บทที่ 19

 

 

‘นั่นไง’

 

เธอยิ้มบาง จงใจสะบัดผ้า

 

“ว้าว! สวยจัง! สวย…..อ๊ะ!”

 

ฟีเรนเทียใช้จังหวะที่สายตาของท่านพ่อกับท่านปู่ต่างก็กำลังมองอยู่ที่ผ้าที่กำลังสะบัดอยู่กลางอากาศ

 

มือของเธอที่จับผ้าสะบัดแสร้งทำเป็นทำพลาด ปัดเอาแก้วชาที่วางอยู่หน้าท่านพ่อหล่น

 

น้ำชาหกพรวดกระจายไปทั่วโต๊ะในพริบตา ท่านปู่กับท่านพ่อตกใจจนลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งเธอก็ฉวยจังหวะนั้นทำผ้าฝ้ายโคโรอีที่กำลังถือเล่นอยู่ตกลงบนน้ำที่ไหลเลอะไปทั่ว

 

“นี่มัน!”

 

ท่านพ่อตกใจ อุ้มเธอขึ้น ก่อนจะวางเธอลงห่างออกมาเล็กน้อย

 

“เทีย เป็นอะไรหรือเปล่า โดนน้ำร้อนลวกมั้ย”

 

ท่านพ่อมัวแต่ยุ่งอยู่กับการเป็นห่วงว่าเธอจะมีแผลโดนลวก แต่เธอเห็น

 

สีหน้าของท่านปู่ที่เปลี่ยนแปลงไปในทันทีที่เห็นว่าผ้าฝ้ายโคโรอีดูดซับน้ำชาได้อย่างรวดเร็วในพริบตา

 

“ขอโทษค่ะ พ่อ ข้าพลาดไปหน่อย”

 

“ไม่บาดเจ็บก็พอแล้วละ”

 

“แคลอฮัน”

 

ท่านปู่เอ่ยเรียกท่านพ่อที่กำลังช่วยปัดชุดของเธอที่เลอะเศษน้ำชาเล็กน้อย

 

เพียงไม่นานนัยน์ตาของท่านพ่อก็เบิกกว้าง เมื่อมองตามสายตาของท่านปู่ไปแล้วพบว่าผ้าฝ้ายโคโรอีดูดซับน้ำได้อย่างน่าตกใจทีเดียว

 

“โฮ่ว ดูดซับน้ำได้ดีจริงๆ นะครับ”

 

ท่านพ่อจับมุมผ้ายกขึ้นมาดู อาจจะยังเหลือน้ำซึมเลอะอยู่มาก แต่เนื้อผ้ากำลังดูดซับน้ำชาส่วนใหญ่ไปจนเกือบหมดแล้วอย่างเห็นได้ชัด

 

“ถ้าเอามาปรับใช้ให้ดี คงจะนำไปใช้ได้อย่างหลากหลายทีเดียวนะครับ ตอนส่งสินค้าไปยังห้องเสื้อ คงจะต้องแนบคู่มือการใช้งานสั้นๆ ไปด้วยแล้วละครับ”

 

นั่นเป็นวิธีการที่ดีอย่างแน่นอน แต่มันยังไม่พอ

 

ตอนนี้จำเป็นต้องหาวิธีการที่จะลงมือได้ในทันทีต่างหากล่ะ

 

เธอรีบแทรกตัวเข้าไปข้างหน้าท่านพ่อ ลูบผ้าที่หนักชุ่มไปด้วยน้ำชา พลางเอ่ยพูด

 

“ว้าว ที่ท่านพ่อทำนี่มันน่าทึ่งมากเลยนะคะ! คนคงจะซื้อกันเยอะน่าดูเลยใช่มั้ยคะ ถ้าทะเลาะแย่งชิงกันขึ้นมาจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย”

 

พอเห็นเธอพูดราวกับเป็นกังวล ท่านพ่อก็ยิ้มขมขื่น แล้วเอ่ยพูดกับเธอ

 

“ฮ่าฮ่า ไม่รู้สิ กระแสตอบรับของผู้คนยังไม่เท่าไหร่นัก แต่ถ้าเป็นอย่างที่เทียของเราบอกก็คงจะดีนะ”

 

“กระแสตอบรับไม่ดีเหรอคะ ทำไมล่ะคะ”

 

“ก็เพราะ อืมดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่จะยังไม่รู้จักผ้าแบบนี้น่ะ”

 

ใช่แล้วค่ะ ท่านพ่อ! นั่นแหละคือประเด็นสำคัญไง!

 

เธอพยักหน้าเศร้าหมองให้กับคำพูดของท่านพ่อพลางเอ่ยพูด

 

“งื้อแบบนี้ถ้าคนอื่นๆ ได้ทดลองใช้ก่อนก็คงจะดีแท้ๆ”

 

“ว่ายังไงนะ เทีย?”

 

“ก็พ่อบอกเองไม่ใช่เหรอคะ ว่าคนอื่นๆ เขายังไม่รู้จักผ้าชนิดนี้กัน เพราะฉะนั้น…”

 

“นั่นสิ ใช่แล้วทำไมก่อนหน้านี้ข้าถึงคิดไม่ได้กันนะ”

 

ดูเหมือนท่านพ่อจะตระหนักได้จากคำใบ้ที่เธอให้ ถึงได้พึมพำตกอยู่ในภวังค์ความคิด

 

หากเป็นไปตามบนสนทนาที่ท่านพ่อกับท่านปู่พูดคุยกัน หมายความว่าปริมาณการผลิตเตรียมพร้อมมากพอที่จะวางจำหน่ายได้แล้ว

 

อีกอย่างเป็นเพราะโรงงานทอผ้าเองก็ต้องทอผ้าผลิตออกมาเพิ่มเรื่อยๆ ทำให้มันจะกลายเป็นสต๊อกสินค้าที่ได้แต่วางกองสะสมเพิ่มพูนขึ้นมาเท่านั้นเอง เทียบกับการต้องจ่ายค่าจัดการดูแลโกดังเก็บสินค้าแล้ว สู้เอาผ้าที่ผลิตทิ้งไว้แล้วมาใช้ในการโฆษณายังจะได้ประโยชน์มากกว่า

 

“คุณภาพของผ้าดีมาก ถ้าหากผู้คนได้ลองใช้มันก่อนละก็…”

 

“นั่นเป็นวิธีที่ใช้ได้เหมือนกันนะ หากใช้ผ้าพวกนี้ทำสินค้าตัวอย่างส่งไปให้เป็นของขวัญพวกชนชั้นสูงที่เป็นเป้าหมายทางการค้าล่ะ”

 

ว่าแล้วเชียว นี่ละท่านปู่

 

ชนชั้นสูงของอาณาจักรแลมบลู ปกติแล้วจะแวะเวียนมาที่ห้องเสื้อ เพื่อเลือกสรรดีไซน์กับผ้าตามความต้องการเฉพาะส่วนบุคคล แล้วค่อยให้ทางร้านตัดเย็บขึ้นมาให้

 

ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าเท่านั้น แต่ทุกสิ่งที่ใช้ผ้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องนอนหรือผ้าม่านเองก็เช่นเดียวกัน

 

ดังนั้นไม่ใช่แค่การเสนอเนื้อผ้าให้พวกเขาได้ดูกันก่อนเฉยๆ แต่จำเป็นต้องใช้ผ้าผลิตสินค้าตัวอย่างขึ้นมา เพื่อกระตุ้นความอยากซื้อของพวกเขาให้เพิ่มมากขึ้นให้ได้

 

“แต่กว่าจะเริ่มขายก็เหลือเวลาไม่มากแล้วนะครับ หากจะผลิตให้เข้ากับเวลาที่เหลือ ก็จะต้องใช้เป็นสินค้าที่เรียบง่าย…”

 

ตอนนี้แหละ

 

เธอหยิบผ้าส่วนที่ไม่เปียกน้ำที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมา ส่งมันให้ท่านพ่อพลางเอ่ยพูด

 

“ของข้าช่วยทำผ้าเช็ดหน้าให้หน่อยนะคะ!”

 

“ผ้าเช็ดหน้า?”

 

“มันนุ่มมากเลยน่าจะดีค่ะ! ตัดเป็นผืนเล็กๆ ปักลายดอกไม้เล็กๆ บนมุมตรงนี้คงจะสวยน่าดูเลยค่ะ! จะเอาไปอวดคิลลีวูกับเมโลนด้วย! ”

 

“ท่านพ่อ!”

 

ท่านพ่อฟังคำพูดของเธอแล้วก็หันไปมองท่านปู่ด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย

 

ท่านปู่ที่กำลังลูบเคราเองก็พยักหน้าเห็นด้วย

 

“ผ้าเช็ดหน้าอย่างนั้นหรือ น่าจะเป็นสินค้าตัวอย่างให้ทดลองใช้ที่ดีทีเดียว”

 

“วิธีการเช่นนี้ทำไมก่อนหน้านี้ข้าถึงคิดไม่ได้นะครับ! ทั้งๆ ที่เคยเห็นหัวหน้ากลุ่มการค้าดิวรักตัดผ้าไปเพราะจำเป็นต้องเอาไปใช้เช็ดเหงื่อ ทั้งยังบอกว่ามันดีมากจนพกไปไหนมาไหนอยู่ตลอดแท้ๆ! ”

 

ท่านพ่อยิ้มอ่อนด้วยความท้อแท้ใจพลางเอ่ยพูด

 

“ไม่จำเป็นต้องใช้กระบวนการผลิตพิเศษด้วยครับ แค่ตัดเย็บขนาดให้เหมาะสม แล้วรีดมันให้เรียบก็พอแล้ว อ๊ะ! เพิ่มการตกแต่งแบบเรียบง่ายเข้าไปหน่อยก็น่าจะดีนะครับ! ”

 

ไม่มีอะไรให้เธอต้องช่วยเหลือเพิ่ม

 

ท่านพ่อเริ่มร่ายไอเดียที่นึกได้ออกมาไม่หยุด ไม่ใช่แค่ผ้าเช็ดหน้าเท่านั้น

 

รายชื่อสินค้าตัวอย่างที่สามารถให้คนงานตัดเย็บขึ้นมาได้ในทันทีหลั่งไหลออกมาจากปากของท่านพ่ออย่างไม่ขาดสาย

 

“มะ…ไม่ใช่เวลามามัวอยู่เฉยๆ แบบนี้แล้วละครับ! ท่านพ่อ คือว่าเทีย..”

 

“ไม่ต้องห่วงเทียหรอก ไปเถอะ”

 

เดิมทีวันนี้ท่านพ่อแค่แวะมารายงานท่านปู่ครู่หนึ่ง แล้วจะไปทานมื้อเย็นด้วยกันกับเธอเพราะนานๆ ทีจะได้เลิกงานเร็วแบบนี้กับเขาบ้าง

 

ท่านพ่อเก็บผ้าทอที่พกมาด้วยอย่างเร่งรีบ เอ่ยพูดกับเธอ

 

“เทีย ขอโทษนะ พ่อคงจะต้องกลับไปทำงานแล้วละ มื้อเย็นของพวกเราคงจะต้องเลื่อนไปครั้งหน้า ทำไงดีล่ะ”

 

“ไม่เป็นไรค่ะ! เดินทางปลอดภัยนะคะ พ่อ!”

 

เธอยิ้มสดใส โบกมือลา

 

หลังจากเหลียวหลังกลับมามองอยู่หลายรอบด้วยความรู้สึกผิด สุดท้ายท่านพ่อก็วิ่งออกไปจากห้องทำงาน

 

มือข้างหนึ่งจับไหล่ของเธอที่มองภาพนั้นอยู่ด้วยความพึงพอใจ

 

“วันนี้อยู่ทานมื้อเย็นกับปู่คนนี้แทนดีมั้ย”

 

โอ๊ะ! ได้ผลลัพธ์ดีผิดคาด

 

เธอรีบพยักหน้าตอบ

 

“ค่ะ ท่านปู่! ข้าอยากทานเนื้อค่ะ!”