บทที่ 16 ถูกอาจารย์ซ่างกวนกลั่นแกล้ง

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

กู้ชูหน่วนประหลาดใจ “นี่หล่อเกินไปหรือเปล่า”

เซียวหยู่เซวียนไม่ชอบใจ “แล้วข้าไม่หล่อหรือไง”

“หล่อ เจ้าก็หล่อ แต่อาจารย์ของข้าหล่อกว่า”

“ชิ ผู้หญิงคนนี้นี่ เจ้าเป็นพระชายาหานที่ฮ่องเต้ทางแต่งตั้งไว้นะ ถ้าให้เทพเจ้าสงครามรู้ว่าเจ้าน้ำลายหกใส่ชายอื่นเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวเหรอว่าจะเก็บหัวเอาไว้ไม่ได้”

“ของสวยๆ งามๆ ใครๆ ก็ชอบกันทั้งนั้น”

“……….”

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เซียวหยู่เซวียนไม่ชอบเลยที่นางชื่นชมชายอื่น หัวใจเสียดหน่วง ถึงขั้นอึดอัดอย่างรุนแรง

“คารวะอาจารย์……”

ทุกคนลุกขึ้นคำนับ พร้อมกับส่งเสียง

กู้ชูหน่วนก็รีบลุกขึ้นและคำนับด้วย แต่เมื่อเห็นองค์หญิงตังตังรีบร้อนมา คลุมด้วยผ้าคลุม มาคละเคล้าท่ามกลางนักเรียน แม้ว่ากำลังคำนับ แต่ดวงตากลับมองไปที่อาจารย์ซ่างกวนโดยไม่กะพริบ ปรารถนาจะเอาเขาบีบเค้นเข้าไปในหัวใจ

องค์หญิงผู้ดื้อรั้นคนนี้เพิ่งถูกนางสั่งสอนไปเมื่อเช้า วิ่งร้องไห้ไปฟ้องแล้ว ตอนนี้กลับมาที่นี่อีกแล้วเหรอ?

นางช่างชอบอาจารย์ซ่างกวนยิ่งนัก

กู้ชูหน่วนขดยิ้มมุมปาก นางมาตัวคนเดียว ก็พิสูจน์ได้ว่าการเดาของนางถูก ฝ่าบาทจะจัดการเทพเจ้าสงคราม และนางเป็นพระชายาหานของเทพเจ้าสงคราม จะต้องไม่ลงมือกับนาง ดังนั้นการฟ้องขององค์หญิงตังตังจึงไร้ประโยชน์

“นั่งได้”

น้ำเสียงของซ่างกวนฉู่นั้นอบอุ่นน่าฟัง ราวกับเสียงของธรรมชาติ องค์หญิงและเหล่าคุณหนูทั้งหลายที่ได้ยินต่างหลงใหล

กู้ชูหน่วนพบว่า กู้ชูหยุนก็มองซ่างกวนฉู่ด้วยสายตาแปลกๆ เช่นกัน

หรือว่า……

นางก็ชอบอาจารย์ซ่างกวนด้วย

สายตาดีกว่ากู้ชูหลัน และนางก็ไม่รู้ว่ากู้ชูหลันสนใจอะไรในตัวอ๋องเจ๋อ

รูปลักษณ์ก็ทั่วๆ ไป นิสัยก็แย่ ใช้ไม่ได้เลย ที่ดีที่สุดก็แค่รูปร่างแค่นั้น

“ขอบคุณอาจารย์” ทุกคนนั่งลง

ซ่างกวนฉู่วางพิณสีดำลงบนโต๊ะ สายตาอันอบอุ่นกวาดมองทุกคน แล้วหยุดที่ตัวกู้ชูหน่วนก่อนจะเลื่อนไปที่อื่น

“ที่สอนพวกเจ้าไปเมื่อวาน พวกเจ้าคงกลับไปได้ฝึกฝนรึยัง?”

“แน่นอน” องค์หญิงตังตังตะโกนก่อนใคร อยากโดดเด่นต่อหน้าซ่างกวนฉู่ คุณหนูลูกหลานตระกูลขุนนางมากมายต่างตอบรับด้วยเช่นกัน

“เช่นนั้นเชิญองค์หญิงบรรเลงเพลงก่อน”

องค์หญิงตังตังดีใจมาก พยายามสงบสติอารมณ์ วางมือลงบนสายพิณ แล้วเสียงดนตรีอันไพเราะก็ดังขึ้น

กู้ชูหน่วนหาว เริ่มรู้สึกง่วงนอน

นางยังคิดว่าซ่างกวนฉู่จะเล่นให้พวกเขาฟัง ที่แท้เป็นให้พวกเขาเล่น

เพลงพิณขององค์หญิงตังตังก็ใช่ได้ เพียงแต่นางไม่มีอารมณ์ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณไปแล้ว จึงเป็นการยากที่จะเข้าหูนาง

ดนตรีก็เหมือนการสะกดจิต แล้วกู้ชูหน่วนก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง

กระทั่งตอนที่นางตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ยังเป็นเซียวหยู่เซวียนที่ตบปลุกนางเช่นเคย

“เลิกเรียนแล้วเหรอ งั้นข้ากลับบ้านได้แล้วใช่ไหม”

“ฮ่าๆๆ……”

เหล่านักเรียนทุกคนต่างหัวเราะลั่น

ชั้นเรียนคาบเช้าของอาจารย์สวี นางงีบหลับก็ช่างไปแล้ว ช่วงบ่ายในชั้นเรียนของอาจารย์ซ่างกวนก็งีบหลับอีก

อาจารย์ซ่างกวนไม่ค่อยสอนในชั้นเรียน การได้ฟังเขาสอนนั้น ถือเป็นพรอันยิ่งใหญ่ในชีวิตแล้ว

และยิ่งไปกว่านั้น……

ไม่มีผู้หญิงคนใดในใต้หล้าที่สามารถต้านทานความหล่อเหลาราวกับเทพเซียนของอาจารย์ซ่างกวนได้

แต่นางนี่แหละ กลับหลับจนกรนเสียงดัง

องค์หญิงตังตังเหน็บแนม “คนทึ่มก็คือคนทึ่ม คุณสมบัติแบบนี้มาเรียนราชวิทยาลัยช่างน่าอับอายนัก”

แม้ว่ากำลังด่า แต่องค์หญิงตังตังก็โกรธน้อยลง เพราะกู้ชูหน่วนสามารถหลับไปทั้งที่ฟังการสอนของอาจารย์ซ่างกวน พิสูจน์ได้ว่านางไม่ได้อยากได้อาจารย์ซ่างกวน

กู้ชูหน่วนขยี้ตา

นางเอากันทั้งคืนกับคนแปลกหน้า เหนื่อยล้าจนกระดูกจะแหลก และเมื่อนางกลับบ้านก็ต้องมาจัดการกับพวกญาติๆ พอเช้าตรู่ยามเจ็ดยามแปดก็ถูกชิวเอ๋อร์ฉุดลากให้ลุกขึ้น นางแทบไม่ได้นอนดีเลย จะไม่ง่วงได้อย่างไร

อาจารย์ซ่างกวนยิ้มละมุน บนใบหน้าประดับรอยยิ้มบางเบา “คุณหนูสามกู้คงจะเข้าใจทุกอย่างที่ข้าสอนดีแล้ว ไม่สู้เชิญคุณหนูสามกู้เล่นสักเพลงสิ”

อะไรนะ……

ให้นางเล่น

มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า

นางจะเล่นอะไร

นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อครู่เขาพูดอะไรไปบ้าง

กู้ชูหน่วนมองเซียวหยู่เซวียนอย่างมึนๆ

เซียวหยู่เซวียนหันหนี

อย่ามายุ่งกับเขา

เขาไม่รู้ว่าอาจารย์ซ่างกวนกำลังพูดถึงอะไร ถ้าอาจารย์ซ่างกวนให้เขาเล่น เขาจะทำได้อย่างไร

“คุณหนูสามกู้ เชิญ” อาจารย์ซ่างกวนชี้ไปยังพิณโบราณบนโต๊ะ ทำท่าทางเชื้อเชิญอย่างสุภาพ

กู้ชูหน่วนหนังศีรษะชาไปหมด

“อะ……อาจารย์ ข้าจะเล่นเพลงอะไรก็ได้เหรอ”

“ได้แน่นอน เล่นเพลงอะไรก็ได้ที่เจ้าถนัด”

“ก็ได้ เล่นก็เล่น ไม่ใช่ไม่เคยเล่นนี่”

กู้ชูหน่วนนั่งลง สองมือวางราบบนสายพิณ ดูเหมือนนิ้วมือกำลังพันกันยุ่งว่าควรวางตรงไหน

เสียงหัวเราะข้างทะเลสาบดังขึ้นอีกครั้ง

“ฮ่าฮ่า……แม้แต่การวางมือยังไงนางก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ”

“แน่นอนว่าเป็นอย่างนั้น เจ้าดูสิท่าทางของนางผิดไปหมด”

กู้ชูหลันมองดูเรื่องตลกด้วยสายตาเย็นชา ในใจเกิดความภาคภูมิใจ

กู้ชูหยุนมองด้วยสายตาเย็นชา ราวกับมองคนไม่รู้จักกัน

อ๋องเจ๋อหน้าตาไร้ความรู้สึก ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับกู้ชูหน่วนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา

ที่เหลือส่วนใหญ่ต่างเยาะเย้ย รอดูเรื่องตลก

เซียวหยู่เซวียนโมโหและหันหลังไปพูดอย่างไม่เกรงใจ “ขำอะไรนักหนา มีอะไรน่าขำ ใครๆ ก็เรียนรู้จากศูนย์ไม่ใช่หรือไง ถ้าเก่งนัก ยังจะต้องเรียนพิณไปทำไม”

กู้ชูหน่วนอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งชื่นชมเขา

น้องชายคนนี้ ไม่ได้ไร้ประโยชน์

เซียวหยู่เซวียนส่งสายตาให้กำลังใจนาง

อันที่จริงเขาก็กลัวว่าอาจารย์ซ่างกวนจะเอาเรื่องเขา แต่เขาไม่ชอบให้คนอื่นดูหมิ่นยัยขี้เหร่เช่นนี้

เซียวหยู่เซวียนภูมิหลังแข็งแกร่ง พ่อของเขาเป็นทหารผ่านศึกจากสามราชวงศ์ และในมือมีกองทหารจำนวนมาก ผู้คนจำนวนมากที่นี่จึงไม่กล้าโต้แย้งกับเขา

กู้ชูหน่วนหลับตาลง นิ้วมือดีดวุ่นวาย ดีดไปเรื่อยเปื่อย เสียงที่บาดหูดังรุนแรงขึ้น ราวกับเสียงเวทมนตร์ปีศาจ ไม่เป็นระเบียบ ไม่ไพเราะเลยทีเดียว

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะปิดหู สีหน้าเหยเกไปตามๆ กัน

พวกเขาเคยได้ยินเพลงที่ไม่ไพเราะ แต่พวกเขาไม่เคยได้ยินเพลงที่ไม่ไพเราะขนาดนี้

หากฟังต่อไป พวกเขากลัวจะกระอักเลือดตาย

แม้แต่เซียวหยู่เซวียนยังปิดหูแน่ ค่อยๆ คืบคลานออกห่างจากนาง

องค์หญิงตังตังแผดเสียงลั่น “พอได้แล้ว กู้ชูหน่วน นี่เจ้าตั้งใจใช่ไหม”

กู้ชูหน่วนสะดุ้งตกใจ ราวกับลูกแกะน้อยที่ได้รับบาดเจ็บ เอ่ยถามอย่างคับข้องใจ “องค์หญิง ข้าไม่เข้าใจว่าท่านพูดอะไร อาจารย์ให้ข้าเล่น ข้าก็เล่นเพลงที่ถนัดที่สุดไง”

“ที่เจ้าเล่นนั่นเป็นเพลงด้วยเหรอ”

“ทำไมจะไม่ใช่เพลง แม้ที่ข้าเล่นจะไม่ดีเท่าพวกเจ้า แต่ข้าก็พยายามมากแล้ว ใช่ไหม เสี่ยวเซวียนเซวียน”

เซียวหยู่เซวียนถลึงตาใส่นาง ปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้

เขากลัวขายหน้า

ทุกคนมองไปที่กู้ชูหน่วนอย่างคนโง่เขลา

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าคุณหนูสามกู้นั้น ไม่รู้ทั้งพิณหมากกระดานเขียนอักษรวาดภาพ บทกวีดนตรีเพลง เป็นคนทึ่มอันดับหนึ่งในแคว้นเย่ เมื่อเช้าพวกเขาเพิ่งผ่านข้าวฟ่างลาจากมา เดิมทีค่อนข้างไม่อยากเชื่อ ตอนนี้ดูเหมือนว่า พวกเขาประเมินคุณหนูสามกู้สูงเกินไป

นางเป็นแค่คนทึ่มไม่ได้เรื่อง แต่ไม่รู้ว่าไปได้คัมภีร์ซือจิงโบราณข้าวฟ่างลาจากนั่นมาจากไหนก็เท่านั้น

“อาจารย์ ท่านว่า ข้าเล่นได้ดีไหม” กู้ชูหน่วนกะพริบดวงตาเล็กอันฉลาดเฉลียว

อาจารย์ซ่างกวนยิ้มอย่างสง่างาม เอ่ยปากชื่นชม “คุณหนูสามกู้เล่นได้ดีมาก เพลงที่เจ้าเพิ่งเล่นเมื่อครู่ ฝึกฝนอีกห้าสิบรอบ”

รอยยิ้มของกู้ชูหน่วนแข็งทื่อ

“ห้า……ห้าสิบรอบ อะ……อาจารย์ ท่านพูดเล่นอยู่ใช่ไหม”

“คุณหนูสามเป็นคนขยันและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ เพลงที่ข้าไม่เคยสอนยังสามารถเล่นได้อย่างง่ายดาย ซึ่งควรค่าแก่การชมเชย เพลงของคุณหนูสาม ควรให้ทุกคนในโรงเรียนได้ฟัง เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้จากคุณหนูสาม”

กู้ชูหน่วนสูดมุมปาก

นางขอถอนคำพูดก่อนหน้านี้

ผู้ชายคนนี้ไม่หล่อสักนิด แถมยังหน้าเนื้อใจเสือมากด้วย

ขยันและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้อะไร เห็นได้ชัดว่านี่คือการกลั่นแกล้งนาง