟในตัวขึ้นมาอย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

ผ่านไปหนึ่งค่ำคืน อันโหรวรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองกลับพลันแตกสลาย หัวใจของเธอนั้นกลับถูกทับซ้อนเมื่อหันไปมองยังชายที่นอนหลับอยู่บนเตียง

ห้าปีผ่านไปแล้วก็ยังเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่ห้าปีให้หลังไม่นานมานี้ ก็เจออีกครั้งนึง นี่ยังเป็นฐานะของอันอีหานอีก

เมื่อคืนเขาเมามาก จนปวดหัว หากตื่นขึ้นมาก็คงจดจำอะไรเธอไม่ได้ นั้นก็นับว่าเป็นเรื่องปกติ