ตอนที่ 484 เข้าใจแล้ว

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

“เฉินเสี่ยวเชี่ยน มีเรื่องจะบอก คุณต้องเตรียมใจเอาไว้นะ” เสียงทุ้มต่ำของเจิ้งซวี่ลอยมา 

 

 

“อืม ว่ามา” 

 

 

“อาหญิงของไอ้เล็กกำลังจะไปที่มหาลัยคุณแล้วฟ้องเรื่องที่คุณรักษาคนไข้โดยไม่มีใบอนุญาต ผมสืบมาได้แล้วว่า คนที่ส่งคนมาสืบเรื่องคุณก่อนหน้านี้ก็คือเขา คุณต้องเตรียมใจเอาไว้นะ” 

 

 

“…” เจ้ากรรมนายเวรยังไม่ไปเกิด? 

 

 

ถ้าเจิ้งซวี่ไม่พูดเสี่ยวเชี่ยนก็เกือบลืมไปแล้วว่ายังมีบุคคลที่ชอบทำตัวให้คนอื่นรังเกียจอยู่ 

 

 

“เฉินเสี่ยวเชี่ยน ได้ยินหรือเปล่า?” 

 

 

“อืม” 

 

 

“คุณอย่าทำเป็นไม่ใส่ใจเรื่องนี้นะ เขาวางแผนมานานแล้ว เขาไม่ได้แค่สืบได้ว่าคุณรักษาโรคเบื่ออาหารให้ลูกสาวทังต้าเย่ ยังสืบเจออาจารย์ประจำชั้นสมัยมอปลายของคุณ เรื่องที่คุณไปข่มขู่อาจารย์ประจำชั้น และที่หนักกว่าก็คือ ดูเหมือนเขาจะสืบจากร่องรอยการเดินทางของคุณจนพบว่าตอนนี้คุณกำลังรักษาให้กับผู้หญิงที่ชื่อจิงจิงอยู่” 

 

 

“เหอๆ” 

 

 

อาหญิงนี่ขยันจริงๆ ทำไมไม่เหนื่อยตายไปเลยนะ? 

 

 

นี่ถึงกับเอาแว่นขยายมาส่องที่เธอ? 

 

 

“คนของผมไม่ได้พูดอะไร แค่ให้ข้อมูลปลอมไป แต่ดูเหมือนเขาจะใช้อิทธิพลอื่นในการตามสืบด้วย ผมจะไปสืบต่อ ดูซิว่าใครมันกล้าตามสืบเรื่องคนของผม” 

 

 

คำพูดของเจิ้งซวี่ซ่อนความโกรธไว้ไม่มิด 

 

 

การแว้งกัดของอาหญิงไม่ได้ทำให้เสี่ยวเชี่ยนเกิดการหวั่นไหวทางอารมณ์ ตอนนี้สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกสนุกก็คืออาการของเจิ้งซวี่ 

 

 

“ถูกคนขุดคุ้ยรู้สึกยังไงบ้าง?” 

 

 

“อย่าให้ผมรู้นะว่าใครกล้าสืบเรื่องของคุณข้ามหัวผม จะตัดขามันทิ้ง” 

 

 

คุณชายซวี่อิทธิพลแทบจะใหญ่คับเมืองQ คนของเขาจัดการเรื่องนี้แล้วแต่กลับมีคนกล้ามายุ่งกับเสี่ยวเชี่ยนชนิดที่ข้ามหน้าข้ามตาเขา อีกทั้งยังตามสืบได้ละเอียดแบบนี้แสดงว่าฝีมือต้องไม่เบาเลยจริงๆ 

 

 

เจิ้งซวี่รู้สึกว่าการถูกตบหน้าครั้งนี้รุนแรงมาก ต้องล้างแค้น ไม่อย่างนั้นอย่าว่าแต่จะไม่มีหน้าไปเจอเสี่ยวเชี่ยนเลย แม้แต่ชื่อคุณชายซวี่ก็ต้องมาถูกหยามไปด้วย 

 

 

“อายุตั้งเท่าไรแล้วยังจะทำตัวเลือดร้อนอีก เอาน่าฉันเข้าใจแล้ว ไม่เป็นไรน่า” กลายเป็นว่าเสี่ยวเชี่ยนเป็นฝ่ายปลอบเจิ้งซวี่ 

 

 

ใจกว้างเสียจนเจิ้งซวี่รู้สึกชื่นชม 

 

 

“เฉินเสี่ยวเชี่ยน ฮ่องเต้ไม่ร้อนใจ[1]…” 

 

 

พอคิดได้ว่าคำพูดนี้ไม่เหมาะเท่าไร เจิ้งซวี่ก็นิ่งไป แต่เสี่ยวเชี่ยนกลับจับคำพูดได้ 

 

 

“อืม เราไม่ร้อนใจเจ้าสิร้อนใจ ซวี่กงกงวางใจเถอะ หลายปีมานี้เราเจอกับพวกอยากลองดีมาเยอะไม่เคยกลัวไม่ว่าใครหน้าไหน กับแค่ผู้หญิงวัยทองคนเดียวที่อยากรนหาที่ตาย เราจะกลัวทำไมรึ?” 

 

 

“ดูเหมือนเขาจะไปข่มขู่มหาลัยคุณ มีอะไรให้ผมช่วยไหม?” 

 

 

“ไม่ต้องหรอก ฉันจัดการเองได้” 

 

 

“งั้นผมไม่ยุ่งแล้วนะ…เฉินเสี่ยวเชี่ยน ทำไมเสียงคุณดูแปลกๆ?” เจิ้งซวี่อยากถามตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนบิดขี้เกียจ “เมื่อคืนนายทำอะไรล่ะ?” 

 

 

“กับ…” เล่นผีผ้าห่มกับใครบางคนทั้งคืน ชีวิตเจิ้งซวี่ไม่เคยเหงา เจิ้งซวี่ชะงัก เกือบถูกเสี่ยวเชี่ยนระเบิดความจริงแล้ว 

 

 

“ผมทำอะไรแล้วเกี่ยวอะไรกับเสียงแหบๆของคุณ?” 

 

 

“เพราะเมื่อคืนนายทำอะไรฉันก็ทำแบบนั้นแหละ เข้าใจ๋?” 

 

 

“ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด~” 

 

 

เสียงตัดสายลอยมา เสี่ยวเชี่ยนยักไหล่ เขาวางสายไปแล้ว 

 

 

ความอดทนของเจิ้งซวี่มีน้อยลงเรื่อยๆ เขาทนฟังเสี่ยวเชี่ยนอวดความรักไม่ได้ 

 

 

คาดว่าความโกรธที่เกิดจากเสี่ยวเชี่ยนกวนโมโหครั้งนี้คงเอาไปลงกับคนที่กล้าข้ามหน้าข้ามตาเขาสืบเรื่องของเสี่ยวเชี่ยน 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกสนุกบนความทุกข์ของคนอื่น ผลลัพธ์ที่เธอต้องการก็คือตีวัวกระทบคราด ใครใช้ให้คนที่มีตาหามีแววไม่แบบนั้นตามสืบเรื่องของเธอล่ะ สมน้ำหน้า 

 

 

ส่วนอาหญิง…เสี่ยวเชี่ยนถอนหายใจ อาหญิงเป็นคนที่ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้งก็ไม่เคยยอมแพ้เลยจริงๆ ถูกเหยียบก็ยังลุกขึ้นมาพยายามต่อ เริ่มจากสามพี่น้องอวี๋หมิงหลาง อวี๋หมิงซี อวี๋หมิงอี้ตามลำดับ ลูกชายถูกอวี๋หมิงหลางจับโยนไปทำงานในที่กันดาร สามีที่มีอนาคตดีก็ถูกเมียตัวเองทำเสียจนต้องเกษียณก่อนวัย ก่อนหน้านี้อวี๋หมิงหลางยังบอกอีกว่า เพราะเรื่องที่อาหญิงทำ พี่รองเลยไปเข้าไปเคลียร์กับอาหญิงเลยตรงๆ 

 

 

ได้ยินว่าอาเขยถึงกับจะขอหย่าแล้ว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นหญิงสูงวัยคนนี้ก็ยังไม่ล้มเลิกความคิดที่จะทำร้ายเสี่ยวเชี่ยน 

 

 

ไร้สาระจริงๆ… 

 

 

อันที่จริงอาหญิงควรจะวางมือไปตั้งแต่เรื่องพี่รองแล้ว ทำไมอยู่ๆกลับมีเรื่องใหม่ขึ้นมาอีก อยากจะเห็นเสี่ยวเชี่ยนล้มลงให้ได้? 

 

 

สิ่งที่เสี่ยวเชี่ยนไม่รู้ก็คือ ทางหลี่เจิ้นลูกชายของอาหญิงเกิดเรื่องแล้ว เขตภูเขาที่หลี่เจิ้นไปทำงานอยู่ เขาเป็นแค่ข้าราชการระดับล่าง ตอนลงพื้นที่ไปสำรวจไม่ทันระวังตกลงไปในร่องน้ำ กระดูกช่วงเอวหัก ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงรักษาด้วยการผ่าตัด ได้ยินว่าตำแหน่งที่เป็นอยู่ใกล้เส้นประสาทมาก มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นอัมพาต ตอนนี้ต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด 

 

 

พออาหญิงรู้เรื่องนี้ก็แทบคลั่ง สามีกำลังจะขอหย่า ครอบครัวที่เคยมีความสุขของเธอต้องมามีแต่เรื่องวุ่นวาย ตอนนี้ลูกชายป่วยอีก สาเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้เธอคิดบัญชีไปที่อวี๋หมิงหลางกับเสี่ยวเชี่ยน หลังจากที่เกิดเรื่องต่อกันมามากมาย เธอได้มองว่าเสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางเป็นศัตรูกับเธอเต็มตัว คิดจะใช้อำนาจทำให้เสี่ยวเชี่ยนเรียนไม่จบ หากลูกชายเธอเป็นอัมพาต ใครก็อย่าคิดว่าจะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข 

 

 

ถึงแม้เสี่ยวเชี่ยนจะไม่รู้เรื่องนี้ แต่ก็พอคิดได้ว่าคงมีเรื่องอะไรมาเป็นตัวกระตุ้นอาหญิงเข้าแล้ว แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น วิธีที่อาหญิงใช้ในครั้งนี้ก็ยังฉลาดสู้ครั้งก่อนๆไม่ได้ จะบอกว่าหมาเวลาจนตรอกเลยต้องกระโดดกำแพงก็ยังจะดูถูกหมาเลย 

 

 

ตอนนี้พยานที่อาหญิงมีก็คงมีแค่อาจารย์สมัยมอปลายของเธอ แต่นั่นก็ใช่ว่าจะมีประโยชน์ 

 

 

ส่วนคนอื่นน่ะเหรอ คิดว่าใครจะไปเป็นพยานให้? 

 

 

ทังต้าเย่เป็นพ่อบุญธรรมของเธอ ตระกูลทังก็กิจการใหญ่โต ไม่มีทางยอมรับหรอกว่าลูกสาวตัวเองเคยมีปัญหาทางด้านจิตเวช ส่วนครอบครัวจิงจิงก็ย้ายไปอยู่เมืองข้างๆเมืองQแล้ว ปิดบังชื่อแซ่ของตัวเอง เพราะกลัวคนอื่นจะรู้เรื่องในอดีตของลูกสาว แล้วจะไปช่วยเป็นพยานให้อาหญิงเรื่องที่เสี่ยวเชี่ยนรักษาคนโดยไม่มีใบอนุญาตได้ยังไง? 

 

 

ดูท่าจะต้องใช้วิธีตาต่อตา ฟันต่อฟันกับอาหญิงเสียแล้ว ครั้งนี้เสี่ยวเชี่ยนอยากจะเอาให้หญิงสูงวัยคนนี้ไม่กล้ามายุ่งกับเธออีก ตอนนี้เสี่ยวเฉียงทำการฝึกภายในติดต่อไม่ได้แล้ว เรื่องนี้เธอจึงต้องลงมือเอง 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนมีวิธีอยู่ในใจแล้ว ครั้งนี้คงจะเป็นการตัดรากถอนโคน เธอแทบจะไม่เก็บเรื่องอาหญิงมาใส่ใจเลยด้วยซ้ำ 

 

 

สืออวี้โทรมาหาเธอพอดีเพื่อถามว่าทำไมไม่กลับไป เสี่ยวเชี่ยนจึงคืนห้องแล้วไปหาสืออวี้ ตอนเย็นทั้งสองคนนัดฉิวฉิวออกไปหาของย่างกินที่ตลาดกลางคืน น่าเสียดายที่ร้านของเถ้าแก่ตาตี่คนนั้นไม่อยู่แล้ว ร้านที่เหลืออร่อยสู้ร้านนั้นไม่ได้ 

 

 

“ประธานเชี่ยน พวกเธอระเบิดห้องพักกันจริงๆเหรอ?” ฉิวฉิวถามเสี่ยวเชี่ยน 

 

 

สืออวี้กับเสี่ยวเชี่ยนกำลังแย่งปีกไก่ย่างไม้สุดท้ายกันอยู่ สืออวี้ใช้วิธีถุยน้ำลายใส่ เสี่ยวเชี่ยนจึงต้องยอมให้ด้วยความแค้น ครั้นแล้วจึงเอาพริกไปเหยาะใส่เนื้อในจานของสืออวี้เป็นการระบายความโกรธ ตอนนี้สืออวี้สิวขึ้นกินเผ็ดมากไม่ได้ ศึกครั้งนี้ทั้งสองคนจึงหายกัน 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนมองสืออวี้แทะปีกไก่ไม้สุดท้าย แล้วไประบายอารมณ์ด้วยการกินเนื้อย่างแทน “ไม่ได้ระเบิด ก็แค่ทาสีผนังใหม่ ช่วยมหาลัยน่ะ” 

 

 

“นั่นมันก็ถือเป็นการระเบิดแล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันค้นพบว่าภาพลักษณ์ของพวกเธอเวลาอยู่ข้างนอกกับอยู่กันส่วนตัวแตกต่างกันสุดๆ แต่ละคนเหมือนมีวิญญาณสองดวงในร่างเดียว ประธานเชี่ยนแสดงเก่งเรื่องนี้คงไม่ต้องพูดถึง แต่สืออวี้หลังปิดเทอมกลับมาดูเปลี่ยนไปมากเลยนะ เป็นโรคหลายบุคลิกเหรอ?” ฉิวฉิวแซว 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนได้ยินฉิวฉิวพูดแบบนั้นอยู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ เธอหันไปมองสืออวี้แล้วก็เหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมา อ๋า ที่แท้หูเหม่ยจิ้งก็เป็นแบบนี้นี่เอง 

 

 

 

 

 

[1] ฮ่องเต้ไม่ร้อนใจ ขันทีกลับร้อนใจ หมายถึง ตัวเจ้าของเรื่องยังไม่ร้อนใจแต่คนรอบข้างกลับร้อนใจแทนเสียแล้ว