ตอนที่ 43 ขโมยสูตรน้ำหอมของคุณเฉินเชียนโหรว

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

“จะว่าไป การแข่งขันออกไปแฟชั่นในประเทศเมื่อหกปีก่อน ดูเหมือนว่าหัวหน้าเฉินของพวกเราจะถูกถอนสิทธิ์การแข่งขันเพราะข้อหาขโมยไอเดียจนถึงขั้นถูกสถานศึกษาคัดชื่อออกไม่ใช่เหรอ?” 

 

 

สิ้นคำของอันน่าลี่หน้าของเฉินฝานซิงถึงกับซีดเผือด 

 

 

มือที่วางอยู่บนพนักกำเข้าหากันแน่น 

 

 

ขโมยไอเดีย ถูกคัดชื่อออก… 

 

 

ชีวิตของเธอแทบจะมีแต่เรื่องเสื่อมเสีย 

 

 

เมื่อได้เห็นท่าทางของเฉินฝานซิง อันลี่น่าก็รู้สึกสบายใจ! 

 

 

เธอยังคงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ฉีกกระชากบาดแผลของเฉินฝานซิงต่อไปอย่างไร้ความปรานี 

 

 

“ได้ยินว่าดันไปขโมยสูตรน้ำหอมของคนร่วมชายคาเดียวกันอย่างคุณเฉินเชียนโหรว…” 

 

 

“เงียบนะ!” 

 

 

ซูเหิงแผดเสียงกร้าวขัดจังหวะของอันน่าลี่ 

 

 

เธอหน้าเปลี่ยนสีก่อนจะเม้มปากแล้วหน้าหนีไปอีกทางและไม่ได้เอ่ยอะไรต่อจากนั้น 

 

 

ถึงยังไงสิ่งที่ควรพูดก็ได้พูดออกมาหมดแล้ว 

 

 

ไม่มีอะไรน่ายินดีไปกว่าการได้เห็นหน้าสะเทือนใจของเฉินฝานซิงอีกแล้ว 

 

 

“พี่เหิง…” 

 

 

เสียงคำรามของซูเหิงทำให้เธอถึงกับตกใจ เธอเอ่ยชื่อของเขาแผ่วเบา แต่สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความจำนน 

 

 

“ทำไมเธอถึงพูดแบบนั้น…” 

 

 

ซูเหิงไม่ได้ตอบเฉินเชียนโหรว สายตาจับจ้องไปยังร่างของเฉินฝานซิงจากที่ไกลๆ อย่างนิ่งสงบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถามเสียงทุ้ม 

 

 

“เฉินฝานซิง ก่อนหน้านี้ที่เธอต้องดูแลแผนกวิจัยพัฒนาและประชาสัมพันธ์ในเวลาเดียวกันคงเหนื่อยมาก ตอนนี้เฉินเชียนโหรวเข้ามาถือว่าช่วยแบ่งเบาภาระเธอลงอีกแรง หลังจากนี้เธอดูแลแค่แผนกประชาสัมพันธ์อย่างเดียวก็พอแล้ว” 

 

 

เฉินเชียนโหรวสีหน้าหม่น เห็นได้ชัดว่าซูเหิงกำลังเลี่ยงประเด็นสำคัญและอยากจะมองข้ามเรื่องนี้ไป 

 

 

“เฉินเชียนโหรวยังเป็นมือใหม่อาจมีอะไรผิดพลาดไปบ้าง อีกทั้งเวลาส่วนใหญ่ของเธออาจไม่ได้อยู่ที่บริษัท ถึงยังไงเธอก็ต้องทุ่มเทให้กับงานแสดง ถึงเวลานั้นก็คงต้องรบกวนเธอด้วย แม้ว่าเธอจะไม่มีหน้าที่ตรงนี้แล้ว แต่แผนกวิจัยและพัฒนายังคง…” 

 

 

“เหอะ…” 

 

 

เฉินฝานซิงเค้นหัวเราะเยาะออกมาอย่างฟังชัด ทำเอาทั้งห้องพร้อมใจกันหันไปมองเธอเป็นตาเดียว 

 

 

รอยยิ้มบนใบหน้าเย็นชาเต็มไปด้วยการเสียดสี เธอจ้องมองซูเหิงก่อนจะเอ่ยขึ้น 

 

 

“ซูเหิง สรุปว่าเหตุผลที่นายเขี่ยฉันออกจากตำแหน่งคืออะไรกันแน่ เพราะเฉินเชียนโหรวคือRosanna หรือเพราะเรื่องการขโมยไอเดียในปีนั้น” 

 

 

“…” เขาขมวดคิ้วมุ่น มองเฉินฝานซิงอย่างเศร้าหมอง ไม่พูดจา 

 

 

ไม่พูด? 

 

 

หมายความว่าไง? 

 

 

หมายความว่าทั้งสองสินะ! 

 

 

เธอน่าจะรู้อยู่แล้วว่าซูเหิงไม่มีวันเชื่อเธอ! 

 

 

เฉินฝานซิงหัวเราะเสียงต่ำอีกครั้ง ปิดสมุดโน้ตลง สองมือค้ำโต๊ะและยืดตัวขึ้นเต็มความสูง 

 

 

“เขี่ยฉันอย่างไร้เหตุผลแถมยังอยากให้ฉันดูแลเธอ ช่วยเธอดูแลแผนกวิจัยและพัฒนา? ไม่ใช่ว่าเพิ่มเรื่องปวดหัวให้ฉันหรอกเหรอ แบ่งเบาภาระฉัน? ยังมีหน้ามาพูดกับฉันแบบนี้อีกเหรอ” 

 

 

สิ้นคำนั้นเสียงในห้องประชุมก็ดังฮือฮา 

 

 

ไม่นึกไม่ฝันว่าคนที่วางตัวดีมาตลอดอย่างหัวหน้าเฉินจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา 

 

 

อีกทั้งยังพูดถึงซูเหิงแบบนั้นต่อหน้าผู้บริหารชั้นสูงทั้งบริษัท ตั้งใจไม่ไว้หน้ากันเห็นๆ 

 

 

และเพราะเหตุนี้ซูเหิงจึงได้ก้มหน้าลงต่ำ 

 

 

ไม่นึกเลยว่าเฉินฝานซิงจะไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ฉีกหน้าเขาต่อหน้าต่อตาผู้บริหารระดับสูงทั้งบริษัทแบบนี้ 

 

 

“ฝานซิง เธอฉลาดมาตลอดนี่ น่าจะรู้นะว่า Rosanna ชื่อนี้ แม้ใส่ชื่อไว้ในสกุลซู…” 

 

 

เฉินฝานซิงยกมือขึ้นห้ามปากเขาเอาไว้ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดจบ